ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 937
หยุนอิงเห็นแบบนี้ถอนหายใจเล็กน้อยหนึ่งทีพูดว่า “แท้ที่จริง เรื่องนี้คือฉันคิดง่ายเกินไป เดิมทีฉันคิดว่าท่านประมุขส่งพวกเรามาเพียงแค่อยากจะตรึงพวกคุณเอาไว้ ตอนนี้ดูแล้วไม่ใช่เลย”
ได้ยินคำพูดนี้ อยู่ดีๆไป๋ยี่เฟยนึกอะไรได้ก็เลยถามว่า “จีไซอยู่หลันเต่าหรือ?”
หยุนอิงหยุดชะงักเล็กน้อย จากนั้นหัวเราะเยาะเบาๆเสียงหนึ่ง “ทำไมหรือ? อยากจะหลอกถามฉันหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยยักไหล่นิดๆ แสดงให้เห็นว่าเสียดาย หลอกถามหยุนอิงไม่ได้
เขาแค่อยากจะรู้ว่ากลงจีไซตไปจัดการซินชิวหรือว่าไปจัดการจื่ออี ถ้าหากว่าจีไซอยู่หลันเต่าล่ะก็ ก็คือจะไปจัดการจื่ออี
แต่เสียดายมาก หยุนอิงฉลาดเฉียบแหลมมากกว่าที่เขาจินตนาการ
หยุนอิงจ้องมองไป๋ยี่เฟยพูดว่า “ไม่ว่าเขามาหรือไม่ แต่ว่าออกคำสั่งแล้ว ฉันย่อมต้องปฏิบัติตามอยู่ดี”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนี้อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณไม่ใช่จะชิงราชบัลลังก์หรือ? ยังแคร์คำพูดของเขาหรือ?”
หยุนอิงได้เพียงแค่ยิ้มแล้วยิ้มอีก ไม่ได้พูด
ไป๋ยี่เฟยเห็นแบบนี้อยู่ดีๆกลับเข้าใจขึ้นมา “ผมรู้แล้ว คุณไม่ได้อยากจะโค่นล้มจีไซเลย สิ่งที่คุณอยากได้เพียงแค่อำนาจการสืบทอดเท่านั้น”
ได้ยินคำนี้ สีหน้าของหยุนอิงเปลี่ยนแปลงไปในทันใดนั้น เห็นสายตาของไป๋ยี่เฟยกวาดผ่านความอาฆาตหนึ่งที
“คุณรู้ได้ยังไงหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยพูดโกหกอย่างวางมาดขรึม “ย่อมเป็นจีเอร์บอกกับผมอยู่แล้ว”
“ถึงยังไงสถานะของคุณก็ไม่ได้ปกปิดเช่นกัน ทุกคนล้วนรู้ว่าจีไซมีลูกสามคน จีซือ จีอิงและจีเอร์”
สีหน้าของหยุนอิงขึงลับลง น้ำเสียงก็เย็นชาขึ้น “คุณยังรู้อะไรอีกบ้างล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มแล้วยิ้มอีกพูดว่า “รู้ว่าคุณก็คือลูกชายคนที่สองของจีไซ จีอิง แต่ว่า ผมยังอยากรู้อยากเห็นมาก ตกลงว่าคุณเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ?”
ได้ยินคำพูดนี้หยุนอิงอดไม่ได้ที่จะ ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง จากนั้นหมุนตัวหันหลังให้ไป๋ยี่เฟย เหมือนไม่อยากสนใจเขา
ไป๋ยี่เฟยเห็นสภาพนี้มีความสงสัยงงงวยเล็กน้อย คำถามนี้ตอบยากขนาดนี้เลยหรือ? อีกทั้งดูลักษณะท่าทีเธอดูเหมือนแคร์จุดนี้มาก
แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ สำคัญก็คือหยุนอิงหันหลังใส่เขาอีกแล้ว นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีอย่างหนึ่ง
ครั้งที่แล้วเขาพลาดไปแล้ว คราวนี้เขาไม่อยากพลาดไปอีก
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยขยับแล้ว
เขาก้าวเข้าไปก้าวหนึ่ง จะไปจู่โจมคอของหยุนอิง
แต่เสียดายมาก เขาเพิ่งเตะเข้าไปก็ถูกแรงแรงหนึ่งสะท้อนกลับมา
“ไอ้ควย!”
แขนของเขาถูกสะเทือนจนชาอีก
อีกทั้งคาดไม่ถึงไม่ใช่ประตูชีวิตของเธอ
ส่วนหยุนอิงค่อยๆหันหน้ามา จ้องมองไป๋ยี่เฟยหนึ่งที ทันใดนั้นไป๋ยี่เฟยอึดอัดหัวเราะสองเสียง “ผมก็แค่เห็นว่าบนคอคุณมีหนอนตัวหนึ่ง จะช่วยคุณหยิบออก”
“คุณรู้สึกว่าฉันจะเชื่อหรือ?” หยุนอิงปรากฏรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งออกมาหนึ่งที
ยิ้มของเธอยังไม่จบ ชกหนึ่งหมัดจู่โจมหน้าอกของไป๋ยี่เฟย
“ปั้ง!”
ไป๋ยี่เฟยตีลังกาลอยออกไปโดยตรง
……
หยุนอิงไม่ได้ไปดูไป๋ยี่เฟย แต่พิงกิ่งไม้อันหนึ่งนั่งลงไป
ไป๋ยี่เฟยค่อยๆคลานขึ้นมา กำลังจะพูดหยุนอิงก็เอ่ยปากเลย
“อยู่แผ่นดินใหญ่ภาคใต้ของพวกเรา ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งฐานะจะสูง และผู้แข็งแกร่งทั่วไปล้วนเป็นเพศชาย ดังนั้นฐานะของผู้หญิงแทบจะไม่มี”
“แต่ว่าอยู่ในระหว่างพี่น้องทั้งสามของพวกเรา พรสวรรค์ของฉันสูงที่สุด”
“ฉันไม่อยากถูกคนดูถูก ดังนั้นตั้งแต่เด็กฉันก็ปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชาย”
“คนเหล่านั้นที่อยู่หนานเหมินแทบจะไม่มีคนรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง”
“ก็แค่ตอนที่พบเจอกับคุณ ฉันจึงจะตามสบายขนาดนี้ แสดงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงๆ”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดเหล่านี้ ทันใดนั้นก็เงียบไปเลย
ในตอนนี้หยุนอิงทำให้เขารู้สึกเหมือนดั่งเด็กผู้หญิงที่ไม่มีที่พึ่งใดๆคนหนึ่ง ดูแล้วเธอหมดหนทางขนาดนั้น
แต่ว่าความรู้สึกนี้ก็เพียงแค่พริบตาเดียว เพราะว่าภาพพจน์ที่ติดอยู่ในความทรงจำที่หยุนอิงเหลือไว้ให้กับไป๋ยี่เฟยจากต้นจนจบเป็นคนที่มีพลังความสามารถแข็งแกร่งคนหนึ่ง
อยู่ดีๆหยุนอิงหัวเราะเยาะเย้ยตนเองเสียงหนึ่งพูดว่า “ผู้หญิงจะไม่มีอำนาจการสืบทอดนะ”
ต่อจากนี้สายตาเธอเปลี่ยนไปทันที “แต่ว่าฉันไม่ยอม”
“พรสวรรค์ของฉันดีที่สุด และแข็งแกร่งกว่าพวกเขาทั้งสอง แค่เพราะว่าฉันเป็นผู้หญิง ดังนั้นรับช่วงตำแหน่งของประมุขต่อไม่ได้ ทำไมล่ะ?”
แต่ว่าไป๋ยี่เฟยยังมีจุดหนึ่งไม่เข้าใจ “ผมฆ่าน้องชายคุณ คุณก็ไม่แค้นผมหรือ?”
หยุนอิงส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีกพูดว่า “ก็ไม่ใช่น้องชายแท้ๆของฉัน”
“แม่ฉันไม่ได้ให้กำเนิดเขา ไม่ว่าจีเอร์หรือว่าจีซือ พวกเขาคนไหนตายแล้วฉันล้วนไม่สนใจ”
ไป๋ยี่เฟยก็เลยพูดว่า “ดังนั้นคุณให้ผมช่วยคุณ แท้ที่จริงก็คืออยากจะให้ผมช่วยคุณฆ่าจีซือหรือ?”
“ไม่ใช่ทั้งหมด” หยุนอิงยิ้มตอบกลับ “คุณรู้อยู่แล้วถ้าอยากจะประสบความสำเร็จ มีเพียงกำลังคนไม่ได้นะ ยังต้องมีพลังทรัพย์”
“ดังนั้น ฉันต้องการให้คุณจัดเตรียมเครือข่ายเศรษฐกิจของคุณอยู่หนานเหมินล่วงหน้าให้ดีๆ”
ไป๋ยี่เฟยครุ่นคิดไปสักพักพูดว่า “งั้นการประลองในครั้งนี้ คุณควรจะมีท่าทีสักอย่างหน่อยเถอะ?”
หยุนอิงพยักหน้าต่อๆกันพูดว่า “เวลาสามวัน ฉันจะพยายามให้ยอดฝีมือระดับที่หนึ่งไม่ออกประลอง”
ได้ยินคำพูดนี้ ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย
ถึงแม้เขารู้ว่าหยุนอิงยอมอ่อนข้อให้อย่างมากแล้ว แต่สำหรับพวกเขามากล่าวแล้วยังไม่พอ
“ไม่พอ” ไป๋ยี่เฟยพูด
หยุนอิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเช่นกัน “นี่เป็นขีดจำกัดของฉันแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยเห็นสภาพ เงียบไปสักพัก เห็นปฏิกิริยาของหยุนอิงไม่มีทางหนีทีไล่แล้วจริงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้งั้นก็อย่างนี้เถอะ ดีกว่าไม่มี
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยกับหยุนอิงเลยขับรถออกไป
ตลอดทางเขามาถึงบริเวณคลังเก็บทองที่สาม ไม่มีน้ำมันแล้วพอดี
ไป๋ยี่เฟยก็เลยลงจากรถเดินไปยังคลังเก็บทองที่สาม
ตอนที่ใกล้จะถึง เขามาถึงข้างลำธารเล็กๆแห่งหนึ่ง
เขาก็เลยนั่งยองๆลงล้างหน้าแล้วล้างหน้าอีก ยังดื่มน้ำจากลำธารไปด้วยสองคำ ทันใดนั้นทั้งตัวแจ่มใสขึ้นมาเยอะเลย
ตั้งแต่ออกมาเขาก็ไม่ได้กินข้าวมาโดยตลอด ตอนนี้หิวเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าจะหาผลไม้ป่าสักลูกมากิน รอไปถึงคลังเก็บทองค่อยเอาของกินกับจื่ออี
เขาล้างหน้าเสร็จลุกขึ้นมา ก็เลยได้ยินว่าข้างหลังส่งเสียงมาเสียงหนึ่ง
“เหว่ย ไอ้หนุ่ม มีไฟไหม”
ได้ยินเสียงนี้ ทันใดนั้นไป๋ยี่เฟยขนลุกขึ้นมา
เขาหมุนตัวไปดู พบเห็นอยู่ด้านหลังเฉียงๆที่ไม่ไกลจากเขา มีตาแก่ที่มีอายุหกสิบกว่าปีคนหนึ่ง เขากำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ตรงกลางวางไม้แห้งกองหนึ่ง ในมือถือกิ่งไม้ที่เสียบปลาเล็กไว้หลายตัว
ด้วยพลังความสามารถในตอนนี้ของไป๋ยี่เฟย ถึงขนาดไม่ได้พบเห็นตาแก่ที่อยู่ด้านหลังเฉียงๆคนนี้
นี่ทำให้ไป๋ยี่เฟยตื่นตัวขึ้นมาทันที แต่ว่าเขายังคงจับตัวตนเองสักหน่อย ตัวเขาเองต้องสูบบุหรี่ บนตัวย่อมพกไฟอย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาถือไฟแช็กไว้เดินเข้าไปหาตาแก่ “คุณเป็นใครหรือ? อยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะ?”
การแต่งตัวของตาแก่คนนี้ดูเหมือนกับยี่สิบกว่าปีก่อนเล็กน้อย บนกายยังสวมใส่ชุดลายพรางทหารอยู่ สีหน้าดำเหลืองเล็กน้อย เห็นแล้วเหมือนดั่งคนที่มักจะทำงานอยู่ในเหมืองแร่มาก
ตาแก่นั้นรับไฟแช็กไปยิ้มแล้วยิ้มอีกไป๋ยี่เฟยพูดว่า “ผมก็เป็นตาแก่มอมแมมคนหนึ่ง ชอบเดินไปทั่วทุกทิศ ไม่รู้ว่าทำไมก็เดินมาถึงที่นี่เลย”
ทั้งพูดอยู่เขาทั้งจะจุดไม้แห้งที่อยู่ข้างหน้า น่าจะย่างปลามากิน
แต่ไป๋ยี่เฟยกลับสังเกตเห็นกระเป๋าเป้สีดำใบหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเขา ดูแล้วเก่าแก่เล็กน้อย
ไป๋ยี่เฟยก็เลยคาดเดาว่าตาแก่คนนี้ใช้ชีวิตอยู่ในหลันเต่าใช่หรือไม่ เพราะว่าไม่มีลูก ทั้งกลับไปในแผ่นดินใหญ่ไม่ได้อีก ก็ได้เพียงแค่ระเหเร่ร่อนทั่วทุกหัวระแหงแล้วล่ะ?
หลังจากตาแก่จุดไฟเสร็จส่งไฟแช็กคืนไป๋ยี่เฟย ทั้งย่างปลาทั้งถามว่า “ที่นี่เปลี่ยวขนาดนี้ คุณเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งวิ่งมาถึงที่นี่ได้ยังไงล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยรับไฟแช็กมาหยุดชะงักหนึ่งที ส่งให้ตาแก่อีกครั้ง “ท่านเก็บไว้เถอะ”
“อ่า? ขอบคุณไอ้หนุ่มนะ” ตาแก่อึ้งชะงักไปก่อนหนึ่งที จากนั้นแสยะปากยิ้มแล้วยิ้มอีก
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัวต่อๆกันพูดว่า “ไม่ต้องเกรงใจ”
พูดจบก็จะไปเลย เพียงแค่ตาแก่นั้นเรียกไป๋ยี่เฟยไว้ “ไอ้หนุ่ม ปลาของผมที่นี่ยังเยอะมากอยู่ คุณจะกินสักหน่อยไหม?”
เดิมทีไป๋ยี่เฟยอยากจะปฏิเสธ แต่ว่าเขาหิวมากแล้วจริงๆ แม้แต่ท้องก็ยังร้องสองเสียง ก็เลยอึดอัดพยักหน้าพูดว่า “ได้ งั้นก็ขอบคุณมากเลย”