ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 947
ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองพานปู้ถิงอย่างจางๆ แล้วเดินเข้าไป นั่งลงตรงข้ามกับพานปู้ถิง “ทำไมถึงไม่ใช่ผม? ผมไม่ใช่เป้าหมายของคุณเหรอ? ”
เมื่อพานปู้ถิงได้ยินคำพูดนี้ เขาก็รู้สึกอักอ่วนทันที โบกมืออย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “ไม่ๆๆๆ ไม่ใช่ผม นี่คงต้องเป็นการเข้าใจผิดอย่างแน่นอน”
ไป๋ยี่เฟยเพียงแค่มองเขาอย่างเย็นชาและพูดว่า “ผมได้พาเด็กๆ หลายคนที่อยู่บนหลันเต่ากลับมาด้วย”
“ผมเคยบอกกับพวกเขาว่า แผ่นดินใหญ่ที่อยู่ภายนอก ทุกคนต่างก็ปฏิบัติตามกฎหมาย และจะไม่ฆ่าคนไปทั่วเหมือนกับบนหลันเต่า”
“ในใจพวกเขา เต็มไปด้วยจินตนาการที่สวยงามเกี่ยวกับแผ่นดินใหญ่”
“แต่พึ่งลงจากเรือ พวกคุณก็ทำลายจินตนาการอันสวยงามของพวกเขาไปเลย และก็กลายเป็นความมืดที่ทำให้พวกเขารู้สึกกลัว”
พานปู้ถิงไม่เข้าใจกับคำพูดเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่ายหัวและพูดอย่างรวดเร็วว่า “ไป๋ยี่เฟย นี่เป็นความเข้าใจผิดทั้งนั้น ผมไม่ได้ให้เขาไปจัดการกับคุณเลย ผม……..”
ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจสิ่งที่เขาพูด เพียงแต่พูดอย่างเฉยเมยว่า “เห็นแก่ที่คุณถูกพามาโดยพ่อแม่ของเสี่ยวอิง ผมจะให้หน้าพวกเขา ดังนั้นผมจะไม่จัดการกับคุณในครั้งนี้”
“ให้เวลาคุณสามวัน กลับไปไปยังที่ของตัวเองซะ”
“อีกอย่าง อย่ามีความคิดกับเสี่ยวอิงอีกต่อไป ไม่เช่นนั้น ผมจะฆ่าคุณโดยตรง”
พานปู้ถิงตกใจกับไป๋ยี่เฟยและกลืนน้ำลายโดยจิตสำนึก
แต่เห็นได้ชัดว่า ตอนที่พานปู้ถิงได้ยินไป๋ยี่เฟยพูดถึงพ่อแม่ของหลิวเสี่ยวอิง ดูเหมือนว่าเขาจะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ไป๋ยี่เฟย คุณอย่าทำเกินไปนะ คุณคิดว่าผมกลัวคุณจริงๆ งั้นเหรอ? ”
“ผมถึงเป็นคนที่จริงใจกับเสี่ยวอิง คุณไม่สามารถเทียบกับผมได้เลย และก็ไม่คู่ควรที่จะคบกับเสี่ยวอิง”
ไป๋ยี่เฟยตะลึงชั่วขณะเมื่อได้ยินคำพูดนี้ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นและมองลงทั่วร่างกายของพานปู้ถิงแล้วพูดว่า “ที่นี่คือถิ่นของผม คุณบอกผมว่าผมไม่คู่ควรงั้นเหรอ?”
“แน่นอนว่าคุณไม่คู่ควร!” พานปู้ถิงตะโกนว่า “มึงแม่งมีภรรยาและลูกแล้ว ยังจะมาแย่งเสี่ยวอิงกับผมอีก มึงก็เป็นได้แค่ไอ้คนขี้ขลาด!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของไป๋ยี่เฟยก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาลุกขึ้นยืนทันที และถามอย่างเย็นชาว่า “ใครบอกมึง?”
เมื่อเห็นสีหน้าของไป๋ยี่เฟยเปลี่ยนไป พานปู้ถิงก็หดตัว แต่เมื่อคิดว่าไป๋ยี่เฟยดูเหมือนจะเกรงกลัวพ่อแม่ของหลิวเสี่ยวอิงอยู่บ้าง เขาก็พูดว่า “ผมเคยส่งคนไปตรวจสอบคุณมาตั้งนานแล้ว ภรรยาของคุณเป็นผู้หญิงที่ชื่อว่าหลี่เสว่ ซึ่งพึ่งให้กำเนิดลูกคู่แฝดชายหญิงให้คุณ ตอนนี้เธอก็อยู่ในเมืองหลวงด้วย!”
“เมืองหลวง?” ไป๋ยี่เฟยผงะไปครู่หนึ่ง
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ยุ่งเกินไป และโทรศัพท์มือถือของเขาก็ถูกหยุนอิงเหยียบกระทืบพังไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ติดต่อกับหลี่เสว่ในช่วงเวลานี้ และเขาก็แค่แจ้งเวลาที่เขาจะกลับมาไปเท่านั้นเอง
เมื่อเห็นเช่นนี้พานปู้ถิงก็ดูกล้าหาญขึ้นมาเล็กน้อย และชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟยและกล่าวว่า “ไป๋ยี่เฟย คุณมีเงินแล้วสุดยอดมากไม่มีผิด แต่กฎหมายกำหนดไว้ว่าคู่สมรสต้องมีคนเดียวเท่านั้น และที่คุณทำเช่นนี้ก็เท่ากับกำลังฝ่าฝืนกฎหมายอยู่!”
“และเสี่ยวอิงเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนั้น คุณมีสิทธิ์อะไรทำให้เธอต้องเสียใจ และไม่แบ่งให้สถานะเธอด้วย?”
“อย่าบอกนะว่าคุณจะหย่ากับหลี่เสว่ ผมตรวจสอบเรื่องนี้มานานแล้ว คุณชอบหลี่เสว่มาก เป็นไปไม่ได้ที่จะหย่ากับเธอ!”
“เสี่ยวอิงแต่งงานกับผมถึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ผมสามารถให้สถานะกับเธอได้ และมอบบ้านที่แท้จริงให้เธอได้!”
“ดังนั้นในข้อนี้ คุณไม่สมควรเทียบกับผมได้เลย!”
ทุกคำพูดของพานปู้ถิง เหมือนมีดที่แทงเข้าตรงกลางหัวใจของไป๋ยี่เฟย
ก่อนหน้านี้ไป๋ยี่เฟยก็ประสบกับปัญหานี้เช่นกัน
แม้ว่าจื่ออีจะช่วยพูดคลี่คลายให้เขาไปแล้ว แต่ในความเป็นจริง มันก็ยังคงเป็นปัญหาที่ยากสำหรับเขา มันคือปมที่ไม่สามารถแก้ไขได้ไปตลอดชีวิต
สายตาของไป๋ยี่เฟยค่อยๆ มืดมนลง
สุดท้ายเขาก็เดินออกจากห้องเหมาอย่างเงียบๆ
เขาหยุดอยู่ที่ประตู หันหลังให้พานปู้ถิงแล้วพูดว่า “เรื่องพวกนี้อย่าพึ่งบอกกับพ่อแม่ของหลิวเสี่ยวอิงในตอนนี้ ไม่เช่นนั้น ผมจะฆ่าคุณจริงๆ!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ พานปู้ถิงกลับคิดว่าตัวเองกำลังจับจุดอ่อนไป๋ยี่เฟยได้และพูดว่า “เรื่องที่ตัวเองทำไว้ยังจะกลัวคนอื่นจะรู้งั้นเหรอ?”
“คุณสามารถลองดูได้!” ไป๋ยี่เฟยตอบอย่างเย็นชา
หลังจากพูดจบเขาก็ไม่ได้สนใจพานปู้ถิงอีกเลย และออกจากบาร์โดยตรง
เมื่อพานปู้ถิงได้ยินดังนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง
พี่สือรีบวิ่งตามเขาออกมา และถามไป๋ยี่เฟยว่า “เถ้าแก่ไป๋ คุณปล่อยมันไปง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ? ”
“ขี้เกียจจัดการกับเขา คุณสามารถตามสบาย” ไป๋ยี่เฟยตอบอย่างจางๆ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พี่สือก็เข้าใจความหมายของเขาในทันที และหันหลังเดินกลับไปที่บาร์
สักพัก ก็มีเสียงคร่ำครวญดังออกมาจากห้องเหมา
ไป๋ยี่เฟยยืนอยู่ที่ประตูบาร์ และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในขณะนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหลิวเสี่ยวอิงถึงไม่อยากจะกลับมา
บางสิ่งดูเหมือนจะง่าย แต่ความจริงแล้วทำได้ยากมาก
ไป๋ยี่เฟยขึ้นรถ และพูดกับคนขับรถว่า “ไปที่หลันโปกั่ง”
คนของขวางซาเดินขึ้นรถคันหลังตามไป
ไป๋ยี่เฟยหลับตาของเขาลง คิดเรื่องที่เกี่ยวกับหลี่เสว่สักครู่ และก็เปลี่ยนมาคิดถึงปัญหาของหลิวเสี่ยวอิงอีกครั้ง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เนื่องจากความเร็วของรถเร็วเกินไป และเร่งความเร็วมากขึ้นเรื้อยๆ
เขาเปิดตาของเขาและมองไปที่คนขับรถ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจทันที
“คุณนั่นเอง!”
คนคนนี้ เป็นซินชิวที่เดิมทีควรจะถูกเหลียงหมิงเยว่และจีไซร่วมมือฆ่า
ไป๋ยี่เฟยตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน ร่างกายของเขาแน่นไปหมด
เขาไม่กล้าพูดอะไรเลย เพราะเขารู้ว่าซินชิวมาหาเขา และเขาต้องมีอะไรจะพูดแน่นอน
แต่ซินชิวกลับสงบมาก และดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรเลย
ดังนั้นในขณะที่รถแล่นไปตลอดทาง รถขององค์กรขวางซาคันที่อยู่ข้างหลังก็ถูกละทิ้งไปไกล และพวกเขาก็ขึ้นไปบนทางด่วน และยังคงเร่งความเร็วในการเดินหน้าอยู่
ในเวลานี้ ในที่สุดไป๋ยี่เฟยก็อดไม่ได้แล้ว “เราน่าจะถือเป็นคนในเรือลำเดียวกันใช่ไหม?”
อย่างไรก็ตามซินชิวยังคงไม่พูด
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกถึงความอักอ่วน และก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “ผมคิดว่าคุณได้……..”
“ตายไปแล้วเหรอ?” ซินชิวเอ่ยปากพูดขึ้นมาในที่สุด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกโล่งใจไปเล็กน้อย อย่างน้อยในตอนนี้ ซินชิวก็ไม่ได้มีเจตนาการฆ่าต่อตัวเอง
ไป๋ยี่เฟยผ่อนคลายเล็กน้อย และก็มีอารมณ์ที่จะถามว่า “ผมสงสัยมาก ทำไมถึงมีคนสามารถเอาชนะคุณได้?”
“ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ?” ซินชิวถามกลับ
ไป๋ยี่เฟยถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ดังนั้น คุณแพ้ไปแล้วจริงๆ เหรอ? ”
“ไม่มี” ซินชิวตอบอย่างจางๆ ว่า
ไป๋ยี่เฟยดูตะลึง “แต่ผมได้ยินมาว่า……..”
ซินชิวขัดจังหวะคำพูดของไป๋ยี่เฟย และตอบโดยตรงว่า “ผมวิ่งหนี”
“หือ?”
ไป๋ยี่เฟยกระพริบตา คิดว่าตัวเองได้ยินเสียงหลอน
ซินชิวยิ้มและพูดว่า “พวกเขาทั้งสองคนร่วมมือกันเพื่อจะมาฆ่าผม แต่ก่อนหน้านั้น ผมได้เชิญพวกเขาไปดื่มน้ำชากันสักถ้วย”
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินดังนั้นเขาก็พูดขึ้นทันทีอย่างรู้เท่าทัน “ใส่ยาพิษเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเล็กน้อย ผู้ยอดฝีมืออย่างซินชิว ก็ใช้วิธีการแบบวางยาพิษเป็นด้วยงั้นหรือ?
ซินชิวพยักหน้าและกล่าวว่า “วางยาพิษแล้วก็จริง แต่ก็มีผลเพียงเล็กน้อย”
ไป๋ยี่เฟย “…….”
“ในอาณาจักรอย่างพวกเราถูกวางยาพิษไป และมันก็ทำได้เพียงทำให้พวกเขาช้าลงเล็กน้อยเท่านั้น” น้ำเสียงของซินชิว มีความรู้สึกภาคภูมิใจอยู่เล็กน้อย “จากนั้นผมก็หันหลังและวิ่งหนีทันที ผมกล้าพูดว่า ไม่มีใครสามารถมาเทียบกับความเร็วที่ผมวิ่งหนีได้แล้ว”
ไป๋ยี่เฟย “…….”
แต่จะบอกว่า ยังไม่ได้ต่อสู้กันก็วิ่งหนีไม่ได้ถือว่าแพ้ แต่ก็ไม่ได้ถือชนะ
ไป๋ยี่เฟยฟื้นความรู้สึก จากนั้นก็มองไปที่ซินชิวแล้วถามว่า “แล้วตอนนี้คุณกำลัง……..”
“มาหลบภัยนะสิ” ซินชิวตอบว่า
ไป๋ยี่เฟยก็พูดทันทีว่า “เชี่ย!”
นี่แม่งมาหลบหนีการตามฆ่าของเหลียงหมิงเยว่และจีไซงั้นเหรอ?
ใบหน้าของไป๋ยี่เฟยดูขมขื่นขึ้นมาทันที “ไม่ใช่ มันไม่ค่อยเหมาะสมไหม ที่คุณมาหลบภัยในที่ของผม?”
“ฟังนะ พวกคุณคนใดคนหนึ่งแค่แทงผมให้ตายด้วยนิ้วเดียวก็ยังได้ แล้วยังจะวิ่งมาหาผมอีก ผมรู้สึก…….”
“ไม่ต้องกังวล” ซินชิวตอบด้วยรอยยิ้ม “โบราณกล่าวไว้ว่า สถานที่ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ยังไงพวกเขาก็ไม่มีวันที่จะคิดได้ว่าผมจะมาซ่อนตัวอยู่ที่คุณ”
ไป๋ยี่เฟยพูดไม่ออกอีกครั้ง “คุณแข็งแกร่งขนาดนี้ ยังจะกลัวพวกเขาสองคนเป็นด้วยเหรอ? ”