ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 957
“จะบรรลุถึงเดนเทพยุทธ์ จะต้องมีแรงบันดาลใจและเข้าใจตระหนักในตนเอง ตนเองเข้าใจถึงอะไร ก็สามารถสัมผัสถึงอะไร”
“คุณสามารถคิดว่าตนเองเป็นแผ่นดินใหญ่นี้ ก็สามารถคิดว่าตนเองเป็นอากาศได้เช่นกัน ยังสามารถคิดว่าตนเองเป็นทั้งโลกใบนี้”
ไป๋ยี่เฟยฟังคำพูดของซินชิวอยู่ ชั่วพริบตาเดียวก็เข้าสู่สภาวะแปรสภาพ
ซินชิวพูดสิ่งเหล่านี้แท้ที่จริงยากที่จะเข้าใจมาก
แต่เขาพูดถึงการเกิดแรงบันดาลใจและเข้าใจตระหนัก ไป๋ยี่เฟยกลับไม่ ไม่คุ้นเคย
ยังจำได้ว่าในตอนต้นเขาประสบกับการใช้ชีวิตของคนงานในทะเลบ้าง ก็ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจและเข้าใจตระหนักถึงบางสิ่งได้บ้างเล็กน้อย
เพียงแค่สิ่งเหล่านี้ที่ซินชิวบอกกับเขาในวันนี้ เขารู้สึกถึงการเกิดแรงบันดาลใจและเข้าใจตระหนักของเขาผิวเผินเกินไป ขอบเขตก็เล็กเกิดไปเช่นกัน
ดังนั้นเขาคิดอยู่ เขาอาจจะสามารถเกิดแรงบันดาลใจและเข้าใจตระหนักทั้งฟ้าดิน!
ถ้าหากเขาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับฟ้าดินนี้ ก็จะสามารถปรับใช้พลังอ้านจิ้งระหว่างฟ้าดินนี้แล้วใช่หรือไม่?
ไป๋ยี่เฟยสัมผัสถึงบางสิ่งได้บ้างเล็กน้อย เหมือนดั่งได้คลำธรณีประตู
ถ้าหากเขาสามารถเกิดแรงบันดาลใจและเข้าใจตระหนัก ถึงบางสิ่งบ้างเล็กน้อยจริงๆล่ะก็ อย่างงั้นอยู่บนเส้นทางที่จะเข้าสู่เดนเทพยุทธ์นี้ เขาจะเดินทางคดเคี้ยวน้อยกว่าคนอื่นเยอะเลย
หลังจากไป๋ยี่เฟยคืนสติกลับมา จากนั้นโค้งตัวนิดๆพูดกับซินชิวว่า “ขอบคุณการชี้แนะของอาใหญ่มาก”
ซินชิวส่ายหัวนิดๆ พูดว่า “ไม่ต้องไปใส่ใจมาก ผมเพียงหวังว่ารอถึงตอนที่พลังความสามารถของผมไม่เพียงพอที่จะป้องกันตนเอง คุณสามารถคุ้มครองผมสักหน่อยเท่านั้น”
คำพูดอาจพูดอย่างนี้ แต่ในใจไป๋ยี่เฟยยังคงซาบซึ้งในบุญคุณมาก ถึงยังไงก็มีไม่กี่คนที่มีโอกาสได้รับการชี้แนะอย่างนี้จากพี่ใหญ่
เพียงแค่ถ้าเขาสามารถเกิดแรงบันดาลใจและเข้าใจตระหนักถึงอะไรจริงๆ ยังต้องใช้เวลาค่อยๆหลอมรวมกัน
……
ตอนบ่าย ไป๋ยี่เฟยอุ้มเด็กคนหนึ่ง หลี่เสว่เด็กอุ้มคนหนึ่ง พวกเขาออกจากโรงแรม เดินเล่นด้วยกันในสวนสาธารณะที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
แสงอาทิตย์ยามพลบค่ำสาดส่องอยู่บนกายอ่อนโยนอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าอบอุ่นและเงียบสงัดเป็นพิเศษ
พวกเขาเดินอยู่บนทางเล็กๆ เสพสุขความสงบเงียบเป็นเวลาชั่วคราวนี้อยู่
หลี่เสว่ทั้งเดินอยู่ ทั้งจ้องมองสามีที่อยู่ข้างๆและลูกที่อยู่ในอ้อมอก ยิ้มบางๆอยู่พูดว่า “ถ้าหาก สามารถเป็นเช่นนี้ตลอดไปก็ดีเลย”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนี้ยิ้มตามไปด้วยแล้ว “ใช่สิ……”
น่าเสียดาย ชีวิตธรรมดาที่อยากจะได้ สำหรับเขามากล่าวแล้ว ช่างยากเหลือเกินจริงๆ
ทั้งสองคนเดินไปเดินมาเดินถึงสถานที่ที่คนน้อยแห่งหนึ่ง หลี่เสว่อยู่ดีๆพูดว่า “สามีจ๋า ฉันอยากยกลูกสาวให้กับเสี่ยวอิง”
ไป๋ยี่เฟยอึ้งชะงักทั้งตัว ตื่นตะลึงจ้องมองไปยังหลี่เสว่
หลิวเสี่ยวอิงสูญเสียสมรรถภาพทางเพศแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะมีลูกของตนเอง หลี่เสว่ทำเช่นนี้ ก็เท่ากับให้โอกาสหลิวเสี่ยวอิงที่ได้เป็นมารดาครั้งหนึ่ง
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกซาบซึ้งใจว่าหลี่เสว่สามารถทำถึงขั้นนี้ แต่เขาก็ทรมานมาก ทรมานแทนหลี่เสว่
นั่นเป็นลูกของหลี่เสว่ที่ตั้งครรภ์อย่างลำบากยากเข็ญต่างๆนานาด้วยตนเอง กลับใจกว้างยกให้หลิวเสี่ยวอิง ภายนอกไม่มีอะไรแต่ในใจย่อมทรมานมากแน่นอน
แม้ว่าสุดท้ายพวกเขาล้วนจะอยู่ด้วยกัน ลูกก็จะอยู่ด้วยกัน นี่ไม่ได้มีอะไร แต่บนชื่อเรียก…..
ไป๋ยี่เฟยนึกถึงพวกไอ้แก่เหล่านั้นของตระกูลไป๋อีก ถึงขนาดยังอยากจะให้หย่าร้างกับหลี่เสว่อีก ให้เขาแต่งกับผู้หญิงตระกูลฉุง!
หลี่เสว่เป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ เขาตัดใจลงที่จะหย่าร้างได้ยังไงล่ะ?
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองไปยังหลี่เสว่ นัยน์ตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนนุ่มนวล “ภรรยาจ๋า”
“อืม?” หลี่เสว่จ้องมองไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยชิดใกล้กับหลี่เสว่ พูดเสียงเบาๆว่า “หลับตา”
หลี่เสว่เชื่อฟังหลับตาลง ไป๋ยี่เฟยก็เลยจูบริมฝีปากของเธอเลย
กลับอยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆมีคนหนึ่งพุ่งออกมาจากป่าเล็กๆข้างๆ
หลี่เสว่ตื่นตกใจหนึ่งที โดยจิตใต้สำนึกจะลืมตาขึ้น ไป๋ยี่เฟยกลับกดหัวของหลี่เสว่ไว้ “อย่าลืมตา”
หลี่เสว่เชื่อใจไป๋ยี่เฟยอย่างมาก ดังนั้นเธอไม่ได้ลืมตา รองรับจูบของไป๋ยี่เฟยไว้อย่างเงียบๆ
และคนที่พุ่งออกมาคนนั้น บนกายสวมใส่เสื้อคลุมสีดำตัวหนึ่ง เขานอนอยู่กับพื้น บนคอมีรอยกรีดสีแดงเส้นหนึ่ง ใต้รอยกรีดมีเลือดไหลเป็นทางคดเคี้ยวหลายเส้น
จิงหลัวค่อยๆเดินออกจากป่าไป ตอนเดินถึงข้างหน้าผู้ชายนั้น ผู้ชายหมดลมหายใจพอดี
ไป๋ยี่เฟยจูบเสร็จแล้ว กดหัวของหลี่เสว่อยู่ ตนเองหันหน้าไปถามว่า “ใครหรือ?”
“คุณชายใหญ่ ระดับที่สามชั้นสูงขององค์กรนักฆ่าเมืองหลวง” จิงหลัวก้มหัวตอบกลับ
เห็นได้ชัดมาก ยอดฝีมือระดับที่สามคนหนึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมาฆ่าไป๋ยี่เฟย ดังนั้นเป้าหมายคือหลี่เสว่!
ใครจะฆ่าหลี่เสว่หรือ?
และทำไมต้องฆ่าหลี่เสว่ล่ะ?
อยู่ดีๆ ไป๋ยี่เฟยยี๋ตาทั้งคู่ทันที เป็นไอ้แก่เหล่านั้นของตระกูลไป๋! พวกเขายังอยากจะให้ตนเองแต่งงานกับผู้หญิงของตระกูลฉุงอีก!
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “ผมยังช่างประเมินค่าไป๋เซี่ยวต่ำไปแล้วจริงๆ!”
จิงหลัวหยุดชะงัก ก้มหัวอยู่ไม่กล้าขานรับ
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเขาอย่างเย็นชาหนึ่งที “คุณถอยไปได้แล้ว”
“ครับ”
รอจิงหลัวไปแล้ว หลี่เสว่ยังอยากจะยื่นหัวออกไปดู ถูกไป๋ยี่เฟยรีบกดไหล่ไว้หมุนตัวไปเลย ยังพูดว่า “อย่าดูเลย ไม่น่าดู”
แม้ว่าหลี่เสว่ไม่ได้หันกลับไป กลับยื่นปากพูดว่า “ฉันมีอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนหรือ?”
นึกถึงตอนต้นที่หลี่เสว่เคยยิงปืนทำร้ายตนเองนะ ยังเคยฆ่าคนมาก่อนล่ะ!
ไป๋ยี่เฟยเห็นสภาพยิ้มอยู่พูดว่า “ใช่ใช่ใช่ ภรรยาผมเก่งอยู่ล่ะ! แต่ว่านะ เวลานี้เป็นเวลาที่พวกเราอบอุ่นหวานชื่นใจอยู่ ก็จะไม่ให้สิ่งอื่นๆมาทำร้ายอารมณ์ของเราแล้ว”
ระหว่างนี้มีปัญหาอย่างหนึ่ง นั่นก็คือไป๋เซี่ยว
ก่อนหน้านั้นพูดว่าเพราะมีคนอยากจะใช้คนในครอบครัวของเขามาคุกคามเขา ดังนั้นหลี่เสว่ถูกรับไปเมืองหลวง ไป๋หยุนเผิงคู่สามีภรรยาก็ถูกคุ้มครองไว้ ต่อมาหลี่เสว่ยังเข้าไปพักอยู่ในบ้านเก่าตระกูลไป๋
คนในครอบครัวของไป๋ยี่เฟยล้วนถูกคุ้มครองไว้
นอกจากไป๋เซี่ยว
ทำไมไม่มีคนคุ้มครองไป๋เซี่ยวไว้ล่ะ?
เพราะว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเขาจัดวางด้วยตนเอง ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องมีคนมาคุ้มครองเขาเลยสักนิด
อย่างนั้น เรื่องที่ให้ไป๋ยี่เฟยแต่งงานกับผู้หญิงตระกูลฉุงนี้ เกรงว่าจะเป็นไป๋เซี่ยวเอ่ยขึ้นมาให้กับพวกไอ้แก่เหล่านั้นด้วย เหตุผลก็คือเพื่อที่จะคลี่คลายความสัมพันธ์ของตระกูลไป๋กับตระกูลฉุง
พิจารณาแล้วเพื่อผลประโยชน์ของตระกูล ไอ้แก่เหล่านั้นย่อมเห็นด้วยอยู่แล้ว
แต่ว่า ความรักความผูกพันที่ไป๋ยี่เฟยให้กับหลี่เสว่ลึกซึ้งเกินไป เป็นสิ่งที่พวกเขาคาดคิดไม่ถึง
แต่ว่า จุดนี้กลับอยู่ในความคาดคิดของไป๋เซี่ยว
อยากจะทำให้ไป๋ยี่เฟยสมัครใจแต่งงานกับผู้หญิงตระกูลฉุง สิ่งที่เป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือฆ่าหลี่เสว่ไปเลย!
หลี่เสว่ตายแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
ดังนั้น พวกไอ้แก่จะส่งนักฆ่ามาฆ่าหลี่เสว่ทิ้ง แต่ไป๋เซี่ยวกลับให้จิงหลัวมาฆ่านักฆ่านี้ ทำให้ไป๋ยี่เฟยรู้แล้ว ก็ไม่ใช่บอกกับไป๋ยี่เฟยว่าเป็นพวกไอ้แก่จะฆ่าหลี่เสว่หรือ?
อย่างนี้ รวมกับก่อนหน้านี้ที่ไป๋ยี่เฟยชกต๋อยกับพวกไอ้แก่ ยังเผาคฤหาสน์อีก บวกกับเรื่องการฆ่าหลี่เสว่ในครั้งนี้ เพิ่มความขัดแย้งระหว่างเขากับบ้านเก่ารุนแรงขึ้น
ไป๋เซี่ยวบอกเล่ห์เพทุบายของเขากับไป๋ยี่เฟยอย่างเปิดเผยขนาดนี้ และไป๋ยี่เฟยก็ไม่สามารถพูดอะไรเช่นกัน ในเวลาเดียวกัน บ้านเก่าฝั่งโน้นก็รู้จุดประสงค์ของไป๋เซี่ยวด้วย กลับไม่มีวิธีที่จะว่าไป๋เซี่ยวได้เช่นกัน
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่า ความเจ้าเล่ห์ของไป๋เซี่ยวยังลึกล้ำกว่าที่เขาจินตนาการไว้
……
องค์กรนักฆ่าเมืองหลวง มีนักฆ่ามากมาย สวีลั่งก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น อีกทั้งยังเป็นนักฆ่าอันดับแรกในเมืองหลวง
กลางคืนใกล้จะมาถึง อู่ซ่อมรถนอกเมืองหลวงบางแห่ง
หน้าประตูมีรถBentleyขับมาคันหนึ่ง
พอBentleyจอด มีลูกน้องสิบกว่าคนมาจากอู่ซ่อมรถ ล้วนวิ่งเข้ามาหมด จากนั้นมีคนเปิดประตูให้คนขับรถ ผ่านไปไม่นาน ผู้ชายที่สวมใส่ชุดสูทสีดำคนหนึ่งลงจากรถ
ลูกน้องที่ถือว่าสวมใส่ดูดีคนหนึ่งอยู่ในนั้นโค้งตัวทำความเคารพกับผู้ชาย “ท่านเชิญเข้าข้างใน”
ผู้ชายคนนั้นสวมใส่รองเท้าหนังสีดำที่เงาวาว เดินเข้าไปทีละก้าวทีละก้าว
เขามาถึงห้องนอนที่มีแสงเจิดจ้าห้องหนึ่ง และในห้องยังมีคนนั่งอยู่มากมาย ทุกๆคนล้วนสวมใส่อย่างประหลาด ดูแล้วเหมือนดั่งคนที่มาจากต่างถิ่น
จุดเหมือนกันของพวกเขาเพียงอย่างเดียวก็คือพวกเขามีสีหน้าเย็นชากวดขัน เต็มเปี่ยมด้วยแรงอาฆาต
และหลังจากพวกเขามองเห็นผู้ชายคนนั้นเข้ามา คนที่เป็นหัวหน้าคนนั้นลุกขึ้นมา “ท่านเฟยเชิญนั่ง”
ท่านเฟยนั่น อืม เสียงหนึ่ง นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆ จ้องมองคนที่เป็นหัวหน้าคนนั้นหนึ่งที บนหัวของคนคนนั้นผูกผ้าโพกหัวสีดำเส้นหนึ่ง เขาถามว่า “ผลลัพธ์เป็นยังไงบ้างล่ะ?”