ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 975
ไป๋ยี่เฟยรับรู้ได้ถึงความผิดปกติในทันที เขาจึงรีบตามไป
ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าตัวเองถูกวางยาพิษแล้ว และโดยปกติทั่วไปแล้ว พิษมีผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นสำหรับยอดฝีมือ แต่เห็นได้ชัดว่าเขารับรู้ได้ถึงอาการแขนชา
ที่นี่คือเมืองเทียนเป่ย เป็นถิ่นของเขา แต่กลับมีคนกล้าลงมือกับเขา!
บุคคลนี้ไม่ธรรมดา ดังนั้นเขาต้องจับให้ได้
ไป๋ยี่เฟยวิ่งไปข้างหน้าแล้วกระโดดอย่างรวดเร็ว ซึ่งดึงดูเสียงร้องอุทานของฝูงชนที่อยู่ด้านหลังของเขา
“เย็ดเข้!ทำไมเขาถึงเร็วแบบนั้นล่ะ?”
“นี่แม่งเร็วเกินไปแล้วมั้ง?”
“พระเจ้าช่วย รีบมาดูเร็วเข้า เขาขึ้นตึกไปแล้ว!”
……
คนผู้นั้นที่พบว่าไป๋ยี่เฟยไล่ตามอยู่พบว่าคนที่ตามมาคือไป๋ยี่เฟย เขาจึงโรยผงบางอย่าง มันเป็นผงสีขาว
ไป๋ยี่เฟยรีบหลบอย่างรวดเร็ว ไล่ตามจากอีกด้าน
คนหนึ่งอยู่หน้าคนหนึ่งอยู่หลัง ผ่านไปไม่นานก็มาถึงข้างๆตึกร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จ และหลังจากที่เข้าไปตึกร้างแล้ว คนผู้นั้นก็ได้หายไปแล้ว
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว
ในขณะเดียวกัน เขารู้สึกหัวใจของตัวเองสั่นเล็กน้อย ยังรู้สึกหายใจลำบากอีกด้วย
นี่คือสัญญาณของการโดนพิษ
เขาอยากรีบใช้พลังอ้านจิ้งขับพิษออก แต่แล้วเขาพบว่าพลังอ้านจิ้งของเขาหายไปจนหมด ไม่มีแม้แต่น้อย
เขารู้สึกตกใจมาก หลังจากที่รู้สึกว่าตัวเองปวดหัว เขาจึงรีบหยิบออกมาโทรหาฉินหัวทันที
เพียงแต่ด้านหลังของเขามีเสียงลมดังลอดมา
ไป๋ยี่เฟยรีบก้มหัวหลบ ในขณะเดียวกันเขาก็ได้หันหลังแล้วชกคนที่อยู่ข้างหลัง
เสียงดัง“ปั๊ก” คนคนนั้นกระเด็นออกไป
แต่ไป๋ยี่เฟยเองก็รู้สึกแย่เช่นกัน เพราะเขาออกแรงเมื่อกี้ ทำให้พิษแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว การเวียนศีรษะของเขามีเพิ่มมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้กดโทรออกไป และก็หมดสติไปในทันที
……
รอจนเขาได้สติขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเองถูกมัดไว้บนเตียงขนาดใหญ่ บนเตียงมีเพียงผ้าปูเตียง แต่ไม่มีผ้าห่ม และสิ่งที่มัดเขาอยู่มันไม่ใช่เชือก แต่คือโซ่เหล็ก
และห้องที่เขาอยู่นั้นเป็นห้องเล็กๆเก่าทรุดโทรม บนหน้าต่างไม่มีกระจก และมีลมพัดปลิวไสวไปมาเป็นระลอก
ไป๋ยี่เฟยกะพริบตาปริบๆ เขารู้สึกแปลกใจมาก ที่เขาต้องมาเจอเรื่องโชคร้ายในถิ่นของตัวเอง
และในเวลานี้เอง ทันใดนั้นข้างๆของเขาก็มีเสียงดังลอดมา“ตื่นได้สักทีสินะ”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกตกใจ จึงรีบหันไปมอง
ในที่ไม่ไกลจากเขามีร่างที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ยืนอยู่ เขาสวมชุดฉางเผ่า และยังใส่หน้ากากผีอีกด้วย ทำให้คนไม่รู้ว่าเป็นชายหรือหญิง
สำหรับเสียงของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าถูกเปลี่ยนโดยเครื่องเปลี่ยนเสียง ไม่ใช่เสียงที่แท้จริงของเขา
คนผู้นั้นจ้องมองมาที่ไป๋ยี่เฟย น้ำเสียงสบายๆ และมีความดูถูกเล็กน้อย“ทำไมนายไม่ลองเดาดูล่ะ ว่าใครต้องการชีวิตของนาย?”
ไป๋ยี่เฟยขยับตัวเล็กน้อย พบว่าร่างกายของเขาไม่มีแรง อีกทั้งพลังอ้านจิ้งที่อยู่ภายในยังใช้ไม่ได้อีกด้วย เขายังถูกโซ่เหล็กตรวนไว้ ซึ่งมันไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการได้เลย
ตอนนี้เขา เป็นปลาที่อยู่บนเขียง พร้อมที่จะถูกฆ่าได้ทุกเมื่อ
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยไม่กลัวเลย แต่เขาตกใจเล็กน้อย เนื่องจากยาพิษทั่วไปโดยปกติแล้วแทบจะไม่มีผลอะไรกับเขาเลย
เขามองไปที่คนคนนั้นแล้วเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย“คุณเป็นใคร?”
หน้ากากผีหัวเราะแล้วพูดว่า“นายต้องไม่รู้แน่ๆว่าใครต้องการชีวิตของนาย”
ไป๋ยี่เฟยกลับขมวดคิ้วแล้วถามว่า“คุณเป็นใครกันแน่?เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?”
หน้ากากผีดูเหมือนจะโกรธแล้ว เขาทำเสียงหึแล้วพูดว่า“จนถึงป่านี้แล้ว?ยังจะจองหองอยู่อีก?”
ทั้งสองไม่อยู่ในหัวข้อสนทนาเดียวกัน ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบกลับหน้ากากผีแม้แต่คำเดียว มันจึงทำให้เขารู้สึกโมโหมาก
ทันใดนั้นไป๋ยี่เฟยก็หัวเราะอย่างเย้ยหยัน“คุณจะฆ่าก็ฆ่าเถอะ ทำไมต้องรอผมฟื้นด้วย ยังจะให้ผมเดาว่าใครจะฆ่าผมอีก?”
“หรือคุณยังหวังว่าผมจะให้เงินคุณมากกว่า ให้คุณหันกลับไปฆ่านายจ้างของคุณ?”
คำพูดเหล่านี้ทำให้หน้ากากผีถึงกับชะงักไป
ไป๋ยี่เฟยพูดต่อไปว่า“ดังนั้น เป้าหมายที่แท้จริงของคุณคืออยากเจรจากับผม แต่ไม่ใช่ฆ่าผม”
หน้ากากผีตกตะลึง อีกทั้งเขายังดึงผมของตัวเองอย่างร้อนรน
ท่าทางนี้มันทำให้ไป๋ยี่เฟยผิดคาดเล็กน้อย ดูเหมือนเขาจะบ้าไปแล้ว
วินาทีต่อมา จู่ๆหน้ากากผีก็ตะโกนขึ้นมาว่า“อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนดีไปหน่อยเลย ฉันจะมาเอาชีวิตของนาย!”
แต่แล้วไป๋ยี่เฟยก็พูดด้วยท่าทีเงียบสงบ“ไม่ คุณไม่ใช่”
หน้ากากผีจับผมอีกครั้ง เหมือนหลังจากที่สับสนอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ยอมแพ้“ก็ได้ๆๆ ฉันไม่ได้มาเอาชีวิตนายจริงๆนั่นแหละ ความจริงฉันได้รับมอบหมาย ให้มารั้งนายไว้”
ไป๋ยี่เฟยตกตะลึง“คุณหมายความว่าไง?”
หน้ากากผีที่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า แล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า“ฉันได้รับมอบหมายมา ให้ขังนายไว้ที่นี่สองวัน”
“สองวัน?”ท่าทีของไป๋ยี่เฟยเปลี่ยนไป
หน้ากากผีหัวเราะ แล้วพยักหน้าพลางพูดว่า“ใช่แล้ว สองวัน”
“หลังจากผ่านไปสองวัน หลิวเสี่ยวอิงแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น แล้วได้ร่วมหลับนอนขึ้นเตียงกับผู้ชายอื่น ถึงเวลานั้นฉันจะปล่อยนายไปเอง ”
และประโยคนี้เหมือนประกายไฟ ทันใดนั้นมันเหมือนชนวนระเบิดจุดประกายโทสะของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยเบิกตากว้างด้วยความโกรธ เขากัดฟันกรอดพูด“ทางที่ดีตอนนี้รีบปล่อยผมซะ ไม่อย่างนั้น……”
“แล้วนายจะทำอะไรได้?”หน้ากากผีไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย“หรือนายจะไปฉุดคนอื่นมาจากงานแต่งได้ล่ะ?”
“แต่หลิวเสี่ยวอิงไม่สนใจนายด้วยซ้ำ พ่อแม่ของเธอก็ไม่ยอมรับนาย นายจะเอาหน้าที่ไหนไปหาคนอื่น ยังจะไปฉุดคนอื่นมาจากงานแต่งอีก?”
สีหน้าของไป๋ยี่เฟยชะงักไป แววตาของเขาก็ตามไปติดๆ
จริงด้วย เขาจะเอาหน้าที่ไหนไป?
เขามีสิทธิ์อะไร?
หน้ากากผีที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ จึงอดที่จะหัวเราะอย่างเย้ยหยันไม่ได้พลางพูดขึ้นมาว่า“ดังนั้น นายอยู่ดีนี่ต่อสักสองวันเถอะ”
“ถึงยังไงเธอกับนายก็ไม่เกี่ยวข้ออะไรกันแล้ว ถือว่าปล่อยเธอไปซะเถอะ นายจะทำอะไรได้?สู้อยู่ที่นี่คนเดียวยังดีซะกว่า”
“อีกทั้งหลิวเสี่ยวอิงกับนายเคยมีความรักกัน แต่แล้วยังไงล่ะ?มันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว”
“สำหรับเรื่องที่เธอไม่สามารถมีลูกได้ นั่นก็เป็นเรื่องของเธอ มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วยล่ะ?”
“ถึงยังไงเธอก็เป็นถึงสาวสวย ถึงจะไม่สามารถมีลูกให้พานปู้ถิงได้ อย่างน้อยก็ยังสามารถคบเล่นๆได้ อย่างมากก็แค่เล่นเบื่อแล้ว ถูกทิ้งก็เท่านั้นเอง”
“พานปู้ถิงไม่เหมือนกับนาย ถึงเขาจะเคยแอบมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่เขายังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีภรรยาเป็นจริงเป็นจัง”
“ดังนั้น นายมีสิทธิ์อะไรไม่แย่งมาจากเขาเหรอ?”
คำพูดเหล่านี้ของหน้ากากผีเหมือนเป็นเข็มนับร้อยนับพัน ทิ่มแทงหัวใจของเขา
ไป๋ยี่เฟยเริ่มดิ้นขัดขืนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่โซ่ที่พันธนาการเขาไว้ก็เริ่มสั่นไหวไปมา แต่เขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้
“แม่งเอ้ยปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ!”
“ถ้าขืนยังพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้กับผมอีก ผมจะฆ่าคุณแน่!”
ไป๋ยี่เฟยตะคอกใส่หน้ากากผีด้วยความโกรธ
หน้ากากผีที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้จึงทำเสียงจึๆ จึงพูดอย่างประชดประชันว่า“ฉันคิดไม่ออกจริงๆ เธอแต่งงานแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย?นายจะร้อนรนไปทำไม?”
ไป๋ยี่เฟยด่ากราดอย่างโมโห“พูดเหี้ยอะไร!”
“เธอเป็นผู้หญิงของผม!ถ้าเธอเป็นอะไรแม้แต่ปลายขน ผมจะฆ่าคุณทั้งเป็นแน่!”
หน้ากากผีหลุดหัวเราะ“ผู้หญิงของนายงั้นเหรอ?เธอยอมรับด้วยตัวเองแล้วเหรอ?”
“ไอ้เย็ดแม่!”ไป๋ยี่เฟยสบถด่าอย่างเกรี้ยวกราด
หน้ากากผีไม่โกรธ เขาหัวเราะอย่างเย้ยหยันแล้วพูดว่า“ในเมื่อนายอยากขัดขวางขนาดนี้ งั้นฉันจะให้โอกาสนาย”
หลังจากที่เขาพูดจบก็หยิบมีดสั้นออกมาหนึ่งเล่ม
“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้มือข้างนี้ตัดโซ่เหล็กให้ขาด นายสามารถใช้ปากคาบไว้ได้ ค่อยๆตัดเหล็ก ไม่แน่โซ่เหล็กอาจจะลับขาดก็ได้ ยังสามารถไปทันงานแต่งได้”
“แม่งเอ้ย!”ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองไปที่มีดเล่มสั้น แล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยว“คุณล้อผมเล่นงั้นเหรอ?”
หน้ากากผีหัวเราะขึ้นมาในทันที“โธ่ ถูกนายเดาถูกจนได้สินะ!”
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองไปที่หน้ากากผี หลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจยาวแล้วหลับตาลง