ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - บทที่ 1075 ตั้งใจ
หลังจากวางสายแล้ว หลี่เสว่รีบหยิบเสื้อตัวหนึ่ง ไม่ทันที่จะเก็บอย่างอื่น ก็วิ่งลงไปข้างล่างเลย
ในเวลาเดียวกันเธอโทรหาจางหัวปินอีก “พี่จาง เร็ว เตรียมเรือไปหลันเต่า”
“เป็นยังไงแล้วเหรอ?” จางหัวปินฟังออกได้ถึงน้ำเสียงที่ร้อนใจของหลี่เสว่
หลี่เสว่รีบเร่งพูดว่า “ตอนนี้ไม่มีเวลาพูดมาก รีบไปเตรียมตัว ระหว่างทางค่อยพูดอีก”
“ได้!” จางหัวปินถามอีก “จะต้องพาคนไปสักเท่าไหร่ล่ะ?”
“ทั้งหมด!”
“ผมรู้แล้ว!”
……
พี่เลี้ยงเห็นหลี่เสว่รีบร้อนวิ่งลงมาข้างล่าง รีบถามว่า “เป็นยังไงแล้วเหรอ? นี่เกิดเรื่องอะไรกันแน่?”
หลี่เสว่หยุดลงมา หลังจากลังเลเล็กน้อย ก็เลยบอกกับพี่เลี้ยงว่า “ฉันมีเรื่องด่วนต้องออกจากบ้านหลายวัน ท่านโทรหาแม่ฉันโดยตรง ให้เธอเข้ามาดูแลเด็กๆกับท่านด้วยกัน”
หลังจากพูดจบวิ่งออกจากบ้านโดยตรง พี่เลี้ยงแม้แต่โอกาสจะซักถามสักนิดก็ไม่มี
หลี่เสว่ขับรถถึงโรงพยาบาลโว่หลงโดยตรง
และโรงพยาบาลของพวกเราวุ่นวายไปนานแล้ว
เพราะว่าไป๋ยี่เฟยหายสาบสูญไป
เพื่อที่จะหาไป๋ยี่เฟย พวกเขาส่งคนออกไปมากมายแล้ว และในตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในห้องควบคุม ตรวจดูกล้องวงจรปิดทั้งหลาย
ห้องผู้ป่วยของหลิวเสี่ยวอิง
อู๋หยุนกำลังถือโจ๊กข้าวฟ่างไว้ถ้วยหนึ่ง ส่งมาถึงหน้าหลิวเสี่ยวอิง “เสี่ยวอิง กินสักหน่อยเถอะ”
ใบหน้าหลิวเสี่ยวอิงไร้สีหน้าจ้องมองนอกหน้าต่างอยู่ เสียงอ่อนแอมาก “ฉันไม่กิน”
“เสี่ยวอิง” อู๋หยุนร้อนใจอย่างมาก “แกไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว ก็กินสักหน่อยเถอะ!”
หลิวเสี่ยวอิงจ้องมองนอกหน้าต่างอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่ไม่ได้เอ่ยปากตอบกลับอีกเลย
อู๋หยุนทั้งโมโหทั้งร้อนใจ วางถ้วยลงเสียเลย ชี้ด่าอย่างโหดร้ายว่า “ไป๋ยี่เฟยไอ้เหี้ยคนนี้!”
หลิวโก๋จงถอนหายใจหนึ่งที ก็เกลี้ยกล่อมตามไปด้วย “เสี่ยวอิง เขาก็คือไอ้เหี้ย คนมหาเหี้ยคนหนึ่ง แกทำไมต้องเป็นเพราะเขาไม่รักษาร่างกายของตนเองล่ะ?”
สำหรับคำพูดของหลิวโก๋จง หลิวเสี่ยวอิงยังคงอารมณ์ไม่หวั่นไหวไปด้วย
เธอย้อนนึกถึงอดีตในสองปีนี้ที่ผ่านมาโดยตลอด รอหลังจากย้อนนึกถึงทีละรอบๆจบแล้ว เธอจึงพบเห็นว่าอยู่ในช่วงความทรงจำทั้งหมด ล้วนเป็นไป๋ยี่เฟยไปหมดเลย
แต่ว่าเธอคิดไม่เข้าใจ ไป๋ยี่เฟยทำไมต้องไร้น้ำใจเช่นนี้ล่ะ?
กระดาษโน้ตที่ไป๋ยี่เฟยทิ้งไว้กับมือ เธอจะไม่เชื่ออีกก็ไม่มีทาง แต่ว่า เธอคิดไม่ออกตกลงว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่เหมือนเดิม?
หลิวเสี่ยวอิงตั้งแต่หลังจากไป๋ยี่เฟยไปแล้ว ก็คิดถึงคำถามนี้มาโดยตลอด ในเวลาเดียวกัน เธอรู้สึกสูญเสียไป๋ยี่เฟยไป ก็เหมือนดั่งสูญเสียโลกทั้งใบไป การคงอยู่ของเธอล้วนไม่มีความหมายสักนิดเลย
ในเวลานี้ ข้างนอกส่งเสียงเจี้ยวจ้าวมาพักหนึ่ง ดึงดูดความสนใจของหลิวเสี่ยวอิงเลย “พ่อแม่ ข้างนอกเกิดเรื่องอะไรกันเหรอ?”
หลิวโก๋จงขมวดคิ้วอยู่พูดว่า “อย่าไปสนใจเรื่องของข้างนอก แกพักผ่อนให้ดีๆก็พอแล้ว”
ในเวลานี้ พยาบาลคนหนึ่งผลักประตูเข้ามาแล้ว “ผู้อำนวยการ ฉันมาเปลี่ยนยาให้ท่านแล้ว ท่านรู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
หลิวเสี่ยวอิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ถามอีกว่า “ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นแล้วใช่หรือไม่?”
พยาบาลเห็นแบบนี้ส่ายหัวถอนหายใจพูดว่า “ฉันเพียงแค่ได้ยินพวกเขาว่าเถ้าแก่ของโรงพยาบาลเกิดเรื่องแล้ว เถ้าแก่เนี้ยตอนนี้กำลังรวบรวมคนมากมาย คิดที่จะไปช่วยเถ้าแก่ล่ะ”
“คุณพูดอะไรนะ?” หลิวเสี่ยวอิงตื่นตะลึงเลย
พยาบาลส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “ส่วนรายละเอียดฉันไม่รู้จริงๆ”
หลังจากเปลี่ยนยาเสร็จ พยาบาลก็ออกไปเลย
หลิวโก๋จงเห็นแบบนี้รีบพูดว่า “เสี่ยวอิง แกพักผ่อนให้ดีๆ อย่าไปสนใจเขาเลย ตอนนี้เขาเกิดเรื่องแล้ว นี่คือสมน้ำหน้า!”
“ใช่ สมน้ำหน้า!” อู๋หยุนพูดตามไปด้วย
แต่ว่าหลิวเสี่ยวอิงไม่สนใจใยดีเปิดผ้าห่มออกเลย อยากจะลงจากเตียง “ไม่ได้ ฉันต้องรู้ว่าตกลงเกิดเรื่องอะไรกันแน่”
ไม่ว่าหลิวโก๋จงกับอู๋หยุนเกลี้ยกล่อมยังไงก็เกลี้ยกล่อมไม่อยู่ ได้แต่เพียงพยุงหลิวเสี่ยวอิงไว้ออกจากห้องผู้ป่วย
มาถึงระเบียงทางเดิน เธอมองเห็นคนเบียดเสียดเต็มระเบียงทางเดินที่อยู่ไม่ไกลและหน้าตาของคนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่เธอคุ้นเคย
มีจางหัวปิน ไป๋หู่ สวีลั่ง เฉินอ้าวเจียว ยังมีสมาชิกขององค์กรขวางซา
หลิวเสี่ยวอิงกำลังคิดอยากจะซักถาม หลี่เสว่ก็ได้เดินเข้ามาจากอีกด้านหนึ่งดังนั้นเรียกเธอไว้ทันที “เสว่เอ๋อ!”
หลี่เสว่ได้ยินเสียงหยุดชะงัก จากนั้นหันหลังมองไปยังหลิวเสี่ยวอิงกับพ่อแม่เธอ
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง หลี่เสว่ยกเท้าเดินเข้าไปเลย จากนั้นพูดกับหลิวโก๋จงคู่สามีภรรยาทั้งสองว่า “คุณอาคุณน้าสวัสดีค่ะ”
ส่วนหลิวโก๋จงกับอู๋หยุนต่างคนต่างหันหน้าไป ไม่ได้สนใจหลี่เสว่
แต่หลิวเสี่ยวอิงถามว่า “เป็นยังไงแล้วเหรอ? ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรกันแน่?”
หลี่เสว่เพียงแค่พูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่มีเรื่องใหญ่อะไร ไม่ต้องกังวล”
“โอ๊ะ ต่อจากนี้ฉันจะเอาหนังสือสัญญาให้แก่คุณชุดหนึ่ง หลังจากตั้งแต่นี้เป็นต้นไปโรงพยาบาลแห่งนี้ก็เป็นของคุณแล้วหลังจากให้หนังสือสัญญาคุณ คุณได้เซนต์ชื่อแล้วก็มีผลเลย”
หลังจากพูดจบหลี่เสว่หมุนตัวไปเลย
หลิวโก๋จงคู่สามีภรรยาล้วนตื่นตะลึงเลย
จากนั้นอู๋หยุนมีปฏิกิริยาขึ้นมา ตื่นตระหนกตกใจด้วยความดีใจพูดว่า “เสี่ยวอิง โรงพยาบาลแห่งนี้วันหลังก็เป็นของแกแล้วเหรอ?”
หลิวโก๋จงก็คืนสติกลับมาเช่นกัน ฮึ เย็นชาพูดว่า “ก็ถือว่าพวกเขารู้จักความ”
แต่ว่าสีหน้าของหลิวเสี่ยวอิงซีดขาวมากกว่าก่อนหน้านั้นอีก
เพราะว่าเธอรู้ ไป๋ยี่เฟยเกิดเรื่องแล้ว ยังเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องสั่งเสียก่อนตายแบบนั้นอีก!
หลิวเสี่ยวอิงร้อนใจแล้ว
เธออยากจะพุ่งเข้าไปถามสภาพการณ์ให้ชัดเจน แต่หลิวโก๋จงคู่สามีภรรยาขวางเธอไว้
“เสี่ยวอิง ไป๋ยี่เฟยทำร้ายแกยังทำร้ายจนลึกไม่พอเหรอ? แกก็อย่าไปสนใจเขาอีกเลย!”
“เสี่ยวอิง เขายกโรงพยาบาลเป็นการชดเชยให้กับแกแล้ว ย่อมคิดจะตัดขาดการไปมาหาสู่กันกับแกอย่างแน่นอน แกก็อย่าโง่อีกเลย!”
แท้ที่จริงถ้าหากหลิวเสียทำตามคำพูดของไป๋ยี่เฟย หลังจากเขาตายแล้วค่อยส่งวิดีโอให้กับหลี่เสว่ อย่างงั้นการมอบโรงพยาบาลให้กับหลิวเสี่ยวอิง น้ำใจชิ้นนี้น่าจะต้องจดไว้บนกายของหลี่เสว่
แต่ว่า ตอนนั้นหลิวเสียวุ่นวายเกินไปแล้ว ลืมคำพูดของไป๋ยี่เฟยไปหมดเลย ก็เลยส่งวิดีโอให้กับหลี่เสว่โดยตรงทั้งยังโทรหาอีก
“ทุกคนเงียบสักหน่อย”
ในเวลานี้ อยู่ท้ายสุดของฝูงชนเสียงของไป๋หยุนเผิงดังขึ้นเลย
ไป๋หยุนเผิงเป็นบิดาของไป๋ยี่เฟย หลังจากมองเห็นเขา คนทั้งหลายล้วนเงียบลงทันที
“พ่อ” หลี่เสว่เดินเข้าไป น้ำเสียงมีความร้อนใจเล็กน้อย
ไป๋หยุนเผิงจ้องมองหลี่เสว่ที่ไม่ทันจัดแต่งตนเอง รู้ว่าในตอนนี้เธอย่อมร้อนใจวุ่นวายอยู่แน่นอน ในใจใจร้ายไม่ลง
จากนั้นเขาพูดกับคนทั้งหลายว่า “เรื่องของไป๋ยี่เฟยผมรู้แล้ว ทุกคนอย่าเพิ่งร้อนใจ”
หลังจากพูดจบพูดกับหลี่เสว่อีกว่า “เสว่เอ๋อ ตามผมมาเถอะ”
หลี่เสว่พยักหน้าต่อๆกัน ตามเข้าไป
หลังจากเดินไปสองก้าว อยู่ดีๆไป๋หยุนเผิงหยุดลง หันหน้ามองไปยังหลิวเสี่ยวอิง หลังจากลังเลเล็กน้อยพูดว่า “เสี่ยวอิง คุณก็เข้ามาด้วยเถอะ”
หลิวเสี่ยวอิงรีบเร่งเดินเข้าไป
หลิวโก๋จงคู่สามีภรรยาทั้งสองเห็นแบบนี้ก็ขัดขวางไม่อยู่แล้ว ได้เพียงแต่ถอนหายใจ
ทั้งสามคนมาถึงออฟฟิศ แยกย้ายกันนั่งอยู่บนโซฟาของห้องรับแขก
ไป๋หยุนเผิงสีหน้าจริงจังพูดกับพวกเธอว่า “ไป๋ยี่เฟยไม่ได้จะไปหาความตาย”
หลิวเสี่ยวอิงกับหลี่เสว่ได้ยินคำพูดสบตากันหนึ่งที เห็นลักษณะท่าทีของไป๋หยุนเผิงน่าจะรู้เรื่องไป๋ยี่เฟยบางอย่าง
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยไม่ได้จะไปหาความตายจริงๆ พวกเธอก็เลยโล่งอกไปทีเล็กน้อย
แต่ว่าคำพูดต่อไปนี้ กลับทำให้พวกเธออกสั่นขวัญหายอีกครั้ง
ไป๋หยุนเผิงหัวเราะขมๆเสียงหนึ่งพูดว่า “แต่คือรอความตายอยู่”
“อะไรนะ?”
ทั้งสองคนล้วนตื่นตะลึงเลย
ไป๋หยุนเผิงพูดอีกว่า “เขาเป็นสามีของพวกคุณ ผมสามารถเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องปิดบังพวกคุณ แต่ว่าผมเป็นบิดาคนหนึ่ง ยิ่งรักสงสารลูกชายของตนเอง”
“เขาใกล้จะตายแล้ว ผมอยากจะขอร้องพวกคุณ พวกคุณไปดูเขาอีกเถอะ เดินเป็นเพื่อนในเส้นทางช่วงสุดท้ายของชีวิตเขานี้เถอะ”
ทันใดนั้นสีหน้าของหลี่เสว่กับหลิวเสี่ยวอิงซีดขาวเหลือเกิน
ในเวลาเดียวกัน หลิวเสี่ยวอิงเข้าใจความหมายของกระดาษโน้ตนั้นทันทีเลย
ไป๋ยี่เฟยตั้งใจทำ