ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - บทที่ 1092 การตายของซินชิว
“พู่!”
ไป๋ยี่เฟยดึงมือออกมา แล้วมองไปที่ซินชิวที่ค่อยๆล้มลงไปด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
พูดตามตรง ตอนนี้เขาตกตะลึงเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เคยพูดไปแล้ว ก่อนที่เยว่จะปรากฏ เขาคิดว่าซินชิวเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะฆ่าเขาได้ และความเป็นจริงคือ เขาฆ่าซินชิวไปแล้วจริงๆ
“ศิษย์พี่!”
“อาจารย์!”
จื่ออีกับฉีฉีทั้งสองคนต่างรีบวิ่งถาโถมไปด้านหน้า รับซินชิวที่กำลังจะล้มในทันที
ท่าทีของจื่ออีลนลานมาก เธอคุกเข่าลงบนพื้น“ศิษย์พี่……ศิษย์พี่……”
เธอพูดไปด้วย ใช้มือกุมเลือดที่ไหลไม่หยุดตรงหน้าอกของเขาได้ด้วย
ฉีฉีก็ใช้มือปิดไว้เช่นกัน“อาจารย์ต้องไม่เป็นอะไร อาจารย์เก่งขนาดนี้ อาจารย์ต้องไม่ตาย……”
ซินชิวมองจื่ออีแวบหนึ่ง แล้วมองไปที่ฉีฉี มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มจางๆ“ตลอดชีวิตของฉัน……มีศิษย์น้องที่จริงใจกับฉัน……ยังมีลูกศิษย์ที่ยอมเสียสละเพื่อฉัน”
“ก็นับว่า……เสียดายชีวิต……”
อาจจะเป็นเพราะกำลังจะตาย ซินชิวจึงไม่เฉยเมยและโหดเหี้ยมอีกต่อไป และในที่สุดก็มีความคิดบางอย่างที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะมี
น้ำตาของจื่ออีรื้นออกมา“ศิษย์พี่ อย่าพูดอีกเลย ตอนนี้ฉันจะพาศิษย์พี่กลับไป ต้องยังช่วยได้แน่”
พูดจบ จื่ออีก็จะพยุงซินชิวขึ้นมา จะเดินทางกลับไป
แต่ซินชิวรู้ว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว ไม่สามารถช่วยได้ ดังนั้นจึงไม่ได้ลุกขึ้นตามจื่ออี แต่มองไปยังเยว่ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ศิษย์น้อง ฉันแพ้แล้ว”
เยว่มองไปที่ซินชิว ด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน“ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ทำไมต้องทำตั้งแต่แรก?”
ถ้าเขาไม่ได้มีความคิดละโมบโลภมาก หรือไม่ได้มีความโลภมากขนาดนั้น พวกเขาไม่มีทางวางแผนฆ่าเขาหรอก เพื่อที่พวกเขาจะได้ผูกขาดคลังเก็บทองเพียงผู้เดียว
แต่ทว่า ในชีวิตคนเรา ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า
อีกทั้งซินชิวไม่เสียใจแม้แต่น้อย ถ้าหากย้อนกลับไปได้อีกครั้ง เขาก็จะเลือกทำแบบนี้
เพียงแต่ทักษะของเขาสู้คนอื่นไม่ได้ แล้วแพ้ก็เท่านั้น
เทียนฉีเดินเข้ามา คิดไม่ถึงว่าซินชิวจะถูกคนฆ่าแบบนี้“ศิษย์พี่……”
เหลียงหมิงเยว่พยุงจีไซเดินเข้าไป ยืนอยู่ข้างๆของซินชิว“ศิษย์พี่……”
ใช่แล้วพวกเขาอยากฆ่าซินชิว แต่พอเห็นอาจารย์ของตัวเองจะตาย ในใจยังคงหวั่นไหวอยู่บ้าง ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ฆ่าเขาไม่ใช่พวกเขา
ซินชิวไม่ได้มองพวกเขา เพียงแต่มองไปที่จื่ออีกับฉีฉี แล้วพูดว่า“คนเรา……ต้องตายอยู่แล้ว ไม่ช้า……ก็เร็ว”
พูดจบ ซินชิวก็เอียงศีรษะไปอีกด้าน แล้วหลับตาสนิทในที่สุด
“ศิษย์พี่!”
“อาจารย์!”
ปฏิกิริยาของจื่ออีกับฉีฉีมีมากที่สุด พวกเธอเป็นคนที่เป็นห่วงซินชิวที่สุด การตายของซินชิวสำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นสิ่งทำร้ายจิตใจไม่น้อย
แต่เทียนฉีไม่ได้ความรู้สึกต่อซินชิวเท่าไร ก่อนหน้านี้ที่ทำงานด้วยกัน เป็นแค่ความสัมพันธ์ร่วมมือกันเท่านั้น ตอนนี้ซินชิวตายแล้ว ถ้าสุดท้ายเขาชนะ คนน้อยหนึ่งคนผลประโยชน์ก็แบ่งน้อยลง
สำหรับเหลียงหมิงเยว่กับจีไซ หลังจากที่หวั่นไหวในตอนแรก ความจริงแล้วก็โล่งใจได้เปลาะหนึ่ง
ซินชิวผู้แข็งแกร่งแห่งแดนเหนือเทพยุทธ์ตายแล้ว สำหรับพวกเขาแล้วภัยคุกคามน้อยลงไปมาก
ส่วนเยว่ก็มองไปที่ซินชิวอย่างเรียบเฉย แล้วส่ายหัวไปมา
หยู่โม่รู้สึกดีใจมาก“หลานลืบ ทำได้ดี!”
คำคำนี้กระตุ้นจื่ออีกับฉีฉีที่กำลังเสียใจ ทั้งสองเงยหน้ามองไปที่หยู่โม่พร้อมกัน หยู่โม่ไม่กลัวแม้แต่น้อย“ทำไมเหรอ?แข่งกันว่าใครตาโตกว่ากันงั้นเหรอ?”
ดวงตาทั้งสองข้างของฉีฉีมองไปที่หยู่โม่ด้วยความโกรธแค้น จู่ๆก็ตะโกนขึ้นมา แล้วพุ่งตรงไปหาหยู่โม่“ฉันจะฆ่าแก!”
หยู่โม่ทำเสียงชิ แค่ความสามารถระดับสองของฉีฉี สำหรับเธอแล้ว ไม่อยู่ในสายตาเธอด้วยซ้ำ
จื่ออีเข้าใจในจุดนี้ดี ถึงแม้เธอจะอยากพุ่งเข้าไป แต่เธอมีสติมากพอ ดังนั้นเธอจึงรีบเข้าไปขวางฉีฉีไว้“ฉีฉี อย่าใจร้อน เธอไม่ใช่คู่ต้องสู้ของหล่อน!”
“ปล่อยฉันนะ!”ฉีฉีดิ้นขัดขืน อยากจะโถมตัวเข้าไป
จื่ออีจับเธอไว้แน่น เห็นเธอไม่ฟัง จึงตะคอกไปหนึ่งคำ“คนที่ฆ่าอาจารย์ของเธอคือไป๋ยี่เฟย!”
ท่าทีขัดขืนของฉีฉีชะงักไปในทันที หลังจากนั้นก็ค่อยๆหยุด
จริงด้วย คนที่ฆ่าซินชิวคือไป๋ยี่เฟย
เธอควรจะพุ่งไปหาไป๋ยี่เฟย ไม่ใช่คนที่รู้สึกยินดีปรีดากับความโชคร้ายของคนอื่นอย่างหยู่โม่
แต่ว่า……
เหตุใดถึงเป็นไป๋ยี่เฟย?
เพราะอะไรคนที่ฆ่าอาจารย์ต้องเป็นไป๋ยี่เฟยด้วย?
ทั้งๆที่เธอ……ทั้งๆ……ที่เธอชอบเขาขนาดนั้น……
ไป๋ยี่เฟยยืนอยู่ตำแหน่งไม่ไกลจากฉีฉี เขามองฉีฉีแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
ตั้งแต่รู้จักฉีฉีมาก จากที่อยากแทบอยากจะตีเธอสักครั้งจนเห็นว่าเธอเป็นเด็กคนหนึ่งที่นิสัยประหลาด ยังคงมีความรู้สึกไม่มากก็น้อย
เพียงแต่ ระหว่างพวกเขามีความสัมพันธ์ที่พัวพันกันมากเกินไป ถ้าหากเป็นไปได้ ไป๋ยี่เฟยไม่อยากจะฆ่าอาจารย์ของเธอเลย
ถ้าหากซินชิวไม่ตาย อนาคตภายภาคหน้ารอเขาฟื้นฟูหลับมาได้ จะเป็นสงครามที่โหดเหี้ยมอีกครั้ง ดังนั้นสู้อาศัยในตอนที่มีกำลังฆ่าซินชิวซะ จบฉากสงครามอันโหดเหี้ยมนี้ให้เร็ว
ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าตอนนี้ฉีฉีต้องเกลียดตัวเองมากแน่ๆ จึงไม่ได้พูดอะไรมาก ได้เพียงแต่มองไปที่เหลียงหมิงเยว่กับจีไซ
“คนต่อไป ต้องเป็นพวกคุณแล้วล่ะ!”
จีไซกับเหลียงหมิงเยว่ชะงักไป ต่างพากันมองไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างระแวดระวัง
โดยเฉพาะจีไซ นอกจากระแวดระวังแล้ว เขายังมีความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นมา เมื่อครู่เขาฆ่าไป๋ยี่เฟยไปหลายครั้ง และไม่มีใครฆ่าเขา นี่จึงเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อเขาเล็กน้อย
เทียนฉีที่เห็นแบบนั้นจึงขมวดคิ้ว เขาไม่สามารถนั่งรอความตายได้อีกต่อไป รอจนไป๋ยี่เฟยฆ่าเหลียงหมิงเยว่กับจีไซแล้ว เกรงว่ารายต่อไปจะเป็นเขา!
จึงอาศัยช่วงที่ไป๋ยี่เฟยไม่สังเกต เทียนฉีจึงชิงลงมือก่อน
“ระวัง!”
หยู่โม่สังเกตเห็นเทียนฉี ดังนั้นจึงตะโกนออกไปในวินาทีที่เทียนฉีลงมือ
การแสดงออกของไป๋ยี่เฟยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทันทีที่เขาหันกลับไปก็ส่งฝ่ามือไปที่เทียนฉีหนึ่งฉาด
“ปึ้ง!”
หลังจากที่มีเสียงดังขึ้น เทียนฉีตกใจกับแรงปะทะและถอยกลับไป ไป๋ยี่เฟยที่เดิมทียืนนิ่งไม่ขยับกลับถอยหลังไปหนึ่งก้าว
แต่ทุกคนไม่สังเกตรายละเอียดดังกล่าว สิ่งที่พวกเขาไม่ใส่ใจก็คือ เทียนฉีถูกฝ่ามือของไป๋ยี่เฟยโจมตีจนถอยหลัง
ดังนั้นทุกคนจึงมีความเข้าใจความแข็งแกร่งของไป๋ยี่เฟยอย่างลึกซึ้ง
เหลียงหมิงเยว่ที่เห็นแบบนั้นจึงกัดฟันกรอด หันกลับไปพูดกับจื่ออีว่า“อาจารย์อา ลุยพร้อมกันเถอะ ไม่อย่างนั้น วันนี้พวกเราก็ต้องตายอยู่ที่นี่!”
จื่ออีมองไปที่ไป๋ยี่เฟยด้วยท่าทีซับซ้อน สุดท้ายหลับตาลง แล้วพูดว่า“ลุยเลย!”
เมื่อเทียบกับไป๋ยี่เฟยแล้ว แน่นอนว่าซินชิวมีความสำคัญกว่าเขาเล็กน้อย เนื่องจากเป็นศิษย์พี่ที่อยู่ด้วยกันมานานหลายปี แต่ไป๋ยี่เฟย เป็นเพียงแค่ลูกศิษย์ที่รู้จักกันแค่สองสามปี มีความรู้สึกต่อกันเล็กน้อยก็เท่านั้น
และไป๋ยี่เฟยลงมือฆ่าซินชิว ความหวั่นไหวที่จื่ออีมีต่อไป๋ยี่เฟยเล็กน้อยมลายหายไปในทันที
ตอนนี้เธอแค่อยากฆ่าไป๋ยี่เฟยเพื่อล้างแค้นเท่านั้น!
“ลุย!”
เหลียงหมิงเยว่ตะโกนไปหนึ่งครั้ง ไม่ว่าจะเป็นตัวเขาเอง จีไซ หรือจื่ออี พวกเขาทั้งหมดลงมือกับไป๋ยี่เฟยพร้อมกัน
หยู่โม่กับเยว่กังวลเล็กน้อย“หลานลืบจะรับมือได้ไหม?”
เยว่เป็นกังวลมาก เพราะเขาสังเกตเห็นว่าเมื่อครู่ไป๋ยี่เฟยถอยหลังไปหนึ่งก้าว นี่แสดงให้เห็นว่าพลังในร่างกายของไป๋ยี่เฟยถูกใช้ไปมากกว่าครึ่ง ไม่อย่างนั้นพลังของแดนเหนือเทพยุทธ์กับพลังของแดนเทพยุทธ์ ไม่มีทางถอยหลังแน่
“อย่างมากห้านาที”เยว่พูดอย่างเป็นกังวล
หยู่โม่ไม่เข้าใจ“ห้านาทีอะไร?”
เยว่ส่ายหัวไปมา ไม่ได้พูดออกมาในตอนนี้ และพูดไปกับไป๋ยี่เฟยไปว่า“จัดการเร็วเข้า ฉันหิวแล้วเนี่ย ฉันจะรีบกลับไปกินข้าวที่บ้าน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้จื่ออีกับคนไม่กี่คนแทบจะไม่สามารถรักษาการทรงตัวได้ เยว่รังแกคนอื่นเกินไปแล้ว!
ดังนั้นพวกเขาจึงเอาความโกรธทั้งหมดลงไปที่ไป๋ยี่เฟย