ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 159 พวกคุณขอโทษอาจารย์หลินเดี๋ยวนี้
บทที่ 159 พวกคุณขอโทษอาจารย์หลินเดี๋ยวนี้
“นี่แก! ไอ้หนูแกมาจากไหน ถึงได้พูดจาสามหาวขนาดนี้? ทำร้ายลูกชายของเจิ้งทงคนนี้แล้วยังกล้าทำตัวโอหังอยู่ตรงนี้อีก!” เจิ้งทงพูดด้วยสีหน้าที่เดือดดาล อยากจะกัดกินหลินอิ่งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
พอเห็นเจิ้งหยวนเป่าที่อยู่ในสภาพแบบนั้น มันก็ทำให้เขาโกรธจนแทบระเบิดออกมา แต่เขาก็เกรงกลัวในฝีมือของหลินอิ่งมาก จึงไม่กล้าที่จะเข้าไปทำร้ายหลินอิ่ง
“ถ้าไม่มีคนทำร้ายผม ผมก็จะไม่ทำร้ายใครก่อน” หลินอิ่งพูดออกมาอย่างเรียบเฉย แล้วเดินไปนั่งดื่มชาต่อ
ยิ่งเจิ้งทงเห็นหลินอิ่งทำตัวแบบนั้น เขาก็ยิ่งโมโหขึ้นมาอีก ไอ้บ้านนอกคนนี้เห็นเขาเป็นตัวอะไรกัน?
แค่คนที่จะมารักษาโรคเท่านั้น ฝึกวิชามานิดหน่อย ก็กล้าวางท่าใหญ่โตแบบนี้แล้วเหรอ?
ทำไมถึงจะล่วงเกินแกไม่ได้ สิ่งที่ตระกูลเจิ้งมีก็คือเงิน ถ้าจะล่วงเกินแกแล้วมันจะทำไม? การทำงานหาเงินได้เยอะแยะแบบนี้ก็เพื่อสร้างภาพอยู่แล้ว
“วันนี้พ่อจะล่วงเกินแกแล้วมันจะทำไม?” เจิ้งทงพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาโบกมือให้สัญญาณ “พวกแกรีบไปเอาอาวุธที่อยู่ในโรงรถมาเร็ว!”
บอดี้การ์ดสิบกว่าคนรีบทำตามคำสั่งทันที พวกเขาหันหลังแล้วเดินออกจากวิลล่าไป เพื่อไปหาอาวุธเข้ามา
“ไอ้หนูแซ่หลิน แกอย่าคิดว่าการที่คุณหนูกงซุนเชิญแกมาให้ช่วยรักษาโรค แล้วแกจะทำอะไรก็ได้นะ แกมันก็แค่หมอชั้นต่ำที่คอยให้บริการคนรวยอย่างเราก็เท่านั้น” เจิ้งทงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ พร้อมกับความรู้สึกที่มั่นใจในตัวเองมาก
หลินอิ่งขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ จากนั้นก็เหวี่ยงแก้วชาในมือออกไป แก้วใบนั้นลอยไปกระแทกเข้าที่ท้องของเจิ้งทงอย่างจัง แรงกระแทกทำให้เขาขดตัวลงไปทันที เขาส่งเสียงแหวะ แล้วของเหลวมากมายก็ถูกสำลอกออกมา อ้วกจนเลอะไปหมดทั้งตัว ดูทุกข์ทรมานมาก
“แคร็กๆ “เจิ้งทงจ้องมองหลินอิ่งด้วยสายตาที่โกรธแค้น พร้อมกับกัดฟันแน่น
“แล้วคุณคิดว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ?” หลินอิ่งพูดออกมาอย่างเรียบเฉย เขาค่อยๆ ยืนขึ้น “ไสหัวออกไปให้หมด กล้ามาใช้กำลังกับผม ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด”
“หลินอิ่ง นี่คุณทำตัวได้ใจเกินไปแล้วมั้ง? เดี๋ยวผมจะโทรเรียกคนมาเดี๋ยวนี้แหละ!” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้น จากนั้นก็ต่อสายออกไป เสียงโทรศัพท์ดังตูดๆๆ เตรียมที่จะเรียกคนจากบริษัทรักษาความปลอดภัยให้มาจัดการกับคนไม่เจียมตัวคนนี้
“ใช่! วันนี้เราห้ามปล่อยเขาไปเด็ดขาด กล้ามาทำร้ายคนอื่นถึงในวิลล่าฉงหลงแบบนี้ คิดว่าตระกูลเจิ้งของเราไม่มีตัวตนรึไง? แถมยังเป็นการไม่ใช้เกียรติตระกูลกงซุนด้วยไม่ใช่เหรอ?”
“ตระกูลกงซุนก็มีกฎของเขา กล้ามาทำร้านคนในนี้ คุณตายแน่!”
ชายหญิงวัยกลางคนกลุ่มนั้นกำลังชี้ไม้ชี้มือวิจารณ์กันใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาทำอะไรหลินอิ่งสักคน
“เจ้าบ้านเจิ้ง พวกเราเอาของมาแล้วครับ” ในตอนนั้นเอง บอดี้การ์ดกลุ่มใหญ่ก็ได้วิ่งกลับมาพร้อมกับยื่นกระเป๋าตกปลาใบหนึ่งให้กับเจิ้งทงไป
เจิ้งทงทำตาเย็นชา ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบรับกระเป๋ามา แล้วหยิบปืนกระบอกหนึ่งออกมาชี้ไปที่หน้าของหลินอิ่ง
“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!”
แม่งเอ๊ย ไอ้บ้านนอกจากเมืองตุงไห่ กล้ามาทารุณเจิ้งหยวนเป่าลูกชายของตัวเองต่อหน้าแบบนี้ แถมยังวางท่าใหญ่โต ต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ถ้าไม่สามารถกู้หน้ากลับมาได้ละก็ ต่อไปคงไม่มีหน้าจะอยู่ในแวดวงตระกูลชั้นสูงของมณฑลเกาหยางแล้ว
หลินอิ่งเหมือนอยากจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม
“ทำไม? ยังกล้าทำตัวกร่างอีก แกคิดว่าฉันแค่ขู่อย่างนั้นเหรอ? เมื่ออยู่ในวิลล่าของตระกูลเจิ้ง เมื่ออยู่ในมณฑลเกาหยาง ถ้าฉันจะทำให้แกหายไปจากโลกนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย” เจิ้งทงพูดออกมาอย่างเย็นชา
“ใช่ครับ พ่อ จัดการมันเลย! ไอ้บ้านี่มันคิดว่ามันแค่รู้จักกับคุณหนูกงซุน แล้วจะไม่มีใครกล้าทำอะไรมัน ไม่คิดบ้างรึไงว่าตัวเองก็แค่หมาตัวหนึ่งที่ใช้เงินซื้อมาเท่านั้น ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีของตระกูลเรากับตระกูลกงซุนต่อให้ฆ่ามันทิ้งแล้วมันจะทำไม?” เจิ้งหยวนเป่าแหกปากออกมา สีหน้าโกรธแค้น แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความได้ใจ
ถึงจะสู้เก่งแค่ไหนก็ตาม เขาคิดว่าคนๆ เดียวไม่สามารถที่จะพลิกฟ้าได้หรอก!
“น้องสี่ แกโทรหากงซุนชิวอวี่ซิ ค่อยๆ เล่าให้เธอฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นตรงนี้ พอพูดเสร็จเราค่อยเอาไอ้หน้าโง่นี่ไปให้ฉลามแม่น้ำเกาเทียนกิน” เจิ้งทงพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ตูดตูดตูด ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ รีบหยิบมือถือออกมาต่อสายออกไปทันที เพื่อที่จะรายงานเรื่องนี้ให้กงซุนชิวอวี่รู้
เจิ้งทงมองหลินอิ่งด้วยสีหน้าที่น่าสนุก ขอแค่บอกกับคุณหนูกงซุนสักคำ เขาก็สามารถฆ่าไอ้หน้าโง่นี่ได้ทันที ถ้าไม่มีคุณหนูกงซุนคอยให้ท้าย แล้วคนอย่างมันจะทำอะไรได้?
“ผมจะนับหนึ่งถึงห้า ถ้าคุณยังชี้มาที่ผมอยู่ ผมรับประกันได้เลยว่ามือทั้งสองข้างของคุณจะจับอะไรไม่ได้อีกเลย” หลินอิ่งจ้องหน้าเจิ้งทงด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ภายใต้น้ำเสียงที่เรียบเฉยกลับเต็มไปด้วยจิตสังหาร
เจิ้งทงทั้งกลัวทั้งโกรธ แต่ก็ยังกำปืนเอาไว้แน่น เขาไม่เข้าใจเลยว่าไอ้หลินอิ่งนี่มันเอาความมั่นใจมาจากไหนนักหนาที่ยังกล้าทำตัวได้ใจได้ขนาดนี้ หรือเป็นแค่ไอ้บ้าที่ไม่ๅกลัวตายเท่านั้น? หรือคิดว่าคุณหนูกงซุนยังคุ้มกะลาหัวอยู่?
“แคร๊กๆ คิดว่าคุณหนูกงซุนยังจะคุ้มกะลาหัวแกอยู่รึไง? กับเรื่องที่แกก่อขึ้นมาในวันนี้ เพื่อแกแล้วไม่มีทางที่คุณหนูกงซุนจะยอมผิดใจกับตระกูลเจิ้งของเราหรอก” เจิ้งทงยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์ ตอนนี้รอแค่บอกกับคุณหนูกงซุนเท่านั้น จากนั้นเขาก็จะลงมือทันที
“อะไรกัน? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ในตอนนั้นเอง เสียงที่แสนไพเราะและน่าหลงใหลก็ได้ดังขึ้น กงซุนชิวอวี่เดินเข้ามาช้าๆ
เธอเข้ามาด้วยสีหน้าที่สงสัย พร้อมกับมองไปยังเจิ้งหยวนเป่าที่ดูหมดสภาพไปทั้งตัว จากนั่นก็หันมามองสีหน้าของพวกเจิ้งทง แล้วก็ได้เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคร่าวๆ
เฮ้อ มีแต่พวกขาดสติทั้งนั้น แม้แต่พี่ชายก็ยังกล้าเข้าไปหาเรื่อง ไม่รู้หรือไงว่าตระกูลเหวินนั้นล่มสลายไปได้ยังไง?
“คุณหนูกงซุน คุณมาแล้วเหรอ? ไอ้บ้านนอกคนนี้มันทำร้ายเจิ้งหยวนเป่าจนสาหัส แถมยังเขวี้ยงแก้วใส่ผมอีก คุณหนูครับ ยังไงมันก็เป็นแค่คนที่เชิญมา ผมว่า คุณคงไม่ผิดใจกับตระกูลเจิ้งของเราเพราะคนๆ นี้หรอกใช่มั้ยครับ?” เจิ้งมงพูดออกมาอย่างสุภาพ
“ถูกต้อง นี่ชิวอวี่ครับ หลินอิ่งคนนี้มันทำเกินไปจริงๆ มันเตะกล่องดวงใจของผมด้วยนะ! ผมไม่มีทางปล่อยมันไปแน่ ชิวอวี่ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของเราสองคนแล้ว คุณคงไม่คิดจะหันไปช่วยคนนอกหรอกใช่มั้ย?” เจิ้งหยวนเป่าเรียกร้องหาความยุติธรรม
กงซุนชิวอวี่เอามือกุมขมับ เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่างน่าปวดหัวจริงๆ จากนั้นสีหน้าของเธอก็ดูโมโหขึ้นมา
“เห็นรึยังไอ้หน้าโง่ คุณหนูกงซุนเธอโกรธใหญ่แล้ว แกยังไม่รีบเข้ามาคุกเข่าขอโทษอีก?” เจิ้งทงหันไปพูดใส่หลินอิ่งด้วยสีหน้าที่ได้ใจ
ถึงแม้ คุณหนูกงซุนจะเป็นคนที่อัธยาศัยดี แต่พอมาเจอเรื่องแบบนี้ คุณที่พามาก็ไม่รู้อะไรเอาซะเลย เธอจึงรู้สึกโกรธขึ้นมา!
“หยุดพูดสักที! วางลง!” กงซุนชิวอวี่พูดออกมาด้วยความเดือดดาล พร้อมกับชี้ไปที่เจิ้งทง
เจิ้งจงทำหน้างง แล้วถามว่า “คุณหนูนี่มัน?”
“ฉันบอกให้คุณวางของในมือลง! คุณอยากตายรึไง?” กงซุนชิวอวี่โมโหแล้ว
ยังกล้าเอาปืนมาจ่อใส่พี่ชายอีก สงสัยตระกูลเจิ้งนี่จะอยากตายจริงๆ
“ผม……” เจิ้งทงสีหน้าซีดเซียว เมื่อเห็นใบหน้าที่เดือดดาลของกงซุนชิวอวี่ เขาก็จำต้องวางปืนลง
นี่มันเรื่องอะไรกัน? ถึงแม้ว่าตำแหน่งของกงซุนชิวอวี่จะสูงศักดิ์มากก็ตาม แต่ปกติแล้วเธอก็จะพูดกับผู้อาวุโสอย่างเขาด้วยความเคารพอยู่เสมอ แล้วทำไมวันนี้เธอถึงมาชี้หน้าด่าเขาแบบนี้ได้ล่ะ?
หรือจะเป็นเพราะไอ้บ้านนอกหลินอิ่งนั่น?
“พวกคุณทุกคน รีบขอโทษอาจารย์หลินเดี๋ยวนี้!” กงซุนชิวอวี่พูดออกมาอย่างไม่ชอบใจ
“อะไรนะครับ! ให้ขอโทษเขาเหรอ?”
“ไม่มั้งครับ? จะให้เราขอโทษไอ้นักต้มตุ๋นคนนี้เนี่ยนะ? นี่มัน……”
“เขาทำร้ายเจิ้งหยวนเป่าจนอาการสาหัสเลยนะครับ แล้วยังจะให้เราทั้งตระกูลหันมาขอโทษมันเนี่ยนะ?”
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างพากันทำหน้าตกใจด้วยความไม่คาดคิด