ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 175 ตอนนี้คุยกันดีๆได้แล้ว
บทที่ 175 ตอนนี้คุยกันดีๆได้แล้ว
เมื่อซูเหล่าหู่ต้องล้มลงภายใต้ฝีมือของหลินอิ่ง ลูกน้องของเขาต่างก็ไม่กล้าขยับแม้แต่นิดเดียว
“นายทำงานให้ลาตินกรุ๊ปตั้งแต่เมื่อไหร่? เพื่อเงินแล้วไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อยเลยเหรอ?” หลินอิ่งถามด้วยเสียงเย็นชา บีบคอซูเหล่าหู่ไว้ เจ็บจนร้องโอดโอย เบิกตากว้างด้วยความกลัว
“หลินอิ่ง นายอย่างทำอะไรไปเลื่อยนะ นายทำอะไรฉัน นายก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้” ซูเหล่าหู่พูดด้วยอาการกลัว ทั้งอายทั้งโกรธ
คิดไม่ถึงว่ามาพร้อมอาวุธ บุกเข้ามาสิบกว่าคนแต่กลับถูกไอ้ไร้น้ำยาที่เขาพูดกัน แพ้อย่างไม่เหลือชิ้นดี……
ตอนนี้ก็ต้องขายหน้าต่อหน้านายทุนใหญ่คุณฮาพิแล้ว
“ฉันเดินออกจากที่นี่ไม่ได้?” หลินอิ่งหัวเราะ “ฉันให้นายตอบคำถาม”
พูดจบ หลินอิ่งใช้เข่ากดลงไปที่ท้องของซูเหล่าหู่ กระทืบจนเขากระอักเลือด เนื้อตัวสั่น หน้าซีด
“นายอย่ามาอวดดี ฉันจะบอกนายให้ ซอยนี้เป็นคนของฉันหมด ทางที่ดีนายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันยังช่วยนายพูดกับคุณฮาพิได้ ไม่ให้ติดใจเรื่องนาย” ซูเหล่าหู่พูดด้วยเสียงโหด “ไม่อย่างนั้น นายได้ตายไร้ที่ฝังศพแน่”
ซูเหล่าหู่ฝืนทำตัวแข็งแกร่ง ซอยนี้เป็นลูกน้องของตัวเองทั้งนั้น เขาไม่เชื่อว่าหลินอิ่งจะกล้าทำอะไร
“ยังฝืนอีก?” หลินอิ่งส่ายหัว คนที่ช่วยคนต่างชาติมาทำร้ายคนในประเทศเดียวกันเป็นสุนัขรับใช้อย่างซูเหล่าหู่ ยังฝืนตัวเองอีกเหรอ คงเป็นเพราะคิดว่าตัวเองมีอิทธิพลใหญ่โต มีฮาพิคอยหนุนหลัง
ฮาพิมองภาพตรงหน้าด้วยอาการตกใจ ลุกขึ้นอยากวิ่งหนี แต่ถูกหลินอิ่งถีบจนกระดูกหัก ลุกไม่ขึ้นแล้ว รู้สึกโกรธแค้นในใจ
คิดไม่ถึงเลยว่าสามีจางฉีโม่ ไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่ง ฝีไม้ลายมือจะเก่งกาจขนาดนี้ ขนาดซูเหล่าหู่พาคนมาเยอะแยะขนาดนี้ก็ทำอะไรไม่ได้
คนประเทศหลุงไร้น้ำยากันหมด พึ่งไม่ได้เลย
รู้อย่างนี้ ก็ให้ข้างบนส่งคนฝีมือดีมา ไม่น่าเชื่อถือไอ้ขยะอย่างซูเหล่าหู่ ตอนแรกคิดว่าจัดการจางฉีโม่คนเดียวไม่จำเป็นคนใช้คนมากมาย พลาดไปแล้ว
“หลินอิ่ง วันนี้รับรองให้นายออกจากที่นี่อย่างปลอดภัยได้” ซูเหล่าหู่พูดข่มขู่ ยังไม่รู้สถานการณ์
“นายรู้ไหม ข้างล่างยังมีลูกน้องอีกห้าสิบกว่าคนเฝ้าอยู่ นายเป็นเทวดา ก็ออกไปไม่ได้หรอก”
เวลาเดียวกัน มีเสียงเท้าวิ่งขึ้นมาจากชั้นล่าง
ลูกน้องซูเหล่าหูกำลังจะหันไปดู ก็เห็นชายร่างสูงใหญ่สามคนวิ่งเข้ามาทั้งถีบทั้งต่อย จัดการบอดี้การ์ดเจ็ดแปดคนสลบไปกับพื้น
เสิ่นซานพาคนมาแล้ว
“ท่านหลิน พวกเรามาช้าไป ท่านกับคุณนายหลินไม่เป็นอะไรนะครับ?” เสิ่นซานถามอย่างเคารพ
ด้านหลังเสิ่นซาน ตามมาด้วยหลิวจุนสามพี่น้อง
ได้รับข่าวจากหลินอิ่ง เสิ่นซานก็รีบมาทันที
เขาพาลูกน้องเฝ้ามองพวกซูเหล่าหู่อยู่ละแวกกลางเมืองอยู่แล้ว เตรียมลงมือกับคนขายชาติอย่างซูเหล่าหู่คนนี้ ขุดเรื่องธุรกิจใต้ดินของลาตินกรุ๊ป แต่คิดไม่ถึงว่านายคนนี้จะไม่รู้ที่ต่ำที่สูงจะมาเล่นงานท่านหลิน จึงรีบมาทันที
“นี่มัน? พวกนายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง” ฮาพิพูดอย่างตกใจ กับสถานการณ์พลิกผันตอนนี้ ตกใจไม่รู้จะพูดอะไร “คนที่เฝ้าอยู่ข้างล่างไปไหนหมด? ทำไมถึงปล่อยคนเข้ามาได้?”
“เหอะ คนของพวกนายที่อยู่ข้างล่างล้มลงหมดแล้ว” เสิ่นซานพูดเสียงเย็นชา
คฤหาสน์หลัวเต๋อมีนักแม่นปืนตั้งสิบกว่าคน นายคนแปลกหน้าคนนี้จะสามารถสู้ได้อย่างไร? อีกอย่าง เขาเรียกไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งว่าท่านหลิน ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้ได้?
“นายนี่ควรตายจริง ทำไมถึงได้โง่ ไปช่วยคนไร้น้ำยาอย่างหลินอิ่ง” ฮาพิพูด “รู้ว่าฉันเป็นใครไหม? ฉันฮาพิจากลาตินกรุ๊ป เคยได้ยินชื่อฉันไหม รีบไสหัวไป”
“อิทธิพลกับฐานะของลาตินกรุ๊ปของเรา ไม่ใช่คนอย่างนายจะรับมือได้ นายช่วยคนอย่างหลินอิ่งมีอะไรดีกับนาย? จับมันไว้ ฉันให้เงินนายเยอะเท่าไหร่ก็ได้ ทำให้นายร่ำรวยและมีโอกาสในเมืองหลินอิ่ง” ฮาพิพูดอย่างโอ้อวด
อิทธิพลฐานะของลาตินกรุ๊ปมันมีความน่าดึงดูดมาก ตอนแรกเขาก็ซื้อซูเหล่าหู่มาทำงานให้เขาด้วยวิธีนี้
ปัง
ฮาพิยังพูดไม่จบ เสิ่นซานก็เข้าไปถีบเขากระเด็น สีหน้าโมโห มือตบเข้าที่ใบหน้าอย่างไม่ยั้ง เสียงดังเพียะ
“นายเป็นใคร? นายรู้ว่าฉันเป็นใครไหม?” เสิ่นซานดึงคอเสื้อฮาพิไว้ ถามด้วยเสียงโหด
ตั้งแต่มาเมืองชินหยูนตุงไห่กับท่านหลิน เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งเมืองตุงไห่ ยังไม่เคยมีใครกล้าพูดโอหังอวดดีต่อหน้าแบบนี้ ไอ้ฝรั่งคนนี้ไม่ดูว่าที่นี่ที่ไหน คิดว่าบ้านตัวเอง
ฮาพิถูกตบจนมึน พูดว่า “ฉัน…..”
“คุณ คุณคือท่านเสิ่นซาน?”
เวลานี้ โดนกระทืบนอนกับพื้นเหมือนหมาอย่างซูเหล่าหู่ พูดอย่างกล้าๆกลัวๆ สีหน้าสงสัย
เขาทำงานอยู่กับพวกอิทธิพลมืด เคยเห็นเสิ่นซานไกลๆครั้งหนึ่ง แต่ไม่ค่อยคุ้นเคย
“ซูเหล่าหู่ นายมันช่างกล้านัก ฉันเคยพูดแล้ว ใครทำงานให้พวกฝรั่งนี้ ฉันจะจัดการแน่ นายยังกล้าไปเป็นสุนัขรับใช้ให้ลาตินกรุ๊ปอีก?” เสิ่นซานมองซูเหล่าหู่อย่างเย็นชา
“อ๊า” ซูเหล่าหู่กลัวจนใจหาย รู้สึกกลัวจากใจจริง เป็นท่านเซิ่นซานจริง
ฐานะของเขา เทียบกับฉินฝู้กุ้ยยังต่ำกว่าหลายเท่า จะไปเป็นคู่ต่อสู้ของท่านเสิ่นซานได้ยังไง?
ถ้าก่อนหน้านี้บอกว่าทำผิดกับหลินอิ่ง เขายังไม่อะไร แต่ตอนนี้ต่อหน้าท่านเสิ่นซาน แบบนี้ ต่อไปเขาไม่ต้องคิดจะหากินในเมืองชินหยูนอีกแล้ว
“ท่านสาม ท่าน ทำไมท่านถึงทำงานให้ไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งได้?” ซูเหล่าหู่ถามอย่างไม่น่าเชื่อ รู้สึกแปลกใจ
เขาได้ยินท่านเสิ่นซานเรียกหลินอิ่งว่าท่านหลิน ลูกเขยไร้น้ำยาคนนี้จะมีความสามารถอะไร ท่านเสิ่นซานถึงได้เคารพเขาขนาดนี้? มันไม่น่าเชื่อเลย
เสิ่นซานสีหน้าโมโห กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าท่านหลิน รนหาที่ตาย
“ซูเหล่าหู่ นายคุกเข่าพูดกับท่านหลิน”
ซูเหล่าหู่ตกใจ ถูกท่าทางน้ำเสียงของเสิ่นซานปกคลุม กำลังจะคุกเข่า กลับพบว่าเนื้อตัวถูกหลินอิ่งต่อยจนขยับไม่ได้ อยากคุกเข่าก็ทำไม่ได้
หลิวจุนเห็นซูเหล่าหู่ไม่ขยับ กล้าไม่เคารพหลินอิ่ง หนึ่งหมัดลงไป แล้วดึงตัวขึ้นมา หิ้วไว้กลางอากาศ แล้ววางลงไป เสียงดังปังเข่าชนลงกับพื้น
“เอิ๊ก อ๊า”
ซูเหล่าหู่เจ็บจนเข่าสั่น ใบหน้าสั่นด้วยอาการเจ็บปวด
หลินอิ่งมองภาพทั้งหมดด้วยอาการเฉยชา นั่งลงกับโซฟา จุดบุหรี่ แล้วบอกฉีโม่นั่งลงไม่ต้องห่วง ยื่นน้ำชาให้เธอแก้วหนึ่ง
จางฉีโม่เพิ่งรู้สึกวางใจ นั่งลงข้างหลินอิ่ง ยังมีความกลัวในใจหลงเหลืออยู่ ยกแก้วชาขึ้นมาดื่ม หันไปมองหลินอิ่ง
ตอนนี้สำหรับหลินอิ่งแล้ว เธอยิ่งรู้สึกสงสัยในตัวเขา
ไม่กี่วินาที แค่เวลาที่หลินอิ่งสูบบุหรี่ หลิวจุนสามพี่น้องฝีมือรวดเร็ว หิ้วฮาพิกับหลัวเต๋อ มาคุกเข่าหน้าโซฟา หันหน้าเข้าหาหลินอิ่ง
ทั้งสามดูรันทดโทรมทราม มองหลินอิ่งอย่างเกรงกลัว
“ตอนนี้ คุยกันดีๆได้หรือยัง?” หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา มองฮาพิสีหน้าไร้อารมณ์ แล้วดับบุหรี่ในมือ