ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 257 คุกเข่านานจนลุกไม่ขึ้น
บทที่ 257 คุกเข่านานจนลุกไม่ขึ้น
หลินอิ่งส่ายหน้า เห็นได้ชัดว่า สวีชิงซงยังมั่นใจมาก รู้สึกว่าตัวเองเก่งกาจ มีอำนาจเหนือกว่าใคร
เสียงพรึ๊บ หลินอิ่งปล่อยมือ เหวี่ยงสวีชิงซงลงกับพื้น จากนั้นก็ปัดฝุ่นในมือ
“เหอะ กลัวแล้วใช่ไหมแก?” สวีชิงซงพูดด้วยแววตาเลวร้าย “ลำพังแค่ปล่อยฉันไม่มีประโยชน์ รีบคุกเข่า ถ้าฉันอารมณ์ดี อาจปล่อยแกก็ได้”
หลินอิ่งหัวเราะ มองไปที่ฮาเดส พูดว่า “ทำให้เขาหุบปาก”
ฮาเดสเดินเข้าไป ร่างสูงใหญ่ทำให้สวีชิงซงรู้สึกกดดัน เขาพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว “แกอยากทำอะไร?”
“หุบปาก”
ฮาเดสยกมือตบไปที่หน้าของสวีชิงซง จากนั้นก็บีบคอไว้ จนคนลอยขึ้นจากพื้น ร่างสั่นพูดจาอ้ำอึ้ง
“ฉัน……ฉัน อย่านะ ฉัน ฉันเป็นคุณชายรองตระกูลสวีนะ” สวีชิงซงพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก โดนบีบคอจนเสียงหอบหายใจไม่ออก
เขารู้สึกได้ว่า คนต่างชาติที่ฮาเดสคนนี้ เหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้ความรู้สึก ลงมือหนักขนาดนี้ บีบคอจนเกือบหัก
สวีชิงซงกลัวฮาเดสลงมือไม่แยกแยะหนักเบา บีบคอเขาจนหักโดยไม่ระวัง จนตายคาที่
“ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใคร รู้แค่ว่า ต่อหน้าฉันแล้วแกเป็นแค่หมาตัวหนึ่งที่บีบจนตายได้” ฮาเดสพูดด้วยสีหน้าเลือดเย็น สายตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
เขาไม่ได้ใส่ใจคุณชายรองตระกูลสวี สวีชิงซงคนนี้แม้แต่น้อย รู้แค่ว่า เป็นแต่หมาหน้าโง่
กล้าพูดจาหยอกล้อคุณนายหลิน ข่มขู่ประธานหลิน รนหาที่ตายชัดๆ
สีหน้าสวีชิงซงทั้งกลัวทั้งโกรธ อยากพูดอะไรอีก มือฮาเดสก็ยื่นมาตบเข้าที่ปาก ตบจนปากบวมขึ้นเหมือนไส้กรอก
จากนั้น ฮาเดสก็ยกหมัดขึ้นต่อยเข้าไปที่ก้มของสวีชิงซง เสียงดังคั๊ก เขาก็เลือดอาบปากจนฟันร่วง โดนต่อยจนฟันร่วงไปหลายซี่
สีหน้าสวีชิงซงเจ็บปวดมาก อยากร้องตะโกนดังๆ แต่ถูกฮาเดสบีบคอไว้ อยากร้องก็ร้องไม่ออก รู้สึกอึดอัด
โดนกระทืบไปยกหนึ่ง ฮาเดสก็ถีบสวีชิงซงไปไกลสิบเมตร ล้มลงกับพื้นอย่างแรง สีหน้าเขาดูเจ็บปวด เลือดซึมออกจากมุมปาก หอบอยู่กับพื้นเหมือนหมา
ทุกคนในงาน ต่างตกใจกับภาพที่เห็น เหมือนเห็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อ
น่าเหลือเชื่อจริงๆ มีคนกล้าทำร้ายสวีชิงซงอย่างหมาที่เขตเหยียนหวงตี้จิง?
ปกติเห็นแต่สวีชิงซงทำร้ายคนอื่นอย่างกับหมา
ไอ้บ้านนอกหลินอิ่งคนนี้ ไม่กลัวตระกูลสวีแก่งตี้จิงเลยเหรอ? หรือว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย คิดว่าตัวเองรู้คนในตี้จิงเพียงไม่กี่คนก็เก่งแล้ว?
“โอ้แม่เจ้า เกิดเรื่องใหญ่แล้ว จางฉีโม่ เธอรู้ไหมว่าไอ้สามีไร้น้ำยาของเธอทำเรื่องโง่อะไรลงไป?” จูฟางพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
“คุณชายรอง เป็นอะไรไหม? ไอ้ไร้น้ำยานี่กล้าทำร้ายท่าน มันต้องเสียใจแน่” สวีเหอรีบเข้าไปพยุงสวีชิงซง ท่าทางเป็นห่วงเป็นใย แต่สายตากลับมีแววความสะใจ
เท่าที่เขาดู ไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งคนนี้คงบ้าไปแล้ว ทำร้ายสวีชิงซงจนสภาพแบบนี้ ไม่คิดถึงผลที่ตามมาเลยแม้แต่น้อย อีกหน่อยสวีชิงซงใช้อำนาจแก้แค้นหลินอิ่ง หลินอิ่งคนนี้ต้องตายแน่
ผลลัพธ์แบบนี้ ก็คือสิ่งที่สวีเหออยากเห็น
ปัง
คำพูดของสวีเหอเพิ่งพูดจบ ฮาเดสก็เข้ามาถีบไปที่คางของเขา
“อู๊ย” สวีเหอร้องด้วยความเจ็บปวด โดนถีบจนฟันหักไปหลายซี่ สีหน้าซีดขาวไปทันที
“พวกแกใครกล้าว่าประธานหลินอีกแค่คำเดียว ฉันส่งไปแกไปหายมบาลแน่” ฮาเดสพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม ดูแล้วมีแรงอาฆาตอย่างน่ากลัว
สวีเหอเจ็บจนร้องโอดโอย แล้วไม่กล้าออกเสียงอีก ทุกคนที่อยู่ในงาน ก็พากันหุบปาก ไม่กล้าแม้แต่ส่งเสียงกระซิบ
บอดี้การ์ดข้างกายหลินอิ่งคนนี้ โหดจริงๆ ไม่พอใจก็ทำร้ายจนคนพิการ ท่าทางแบบนี้ ถ้าใครกล้าพูดอะไรให้หลินอิ่งอีก เกรงว่าจะได้ไปเจอยมบาลแน่
หลินอิ่งไม่ได้สนใจพวกสวีเหออีก หันหลังไปดูหลิวเป่าที่คุกเข่าอยู่กับพื้น พูดเสียงเรียบ “คุณหลิว คุณยังคุกเข่าอยู่ทำไม? ลุกขึ้น คุยเรื่องร่วมงานกันต่อ”
“นี่…..คุณหลิน……” หลิวเป่าสีหน้าอึดอัด ดูแล้วไม่อยากมีความยุ่งเกี่ยวกับหลินอิ่งอีก กลัวสวีชิงซงหาเรื่อง ถึงเวลากลับมาแก้แค้นเขาจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
“คุณหลิน เรื่องร่วมงานเราอย่าเพิ่งคุยกันเลย ธุรกิจนี้คงไม่คุยกันแล้ว” หลิวเป่าก้มหน้าพูด
เท่าที่เขาดูแล้ว ถึงแม้หลินอิ่งจะเป็นเพื่อนที่หยูจื๋อเฉิงแนะนำ บางทีอาจมีอำนาจบ้างที่ต่างจังหวัด แต่ไม่ว่าจะเทียบยังไง อำนาจก็สู้กับตระกูลสวีไม่ได้ จะสู้กับสวีชิงซงที่มีตระกูลสวีแห่งตี้จิงอยู่เบื้องหลังได้ยังไง?
ยิ่งหลินอิ่งทำให้สวีชิงซงโกรธแค้นแบบนี้ ทำลายศักดิ์ศรีเขาขนาดนี้ จากนี้จะโดนแก้แค้นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เขาไม่อยากมีความสัมพันธ์มากมายกับหลินอิ่ง เดี๋ยวถูกสวีชิงซงเข้าใจผิด มีปัญหามากมายอีก
“คุยไม่ได้แล้ว?” หลินอิ่งมองหลิวเป่าอยู่สักพัก จากนั้นก็หันกลับไป
หลินอิ่งส่ายหัวคิดในใจ คนแบบหลิวเป่า คุกเข่านานไปลุกไม่ขึ้นแล้ว
สวีชิงซงถูกคนของเขาต่อยจนนอนราบกับพื้นอย่างกับหมาแล้ว แต่หลิวเป่ายังคงนับถือสวีชิงซงอย่างกับปู่ บอกให้เขาคุกเข่าเขาก็คุกเข่า บอกให้ห้ามร่วมงานกับตัวเอง เขาก็ปฏิเสธอย่างเชื่อฟัง?
สันดาน เดายากแท้
หลิวเป่า ตัดสินใจจะคุกเข่าจนถึงสุดท้าย ไม่ว่ายังไง เขาก็ไม่มีวันเป็นศัตรูกับสวีชิงซง แล้วไปช่วยหลินอิ่งเด็ดขาด
แต่ว่า เขาไม่มีวันรู้ นี่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตเขา แค่เสี้ยววินาที สามารถพลิกผันชีวิตของคนได้ จากนี้หลิวเป่าต้องเสียใจแน่ จากที่เขาสามารถเลือกหนทางอันสดใสยาวไกล ติดตามหลินอิ่งสู่ความสำเร็จ แต่กลับเลือกที่จะคุกเข่า……
“ฉีโม่ พวกเราไปเถอะ งานเครื่องดับระดับสูงแห่งประเทศหลุง แบบนี้เหรอ? ไม่ต้องคุยแล้ว” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบเฉย หันหลังจะเดินจากไป
จางฉีโม่สีหน้าลังเล สายตากังวล พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เดินตามหลังหลินอิ่ง
ตามนั้น หลินอิ่งเดินออกจากอาคารเหยียนหวงอย่างใจเย็น จางฉีโม่เดินอยู่ข้างกาย ฮาเดสออกไปขับรถที่ลานจอดรถก่อนแล้ว
เมื่อหลินอิ่งจากไปแล้ว ถึงมีคนกล้าเดินเข้าไป พยุงตัวสวีชิงซงที่ล้มอยู่บนพื้น
“คุณชายสวี เป็นอะไรไหม” จูฟางเข้ามาพูดอยากห่วงใย
“ไสหัวไป ไปหัวไปให้หมด” สวีชิงซงโวยวายเสียงดัง ตะโกนไม่หยุด ตบหน้าจูฟางที่เข้ามาประจบไปสองครั้ง
เมื่อกี้เขาทำอะไรหลินอิ่งไม่ได้ ตอนนี้ก็ทำได้แค่ระบายอารมณ์