ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 26 เข้าร่วมนิทรรศการอัญมณี
บทที่ 26 เข้าร่วมนิทรรศการอัญมณี
วันที่สอง
แต่เช้าตรู่ หลินอิ่งกับจางฉีโม่ก็เดินทางออกมาจากหมู่บ้าน ไปที่พาณิชย์พลาซ่าชิงหยูนที่อยู่ใจกลางเมือง
อู่เจิ้งกำลังมุ่งมั่นขับรถอย่างเร็ว
“หลินอิ่ง เมื่อคืนคุณไปทำอะไรมา?” ฉับพลันจางฉีโม่ก็ถามออกมา
หลินอิ่งลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ยิ้มแล้วตอบว่า : “ฉันเข้าใจได้ว่านี่คือคุณเป็นห่วงฉันอยู่ใช่ไหม?”
“บ้า” จางฉีโม่มองค้อนหลินอิ่ง
“ไม่ใช่อย่างนั้น วันนี้จะเข้าร่วมจัดงานนิทรรศการอัญมณี สินค้าที่ฉันออกแบบหายไปแล้ว พวกเราก็ต้องไปเช่นนี้ ยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร”จางฉีโม่พูดอย่างกังวลใจ
หลินอิ่งกล่าวว่า : “วางใจเถอะ เมื่อคืนฉันไปจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
จางฉีโม่แสดงอาการสงสัย ถามอย่างงงๆว่า : “คุณทำได้อย่างไร? หรือว่าคุณไปตามหาKing of the worldกลับมาแล้วหรอ?”
“คุณลองเดาซิ” หลินอิ่งยิ้มตอบ
จางฉีโม่กัดปากเบาๆ ทำหน้ามู่ ไม่อยากสนใจ
เวลาประเดี๋ยวเดียว รถก็ขับมาถึงพาณิชย์พลาซ่าชิงหยูน
แล้ว
ศูนย์การค้า ตั้งตระหง่านเป็นอาคารสูงใหญ่โต
พาณิชย์พลาซ่าชิงหยูน
วันนี้เป็นวันสำคัญที่บริษัทเครื่องประดับจางซื่อรวมตัวกันจัดงานนิทรรศการอัญมณี เชิญตัวแทนของบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็กในวงการอัญมณีในเมืองชิงหยูน ตลอดจนบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งในและนอกวงการ
นอกจากนี้คณะผู้เชี่ยวชาญญในวงการหลายสิบคนก็มาถึงแล้ว รวมถึงแขกวีไอพีที่ชื่นชอบเครื่องประดับอัญมณีหลายร้อยคน ยังมีผู้สื่อข่าวหลายสำนักจำนวนมากก็มาด้วย
ดังนั้น ชั้นล่างของอาคารชิงหยูนก็มีคนล้นหลามแล้ว คึกคักอย่างมาก
ด้านหน้าศูนย์การค้ามีรถหรูจอดอยู่ มองไป จอดเป็นแถวสีสันสดใส ดูสะดุดตา
หลินอิ่งกับจางฉีโม่ ลงจากรถ ตรงเดินไปที่ด้านในอาคาร แล้วขึ้นลิฟท์ไป
เพื่อจัดงานนิทรรศการนี้ จางซื่อกรุ๊ปได้จัดงานนิทรรศการทางธุรกิจที่ชั้น 36
ไม่นาน สองคนก็มาถึงห้องโถงที่จัดนิทรรศการ
ในห้องโถง ยึดครองพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหราเป็นพิเศษ
เวลานี้ บนพื้นปูด้วยพรมสีแดง โคมไฟระย้าแบบตะวันตกส่องแสงแวววาว
ตู้กระจกใสวางอยู่ทุกที่ เป็นระเบียบเรียบร้อย
ในทุกๆตู้กระจก ล้วนเป็นเครื่องประดับที่มีรูปร่างแตกต่างกัน เครื่องประดับเหล่านี้วัตถุดิบที่ทำจากทองคำ ทองคำขาว มรกต หินโมรา เพชร คริสตัล หยก
ของทุกอย่างเป็นจี้ จี้ สร้อยคอ กำไลข้อมือ แหวน รูปแบบต่างๆ มีหมดทุกอย่างทั้งรูปแบบสไตล์จีนและตะวันตก ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของจางซื่อกรุ๊ป
ทุกสิ่งที่วางอยู่ในห้องโถงงานนิทรรศการ ของมีค่าทั้งหมดดูเปล่งประกายระยิบระยับ ดูมีสง่าราศีอย่างมาก
คนที่ผ่านไปมาในห้องโถง มีลักษณะการแต่งกายที่หรูหรา แต่งกายดูดีเป็นพิเศษ บางส่วนเป็นคนที่มีทุนทรัพย์ ทุกๆที่ยังมีผู้สื่อข่าวพร้อมกับกล้องถ่ายรูป
ในสายตาของจางฉีโม่มีความคาดหวัง นี่คือสิ่งที่ภายในใจของเธอปรารถนาที่จะกลายมาเป็นบุคคลสำคัญ
เดิมที ตัวเองก็สิ้นเปลืองไปกับกำลังกายและกำลังสมองมากจนนับไม่ถ้วน King of the worldที่ออกแบบอย่างดีที่สุด ควรจะวางโดดเด่นอยู่ที่ที่จัดนิทรรศการแห่งนี้
น่าเสียดาย……
“เฮ้อ” จางฉีโม่ถอนหายใจเบาๆ แค่เพียงเผอฝันไปว่าที่หลินอิ่งพูดเป็นความจริง ว่าKing of the worldกลับมาแล้วจริงๆ ถึงแม้ว่านั่นจะเหมือนกับปฎิหาริย์ ท้ายที่สุดหลินอิ่งก็เป็นเพียงคนธรรมดาๆคนหนึ่ง จะมีความสามารถแบบนั้นจากที่ไหน
“หึ นี่ไม่ใช่ผู้อำนวยการกสารออกแบบของคณะพวกเรา จางฉีโม่ ผู้อำนวยการจางหรอ?”
ฉับพลัน เสียงคำพูดประชดประชันของผู้หญิงคนหนึ่งทอดดังมา
จางจี้หนิงสวมใส่ชุดราตรีดูดีมีราคา เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ปรากฏให้เห็นความดูดีมีสง่า แต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความถากถางเยาะเย้ย ดูใจดำเล็กน้อย
จางฉีโม่ทำสีหน้าไม่ถูก นี่คือคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด
“พูดตามตรง ฉันไม่รู้จริงๆว่าทำไมพวกคุณถึงยังมีหน้ามาร่วมงานจัดนิทรรศการครั้งนี้?”จางจี้หนิงมองไปที่จางฉีโม่กับหลินอิ่งอย่างเหยียดหยาม พูดเยาะเย้ยว่า “ไม่สามารถออกแบบเครื่องประดับราคาสิบล้านนั้นได้ โลภเห็นแก่เงิน ยังมีหน้ามาร่วมงานนิทรรศการอีกหรอ? น่าไม่อายจริงๆ”
“อืม ก็ถูก ฉันลืมไปแล้ว พวกไส้แห้งอย่างคุณทั้งสองคนคงไม่เคยเห็นฉากที่ยิ่งใหญ่แบบนี้มาก่อนใช่ไหม? เพราะฉะนั้นจึงมาเปิดหูเปิดตาสักหน่อยนะหรอ?” จางจี้หนิงพูดจาถากถางเยาะเย้ย “น่าเสียดาย ตลอดชีวิตของพวกคุณก็มีโอกาสหนึ่งครั้งนี้ เพื่อรอคอยวันนี้ จางฉีโม่ คุณก็ไม่ได้เป็นผู้อำนวยการการออกแบบของบริษัทอีกต่อไป บังต้องไสหัวออกไปจากบริษัทอย่างซมซาน”
ในใจของจางฉีโม่โกรธมาก คิดอยากจะพูดโต้กลับ แต่ทว่ากลับไม่มีความมั่นใจ……
“คุณเป็นแค่เพียงรองผู้อำนวยการการออกแบบของบริษัท ฉีโม่ยังคงเป็นหัวหน้าของคุณโดยตรง คุณมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจแทนตำแหน่งผู้อำนวยการการออกแบบนี้?” หลินอิ่งพูดนิ่งๆ
จางจี้หนิงยิ้มอย่างเหยียดหยาม พูดว่า : “หลินอิ่ง ไม่ใช่คุณรู้สึกว่าอยู่เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองหรอ คิดว่าเป็นผู้ช่วยตัวเล็กๆคนหนึ่ง กล้าพูดจาแข็งกร้าวต่อหน้าฉันหรอ? ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง!”
“พวกคุณทั้งสองคนทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ ยังวิ่งมาร่วมงานนิทรรศการอีก ไม่ใช่อยากขายความน่าเวทนาเพื่อให้ทุกคนเห็นใจหรอ? ยังฉกฉวยความน่าสงสารต่อบริษัทชั้นนำอีกหรอ? ทำให้พวกคุณได้อยู่ในบริษัทต่อไปนะหรอ?”จางจี้หนิงเยาะเย้ยถากถางต่อ “คุณคิดว่าทุกคนเป็นคนโง่จริงๆหรอ? จะเชื่อพวกคุณเพียงแค่พูดว่าเพิ่งถูกขโมยไปแบบนี้นะหรอ?”
“อย่าไปคิดเลย กล้องหลายตัวขนาดนั้นในบริษัท ระบบป้องกันที่เข้มงวดแบบนั้น แต่สูญเสียเครื่องประดับอัญมณีราคาสิบล้านไปอย่างลึกลับ คนโง่ยังคิดได้ นี่คือพวกคนภายในสบรู้ร่วมคิดกันทำ”จางจี้หนิงคิดสนุกพูดว่า “คุณสองคนเป็นคนรับผิดชอบโครงการ จะสามารถหนีรอดความเกี่ยวข้องได้หรอ?”
“เอ๊ะ เมื่อวานนี้ผู้ช่วยหลินไม่ได้ออกใบรับประกันต่อหน้าสาธารณชนหรอ? ที่บอกว่าวันนี้King of the worldจะออกมาปรากฏอย่างแน่นอน บางทีผู้ช่วยหลินก็อาจจะมีลูกไม้ที่เหนือกว่า ตามหาอัญมณีนี้กลับมาแล้วก็ไม่แน่นะ”เวลานี้ ซูนเหิงก็เดินเข้ามา กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ก็ถูก ถึงอย่างไรก็เป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลจาง ไม่แน่ว่าคนที่ขโมยเครื่องประดับอัญมณีอาจจะได้ยินชื่อเสียงโด่งดังของผู้ช่วยหลิน ในใจก็เวทนาผู้ช่วยหลิน อาจส่งเครื่องประดับกลับมาที่บริษัทด้วยตัวเองก็ไม่แน่”จางจี้หนิงหัวเราะขึ้นมาอย่างลำพองใจ เพื่อประชดถากถาง
จางจี้หนิงและคูสามีภรรยาล้วนกำเรืบเสิบสาน ทั้งสองคนมองหลินอิ่งแล้วหัวเราะเยาะเย้ย
พวกเขาคู่สามีภรรยามองว่า จางฉีโม่กับหลินอิ่งทั้งสองคนนี้เป็นคนกระจอกงอกง่อย เดิมทีก็ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดิน ยังคิดว่าเป็นผู้อำนวยการการออกแบบ ก็สามารถมาต่อกรกับพวกเขาสองคนได้ น่าตลกจริงๆเลย
เวลานี้ มีนักออกแบบอัญมณีและบริษัทชั้นนำหลายกลุ่มเดินเข้ามา มองไปที่หลินอิ่งกับจางฉีโม่ด้วยอารมณ์ขบขัน ก็เหมือนกับดูเรื่องตลกขบขัน
“พี่หนิง ฉันเห็นว่าไม่จำเป็นที่ต้องมาเสวนากับกบในกะลาอย่างพวกเขาทั้งสองคนเลย กระจอกเช่นนี้ ถึงแม้ว่าประธานอูจะให้โอกาสพวกเขาสักครั้ง ก็อย่าหวังลมๆแล้งๆว่าจะโผล่หัวขึ้นมาได้ ท้ายที่สุดก็ยากจนข้นแค้น ทันทีก็จะโดนไล่ออกจากบริษัทแล้ว” ผู้หญิงชั้นสูงหัวเราะเยาะเย้ยถากถาง
“มาที่นี่เพื่อมาขายหน้าจริงๆ แต่ว่าวันนี้มีนักข่าวและบุคคลมีชื่อเสียงมากมาย พวกเขาทำโครงการใหญ่ขนาดนั้นล้มเหลว ยังมาเข้าร่วมงานนิทรรศการเครื่องประดับอย่างไม่ละอายใจ”
“เอ๊ะ ครอบครัวจางฉีโม่ไม่ก็อยากมีประสบการณ์สุดท้ายของค่าตอบแทนผู้อำนวยการสักหน่อย แต่นี่ก็เป็นโอกาสสุดท้ายในชีวิตแล้วนี่ รอจัดงานนิทรรศการเสร็จ ก็จะสูญเสียตำแหน่งผู้อำนวยการไปแล้ว เธอยังจะสามารถเข้าร่วมงานนิทรรศการระดับสูงแบบนี้ได้อยู่อีกหรอ?”
“พวกคุณ……” จางฉีโม่กัดปากเบาๆ โมโหอย่างมาก
หลินอิ่งกล่าวว่า : “ฉีโม่ ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหรอก งานนิทรรศการจะเริ่มแล้ว พวกเราไปนั่งกันเถอะ”
จางฉีโม่พยักหน้า ทั้งสองคนหันหลังเดินเข้าไปด้านในของห้องโถงนิทรรศการ
“เดี๋ยว!”
เวลานี้ ฉับพลันจางจี้หนิงก็มาขวางด้านหน้าของพวกเขา “พวกคุณสองคนคิดว่าตอนนี้ยังมีสิทธิ์นั่งในที่นั่งVIPอยู่อีกหรอ?”