ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 262 จะตีแกจนกลายเป็นหนอน
บทที่ 262 จะตีแกจนกลายเป็นหนอน
เผชิญหน้ากับปืนสิบกว่ากระบอกที่เล็งมา มุมปากของฮาเดสก็ปรากฏรอยยิ้มอันเหี้ยมเกรียมออกมา
ในฐานะราชาสายลับแห่งต่างแดนที่ทำให้คนได้ยินแล้วขวัญผวา ฮาเดสก็ไม่รู้เช่นกันว่าผ่านภารกิจอันตรายระดับสุดยอดมาแล้วกี่ครั้ง พบเห็นสงครามใหญ่มาแล้วกี่หน อยู่ท่ามกลางการสังหารโหดในดงกระสุน ทั้งหมดก็คือที่มาของชื่อเสียงเขา
กับอีแค่ปืนสิบกว่ากระบอก ก็คิดว่าจะล้มเขาได้? ช่างน่าขันเสียเหลือเกิน
ปัง!
บอดี้การ์ดท่าทางเฉยชาคนหนึ่งเปิดฉากยิงก่อน โดยเล็งไปที่ขาของฮาเดส
แต่ ปรากฏฉากที่ทำให้คนไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ร่างของฮาเดสถึงกับพุ่งนำหน้าออกไปก่อนหนึ่งก้าว ไปนั่งอยู่ตรงหน้าเหยียนหลงที่อยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่
เกิดเสียงแกร๊กดังขึ้น ตอนที่ปลอกกระสุนตกพื้น ฮาเดสก็พุ่งไปอยู่ตรงหน้าเหยียนหลงแล้ว เขายกมือคว้าลำคอของเหยียนหลง โดยกุมไว้หลวมๆ
“เฮ้ย! อะไรกัน? แกคิดจะทำอะไร!”
เหยียนหลงตกใจจนดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าซีดเผือด เขาคิดไม่ถึงว่าจะถูกบอดี้การ์ดของหลินอิ่งจับไว้โดยไม่ทันตั้งตัว พอมือนี้คว้าได้ ลำคอก็เกือบจะถูกบีบหักเสียแล้ว
ขอเพียงฮาเดสออกแรงเพิ่มอีกนิด หรือบีบนานกว่านี้อีกเพียงสองนาที เขาจะต้องตายคามือไปทั้งอย่างนี้แน่
“โอ๊ยย!” เหยียนหลงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด สีหน้าเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ ถูกบีบจนเข้าสู่สภาวะขาดอากาศหายใจ สามารถขาดใจตายได้ทุกเมื่อ
“อย่า น้องชาย มีอะไรก็พูดจากันดีๆ อย่า อย่าทำแบบนี้!” เหยียนหลงกล่าวสีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เขาถูกทำให้ตกใจแล้วจริงๆ นี่เป็นความสามารถพิสดารอะไรกัน?
ลงมือก่อนภายใต้การเล็งของมือปืนมากขนาดนี้ใต้อาณัติของตัวเอง ลูกกระสุนยังไม่ทันถูกตัวเขา เขากลับจับคนไว้ได้เสียก่อน
“รีบปล่อยท่านเหยียนนะ! ไอ้บ้านี่ แกคิดจะทำอะไร?”
“ปล่อยท่านเหยียน ไม่อย่างนั้นฉันยิงแกตายแน่!”
คนที่อยู่ใต้อาณัติทั้งหมดของเหยียนหลงต่างหวั่นวิตก เพียงชั่วเวลาสั้นๆ ลูกพี่ถูกคนจับตัวไว้ พวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
ติดตามเหยียนหลงสู้เป็นสู้ตายอยู่ข้างนอกมาตั้งหลายปี ยังไม่เคยพบเจอเหตุการณ์และคนโหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน
เขาก็คือปีศาจดีๆ นี่เอง ฝีมือรวดเร็วขนาดนี้ ขนาดถูกปืนสิบกว่ากระบอกเล็งอยู่ก็ไม่กลัว นี่เขาโผล่ออกมาจากที่ไหนกัน? “ถังฮุย หลินอิ่ง! ยังไม่รีบบอกให้บอดี้การ์ดโง่เง่าคนนี้ปล่อยมืออีก? หากทำร้ายลุงเหยียนฉันเข้า พวกแกสองคนต้องตายตามเขาไป! “สวีชิงซงขู่เสียงเย็น
หลินอิ่งมุมปากเยาะหยัน มองไปที่สวีชิงซง
“ให้ฉันตายตามไป? หลินอิ่งยิ้มเยาะ “นายมีสิทธิ์อะไร สิทธิ์ของพวกอีกาจับกลุ่มกันแบบนี้น่ะเหรอ?”
“แกพูดจาวางโตเกินไปแล้ว!” สวีชิงซงพูดอย่างเดือดดาล “วันนี้ฉันจะดูสิว่าแกจะออกจากเขตเหยียนหวงยังไง ทั้งด้านนอกด้านในล้วนเป็นคนของลุงเหยียนฉัน เป็นจำนวนหลายร้อยคน ต่อให้แกเป็นเทพเซียนก็ออกไปไม่ได้”
ฮาเดสมองสวีชิงซงด้ายสายตาเย็นเยียบ มือหนึ่งจับเหยียนหลงไว้ พุ่งเข้าไปใช้เท้าข้างหนึ่งถีบเข้าที่บั้นเอวของสวีชิงซง รวดเร็วราวสายฟ้าแลป
“โอ๊ยย!”
สวีชิงซงที่ถูกถีบส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูถูกเชือด ตัวคนกระเด็นจากข้างโต๊ะไปติดฝาผนัง จากนั้นก็ล้มลงบนพื้นอย่างแรง กระอักเลือดสดๆ ออกมาหลายคำ คิดจะเอ่ยปากพูดก็พูดไม่ออก มองฮาเดสอย่างเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม
“พระเจ้า แกยังกล้าลงมืออีก? วันนี้พวกแกอยากจะตายกันอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” หัวหน้าบอดี้การ์ดลูกน้องเหยียนหลงคนหนึ่ง ขู่เสียงเย็น
“รีบปล่อยท่านเหยียน พวกแกอาจยังมีทางรอด ไม่อย่างนั้น วันนี้ก็ต้องตายกันหมด!” หัวหน้าบอดี้การ์ดกล่าวเสียงเย็น มีท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยม
ในมุมมองพวกเขา หลินอิ่งกับบอดี้การ์ดข้างกายเขากำลังเป็นบ้า คนบ้าที่รนหาที่ตายโดยแท้
ที่นี่คือเขตเหยียนหวง เป็นฐานที่มั่นของท่านเหยียน ด้านในด้านนอกมีคนกว่าร้อยชีวิต หากพวกเขายังกล้าเล่นงานท่านเหยียนกับคุณชายสวีถึงตาย วันนี้ต่อให้พวกเขาติดปีกก็ยากจะหนีพ้น!
“ท่านอิ่ง หนนี้ พวกเราควรจะจบเรื่องยังไงดี?” ถังฮุยมองไปที่หลินอิ่งด้วยท่าทางเคร่งเครียด พลางถาม
เขาเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน หลินอิ่งมาเขตเหยียนหวงหนนี้ จะถึงกับคว่ำโต๊ะเพราะคุยกันไม่ถูกคอ การกระทำเช่นนี้ดูจะบ้าระห่ำอยู่บ้างจริงๆ
ต่อให้เหยียนหลงพูดยังไง แต่เขาก็คือก็อดฟาเธอร์ของเขตเหยียนหวงแห่งตี้จิง มีนักฆ่ามือฉกาจอยู่ใต้อาณัติจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะนี่ยังเป็นฐานที่มั่นของเขา หากคิดจะเดินออกไปอย่างสงบ คงยากจะเป็นไปได้แล้ว
เห็นหลินอิ่งยังดื่มชาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ถังฮุยก็กล่าวอย่างระแวดระวังว่า “ท่านอิ่ง หากรู้แต่แรกว่าคุณจะมาคว่ำโต๊ะ ผมจะได้พาลูกน้องมาที่นี่มากกว่านี้หน่อย ตอนนี้ ให้ผมโทรเรียกคนมาที่นี่ เป็นยังไง?” หลินอิ่งสีหน้าเป็นปกติ กล่าวเสียงเรียบว่า “ไม่ต้องเรียกคนมาที่นี่แล้ว”
“ครับๆ” ถังฮุยรีบพยักหน้า ไม่กล้าค้านความเห็นของหลินอิ่ง
พูดจบ หลินอิ่งก็ค่อยๆ ลุกขึ้น เดินไปหาเหยียนหลงที่ถูกฮาเดสจับไว้
“ไอ้คนแซ่หลิน แกยังคิดจะทำอะไรอีก?” เหยียนหลงมองหลินอิ่งด้วยสีหน้ามืดครึ้ม ในดวงตามีเปลวไฟลุกโชน อยากจะหยิบปืนมายิงฮาเดสกับหลินอิ่งให้ตายเสียเดี๋ยวนั้น ที่กล้าทำกับเขาเช่นนี้!
“ฉันจะบอกแกให้ เรื่องมาถึงขั้นนี้ แกจบมันไม่ลงแล้ว ฉันจะฆ่าแก!” เหยียนหลงคำรามเสียงต่ำ “ไม่ใช่แค่แกต้องตาย ทุกคนและญาติที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับแก ฉันจะส่งคนไปไล่ฆ่าให้หมด!”
เพี๊ยะ!
หลินอิ่งเดินขึ้นมาตบหน้าเหยียนหลงไปหนึ่งที เหยียนหลงที่ถูกตบกัดฟันกรอด โกรธจนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
เพียงเวลาไม่นาน ก็อดฟาเธอร์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งตี้จิง จะได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้เชียวหรือ?
“อย่างแกเนี่ยนะคิดจะฆ่าฉัน?” หลินอิ่งกล่าวเสียงเย็นชา ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยแววเข่นฆ่า
“เหยียนหลง? หึ ชื่อแกช่างไพเราะเหลือเกินนะ” หลินอิ่งกล่าวเนิบช้า “วันนี้ ฉันจะตีแกจนกลายเป็นหนอน”
พูดจบ หลินอิ่งก็คว้าเหยียนหลงมาจากมือฮาเดส ราวกับดึงสายว่าว เกิดเสียงดังพลั่กๆ เขาถูกปล่อยให้ล้มกระแทกกับพื้นอย่างแรงติดๆ กันหลายครั้ง ล้มจนเหยียนหลงหัวแตกเลือดไหลอาบ ร้องเสียงโหยหวน
จากนั้น หลินอิ่งก็ใช้เท้าข้างหนึ่ง เหยียบไปบนหน้าเหยียนหลงอย่างแรง เหยียนหลงที่ถูกเหยียบพ่นเลือดสดๆ ออกมาเต็มไปหมด เกิดเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา
เหยียนหลงมีท่าทีเดือดดาล โอดครวญอยู่ภายในใจ คิดไม่ถึงว่าคนแซ่หลินที่ดูไม่มีอะไร สุดท้ายกลับมีแรงเยอะขนาดนี้ เท้าที่เหยียบลงมาราวกับถูกรถบรรทุกกดทับ อวัยวะทั้งห้าเหมือนกับจะแหลกละเอียด
“เหยียนหลง ตอนนี้ฉันขอถามแกอีกครั้ง ฉันให้แกมอบตัวสวีชิงซงออกมา แกจะมอบ หรือไม่มอบ?” หลินอิ่งซักถามเสียงเย็น สายตาจ้องมองอย่างเย็นเยียบ
“แฮ่ก!” เหยียนหลงปากหอบหายใจครืดคราดไม่หยุด ภายในใจหวาดกลัวอย่างยิ่ง ไม่กล้าสบตากับหลินอิ่ง
เวลานี้เขาเพิ่งจะตระหนักว่า หลินอิ่งป่าเถื่อนได้เช่นนี้ ไม่เหมือนกับเป็นคนบ้านนอกและสุนัขรับใช้ที่คอยพึ่งฮุยสุงโดยสิ้นเชิง