ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 271 ขอร้องผู้อาวุโสช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้ด้วย
บทที่ 271 ขอร้องผู้อาวุโสช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้ด้วย
ณ ผิ่นซานเหอ ภายในห้องดื่มชา
หลินอิ่งเดินอาดๆ เข้ามานั่งบนเก้าอี้หนา ยกชาหอมกาหนึ่งขึ้นมาจิบคำเล็กๆ
“ประธานหลิน ขอโทษด้วย จ้าวเจี้ยนหนิงมีความแค้นส่วนตัวกับผม วันนี้บังเอิญพบเขาเข้าพอดี ทำให้คุณขบขันแล้ว” นิ่งซวนเอ่ยอย่างขอลุแก่โทษ สีหน้ารู้สึกผิดอย่างมาก
“ประธานหลิน ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับ ไม่รู้ว่าหมู่นี้คุณสบายดีไหม?” อูหยางยิ้มทักทาย แววตามีความหวาดกลัวอยู่บ้าง
เป็นฝ่ายเชื้อเชิญประธานหลินมา กลับกลายเป็นว่าในห้องพิเศษที่จองไว้จะเกิดเรื่องที่ทำให้คนรำคาญใจเช่นนี้ พวกเขาสองคนภายในใจจึงรู้สึกเคร่งเครียดไม่ใช่น้อย ไม่รู้ว่าประธานหลินจะตำหนิหรือไม่
หลินอิ่งยิ้ม กล่าวเสียงราบเรียบว่า “เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องใส่ใจ”
“ครับ” นิ่งซวนพยักหน้ายิ้มๆ
“แต่ว่า ประธานหลิน อยากให้ผมจัดการให้ใหม่ไหมครับ เปลี่ยนที่คุยธุระกัน?” นิ่งซวนกล่าวอย่างระมัดระวัง “คุณให้บอดี้การ์ดเล่นงานจ้าวเจี้ยนหนิงที่นี่ ผมรู้จักนิสัยจ้าวเจี้ยนหนิงดี คนคนนี้ใจคอคับแคบ ไม่มีทางเลิกราง่ายๆ แน่ เวลานี้อาจจะกำลังโทรหาพรรคพวกกลับมายังที่นี่”
ไม่จำเป็นต้องคิดเลยด้วยซ้ำ ด้วยนิสัยวางอำนาจไม่สนกฎเกณฑ์ของจ้าวเจี้ยนหนิง จะกล้ำกลืนความโกรธนี้ลงไปได้อย่างไร?
เห็นหลินอิ่งไม่แสดงท่าทีอะไร นิ่งซวนก็นิ่งไปสักพัก แล้วกล่าวว่า “ประธานหลิน ผมไม่ได้กังวลว่าคุณจะจัดการเขาไม่ได้ แต่คนอย่างจ้าวเจี้ยนหนิงอยู่ในเขตเสิ่นหนงนับว่ามีอิทธิพลอยู่มาก เรียกคนมาก่อกวนที่นี่ จะรบกวนอารมณ์สุนทรีย์ของคุณได้”
“คุยธุระที่นี่แหละ ไม่ต้องสนใจเจ้าคนแซ่จ้าวนั่นหรอก” หลินอิ่งพูดด้วยท่าทางสบายๆ “หากเขายังกล้ามาที่นี่อีก แค่จัดการเขาก็พอ”
นิ่งซวนผงกศีรษะ ไม่กล้าค้านความเห็นของหลินอิ่งอีก
อิทธิพลที่หลินอิ่งวางไว้ที่นั่น อาศัยจ้าวเจี้ยนหนิงลูกเขยของตระกูลนิ่งแค่คนเดียว คิดจะทำให้ผู้อาวุโสของตระกูลนิ่งอันยิ่งใหญ่สั่นคลอน นั่นถือเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี
“ทำไมพวกนายสองคนถึงดูหน้าซีดกันจัง? เป็นเพราะเรื่องยุ่งยากที่นายพูดถึง?” หลินอิงกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง
ว่ากันตามตรง พอหลินอิ่งเห็นท่าทางตกอับของนิ่งซวนกับอูหยางแล้ว ภายในใจก็รู้สึกทอดถอนใจอยู่บ้าง
ตอนที่อยู่เมืองชิงหยูนนั้น สองคนนี้ช่างองอาจห้าวหาญเสียเหลือเกิน
แต่พอกลับมาอยู่ตี้จิงแค่ไม่กี่เดือน แทบจะเปลี่ยนเป็นคนละคน เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อถลำลึกลงไปในวังวนแห่งผลประโยชน์เหล่านี้ ก็มากพอที่จะทำลายจิตใจของคนคนหนึ่งได้
นิ่งซวนตกตะลึงเพราะได้รับความเมตตามากจนเกินไปอยู่บ้าง เขากล่าวว่า “ขอบคุณประธานหลินที่ห่วงใย ระยะนี้สถานการณ์ภายในตระกูลนิ่งตึงเครียดมากเกินไป หลายวันมานี้ทำให้เส้นผมทั้งศีรษะของผมจวนจะหงอกขาวหมดแล้ว แล้วผมก็หาทางแก้ไม่ได้ เลยบังอาจมาขอให้ประธานหลินช่วยออกหน้า”
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวว่า “พูดมาเถอะ ตอนนี้ตระกูลนิ่งเป็นยังไงบ้าง นายท่านนิ่งไท่จี๋ล่ะ?”
นิ่งซวนนิ่งคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็กล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “คืออย่างนี้ครับ ตอนแรกผมอยู่ที่ตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงยังพอจะมั่นคงอยู่ แต่เดือนที่แล้ว ตอนที่พ่อผมไปจัดการธุระของบริษัทที่ประเทศM จู่ๆ ก็หายตัวไป ซากเครื่องบินส่วนตัวก็หาเจอแล้วเช่นกัน บางทีอาจจะประสบเคราะห์……”
พอพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของนิ่งซวนก็สะอื้นเล็กน้อย เพราะแทบจะยืนยันได้ว่า พ่อของเขาเสียชีวิตแล้ว
“เพราะเรื่องนี้ ผมเคยคิดจะส่งคนไปสืบที่ประเทศM แต่จู่ๆ กลับถูกเบื้องบนของบริษัททราบเข้า ทรัพย์สินของผมในตี้จิงก็ถูกอายัดทั้งหมด แม้แต่พนักงานที่อยู่ในสังกัดพ่อตั้งแต่เริ่มแรก ก็ยังถูกย้ายออกไปหมด กระทั่งคนที่ผมไว้ใจพอจะเรียกใช้ได้ ก็ไม่มี” นิ่งซวนกล่าวช้าๆ
“ต่อมา ผมคิดจะไปหานายท่านที่วิลล่าไท่จี๋ แต่กลับกลายเป็นว่า ถูกคนขวางไว้ บอกว่าสุขภาพของนายท่านอยู่ในอาการสาหัส ไม่อาจพบใครได้”
“ไม่กี่วันมานี้ คุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งนิ่งเซวียนก็ออกหน้า บังคับให้ผมไปเซ็นสัญญา นำพ่อแม่ของผมรวมถึงทรัพย์สินของผมทั้งหมดโอนย้ายไปให้คณะกรรมการผู้อาวุโสที่อยู่เบื้องบนของตระกูลนิ่ง เพื่อทำการจัดสรรใหม่อีกครั้ง” นิ่งซวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักหน่วง “แต่ผมปฏิเสธไป หลังปฏิเสธ ก็พบกับคำขู่ของนิ่งเซวียน……”
หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟังรายละเอียดที่นิ่งซวนพูด เรื่องนี้คงไม่ธรรมดาเสียแล้ว เห็นได้ชัดว่าภายในตระกูลนิ่งพุ่งเป้าไปที่ครอบครัวของนิ่งซวน
แม้นิ่งซวนอยู่ในตระกูลนิ่งจะไม่นับว่าโดดเด่น แต่พ่อของเขาอยู่ในตระกูลนิ่งนับว่ามีอำนาจคนหนึ่ง เป็นผู้สืบทอดลำดับที่สามของตระกูลนิ่ง มีความสามารถไม่น้อยในตี้จิง
แต่กระทั่งบิดาของนิ่งซวนก็ตกเป็นเหยื่อของแผนการนี้ เครื่องบินตกและหายสาบสูญอยู่ในประเทศM
ด้วยเหตุนี้แสดงว่า มือมืดที่อยู่เบื้องหลังต้องอยู่ในระดับที่ใหญ่มาก อีกทั้งอำนาจและอิทธิพลก็ไม่น้อยอย่างแน่นอน
“แล้วนิ่งจองเป่าล่ะ? ฉันเตือนเขาแล้วไม่ใช่เหรอ?” หลินอิ่งถาม
“นิ่งจองเป่า ผมไปหาเขาแล้ว” นิ่งซวนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ตอนนี้ผมอยู่ในตระกูลนิ่งเป็นแค่คนนอกคอกคนหนึ่ง ไม่ได้พบหน้าพวกที่อยู่เบื้องบนเลยสักคน นิ่งจองเป่าก็คงพยายามหลบหน้าผมเหมือนกัน อีกทั้ง ผมสงสัยว่าเรื่องนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา”
มุมปากของหลินอิ่งปรากฏเป็นเส้นโค้งขึ้น ช่างน่าสนใจจริงๆ
นิ่งจองเป่าเป็นหนึ่งในผู้ดูแลตระกูลนิ่ง รู้ฐานะผู้อาวุโสตระกูลนิ่งของตน ตัวเขาเองยังเคยไปเตือนนิ่งจองเป่าด้วยตนเอง ว่านิ่งซวนเป็นคนในปกครองของเขา
เขาถึงกับยังกล้าไม่แยแส? นี่แสดงว่าไม่ถือเอาคำพูดเขาเป็นจริงจัง?
นิ่งซวนเห็นหลินอิ่งไม่แสดงท่าทีอะไร จึงกล่าวว่า “ประธานหลิน เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้”
หลินอิ่งจิบชาหนึ่งอึก กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “อยากให้ฉันช่วยยังไง?”
“ผม……” นิ่งซวนมีท่าทีลังเลอยู่สักพัก หลับตาจมอยู่กับความคิดอยู่นาน กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ประธานหลิน ผมขอร้องเพียงให้คุณช่วยผมสืบที่อยู่ของพ่อผมให้กระจ่าง ผมแค่อยากแก้แค้นให้พ่อผม!”
“คุณเป็นผู้อาวุโสตระกูลนิ่ง เรื่องของพ่อผมมากกว่าครึ่งคงไม่พ้นเกี่ยวข้องกับเบื้องบนของตระกูลนิ่ง ผมขอเพียงให้ผู้อาวุโสช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้ผมสักครั้ง! ผมนิ่งซวน ชาตินี้ไม่ได้ตอบแทน ชาติหน้าก็จะขอเป็นวัวเป็นม้าให้คุณ!” นิ่งซวนก้มหน้าพูด แววตาเต็มไปด้วยความจริงใจ และเฝ้ารอไปพร้อมกัน
“สำหรับกิจการภายใต้ชื่อของผมรวมถึงที่พ่อแม่ผมทิ้งไว้ให้ ทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดของผู้สืบทอดลำดับที่สามของตระกูลนิ่ง ก็ขอมอบให้ผู้อาวุโสทั้งหมด!” นิ่งซวนกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่
ในฐานะเด็กอัจฉริยะที่ตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ซ้ำอยู่เมืองตุงไห่ยังก่อตั้งตุงไห่ด้วยตนเอง ผ่านเรื่องราวมามากมายนับไม่ถ้วน นิ่งซวนย่อมไม่ใช่พวกสมองทึบ มาขอให้หลินอิ่งช่วยฟรีๆ โดยไร้เหตุผล
ดังนั้น เขาขอร้องเพียงให้หลินอิ่งช่วยแก้แค้น เพราะนี่เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกิจการและผลประโยชน์ของตระกูลนิ่ง เขาจะไม่บีบบังคับ นั่นเท่ากับเป็นการดึงผมเส้นเดียวสะเทือนไปทั้งร่างกาย ต่อให้หลินอิ่งมีฐานะเป็นผู้อาวุโส คณะกรรมการผู้อาวุโสที่อยู่เบื้องบนของตระกูลนิ่งก็คงไม่ยอมรับเช่นกัน
สถานการณ์ในตอนนี้ นิ่งซวนเข้าใจเป็นอย่างดี ตัวเขาไม่มีอำนาจที่จะปกป้องทรัพย์สินอันมหาศาลที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้ ถึงขั้นที่กำลังที่จะปกป้องตัวเองยังไม่มี
โดยเฉพาะ เครื่องบินตกและการหายสาบสูญของพ่อแม่เต็มไปด้วยเงื่อนงำ เห็นได้ชัดว่าเป็นแผนการที่มีคนตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้น
นิ่งซวนมีเพียงความหวังที่ใหญ่ที่สุด นั่นก็คือการแก้แค้นให้พ่อกับแม่ ทวงคืนความยุติธรรม ส่วนทรัพย์สินเงินทองอะไรนั่น ก็แค่ของนอกกายเท่านั้น
หลินอิ่งกล่าวว่า “ฉันจะช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้นาย
“ส่วนทรัพย์สินที่นายพูดมา ฉันไม่ต้องการ” หลินอิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เขาเคยบอกคนตระกูลนิ่งแต่แรกแล้วว่า นิ่งซวนคือคนในปกครองของตนเอง พวกเขายังกล้าลงมือ นี่เท่ากับเป็นการตบหน้าเขา
โดยเฉพาะ ยังเป็นการสังหารเรียบอีกด้วย กำจัดพ่อแม่ของนิ่งซวนก่อน จากนั้นก็ฮุบสมบัติ ไม่มีใครสนใจหน้าตาผู้อาวุโสของตระกูลนิ่งอย่างเขาโดยสิ้นเชิง
ตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงก็ไม่รู้ว่าก่อเรื่องบ้าบออะไรขึ้นมา จำเป็นต้องไปเองสักเที่ยวแล้ว!