ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 306 อย่าเอาความสัมพันธ์มาเป็นต้นทุนความอวดดี
เมื่อคำพูดของนิ่งจองเต้าพูดออกมา ผู้นำระดับสูงทุกคนที่นั่งอยู่มันไปที่หลินอิ่ง แสดงถึงความหมายหลายอย่าง
นิ่งจองเต้าพูดอย่างชัดเจน อาจารย์ของหลินอิ่งหายตัวไปสิบกว่าปี ความสัมพันธ์ที่มีระหว่างตระกูลนิ่ง ก็จางลงตั้งนานแล้ว
นิ่งจองเต้าที่เป็นผู้ถืออำนาจของตระกูลนิ่งในวันนี้ พูดเองแล้ว ผู้นำตระกูลอย่างพวกเขา ก็ต้องทำตามผู้นำอยู่แล้ว
“ก็ใช่ ผู้อาวุโสหลิน ถึงท่านจะเคยมีความสัมพันธ์กับตระกูลนิ่งของเรา แต่นั่นก็เป็นเรื่องในอดีตแล้ว ตระกูลนิ่งของเราก็ไม่ใช่ตระกูลไร้เยื่อใยอะไร แต่ว่า คุณจะเอาเรื่องความสัมพันธ์ในอดีต มาหาเรื่องที่ตระกูลนิ่งแบบนี้เหรอ?”
“ผู้อาวุโสหลิน อายุยังน้อย ต้องรู้จักยอมบ้าง คุณต้องการทรัพย์สินเงินทอง ความร่ำรวย ตระกูลนิ่งของเราให้ได้หมด แต่ว่า คุณก้าวก่ายเรื่องภายในตระกูลนิ่งของเรา นี่มันก็เกินไปหน่อยนะ”
ผู้นำระดับสูงของตระกูลนิ่งที่นั่งอยู่ หลายคนพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ กับท่าทางของหลินอิ่ง
ความจริง ในใจของผู้นำตระกูลนิ่ง สำหรับหลินอิ่งผู้อาวุโสคนนี้ ขอแค่ใช้เงินเลี้ยงอย่างดี นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะตระกูลนิ่งมีเงินมากมาย
แต่หลินอิ่งอยากยุ่งเรื่องภายในของตระกูลนิ่ง ยังกล้าอวดดีต่อหน้านิ่งจองเต้าอีก
แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้ว
หลินอิ่งเป็นผู้อาวุโสจริง แต่ต้องรู้ว่า คุณเป็นเพียงพระที่เอาไว้บูชาเท่านั้น ยังคาดหวังอยากยึดอำนาจ สั่งการในตระกูลนิ่ง”
“ผู้อาวุโสหลิน ไม่ใช่ตระกูลนิ่งของเราไร้เยื่อใย แต่คุณทำเกินไป” นิ่งจองเสิ้งพูด เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจหลินอิ่งมาก “คุณมาตี้จิงครั้งแรก เอาบุญคุณเก่าของผู้อาวุโสท่านนั้นทำไว้ ตามทำใจชอบ กดขี่ข่มเหงคนของตระกูลนิ่ง”
“อีกอย่าง แม้กระทั่งคุณชายใหญ่นิ่งเซวียนคุณยังไม่เห็นเขาในสายตา ยังกล้าบังคับให้เขาคุกเข่า ยังเกือบฆ่าเขา คุณทำแบบนี้ คิดว่าตระกูลเราไม่มีคนเหรอ?” นิ่งจองเสิ้งจ้องด้วยความโกรธ พูดจาต่อว่า ถามหลินอิ่งต่อหน้า
“คุณรู้ไหม พฤติกรรมที่คุณทำตั้งแต่คุณมาตี้จิง มีผลกระทบต่อตระกูลนิ่งของเรา ใหญ่โตขนาดไหน? ตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงเราเป็นตระกูลระดับไหน ให้คุณมาทำแบบนี้ได้? ถ้าไม่ใช่เห็นแก่หน้าของผู้อาวุโสท่านนั้นในอดีต คุณอยู่ในเหตุการณ์เอาตัวรอดไม่ได้แล้ว ยังกล้าอวดดี บีบถามผู้นำตระกูลเราอีก?”
นิ่งจองเสิ้งจ้องหลินอิ่งสีหน้าเย็นชา พูดอย่างมั่นใจ “คุณต้องรู้ว่า บุญคุณที่อาจารย์ของคุณสร้างไว้ในอดีต ถูกคุณใช้หมดแล้ว”
นิ่งจองเสิ้งพูดคำพูดพวกนี้ออกไป ผู้นำทุกคนต่างพากันพยักหน้า เห็นด้วยอย่างยิ่ง
“พี่หกพูดมีเหตุผล ผู้อาวุโสหลิน คุณอย่ายึดเอาบุญคุณของอาจารย์คุณในอดีต ทำอะไรตามใจชอบ”
“ถูกต้อง หลินอิ่ง ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างอาจารย์คุณกับตระกูลนิ่ง ไม่ใช่ต้นทุนที่คุณจะมาอวดดีได้”
ทันใดนั้น ผู้นำตระกูลหลายคนก็พูดตามเห็นด้วย ต่างพากันตำหนิหลินอิ่ง
นิ่งจองเต้ามองหลินอิ่งอย่างสนุก เขาก็อยากดูว่า หลินอิ่งจะทำยังไง
ถ้าหากหลินอิ่งแม้แต่สถานการณ์แบบนี้ก็เอาไม่อยู่ เป็นแค่หมอนปักลาย แบบนี้ ก็ให้อะไรเขาไปหน่อย จากนั้น ค่อยหาโอกาสส่งคนไปจัดการ
หลินอิ่งยิ้มไม่พูด เขาอยากฟังดูว่า ปากของผู้นำพวกนี้ จะพูดอะไรที่เหนือคนทั่วไปได้บ้าง
คิดไม่ถึง ว่าจะพูดจาได้ตลกถึงขนาดนี้ ดูถูกเขาเหรอ?
ยังคิดว่าอาจารย์กับตระกูลนิ่งเป็นแค่ความสัมพันธ์ธรรมดา?
ปีนั้น อาจารย์ช่วยนิ่งซื่อแห่งตี้จิงไว้ทั้งตระกูล ก็เหมือนกับที่ตัวเองช่วยนิ่งซวยพูด แต่ว่าในอดีตอาจารย์เร่ร่อนไปทั่วทิศ รู้สึกชอบนิ่งไท่จี๋ ก็เลยช่วย
ลำพังแค่ตระกูลนิ่ง เป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น มีความสามารถอะไรมาคุยเรื่องความสัมพันธ์กับแก๊งมังกรได้?
แก๊งมังกรสำนักอู่เหมินสิบสอง เลือกออกมาแค่บ้านเดียว ก็มีอำนาจพอที่จะเหยียบตระกูลนิ่งบนราบได้ ไม่ใช่ระดับเดียวกันแม้แต่น้อย ไม่ใช่โลกเดียวกัน
“พวกคุณคงไม่ได้คิดว่า ผมหลินอิ่งยืนหยัดอยู่ได้ เพราะอาศัยความสัมพันธ์?” หลินอิ่งส่ายหัว “เรื่องราวของตระกูลนิ่งของพวกคุณ ผมไม่อยากยุ่ง แต่รู้สึกพวกคุณ เหมือนยังไม่รู้สถานการณ์นะ”
“พวกคุณจะคิดว่าความสัมพันธ์ของผมกับตระกูลนิ่งจะใช้หมดแล้วก็ช่าง” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “พวกคุณเข้าใจด้วยว่า ลำพังแค่ตระกูลนิ่ง ยังไม่มีสิทธิ์มาคุยเรื่องความสัมพันธ์กับผม”
“ลำพังแค่ตระกูลนิ่ง? ไม่มีสิทธิ์? หลินอิ่ง คุณนี่มันไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำนะ” นิ่งจองเสิ้งพูดอย่างโมโห “คุณคิดเหรอ ว่าลำพังคุณคนเดียว จะพลิกตระกูลนิ่งได้?”
“หลินอิ่ง พวกเราเรียกคุณว่าผู้อาวุโส ก็เพราะไว้หน้าอาจารย์ของคุณ อย่าคิดว่าเพราะกลัวคุณ”
“ตลกคนทั้งโลกแล้ว อยู่มาครึ่งค่อนชีวิต ยังไม่เคยเห็นคนอวดดีขนาดนี้”
“คุณคิดว่าที่นี่ที่ไหน? นี่มันตระกูลนิ่งแห่งตี้จิง วิลล่าไท่จี๋ กล้ามาอวดดีในตระกูลนิ่ง คุณนึกว่าตัวเองเก่งขนาดไหน? ฝีมือแค่นั้น ในสายตาคนตระกูลนิ่งแล้ว ก็เป็นแค่เรื่องตลก”
ผู้นำตระกูลที่นั่งอยู่หลายคนต่างพากันต่อว่าตำหนิ อย่างไม่เกรงใจ
ความเคารพที่พวกเขามีต่อหลินอิ่ง เพราะนิ่งจองเต้ากับนิ่งจองเป่าสั่งไว้ ตอนนี้ผู้นำทั้งสามคนแตกแยกกับหลินอิ่งแล้ว พวกเขาจะไปเกรงใจอีกทำไม?
โดยเฉพาะ พฤติกรรมดูถูกตระกูลนิ่งของหลินอิ่ง อวดดีเกินไป น่าตลกสิ้นดี
ถ้าหลินอิ่งเป็นคนฉลาดจริง ก็ควรเป็นพระให้เขาบูชาดีๆ กินดีอยู่ดี คนของตระกูลนิ่งยังคงเคารพเขาเหมือนเดิม ยังรนหาที่ตายมายุ่งเรื่องครอบครัวนิ่งซวน? เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และอำนาจของวงตระกูล มันไม่ใช่ไม่รู้จักแยกแยะเหรอ?
ก็ไม่รู้ว่า ผู้อาวุโสท่านนั้นในอดีต สอนลูกศิษย์โง่ขนาดนี้ได้ยังไง?
ทุกคนที่นั่งอยู่ ต่างก็มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าตลก และแววตาดูถูก
นิ่งจองเต้ายิ้มอย่างดูถูก ส่งสายตาให้เจียงกู่จื่อ
“หลินอิ่ง ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ยังไม่รู้จักถอยอีก ไม่รู้จักแยกแยะ ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะสั่งสอนแกแทนอาจารย์คนนั้นของแกละกัน สั่งสอนแก…..” เจียงกู่จื่อพูดอย่างเย็นชา กำลังจะเดินเข้าไปจัดการหลินอิ่ง สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างตกใจ
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้วยน้ำชาในมือหลินอิ่ง เริ่มมีไอร้อน น้ำในแก้วเริ่มเดือด
“นี่……” เจียงกู่จือสายตาตะลึง ไม่อยากเชื่อ คิดถึงเรื่องเล่าขานที่เคยได้ยินขึ้นมา
“ชานี้จะเย็น หรือจะร้อน ผมเป็นคนตัดสิน” หลินอิ่งจีบชาเล็กน้อย พูดอย่างเรียบเฉย “ตระกูลนิ่งของพวกคุณจะรุ่งหรือจะซวย ขึ้นอยู่กับผม”
“ในอดีต อาจารย์ผมช่วยประคับประคองตระกูลนิ่งของพวกคุณให้ยืนหยัดได้ วันนี้ ผมก็ทำให้ตระกูลนิ่งของพวกคุณคุกเข่าได้”
ทุกคนที่นั่งได้ยินคำพูดเย็นชานี้แล้ว รู้สึกหนาวไปทั้งตัว ขนลุกทันที
พวกเขาเห็นหลินอิ่งขมวดคิ้ว รู้สึกว่าจะฝนจะตกเป็นเลือดแล้ว มีความรู้สึกต้องมีศพนอนพื้นแน่