ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 325 สาวงามตี้จิงหาถึงที่
คู่หมั้น?
หลินอิ่งขมวดคิ้ว นี่มันค่อนข้างแปลก
ยิ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใจขนาดนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งบอกว่าตัวเองเป็นคู่หมั้นของเขา ถูซานคงไล่ออกไปตั้งนานแล้ว เกรงว่าคนที่มาก็คงไม่ธรรมดา
“ผมรู้แล้ว” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ วางสาย แล้วเดินเข้าอาคารซิงเฉิง
อีกด้านหนึ่ง ถูซานวางสาย เดินกลับไปที่ออฟฟิศประธาน
เก้าอี้ประธานในออฟฟิศ มีหญิงสาวหน้าตาสวยงามคนหนึ่งนั่งอยู่ รูปร่างสูง สวมชุดกระโปรงสีเขียว เผยรูปร่างอันสวยงามเข้ารูป หน้าตาสวยงาม ดวงตาสดใส บุคลิกเย็นชา ให้ความรู้สึกในแบบสาวโบราณ
ข้างกายสาวสวย มีบอดี้การ์ดสาวหน้าตาเย็นชาในชุดดำสองคน บุคลิกท่าทางเคร่งขรึม
“โทรหาหลินอิ่งแล้ว? เขาว่ายังไง?” สาวสวยเปิดปากถามเสียงเรียบ ระหว่างพูดก็มีบุคลิกความเป็นผู้นำเหนือกว่า
ถูซานเหงื่อท่วมหัว พูดว่า “คุณหนูจ้าว ท่านอิ่งน่าจะยุ่งอยู่ ไม่ได้รับโทรศัพท์”
หลินอิ่งไม่ได้สั่งอะไรไว้ เขาไม่กล้าพูดอะไรไปเรื่อย และไม่กล้าถาม
ปกติก็มีคุณหนูตระกูลมหาเศรษฐีในตี้จิงมากมาย อยากมา ทั่วไปแล้วก็ถูกเขาไล่กลับหมด
แต่คนที่มาในวันนี้ เขาถูซานไม่กล้าทำอะไรจริงๆ
คนนี้เป็นไข่มุกในกำมือของตระกูลจ้าวแห่งตี้จิง จ้าวหลินเอ๋อร์ ได้รับความรักความห่วงใยจากนายท่านจ้าว พ่อก็เป็นลูกชายคนโตของนายท่านจ้าว ควบคุมอำนาจของตระกูลจ้าว
ฐานะของหญิงสาวคนนี้ ถือว่าสูงสุดในตี้จิงแน่นอน ในตี้จิง จ้าวหลินเอ๋อร์มีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้คนต่างเรียกว่าสาวงามแห่งตี้จิง ความสามารถเกินคนธรรมดา ความงามไม่แพ้ใคร
โดยเฉพาะ จ้าวหลินเอ๋อร์ยังเรียกตัวเองว่าเป็นคู่หมั้นของท่านหลิน เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของท่านอิ่ง เขาถูซานไม่กล้าพูดอะไรไปเรื่อย จึงได้แค่พูดกล่อมอย่างดี
“ไร้น้ำยา” จ้าวหลินเอ๋อร์ต่อว่าถูซานอย่างเย็นชา “เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้? ฉีหยิ่นทำไมถึงมีลูกน้องไร้น้ำยาอย่างแก?”
“นี่……คุณหนูจ้าว ด้วยตำแหน่งของผมแล้ว จะไปรู้ว่าท่านอิ่งอยู่ไหนได้ยังไง ไม่รู้ว่าอยู่ไหนจริงๆ ไม่อย่างนั้น รอท่านอิ่งมีคำสั่งมา ผมจะรายงานท่านทันที” ถูซานพูดอย่างจริงจัง
จ้าวหลินเอ๋อร์ตาสวยเป็นประกาย พูดว่า “แล้วลูกพี่แกหยูจื๋อเฉิงละ? ช่วงนี้อยู่ไหน ทำไมต้องหลบหน้าฉัน?”
“หัวหน้าหยูกำลังจัดการเรื่องสำคัญอยู่ ผมก็ไม่ได้เจอหัวหน้าหยูมาสักพักแล้ว” ถูซานพูดตามความจริง
“เหอะ” จ้าวหลินเอ๋อร์ทำเสียงเย็นชา “นี่กำลังช่วยหัวหน้าแกกับท่านอิ่งโกหกเหรอ? คิดว่าฉันหลอกง่ายเหรอ?”
“หัวหน้าแกหยูจื๋อเฉิงซ่อนตัวก็แล้วไป พวกแกลูกน้องฉีหยิ่นแต่ละคน ต่างก็บอกฉันว่า ฉีหยิ่นไม่อยู่ตี้จิง?” จ้าวหลินเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าโมโห “แต่ว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันที่จงเทียนซิงเฉิง โครงการสตาร์ไลท์นั้น ใครเป็นคนทุ่มเงินทำ? ไม่ใช่ฉีหยิ่น หรือว่าลำพังคุณถูซานมีทรัพย์สินมากขนาดนี้?”
ถูซานเหงื่อท่วมหัว ในใจรู้ดีว่าเรื่องที่ท่านอิ่งมาตี้จิง ปิดจ้างหลินเอ๋อร์ไม่อยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้คอยสังเกตท่านอิ่งที่ตี้จิงตลอดเวลา สังเกตความเคลื่อนไหวของตระกูลฉี บวกกับอำนาจอันใหญ่โตของเขา ข่าวคราวรอบรู้อย่างดี
ความเป็นจริง หลายเดือนก่อนตอนที่ถูซานติดตามอยู่ข้างกายหยูจื๋อเฉิงเพื่อจัดการเรื่อง ก็เคยเจอกับจ้าวหลินเอ๋อร์แล้ว
ตอนนั้น จ้าวหลินเอ๋อร์เข้าไปหา แม้แต่หัวหน้าหยูยังต้อนรับอย่างระมัดระวัง ต้อนรับอย่างดี ไม่เคยพูดถึงตำแหน่งของท่านอิ่งเลย พูดเพียงแค่ว่าไม่อยู่ตี้จิง
จากนั้นไปสืบ จ้าวหลินเอ๋อร์กับท่านอิ่งมีเรื่องบางอย่างอยู่จริง เคยมีสัญญาหมั้นหมายกันจริง
ได้ยินว่า หัวหน้าหยูเคยไปถามนายท่านฉี ครั้งในอดีต นายท่านฉีเวิ่นติ่งเคยคุยเรื่องสัญญาหมั้นหมายของท่านอิ่งกับนายท่านจ้าว ต่อมาเพราะว่าท่านอิ่งออกจากตี้จิงไปแต่เด็ก เรื่องนี้จึงไม่ได้คุยกันต่อ
“ช่างเถอะ ฉันโทรหาฉีหยิ่นเอง ถามเขาเองว่าหมายความว่ายังไง” จ้าวหลินเอ๋อร์พูดเสียงเย็นชา สีหน้าไม่พอใจ
เธอเป็นสาวงามที่มีชื่อเสียงที่สุดในตี้จิง ชายหนุ่มตระกูลใหญ่โตที่อยากตามจีบเธอเข้าแถวกันยาวเหยียด ปรากฏว่า มาหาฉีหยิ่นครั้งแล้วครั้งเล่า กลับถูกขวางไว้นอกประตู
ไม่รู้ว่าฉีหยิ่นเล่นลึกลับอะไร มีกิจการใหญ่โตอย่างตระกูลฉี แต่ไม่เคยเผยโฉมหน้าในแวดวงสังคมตี้จิงเลย แม้แต่ลูกน้องที่คอยช่วยเขาดูแลกิจการ ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง
ที่น่าโมโหที่สุดก็คือ ยังบอกว่าฉีหยิ่นไม่อยู่ตี้จิง ปรากฏว่า ให้ลูกน้องทำโครงการสตาร์ไลท์ราคามหาศาลในจงเทียนซิงเฉิง ยังทำเรื่องจุดไฟเผาในตี้จิง ทำเรื่องจนครึกครื้นไปทั่วเมือง นี่ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าฉีหยิ่นทำโครงการนี้ให้ผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?
คิดถึงจุดนี้ จ้าวหลินเอ๋อร์ก็รู้สึกโมโห ไม่พอใจอย่างยิ่ง รู้สึกว่าฉีหยิ่นสวมเขาให้เธอ
ถึงแม้ว่าเธอกับฉีหยิ่นจะเคยเจอกันแค่ตอนเด็ก ไม่ได้เจอกันมาสิบกว่าปี แต่ไม่ว่ายังไงก็มีสัญญาหมั้นหมายจากนายท่านผู้มีอำนาจทั้งสอง จะให้ฉีหยิ่นทำอะไรตามใจชอบอยู่ข้างนอกแบบนี้ได้ยังไง?
หรือยังมีผู้หญิงคนไหนในประเทศหลุงที่สมบูรณ์แบบและสูงส่งกว่าจ้าวหลินเอ๋อร์อีก? ทำให้ฉีหยิ่นไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย?
“คุณหนูจ้าว นี่มัน ผมเอาเบอร์ให้คุณไม่ได้จริงๆ มือถือผมก็เป็นเบอร์ลับ” ถูซานสีหน้าลำบากใจ พูดอย่างลำบากใจ
“จับมันไว้” จ้าวหลินเอ๋อร์โบกมือ พูดอย่างเอือมระอา
เสียงดังฮวั๊ก บอดี้การ์ดสองคนข้างกายเธอก็ลงมือแล้ว ซ้ายคนขาวคน เข้าไปจับตัวถูซานไว้ กดตัวไว้บนโต๊ะ
จากนั้น บอดี้การ์ดสาวคนหนึ่งก็หยิบปืนออกมาจ่อไว้บนหัวของถูซาน บอดี้การ์ดอีกคนก็ค้นมือถือออกมาจากกระเป๋าของเขา ยื่นให้จ้าวหลินเอ๋อร์
“คุณ จ้าว คุณหนูจ้าว คุณทำแบบนี้เกินไปแล้ว” ถูซานพูดเสียงเคร่งเครียด รู้สึกอึดอัด “ถ้าทำให้ท่านอิ่งโกรธ ทางคุณก็อธิบายไม่ได้”
“หุบปากเดี๋ยวนี้” จ้าวหลินเอ๋อร์พูดอย่างไม่พอใจ “แกเป็นแค่ลูกน้องคนหนึ่งของฉีหยิ่นเท่านั้น ฉันเป็นอะไรกับเขา แกจะไม่รู้เลยเหรอ? ยังกล้าเอาฉีหยิ่นมาขู่ฉันอีก? รนหาที่ตายเหรอ?”
ถูซานสีหน้าเอือมระอา อยากพูดแต่ไม่กล้าพูด อดกลั้นเอาไว้ คิดในใจ ท่านอิ่งอยากพาคุณนายหลินมาจงเทียนซิงเฉิง ไม่รู้ว่าสมองจ้าวหลินเอ๋อร์คนนี้คิดอะไรอยู่
แน่นอน เขาไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้จ้าวหลินเอ๋อร์ฟัง ถ้าให้เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับคุณนายหลิน ทำให้คุณหนูจ้าวคนนี้โกรธขึ้นมา ด้วยนิสัยของจ้าวหลินเอ๋อร์แล้ว คาดว่าเขาต้องหัวแตกทันทีแน่
เสียงติ๊ดดังขึ้นสองครั้ง กดโทรออก
“ถูซาน โทรมาอีกทำไม?” ในโทรศัพท์นั้นเป็นเสียงของหลินอิ่ง
ได้ยินน้ำเสียงแล้ว จ้าวหลินเอ๋อร์ก็รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง ต้องเป็นฉีหยิ่นแน่นอน ผู้ชายคนนี้เคยได้รับโทรศัพท์ของฉีหยิ่นแล้ว รู้ว่าเธอมาหาเขา ยังกล้าไม่ใส่ใจเธออีก?
“ฉีหยิ่น ตอนนี้คุณอยู่ไหน?” จ้าวหลินเอ๋อร์ถามอย่างเย็นชา
“เธอคือใคร?” หลินอิ่งถามเสียงเรียบ
จ้าวหลินเอ๋อร์ขมวดคิ้ว โมโหจนตัวสั่น พูดด้วยความโกรธ “ฉัน ฉันคือ……ภรรยาของคุณ”