ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 343 คุณชายชีซิงกรุ๊ป?
เสียงพรึ๊บ แค่ชั่วครู่ บอดี้การ์ดชุดสูทสีหน้าเคร่งเครียดสิบกว่าคน ก็บุกเข้ามาล้อมโต๊ะของหลินอิ่งไว้
บอดี้การ์ดกลุ่มนี้จ้องหลินอิ่งสายตาเย็นชา พูดกันพึมพำด้วยภาษาเกาหลี
“นี่ หลินอิ่ง……” จางฉีโม่สีหน้าไม่ดี มองหลินอิ่งอย่างตื่นเต้น
หลินอิ่งตักเนื้อปลาให้ฉีโม่อย่างใจเย็น
“ไม่เป็นไร ฉีโม่ ชิมปลานี้ดู รสชาติใช้ได้” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
จางฉีโม่มองดูท่าทางใจเย็นของหลินอิ่ง ในใจก็รู้สึกปลอดภัยสบายใจขึ้น ก็กินอาหารอย่างวางใจ
เผียวจื้อจางสีหน้าไม่พอใจ จ้องหน้าหลินอิ่ง ทำเสียงไม่พอใจ
“พวกนาย หามไอ้นี่ออกไปเดี๋ยวนี้ อย่ามาขวางตาฉัน” เผียวจื้อจางพูดภาษาประเทศหลุง ยื่นมือชี้หน้าหลินอิ่ง
“คุณเผียว คุณอย่าทำอะไรไปเลื่อยนะ สองท่านนี้เป็นแขกคนสำคัญของตระกูลนิ่งเรา” นิ่งเฟิงเยว่รีบพูด ยืนอยู่ข้างหน้าหลินอิ่ง ห้ามปรามพวกบอดี้การ์ดไม่ให้เข้ามา
นิ่งเฟิงเยว่รู้จักผู้ชายเกาหลีคนนี้ดี ทำอะไรค่อนข้างอุกอาจอวดดี
ถ้าหากทำให้หลินอิ่ง ผู้อาวุโสแห่งตระกูลนิ่งโกรธขึ้นมา ผลลัพธ์ไม่อาจคาดคิดได้
“เหี้ย อะไรแขกคนสำคัญของตระกูลนิ่ง? มันคือตัวอะไร? ฐานะสูงส่งกว่าฉันเหรอ?” เผียวจื้อจางโวยวายเสียงดัง สีหน้าไม่พอใจ
พูดไป เผียวจื้อจางก็มองนิ่งเฟิงเยว่ด้วยสายตาชั่วร้าย “คุณหนูนิ่ง นี่เธอกำลังดูถูกชีซิงกรุ๊ปของเราเหรอ? ครั้งที่แล้วบอกให้มาดื่มเหล้ากับผมก็ไม่ยอม วันนี้แต่งตัวยั่วยุขนาดนี้ ยังมายกถ้วยเทน้ำชาส่งสายตาให้คนอื่น? อยากเสนอตัวให้มันเหรอ? มันเป็นใคร? แน่มากเหรอ?”
นิ่งเฟิงเยว่โดนคำพูดของเผียวจื้อจางทำให้หน้าแดง เธอเคยคิดว่าจะเสนอตัวให้หลินอิ่ง แต่ถูกหลินอิ่งปฏิเสธ
“คุณเผียว พูดจาระวังคำพูดด้วย ฉันว่าคุณเมาแล้ว ถ้าโวยวายแบบนี้ต่อ เดี๋ยวคุณจะจบไม่สวย” นิ่งเฟิงเยว่พูดจริงจัง
“พูดมากจริงๆ ฉันว่าธุรกิจระหว่างพ่อเธอกับชีซิงกรุ๊ป ไม่ต้องคุยแล้ว ต้อนรับอะไรกันเนี่ย” เผียวจื้อจางพูด สีหน้ายโสโอหัง
พูดไป หน้าอันอวบอ้วนของเผียวจื้อจางก็ยิ้ม หันไปมองจางฉีโม่ ยื่นมือจะไปจับหน้าเธอ
“สาวสวยท่านนี้ ผมชื่อเผียวจื้อจาง มาจากประเทศเกาหลี เป็นคุณชายของชีซิงกรุ๊ป รู้จักกันหน่อยได้ไหม?”
เผียวจื้อจางหน้าตาแบบคนเกาหลีทั่วไป ท่าทางน่าขยะแขยง
จางฉีโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่หลินอิ่ง พูดว่า “คุณ ฉันไม่รู้จักคุณ ช่วยเคารพกันด้วย”
“เคารพกันเหรอ? คุณชายอย่างฉันถูกใจสาวประเทศหลุงอันต่ำต้อยอย่างเธอ ถือว่าบุญของเธอแล้ว ผู้หญิงประเทศหลุงอย่างพวกเธอ ทุกครั้งก็แกล้งทำเป็นไร้เดียงสาไม่ยอมขึ้นเตียง พอเห็นอำนาจเงินทองของฉันแล้ว ก็ยอมขึ้นเตียงอย่างเชื่อฟัง ฉันว่าเธอก็เหมือนกัน?” เผียวจื้อจางพูดอย่างไม่พอใจ สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ
“ไอ้ผู้หญิงสำส่อนยังทำตัวไร้เดียงสา ยอมฉันดีๆ” เผียวจื้อจางสายตาเต็มไปด้วยความโมโห ยกมือจะตบหน้าจางฉีโม่
เพี๊ยะ
หลินอิ่งลุกขึ้น หยิบถ้วยบนโต๊ะใบหนึ่ง ตบไปที่หน้าของเผียวจื้อจาง
เสียงแพร้งพร้าง เผียวจื้อจางล้มตีลังกา กลิ้งอยู่บนพื้น ท่าทางซมซาน
ถ้วยตบเข้าที่หน้าเขา หัวถูกกระแทกจนมีรอยเลือด มีเลือดซึมออกมา หน้าแดงแสบร้อน มีเม็ดข้าวติดอยู่ด้วย ดูแล้วน่าตลก
เผียวจื้อจางเจ็บจนร้องโอดโอย พูดภาษาเกาหลียาวเหยียด
“กล้าทำร้ายฉัน พวกนายเอาไอ้นี่ให้ตายไปเลย”
เสียงดังฮวั๊ก บอดี้การ์ดเกาหลีสองคนพุ่งเข้าหาหลินอิ่ง หลินอิ่งสะบัดมือ จับไหล่ของพวกเขาไว้ วินาทีเดียว ก็ทำให้ไหล่ของทั้งสองหัก ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ล้มนอนไปกับพื้น
“นี่มัน”
คราวนี้ ทำให้กลุ่มบอดี้การ์ดเกาหลีของเผียวจื้อจางตะลึงไปทันที มองหลินด้วยความหวาดกลัว
ทันใดนั้น ทุกคนก็ยื่นมือเข้ากระเป๋าตัวเอง ทำท่าจะหยิบปืนพร้อมกันทุกคน
ปังปังปังปัง
ปืนของพวกเขายังไม่ได้หยิบออกมา หลินอิ่งขยับตัว พุ่งออกไปตั้งนานแล้ว เสียงหมัดดังขึ้น เสียงลมกระแทกกัน เข้าเนื้อทุกหมัด เพียงเสี้ยววินาทีบอดี้การ์ดเกาหลีก็ล้มลงกับพื้นทุกคน
“เอื้อกอ๊าก”
“อู๊ด”
บอดี้การ์ดนอนอยู่กับพื้น ร้องด้วยความเจ็บปวด
ในสายตาพวกเขาทุกคน เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ชายหนุ่มประเทศหลุงคนนี้เก่งกาจมาก หมัดเดียวลงมาท่าทางของเขายังมองไม่ชัด ก็ทำเอาพวกเขาแต่ละคนเหมือนถูกรถชน กวาดเรียบทุกคนซึ่งเป็นบอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี เจ็บปวดเหมือนกระดูกแยกออกจากกัน
“อ๊าก แกเป็นใคร” เผียวจื้อจางร้องอย่างตกใจ มองหลินอิ่งอย่างไม่น่าเชื่อ
หลินอิ่งสายตาเย็นชา ตบฝุ่นในมือ
มื้ออาหารดีๆ ถูกไอ้หน้าโง่นี่ทำลายหมด
“เมายังไม่ตื่นใช่ไหม? ผู้หญิงของฉันแกยังกล้าแตะ?” หลินอิ่งมองเผียวจื้อจางสายตาเย็นชา หยิบกาน้ำชาขึ้น
“แก แกเป็นใคร? ฉันบอกแกนะ ฉันเป็นคุณชายของชีซิงกรุ๊ป ชีซิงกรุ๊ปเคยได้ยินไหม?” เผียวจื้อจางพูดอย่างไม่พอใจ
“กล้าทำร้ายฉัน แกคุกเข่าขอโทษฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น ถ้าฉันบอกพี่ชายฉันเมื่อไหร่ แกได้ตายแน่” เผียวจื้อจางโวยวายเสียงดัง ท่าทางอวดดีไม่กลัวใคร
“คุณชายชีซิงกรุ๊ป?” หลินอิ่งยิ้มมุมปาก
หลินอิ่งยื่นมือ ดึงตัวเผียวจื้อจาง กดหน้าอ้วนเหมือนหมูของเขาไว้บนโต๊ะ
จากนั้น หลินอิ่งสะบัดมือ ก็เอากาน้ำชาร้อนทับไว้บนฝ่ามือของหลินจื้จาง น้ำชาที่ร้อนระอุก็เทลงไป
“อู๊ดอ๊าก”
เผียวจื้อจางร้องเสียงดังเหมือนหมูถูกเชือด ฝ่ามือแดงบวมขึ้นทันทีเมื่อถูกน้ำร้อนลวก อยากดึงแขนที่สั่นด้วยความเจ็บปวดกลับ แต่ถูกหลินอิ่งกดไว้ขยับไม่ได้
หน้าตาเขาบูดเบี้ยว เนื้อตัวสั่นไปทั้งร่าง เจ็บจนสูญเสียความรู้สึกไปแล้ว
“ฉันไม่สนว่าแกเป็นใคร จำไว้ ของบางอย่าง แกแตะต้องไม่ได้” หลินอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย น้ำเสียงเย็นชาจนทำให้คนฟังตัวสั่น
“ฉัน ฉัน……”
เผียวจื้อจางปากกระตุก พูดอย่างกล้าๆกลัวๆ
น้ำชาร้อนเทลงมาแบบนี้ ทำให้มือของเขาบวมเหมือนขาหมู พุพองเป็นหนองน้ำ ดูน่ากลัว
เวลาเดียวกัน ถูกน้ำร้อนสาดลงไป หน้าของเผียวจื้อจางที่มีอาการเมาก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว ปกติขึ้นไม่น้อย ทำให้เขาตื่นจากอาการเมาแล้ว
“อ๊ากอ๊าก แกกล้าทำลายมือฉัน ฉัน ฉันจะฆ่าแก” เมื่อเผียวจื้อจางเริ่มตื่นจากอาการเมา สายตาก็เต็มไปด้วยความโกรธ โวยวายเสียงดัง
“ฉันเป็นคุณชายของชีซิงกรุ๊ปแห่งเกาหลี กล้าทำร้ายฉันเหรอ แกตายแน่”
เพี๊ยะ
หลินอิ่งสะบัดมือตบหน้าเผียวจื้อจาง ตบหน้าเขาเลือดอาบปาก ฟันหลุดไปสองซี่
“ร้องอีก ตาย” หลินอิ่งพูดสั้นๆอย่างเย็นชา ทำให้เผียวจื้อจางตกใจรีบหุบปาก สายตาหวาดกลัว
อะไรชีซิงกรุ๊ปนั่น หลินอิ่งฟังจนเบื่อ
เกาหลีชีซิงกรุ๊ปชื่อดังค่อนข้างดัง เป็นหนึ่งในสามของบริษัทระดับใหญ่ในเกาหลี ครอบคลุมแวดวงการเมือง กฎหมาย ธุรกิจ โลกแห่งความมืด หนึ่งในบริษัทควบคุมวงการธุรกิจที่อยู่เบื้องหลัง
สิ่งที่โด่งดังที่สุดของชีซิงกรุ๊ปก็คือวิจัยและผลิตมือถือชีซิง มียอดขายและชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก
แต่ว่า หลินอิ่งไม่เคยสนใจเบื้องหลังอำนาจหรือบริษัทใดๆทั้งนั้น
คนเกาหลีคนนี้อย่างลงไม้ลงมือกับฉีโม่ ก็คือรนหาที่ตาย
“ประธานหลิน นี่ ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?”
เวลานี้ นิ่งจองอู่ที่ได้ยินเสียงร้องของเผียวจื้อจาง ก็รีบวิ่งเข้ามาดู มองภาพนี้ด้วยสีหน้าตื่นเต้น