ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 347 เวลาของผมกับภรรยามีค่ามาก
“ก็พูดเรื่องเหตุผลกับคุณไง” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา
“ทางที่ดีแกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ อยากฉีกหน้ากันใช่ไหม ทำฉันโมโห ตระกูลนิ่งก็ช่วยอะไรแกไม่ได้” เผียวซิ่วชวนพูดอย่างไม่พอใจ ต้องหลินอิ่งสายตาเย็นชา
เป็นคุณชายของชีซิงกรุ๊ป เขายังไม่เคยถูกใครเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อน
เพี๊ยะ
หลินอิ่งตบหน้าเผียวซิ่วชวน ตบจนเขาหน้าแดงบวม รอยฝ่ามือติดอยู่บนหน้า
“อ๊าก แก”
“กล้าทำร้ายคุณชายของพวกเรา แกอยากตายใช่ไหม?”
ลูกน้องที่เผียวซิ่วชวนพามา สีหน้าโกรธแค้น จ้องหน้าหลินอิ่งอย่างโมโห
ส่วนนิ่งจองอู่กับนิ่งเฟิงเยว่ สีหน้าตกใจ
พวกเขาคิดไม่ถึงเลย หลินอิ่งจะลงมืออย่างไร้วี่แววแบบนี้ เข้าไปก็ตบเผียวซิ่วชวนจนหน้างง
ตบลงไปครั้งนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็ตกใจจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
คนนี้เป็นถึงคุณชายชีซิงกรุ๊ป ตบเข้าที่หน้าของเขา นี่ก็หมายถึงมีเรื่องไม่จบไม่สิ้นกับชีซิงกรุ๊ปเหรอ?
อำนาจของชีซิงกรุ๊ปไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แม้แต่ตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงก็ต้องเกรงกลัว
ประธานหลินใจกล้าไหม
“แก แกต้องการอะไร? จะพูดเหตุผลอะไร?” เผียวซิ่วชวนพูดเสียงเฉียบขาด สีหน้าโมโห เหมือนถูกกระทำอย่างรุนแรง
เมื่อกี้ตอนเขาถูกหลินอิ่งเหวี่ยงไปบนโต๊ะ เรี่ยวแรงบางอย่างทะลุไปทั่วร่าง รู้สึกปวดไปทั้งร่าง ขยับไม่ได้ ไม่มีแรงเลยแม้แต่น้อย
“ผมต่อยน้องชายคุณ คุณบอกจะพูดเหตุผล ต้องการเงินสองร้อยล้าน ผมเป็นคนชอบพูดเหตุผล ก็ชดใช้ให้คุณ” หลินอิ่งค่อยๆพูด “ส่วนคุณกับน้องชาย รบกวนเวลากินข้าวของผมกับภรรยา”
“เวลาของผมกับภรรยามันมีค่ามาก” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “พวกคุณสองคน ทำให้ผมเสียเวลาหนึ่งชั่วโมง”
“เอ่อ……แกจะเอาเงินค่าชดใช้เหรอ?” เผียวซิ่วชวนคำพูดอ่อนลง กัดฟันพูด “ได้ บอกตัวเลขมา ฉันชดใช้ให้ เช็คเงินสองร้อยล้านที่แกให้มา ฉันคืนให้”
เผียวซิ่วชวนแสดงออกเหมือนยอมอ่อนลง ในใจโกรธแค้น แม่งเอ้ย มาไม้นี้
หลินอิ่งคนนี้ตั้งใจแกล้งเขาชัดๆ ยังกล้าตบหน้าเขา
ตอนนี้ทนไว้ก่อน รอมีโอกาส ต้องเอามันให้ตายแน่
“หนึ่งชั่วโมง ห้าแสนล้าน” หลินอิ่งพูดเสียงเย็นชา
“ห้าแสนล้าน?” เผียวซิ่วชวนปากกระตุก “แกล้อเล่นอะไร?”
ห้าแสนล้าน? นี่ไม่ใช่แค่โกงแล้ว? ปล้นธนาคารยังไม่ขนาดนี้
ชีซิงกรุ๊ปเป็นบริษัทระดับประเทศจริง มูลค่าบริษัทก็ไม่ได้มีแค่ห้าแสนล้าน
แต่ว่า แม่งเอ้ย คนทั่วโลกจะมีกี่คนที่มีเงินสดหมุนเวียนได้ถึงห้าแสนล้าน? ประเทศมีเครื่องผลิตธนบัตรก็ไม่กล้าเล่นกันแบบนี้?
“ผมเป็นคนมีเหตุผล พูดไปแล้ว คุณไม่ฟัง?” หลินอิ่งยิ้มเย็นชาที่มุมปาก “ผมให้เวลาหนึ่งนาทีในการโอนเงิน เกินสิบวินาที ผมก็หักนิ้วคุณหนึ่งนิ้ว”
เผียวซิ่วชวนรู้สึกถูกเหยียดหยาม หลินอิ่งแกล้งเขาเหมือนปัญญาอ่อน
แม่งเอ้ย จัดการหาเงินสดห้าแสนล้านภายในหนึ่งนาที? มีใครทำได้บ้าง?
อีกอย่าง เหตุผลการชดใช้ก็ไร้สาระสิ้นดี เพราะทำให้เขาและภรรยาเสียเวลาในการกินข้าวหนึ่งชั่วโมง?
นี่มันเหตุผลอะไร?
“ไอ้บ้าเอ้ย แกนี่มันหาเรื่องกันชัดๆ” เผียวซิ่วชวนทนความโกรธไม่ไหว ระเบิดออกมาทันที
“เหอะ ยังรู้อีกเหรอ ผมหาเรื่องคุณ?” หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา
“ถึงเวลาแล้ว”
ปัง
หลินอิ่งกดนิ้วของเผียวซิ่วชวน เหวี่ยงมืออีกข้าง ผ่าลงไปอย่างแรงที่นิ้วของเผียวซิ่วชวน
เสียงดังคั๊ก เสียงกระดูกแตกดังขึ้น
“เอื๊อก อ๊าก”
เผียวซิ่วชวนสีหน้าซีดขาว เงยหน้าร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ร่างสั่นกระตุกอย่างรุนแรง
นิ้วของเขา เปลี่ยนรูปงอไม่เป็นรูป เลือดซึมออกมา ถูกหลินอิ่งทำลายอย่างสิ้นเชิงแล้ว
“แก……แก” เผียวซิ่วชวนพูดเสียงสั่น มองหลินอิ่ง เหมือนมองปีศาจ
คนคนนี้ โหดเหี้ยมมาก
สิบนิ้วเชื่อมกับหัวใจ ถูกเขาใช้ฝ่ามือทำจนหักอย่างเจ็บปวด ทำให้เผียวซิ่วชวนรู้สึกหัวชาไปหมด ทรมานที่สุด
หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “ถนอมเวลาด้วย นิ้วที่สอง เหลืออีกห้าวินาที”
“ปล่อยฉันไปเถอะ” เผียวซิ่วชวนขอร้องด้วยน้ำเสียงจะร้องไห้ ปล่อยวางความเย่อหยิ่งยโสของคุณชายชีซิงกรุ๊ป “ฉันขอโทษนาย ฉันผิดไปแล้ว จะเอาเงินชดใช้ไม่ใช่เหรอ? ฉันให้ได้ บอกตัวเลขมาเลย”
ปัง
หลินอิ่งดึงนิ้วของเผียวซิ่วชวนออกมาอีกหนึ่งนิ้ว ฝ่ามือผ่าลงไป
เผียวซิ่วชวนร้องโอดโอยเหมือนหมูถูกฆ่า ถูกหักไปอีกหนึ่งนิ้ว เลือดในมือไหลลงมา สีหน้าซีดขาว ดูแล้วน่าสมเพช
“ปล่อยฉันไปเถอะ จริงๆ อย่าทำร้ายอีกเลย ทำต่อไปต้องตายแน่” เผียวซิ่วชวนขอร้องด้วยสีหน้าทรมาน ทนรับความเจ็บปวดไม่ไหวแล้ว
นี่มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่ใช่คนจะทนรับได้ หลินอิ่งทรมานเขาอย่างกับหมูกับหมา
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย
ตอนที่เผียวซิ่วชวนสองพี่น้องมารบกวนเวลากินข้าวของเขากับฉีโม่ ก็เป็นอันตัดสินแล้ว ว่าคืนนี้พวกเขาเดินออกไปไม่ได้แน่
“บอกตัวเลขมาเลย ฉันยอมจ่ายเงิน อย่าทรมานฉันอีกเลย” เผียวซิ่วชวนน้ำตาไหล พูดอ้อนวอนขอร้อง
หลินอิ่งไม่ได้สนใจคำขอร้องของเผียวซิ่วชวน กำมือแน่น นิ้วกลางนูนขึ้น จับมือของเผียวซิ่วชวนไว้ ทุบลงไปอย่างแรง
คั๊ก
ใช้แรงทุบลงไป เสียงกระดูกแตกดังกึกก้อง ทุบมือของเผียวซิ่วชวนจนแบน แบนอยู่บนโต๊ะบูดเบี้ยวเปลี่ยนรูปอย่างกับแผ่นโรตี เลือดไหลทั้งห้านิ้ว ย่ำแย่ซมซาน
“เอื้อก อ๊าก”
เผียวซิ่วชวนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ร้องจนเสียงแหบ
หลินอิ่งนั่งลงที่เก้าอี้ ยกน้ำชาขึ้นมาดื่ม พูดอย่างใจเย็น “คุณทำให้ผมเสียเวลา ผมก็จะเอาชีวิตคุณ”
“ไม่ ไม่ ขอร้องปล่อยผมไปเถอะ” เผียวซิ่วชวนหายใจหอบ พูดด้วยหน้าซีด “ขอโทษ ผมไม่ควรรบกวนเวลากินข้าวของคุณกับภรรยา ให้โอกาสผมด้วย ผมโทรหาพ่อผม เงิน ผมชดใช้ให้คุณ…..