ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 387 เพื่อนเก่าคนหนึ่ง?
“เวทีมวย?” หลินอิ่งมุมปากยิ้มขึ้น “นายมีสิทธิ์ขึ้นเวทีมวยกับฉัน?”
“”แกพูดอะไร?” โม่เก๋อติงจ้องหลินอิ่งสายตาเย็นชา “แกนี่มันช่างอวดดีจริงๆนะ? แกคิดว่าตัวเองเก่งกาจไร้คู่ต่อสู้เหรอ?”
“ประธานโม่ ฉันว่าไอ้บ้านนอกนี่มันกลัวแล้ว ยังแกล้งทำเป็นยอดฝีมือเก่งกาจอีก”
หนีซิงพูดจาเสียดสี “ความคิดมันแค่นี้ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง ปากแข็ง ทั้งๆที่กลัวลูกน้องของประธานโม่ฝีมือดี ทำจนมันพิการ”
“ฮาฮา หนีซิงพูดถูก” โม่เก๋อติงหัวเราะ มองหลินอิ่งด้วยสายตาหยอกล้อ “แกไม่กล้าก็พูดมาตามตรง กลัวแล้ว? แกเห็นหรือยัง แม้แต่ผู้หญิงประเทศหลุงของพวกแกยังดูถูกไอ้ขี้ขลาดอย่างอก ฉันบอกจะซ้อมแกให้พิการ แกไม่กล้าแม้แต่ขึ้นเวที?”
พูดไป โม่เก๋อติงก็จุดซิการ์อีกมวนอย่างสบายใจ มองไปที่คริส พูดว่า “คริส อย่าบอกว่าฉันไม่ให้โอกาสนาย สู้กันอย่างผ่าเผยบนเวที ขอเพียงพวกแกมีความสามารถเอาชนะลูกน้องฉันได้ บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินให้นายก็ได้”
“การแข่งขันบนเวที พวกแกคงไม่ใช่ไม่กล้าหรอกนะ?” โม่เก๋อติงพูดจาเสียดสี “ถ้าเป็นแบบนี้ นายทุนใหญ่ที่อยู่หลังแก ก็ขยะไปไหม เรื่องแค่นี้ยังไม่กล้าเล่น?”
คริสสีหน้าเคร่งเครียด ไม่รู้ว่าโม่เก๋อติงจะเล่นไม้ไหนอีก กลับคิดจะเอาการต่อสู้บนเวลามาตัดสินว่าใครจะได้บริษัท หรือว่าโม่เก๋อติงไปเชิญยอดฝีมือที่เก่งกาจมาจากไหน? มั่นใจว่าจะชนะแน่นอน
“ประธานหลิน ท่านว่า……” คริสหันไปมองหลินอิ่งสีหน้ากังวล
การตัดสินใจสุดท้าย ต้องรอประธานหลินเป็นคนตัดสิน
เขาเป็นลูกน้องเท่านนั้น จะไปกล้าตัดสินใจได้อย่างไร
“อือ? ประธานหลิน?” โม่เก๋อติงหันไปมองหลินอิ่ง สีหน้าสงสัย
เขาสังเกตเห็นรายละเอียดนี้ คริสเรียกหนุ่มประเทศหลุงคนนี้ว่าประธานหลิน ท่าทางเคารพเกรงใจ?
แม้แต่เรื่องพนันขึ้นเวทีต่อสู้ คริสยังไม่กล้าตัดสินใจ ยังต้องถามเด็กหนุ่มคนนี้?
เป็นคู่แข่งเก่าแก่ของคริส โม่เก๋อติงรู้นิสัยของคริสดี
คริสเป็นลูกครึ่งลาตินอเมริกา เกิดในครอบครัวที่ถือว่าค่อนข้างรวย มีศักดิ์ศรีสูงส่ง คิดว่าตัวเองอายุมากกว่าเห็นอะไรมากเยอะ ชอบคิดว่าตัวเองอายุเยอะรู้เยอะแล้วดูถูกคนอื่น
คราวนี้ คริสกลับก้มหัวให้กับเด็กที่อายุน้อยกว่าเขาตั้งยี่สิบสามสิบปี ยังเป็นคนประเทศหลุง? นี่ก็น่าแปลกใจมาก
นอกจาก เด็กหนุ่มประเทศหลุงคนนี้มีความสามารถที่สามารถกดทับคริสไปเลย ถึงทำให้คริสทิ้งศักดิ์ศรีทุกอย่างทิ้ง มาติดตามคนที่เก่งกว่า
หรือว่า ประธานหลินประเทศหลุงคนนี้ ก็คือนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังคริส?
โม่เก๋อติงสำรวจดูหลินอิ่งใหม่อีกครั้ง ในใจกำลังครุ่นคิด
“แกมาจากไหนกันแน่? ฐานะอะไร?” โม่เก๋อติงจ้องหน้าหลินอิ่ง เปิดปากถาม “เมื่อก่อนฉันไม่เคยเจอแกมาก่อนเลยใช่ไหม? ไม่รู้ว่าทำไมแกต้องไปช่วยคริส?”
“ฐานะผม คุณไม่มีสิทธิ์รู้” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “คุณอยากขึ้นเวทีมวย? คิดอยากรนหาที่ตาย ผมก็จะทำให้คุณสมหวัง”
“ฉันไม่มีสิทธิ์? ฉันไม่คู่ควร? แกไอ้ลิงประเทศหลุง อวดดีไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ” โม่เก๋อติงโมโหมาก รู้สึกว่าหลินอิ่งกำลังดูถูกเขา “ฉันไม่สนว่าแกเป็นเทวดามาจากไหน วันนี้แกตายแน่”
ตอนแรกโม่เก๋อติงอยากทดลองถามดู ทำความเข้าใจกับฐานะเบื้องหลังของหลินอิ่ง จะได้จัดการอย่างระวัง
แต่ว่า ท่าทางหลินอิ่งที่ดูถูก ทำให้เขาโมโห รู้สึกว่าตัวเองถูกเหยียดหยาม
“คริส ไม่รู้ว่าแกไปหาคนอวดดีขนาดนี้มาจากไหน คิดว่าเขาคุ้มหัวแกได้? เหอะเหอะ” โม่เก๋อติงหัวเราะเย็นชา “ไอ้แซ่หลิน วันนี้ฉันจะรอดูว่า ใครกันแน่ที่รนหาที่ตาย”
“เวลา สถานที่” หลินอิ่งพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
“ก็ในอาคารสุ่ยจิน เมื่อไหร่ก็ได้” โม่เก๋อติงพูดเสียงเย็นชา ในสายตามีแววแห่งความโหดเหี้ยมและได้ใจ
เขาเป็นคนเสนอเรื่องเวทีมวยเอง ก็ต้องเชิญยอดฝีมือที่เก่งกาจมาแน่นอน
ความสามารถของหลินอิ่ง สามารถทำให้บอดี้การ์ดผิวดำของเขาเฟยบี่พ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
แต่ว่า คนที่เขาเชิญมาในวันนี้ แม้แต่เฟยบี่สิบคนก็สู้ไม่ได้
หลินอิ่งพูดเรียบเฉย “งั้นก็เรียกคนของคุณมา”
“เหอะเหอะ คุณหลิน มีความมั่นใจมากเลยนะ? คุณคงไม่ได้คิดว่าฮาเดสจะช่วยคุณขึ้นเวทีต่อสู้ได้หรอกนะ? หรือว่าคุณจะขึ้นเวทีเอง?” โม่เก๋อติงพูดด้วยสีหน้าหยอกล้อ “คืนที่ที่เวทีใต้ดิน มีคนใหญ่คนโตในเมืองก่างมาร่วมงานมากมาย ต้องสนุกแน่นอน”
“แต่ก่อนอื่น ผมยังมีเพื่อนเก่าของคริส จะแนะนำให้พวกคุณรู้จัก”
กำลังพูด ก็มีบอดี้การ์ดต่างชาติชุดดำค่อยๆเดินเข้ามา บอดี้การ์ดสองคนเดินอยู่ตรงกลางเข็นรถเข็นคันหนึ่ง
บนรถเข็นเป็นชายลูกครึ่งหน้าซีด ใช้สายตาอันอาฆาตจ้องหน้าคริส
“คริส คุณคงไม่ลืมหรอกนะ เซียวจวง คุณชายเซียว?” โม่เก๋อติงพูดด้วยสีหน้าล้อเล่น
คริสเห็นชายลูกครึ่งที่อยู่บนรถเข็น ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่หลินอิ่ง
“ประธานหลิน เซียวจวนมาแล้ว…….ก่อนหน้านี้ผมเคยรายงานแล้ว เซียวซื่อกรุ๊ปประเทศMในเมืองก่าง มีอำนาจไม่น้อย ก่อนหน้านี้ยังมีปฏิบัติการลอบฆ่าผมไปครั้งหนึ่ง แต่ถูกผมจัดการเรียบร้อยแล้ว” คริสรายงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
หลินอิ่งมองไป เซียวจวนที่นั่งอยู่บนรถเข็นตะลึง จากนั้นก็กลายเป็นสายตาอันโกรธแค้น
“คุณยังกล้ามาแสดงตัวต่อหน้าผมอีก?” หลินอิ่งมองไปที่เซียวจวนสายตาเรียบเฉย “ลืมไปแล้วเหรอว่าผมเคยพูดอะไร? กล้าเข้ามาในประเทศหลุงอีกก้าวเดียว ได้ตายไร้ที่ผังแน่”
ตอนอยู่ที่เมืองชิงหยูน เซียวจวนคอยหาเรื่องตลอด สุดท้ายโดยเขาพลิกสถานการณ์ ทำให้เซียวจวนท่อนล่างพิการไป สั่งคนส่งกลับประเทศM
คิดไม่ถึง ว่าเซียวจวนนี่ยังไม่ตายใจ ครั้งนี้ยังมาถึงเมืองก่าง?
“เหอะ คิดไม่ถึงว่าไอ้ลูกเขยไร้น้ำยาอย่างแกจะมาถึงเมืองก่าง ครั้งที่แล้วที่เมืองชิงหยูนเพราะติดกับดักแก อย่าคิดว่ามีคริสคอยช่วยแก แกก็จะต่อต้านเซียวซื่อกรุ๊ปได้” เซียวจวนมองหลินอิ่งสายตาอาฆาต “ในถิ่นเมืองก่างนี้ ฉันจะดูว่าแกจะทำอะไรได้อีก”
ตอนที่เซียวจวนเห็นหลินอิ่งนั้น รู้สึกตกใจ ในใจยังมีความหวาดกลัวที่หลินอิ่งทำไว้ จากนั้นไฟแรงอาฆาตอยากแก้แค้นก็ลุกขึ้น
ตอนแรกเขาฟังโม่เก๋อติงพูด คริสมาที่เมืองก่าง จึงตัดสินใจร่วมมือกับโม่เก๋อติงเพื่อจัดการคริส
แต่คิดไม่ถึง คู่แข่งอย่างหลินอิ่งก็มาเมืองก่าง
“พอดีเลย แกกับคริสมากันพร้อมแล้ว ฉันจะนำสิ่งที่ได้เจอ คืนกลับไปให้พวกแกร้อยเท่า” เซียวจวนพูดด้วยสีหน้าอาฆาต
“คุณชายเซียว คนนี้ก็คือไอ้หนุ่มที่ทำให้ท่านพิการ ที่ท่านพูดก่อนหน้านี้?”
ข้างกายเซียวจวน มีชายวัยกลางคนที่ท่าทางไม่ธรรมดายืนอยู่ สวมชุดจีนโบราณสีเขียว สายตาเฉียบคมดั่งมีด ดูก็รู้ว่าเป็นยอดฝีมือด้านกังฟู