ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 400 เหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“คุณหนูจ้าว เรื่องที่คุณสั่ง ผมจะจัดการให้เรียบร้อย” ในโทรศัพท์ เป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่หนักแน่น
“ดีมาก” จ้าวหลินเอ๋อร์พยักหน้า จากนั้นก็วางโทรศัพท์
“นี่……คุณหนูจ้าว คุณจะลงมือกับคุณนายหลิน?” เสิ่นซานเหงื่อท่วมหัว “คุณทำแบบนี้ ประธานหลินกลับมา ต้องโมโหแน่นอน”
“คุณหนูจ้าว พวกคุณกักขังเราสองคน ไม่เกรงใจกับเราสองคนก็แล้วไป แต่ว่า ทางด้านคุณนายหลิน ผมว่าคุณเบาๆหน่อยนะครับ” เจียงฉีพูดอย่างจริงจัง
พวกเขาสองคนรู้นิสัยหลินอิ่งดี
นิสัยประธานหลินเหนือคนทั่วไป ไม่ค่อยติดใจอะไรกับคนอื่นง่ายๆ และไม่ค่อยมีเรื่องอะไรที่ชอบเอาไปใส่ใจ
แต่ว่า จุดอ่อนของประธานหลินก็คือจางฉีโม่ เตะต้อง เป็นตาย
ถึงจะไม่รู้ว่าคุณหนูจ้าวแห่งตี้จิงคนนี้ที่มาอย่างรุนแรง มีความสัมพันธ์อะไรที่ไม่ชัดเจนกับประธานหลิน
แต่ว่า พวกเขาสองคนรู้ดี ไม่ว่าเป็นใคร กล้าคิดอะไรกับคุณนายหลิน ต้องสร้างความโมโหให้ประธานหลินแน่นอน
ชายทั่วไปโมโห ก็แค่ชกต่อยกลางถนน ส่วนคนเชื้อสายมังกรดังประธานหลินนี้ ขอแค่โมโหขึ้นมา ต้องเลือดไหลเป็นแม่น้ำแน่
“คุณนายหลิน? พวกคุณเป็นใคร?”
จ้าวหลินเอ๋อร์หันกลับไป หันไปมองเสิ่นซานสองคนด้วยสีหน้าเย็นชา บนใบหน้ามีแววแห่งความโมโห
“คุณหนูจ้าว บางทีคุณอาจจะไม่รู้ คุณนายหลินจางฉีโม่สำหรับประธานหลินแล้ว สำคัญแค่ไหน” เจียงฉีก็พยายามห้าม “ถ้าหากคุณนายหลินมีอะไร เกรงว่า ประธานหลินคงต้องให้เลือดอาบตี้จิง……”
เสิ่นซานทั้งสองคนรู้ดี ประธานหลินช่วยพวกเขาสองคนให้มาถึงตำแหน่งในทุกวันนี้ได้ สาเหตุหลักก็เพราะว่า จะให้ปกป้องคุณนายหลินที่เมืองชิงหยูน
อีกอย่าง พวกเขามีตำแหน่งฐานะของทุกวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะประธานหลิน
ถึงคนจะถูกกักขังแล้ว ใช้อำนาจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น คำพูดหนักก็ต้องพูดสักสองคำ
“ดีมาก แกสองคนชั่งจงรักภักดีกับนายจริงๆ” จ้าวหลินเอ๋อร์สีหน้าเย็นชา พูดอย่างเย็นชา “ฉันแค่เตรียมจะให้จางฉีโม่ล้มละลายเท่านั้น ยังไม่ได้ข่มขู่ทำร้ายร่างกายเขา แกสองคนถูกกักขังแล้ว ยังอดมาช่วยพูดไม่ได้? หน้าโง่ไร้แววตาจริงๆ”
พูดไป จ้าวหลินเอ๋อร์ก็ส่งสายตาให้บอดี้การ์ดหญิงสองคนข้างกาย
ปัง
บอดี้การ์ดหญิงสองคนเข้าไป กดตัวเสิ่นซานไว้บนโต๊ะทันที ต่างคนต่างหยิบปืนDesert Eagleออกมา จ่อไว้บนหัวของเสิ่นซานและเจียงฉี
“ฉันขอบอกพวกแกทั้งสองไว้นะ จากนี้ไปจำไว้ให้ดี” จ้าวหลินเอ๋อร์จ้องเจียงฉีทั้งสองด้วยสีหน้าเย็นชา “ภรรยาของหลินอิ่งไม่ใช่จางฉีโม่ คุณนายหลินมีเพียงคนเดียว นั่นก็คือฉันจ้าวหลินเอ๋อร์”
“ฉันถึงจะเป็นภรรยาที่แท้จริงที่หลินอิ่งต้องแต่งงานด้วย พวกแกสองคนที่เป็นลูกน้องที่หลินอิ่งอบรมมากับมือ ทางที่ดีที่สุดควรรู้สถานการณ์ด้วย จางฉีโม่คือตัวอะไร? ก็เป็นแค่ผู้หญิงสำส่อนที่หลินอิ่งมีข้างนอกเท่านั้น ก็แค่นกขมิ้นในกรงเท่านั้น”
“ฉันต้องการให้บริษัทจางฉีโม่ล้มละลาย ก็แค่เก็บกิจการของครอบครัวฉันคืนเท่านั้น ไม่มีหลินอิ่ง สาวบ้านนอกอย่างจางฉีโม่ เอาอะไรมามีของทุกวันนี้ได้? ยังเปิดบริษัท?”
จ้าวหลินเอ๋อร์หัวเราะเย็นชา สีหน้ายโส
เสิ่นซานกับเจียงฉีฟังแล้วเหงื่อเต็มหน้า ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
คิดไม่ถึง ระหว่างประธานหลินกับคุณหนูจ้าว ยังมีความสัมพันธ์ขั้นนี้ด้วย ภรรยาที่กำลังจะแต่งงาน? นี่ก็ยุ่งยากแล้ว
ดูท่าทางจ้าวหลินเอ๋อร์ที่กระตือรือร้น ดูเหมือนว่า จะรักประธานหลินอย่างมาก……
เรื่องในครอบครัวประธานหลิน พวกเขาสองคนก็ไม่กล้าถาม
“คุณหนูจ้าว ถ้าเป็นแบบนี้ ทำไมไม่รอประธานหลินกลับตงไห่ คุยเรื่องกันต่อหน้าให้ชัดเจน? ทำไมต้องตัดสินใจลงมือเอง? ไม่กลัวทำให้ประธานหลินไม่พอใจหรือ?” เสิ่นซานถาม
ได้ยินแล้ว จ้าวหลินเอ๋อก็สีหน้าเปลี่ยน คำพูดของเสิ่นซานพูดตรงจุดแล้ว
ถ้าหากหลินอิ่งยอมเจรจาดีๆต่อหน้า เธอจะไปกดดันจางฉีโม่แบบนี้ทำไม?
เธอไม่มีวิธีอะไรกับหลินอิ่งเลย วิธีที่เธอคิดได้ ก็คือสร้างความกดดันจางฉีโม่ในเมืองชิงหยูน ทำให้จางฉีโม่กลับไปสู่สภาพเดิม
ขอแค่จางฉีโม่รับแรงกดดันในใจไม่ไหว เริ่มมีความหวั่นไหวในใจ อย่างนี้ เธอก็จะจัดคุณชายจากตระกูลผู้ดีเข้าไปสู่ขอที่ตระกูลจาง เรื่องก็จะเป็นไปตามแผน
พอถึงตอนนั้นแล้ว หลินอิ่งกลับมาจากเมืองก่าง เห็นภาพเหตุการณ์พวกนี้ ก็จะตายใจและผิดหวังจากจางฉีโม่?
คิดไป มุมปากจ้างหลินเอ๋อร์ก็ยิ้มขึ้น มองเสิ่นซานอย่างเย็นชา พูดว่า “เรียกฉันคุณหนูจ้าว? ไม่รู้จักระเบียบเลยใช่ไหม? เปลี่ยนคำเรียกซะ เรียกคุณนายหลิน”
เจียงฉีและเสิ่นซานมองหน้ากัน สีหน้าทั้งสงสัยและแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณหนูจ้าวคนนี้จะบ้าคลั่งขนาดนี้
“ถ้าไม่อยากตาย จากนี้ไปก็เปลี่ยนมาเรียกฉันว่าคุณนายหลิน” จ้าวหลินเอ๋อพูดเสียงดุ สีหน้าไม่พอใจ “จางฉีโม่คู่ควรตรงไหนถึงถูกเรียกว่าคุณนายหลิน? มันคู่ควรไหม?”
“ไม่เรียก ก็ซ้อมไอ้หน้าโง่อย่างแกสองคนจนตาย” จ้าวหลินเอ๋อร์พูดอย่างเย็นชา บอดี้การ์ดหญิงสองคนใช้ปืนจ่อหัวของเจียงฉีสองคนไว้
เสิ่นซานกับเจียงฉีสีหน้าไม่ดี ไม่เข้าใจความพยายามของจ้าวหลินเอ๋อร์ที่อยากให้เรียกคุณนายหลิน หรืออาจจะเป็นความอิจฉาริษยาของผู้หญิง?
“คุณนายหลิน”
“คุณนายหลิน”
เสิ่นซานและเจียงฉีเรียกออกไป ด้วยสีหน้าเอือมระอา
“คิกคิกคิก……” จ้าวหลินเอ๋อร์มือปิดปากหัวเราะ สะบัดผม สีหน้าได้ใจมาก ในใจรู้สึกพอใจกับคำเรียกนี้มาก
“ดีมาก พวกนายสองคนก็อยู่ในนี้ดีๆ รอหลินอิ่งกลับมา ฉันจะจัดงานแต่งที่ตี้จิง ให้พวกนายไปดื่มเหล้ามงคลที่ตี้จิง ให้อนาคตที่ดีกับพวกนาย”
……
เมืองชิงหยูน วิลล่าหิมะมังกร
จางฉีโม่ขังตัวเองในห้องนอน ในใจวุ่นวาย
การมาของจ้าวหลินเอ๋อร์ ทำให้ความรู้สึกเธอวุ่นวายไปหมด
ถึงแม้หลินอิ่งจะเคยพูดว่าไม่ต้องใส่ใจฐานะของเขา แต่ว่า หลินอิ่งกับเธอ เป็นคนในโลกเดียวกันจริงเหรอ?
เธอคู่ควรกับหลินอิ่งจริงหรือ?
ใช่แล้ว ตอนนี้เธอต่อหน้าหลินอิ่ง ในใจรู้สึกติดค้าง หรืออาจจะมีความรู้สึกต่ำต้อย
“ลูก รีบออกมา คนตระกูลจางมาเยี่ยม ต่างก็เอาของขวัญชิ้นใหญ่มาเยี่ยม
ตอนนี้ ข้างนอก เป็นเสียงอันน่าภูมิใจของลู่หย่าฮุ่ย
จางฉีโม่ลุกขึ้นไปเปิดประตู ลู่หย่าฮุ่ยเดินเข้ามา พูดอย่างดีใจ “ฉีโม่ ครั้งนี้ลูกกลับมาจากตี้จิง คุณตระกูลจางได้ยินกันหมดแล้ว ว่าลูกเปิดบริษัทที่ตี้จิง เจริญก้าวไกลแล้ว”
“ได้หน้าได้ตาแล้ว ฉีโม่ ครั้งที่แล้วก่อนไปตี้จิง พวกเขายังบอกว่าจะเอาชื่อบริษัทเครื่องประดับจางซื่อกลับไป ตอนนี้ พวกเขาบริหารเองไม่ไหวแล้ว จะมาขอร้องให้ลูกใช้ชื่อของบริษัทเครื่องประดับจางซื่อ”
“ขอร้องหนูไปใช้ชื่อบริษัทเครื่องประดับจางซื่อ?” จางฉีโม่ส่ายหน้า สีหน้าเอือมระอา
ตอนแรก คนตระกูลจาง เพราะเรื่องชื่อบริษัทนี้ คำพูดหยาบคายแค่ไหนก็พูดแล้ว หาเรื่องสารพัด เอาพินัยกรรมปูออกมาพูด ยังบังคับพ่อดื่มเหล้าเหมาเละเทะบนโต๊ะอาหาร
ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมให้เธอใช้ชื่อบริษัทเครื่องประดับจางซื่อต่อ
วันนี้ ตัวเองเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเครื่องประดับฉีซื่อแล้ว ไปขยายบริษัทที่ตี้จิง ทำให้มีชื่อเสียง
พวกเขา ก็อยากให้เธอเปลี่ยนมาใช้ชื่อบริษัทเครื่องประดับจางซื่ออีก?
“ฉีโม่ พวกเราไปที่ห้องรับแขกก่อน คุณตระกูลจางมากันครบแล้ว แม้แต่จางหงซวนกับจางหงจูนสองคนนี้ ก็ก้มหัวเอาของขวัญมาขอโทษลูกด้วย”