ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 417 หลินอิ่งคนนี้น่าสนใจ
“รายงานคุณชายจ้าว ผมทำตามคำสั่งของท่าน ใช้คนทั้งหมดที่มีในเมืองก่าง รู้ตำแหน่งของคุณชายอิ่งที่แน่ชัดแล้วครับ และสืบได้เรื่องทุกอย่างที่เขาทำในเมืองก่างได้แล้วครับ”
ชายสูงอายุผมขาวในชุดจีนโบราณสีเขียวท่านหนึ่ง พูดอยู่ข้างกายจ้าวเฉิงเฉียนอย่างเคารพ
“พูดมา”
จ้าวเฉิงเฉียนพูดเสียงเรียบ
“คุณชายอิ่งท่านนั้นของตระกูลฉี หลังจากมาถึงเมืองก่างแล้ว ก็ทำเรื่องการใหญ่โต และยังทุ่มทุนมหาศาล” เหล่าหม่าพูดอย่างจริงจัง “เท่าที่ผมรู้ เขาจัดการกับคุณชายเซียวจวงของเซียวซื่อกรุ๊ปแห่งประเทศM และโม่เก๋อติง ประธานลาตินกรุ๊ปแห่งเมืองก่าง ที่อาคารสุ่ยจิน”
“หลังจากฆ่าสองคนนี้แล้ว หลินอิ่งก็สนับสนุนคริสซึ่งเป็นตัวแทนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของลาตินกรุ๊ป ขึ้นไปในที่นั่งประธานบริษัท และทุ่มเงินมหาศาลเข้ามาในแวดวงธุรกิจเมืองก่าง เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทหลินซื่อ”
“หลังจากที่ก่อตั้งบริษัทหลินซื่อแล้ว ก็เปิดสงครามการเงินกับอภิมหาเศรษฐีเมืองก่างจี้ฉงซาน เป็นอริกันทุกด้าน”
“อีกอย่าง สองวันนี้ หลินอิ่งอยู่กับฉู่สงซานของบริษัทเภสัชกรรมตระกูลฉู่”
“ฉู่สงซานกับจี้ฉงซานกำลังสู้รบกันด้านธุรกิจ”
“ส่วนทางด้านจี้ฉงซาน ยังไม่มีความเคลื่อนไหว”
เมื่อรายงานเรื่องราวทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เหล่าหม่าก็ก้มหน้า รอคำสั่งจากจ้าวเฉิงเฉียน
จ้าวเฉิงเฉียนลูบคลำนิ้วไปสายตาเย็นชา มุมปากก็ยิ้มขึ้นอย่างรู้สึกสนุก
“หลินอิ่งคนนี้น่าสนใจ”
“เบื้องหลังของลาตินกรุ๊ปใหญ่ล้นฟ้า ในต่างประเทศก็เป็นใหญ่”
“ทางการประเทศMที่พึ่งของเซียวซื่อกรุ๊ป ก็ไม่ธรรมดา”
“ฉู่สงซานก็เป็นลูกหลานของตระกูลราชาแห่งเภสัชเตียนหนัน ลูกชายคนที่สามของราชาแห่งเภสัช”
“สำหรับจี้ฉงซาน ไม่เพียงแค่มีมูลค่าหมื่นล้าน ร่ำรวยระดับประเทศ เบื้องหลังยังมีผู้สนับสนุนคนหนึ่งที่เก่งกาจ”
จ้าวเฉิงเฉียนค่อยๆพูด แววตาค่อยๆดูเฉียบคม
“เขาคนเดียว สามารถทำให้เกิดภัยพิบัติขนาดนี้ได้ ผมชักรู้สึกสงสัยแล้ว ว่าหลินอิ่งนอกจากฐานะผู้นำตระกูลหยิ่นแห่งตี้จิงนี้ ในที่ลับ ยังมีฐานะอะไรที่น่ากลัวอีก”
“ขออภัย คุณชายจ้าว รายละเอียดมากกว่านี้ของหลินอิ่งผมยังสืบหาไม่ได้” เหล่าหม่าพูดด้วยสีหน้าละอายใจ “ดูจากข่าวกรองที่ได้รับก่อนหน้านี้ ดูจากฝีมือของคู่แข่งหลินอิ่ง เท่าที่ผมคาดเดา หลินอิ่งเขามีฝีมือที่เก่งกาจไม่แพ้ยอดฝีมือรายการแห่งคน”
“ยอดฝีมือรายการแห่งคน?” จ้าวเฉิงเฉียนส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อ “รอผมทดสอบเขาหน่อย ก็รู้เอง”
“ตอนนี้ คุณรู้ไหมว่าหลินอิ่งอยู่ไหน?”
“ข่าวกรองล่าสุด หลินอิ่งได้รับคำเชิญจากฉู่สงซาน วันนี้ไปงานเลี้ยงที่โรงแรมเชียงเจียง” เหล่าหม่าถามอย่างจริงจัง “คุณชายจ้าว ตอนนี้ให้ผมพาคนไปจับหลินอิ่งที่โรงแรมเชียงเจียงไหมครับ?”
“ไม่ต้อง” จ้าวเฉิงเฉียนยิ้มแย้ม พูดอย่างสนใจ “ตอนแรกผมมาเมืองก่าง คิดไว้ว่าจะจับตัวหลินอิ่งทันที จะดูว่าเขาเก่งแค่ไหน มีความสามารถแค่ไหนถึงได้อวดดีขนาดนี้ แม้แต่น้องสาวของจ้างเฉิงเฉียนยังกล้าปฏิเสธ”
“แต่เท่าที่ดูวันนี้แล้ว เรื่องราวดูเหมือนจะน่าสนุกกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ”
“เขาตัวคนเดียว เพิ่งมาเมืองก่าง ก็มีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจมากมายขนาดนี้ บวกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตี้จิงก่อนหน้านี้ ทำให้ผมรู้สึกสนใจในตัวเขามาก อาจจะมีสิทธิ์มาประลองฝีมือกับผมหน่อย”
“หยินอิ่งยังไม่ต้องยุ่ง จับตาไว้ก็พอ ดูว่าเขาจะสร้างปัญหาได้ถึงแค่ไหน หาจี้ฉงซานก่อน” จ้าวเฉิงเฉียนพูด
“คุณชายจ้าว…….ทางด้านจี้ฉงซาน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ครั้งนี้ปฏิเสธคำเชิญท่าน ขอให้ท่านเห็นใจ ช่วงนี้เขามีเรื่องต้องยุ่ง วันหลังจะไปเยี่ยมที่ตี้จิงเพื่อขอโทษครับ” เหล่าหม่าพูดด้วยสีหน้าลังเล
จ้าวเฉิงเฉียนแววตาเย็นชา “ว่าไงนะ? จี้ฉงซานกล้าปฏิเสธผม?”
“เหอะ…….กล้ามานัก”
“คุณชายจ้าวใจเย็นๆ จี้ฉงซานปฏิเสธท่านอย่างผิดปกติ คาดว่าหลินอิ่งน่าจะให้ความกดดันเขาค่อนข้างรุนแรง” เหล่าหม่าคาดเดา “แต่ว่า ผมรู้ว่าจี้ฉงซานช่วงนี้ได้จ้างยอดฝีมือที่เมืองก่างจากแก๊งหยางเหมิง ไปหาหรงหยังด้วยตัวเอง”
“ให้คนของแก๊งมังกรช่วย? กลับไม่เจอผม?” จ้าวเฉิงเฉียนยิ้มอย่างเย็นชา “เหล่าหม่า คุณแจ้งหัวหน้าแก๊งหยางเหมิงตอนนี้ หรงหยัง มาพบที่คฤหาสน์เฟิงเซียน”
“ครับ” เหล่าหม่าก้มหัวพูดอย่างเคารพ
สั่งเรื่องเรียบร้อยแล้ว จ้าวเฉิงเฉียนขึ้นรถเก๋งสีดำ ท่ามกลางการรอบล้อมของบอดี้การ์ดหนุ่มมากมาย ไม่นาน ขบวนรถก็ขับออกจากสนามบิน เร่งไปสู่คฤหาสน์เฟิงเซียน
……
วันที่สอง
เกาะวงดาว คฤหาสน์เชียงปิง
ในสนามกอล์ฟ
มีโต๊ะอาหารโต๊ะหนึ่ง จัดวางของว่างที่สวยงามประณีต เก้าอี้ยาวสองตัว มีชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่ท่าทางมีอำนาจนั่งอยู่
“นายหญิงเหวิน หลินอิ่งกับฉู่สงซานร่วมมือกันแล้ว เกรงว่าจะมาสะเทือนถิ่นฐานของผมที่เมืองก่างแล้ว” จี้ฉงซานพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ฉันได้ยินแล้ว ความต้องการของหลินอิ่งก็ไม่เบานะ หาตัวคุณไม่เจอ ก็ลงมือกับรากฐานกิจการของคุณ” เหวินเทียนเฟิ่งค่อยๆพูด “ตอนแรกคิดว่าเขาทำอะไรคุณในเมืองก่างไม่ได้ วันนี้ดูแล้วเหมือนจะดูถูกฝีมือทางธุรกิจของหลินอิ่งไปแล้ว”
“สถานการณ์ยิ่งอยู่ยิ่งเกินจะควบคุมได้แล้ว ผมรอต่อไปไม่ได้แล้ว” จี้ฉงซานหรี่ตาเล็กน้อย แววตาส่อประกายแรงอาฆาต
“เมื่อคืน เมืองก่างก็เพิ่มคนมาสร้างความวุ่นวายเพิ่มอีกคน”
“ผมจัดคนไว้เรียบร้อยแล้ว จะทำปฏิบัติการฆ่าหลินอิ่ง”
เหวินเทียนเฟิ่งขมวดคิ้ว มองไปที่จี่ฉงซาน ถามว่า “ผู้สร้างความวุ่นวาย? ใคร?”
“คุณชายแห่งตระกูลจ้าว จ้าวเฉิงเฉียน” จี้ฉงซานพูดอย่างจริงจัง “เขามาหาหลินอิ่ง ได้ข่าวว่าน้องสาวของเขาเคยมีสัญญาหมั้นหมายกับหลินอิ่ง”
“ถ้าหากหลินอิ่งกลายเป็นน้องเขยของคุณชายจ้าวท่านนี้จริง เกรงว่าพวกเราจะต้องเผชิญกับศัตรูที่เก่งกาจอีกคน”
“จ้าวเฉิงเฉียน? สมัยอยู่ที่ตี้จิง เคยได้ยินชื่อเสียงคนคนนี้อยู่ ได้ยินว่าไปต่างประเทศแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงกลับประเทศกะทันหัน?” เหวินเทียนเฟิ่งขมวดคิ้วพูด
“เขาเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลจ้าว มีความสามารถพอสมควร แต่ว่าจะทำลายแผนการเราก็ไม่ใช่เรื่องง่ายมั้ง?” เหวินเทียนเฟิ่งพูดอย่างสงสัย
“นายหญิงเหวิน คุณไม่รู้จักจ้าวเฉิงเฉียน” จี้ฉงซานถอนหายใจ แล้วพูดต่อ “คนคนนี้ ไม่ได้เป็นแค่คุณชายใหญ่ของตระกูลจ้าว ยังเป็นเจ้าสำนักของแก๊งหยางเหมิน……”
“ผมพอมีความสัมพันธ์กับแก๊งหยางเหมินเมืองก่าง ถึงได้รู้เรื่องนี้……”
“อะไรนะ เจ้าสำนักหยางเหมิน?”
เหวินเทียนเฟิ่งแสดงสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ยาก ขมวดคิ้วแน่น
แก๊งหยางเหมิน นี่คืออำนาจในตำนานของประเทศหลุงศตวรรษที่แล้ว
จนทุกวันนี้ ในต่างประเทศยังมีคำเลื่องลือ
ดินแดนที่มีคนประเทศหลุง ก็คือหยางเหมิน
ความยิ่งใหญ่ของหยางเหมิน เกินตระกูลมหาเศรษฐีหลายตระกูลในตี้จิงแล้ว
หลินอิ่งก็ยากพอที่จะจัดการแล้ว เพิ่มเจ้าสำนักหยางเหมินเข้ามาอีกคน เกรงว่าพวกเขาสองคนจะรับไม่ไหว
“จ้าวเฉิงเฉียนหาผม แต่ผมปฏิเสธแล้ว” จี้ฉงซานพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “สถานการณ์นี้ เกินที่ผมจะควบคุมได้แล้ว ดังนั้น ผมเตรียมคนลงมือคืนนี้ บีบเอาเบื้องหลังที่แท้จริงของหลินอิ่งออกมาก่อน นายหญิงเหวิน ผมหวังว่าคุณจะรายงานกับข้างบนด้วย”
“ถ้าหากผู้ใหญ่ท่านนั้นลงมือ ต้องเอาสถานการณ์อยู่แน่”