ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 427 เหมือนก้างปลาในลำคอ
“อาจารย์หลิน หยูจื๋อเฉิงไม่มีอันตรายต่อชีวิต ดูแล้วถูกทรมานอย่างหนัก แต่ว่า เขาร่างกายแข็งแรงกว่าคนทั่วไป ไม่ได้กระทบต่อภายใน” หรงหยังพูดอย่างจริงจัง
หลินอิ่งพยักหน้า เหตุการณ์ยังอยู่ในความคาดการณ์ของเขา จี้ฉงซานกับตัวหยูจื๋อเฉิงไป เพื่อเป็นเหยื่อ ดังนั้นจึงไม่ได้ฆ่า
หลินอิ่งเดินเข้าไป ยื่นมือไปจับข้อมือหยูจื๋อเฉิง จากนั้นสองนิ้วบีบแน่น จากนั้นก็ตีตรงข้อมือต่อเนื่อง จี้จุดชีพจรหลายจุด
“พร๊วก”
หยูจื๋อเฉิง กระอักเลือดสีดำออกมา แล้วค่อยๆลืมตา
“นี่…..อิ่ง ท่านอิ่ง” หยูจื๋อเฉิงมองหลินอิ่งตรงหน้า ด้วยความรู้สึกตื้นตัน
“เป็นอะไรมากไหม?” หลินอิ่งถามสีหน้าจริงจัง
“ไม่เป็นไร ไอ้สุนัขจิ้งจอกจี้ฉงซานมันทรมานผม ผมยังทนได้ แค่ความเจ็บเนื้อหนังเท่านั้น ไม่ถึงกับชีวิต”
หลินอิ่งพยักหน้า พูดจริงจัง “เรื่องนี้ลำบากคุณแล้ว กลับไปแล้วพักฟื้นให้ดี ผมจะจ่ายสูตรยาให้”
หยูจื๋อเฉิงพูด “ขอบคุณท่านอิ่ง……”
หลินอิ่งพาคนออกจากคฤหาสน์เชียงปิง
คนที่จี้ฉงซานเก็บไว้ในสถานที่ลับแห่งนี้ ไม่มีค่าอะไรแล้ว เป็นแค่คนใช้บอดี้การ์ดเท่านั้น ยังมีผู้จัดการด้านธุรกิจ นำไปสู่ข่าวกรองใจกลางสำคัญของจี้ฉงซานไม่ได้
ต่อมา ไพ่อย่างหรงหยัง ก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้อีกแล้ว
แต่ว่า ปราบไพ่อย่างหรงหยังได้ก็มีผลสามารถช่วยหยูจื๋อเฉิงออกมาได้ ก็ถือว่าเป็นข่าวดี
สถานการณ์ตอนนี้ อำนาจในเมืองก่าง ก็ควบคุมอยู่ในมือของเขาแล้ว
หลังจากออกจากคฤหาสน์เชียงปิงแล้ว
หลินอิ่งหยิบมือถือออกมาด้วยแววเคร่งขรึม
คนอย่างจี้ฉงซาน ก็เหมือนก้างปลาในคอ
ไม่รู้คิดแผนการชั่วร้ายอะไรในที่ลับกับเหวินเทียนเฟิ่ง
วางแผนในเมืองก่างตั้งนานแล้ว ได้เวลาแล้ว ที่จะเล่นงานอย่างหนักกับจี้ฉงซาน
คิดไปแล้ว หลินอิ่งก็โทรศัพท์
“ฉู่สงซาน คุณเตรียมทุกอย่างไว้ คืนนี้ คุณนัดนักข่าวเพื่อทำการแถลงข่าว” หลินอิ่งพูดเรียบเฉย “อีกอย่าง ให้หยินต้าชิวนักประชุมสมาคมธุรกิจเมืองก่าง วันนี้ คุณไปสำนักงานใหญ่สมาคมธุรกิจเมืองก่างรอบหนึ่ง”
…….
ฝั่งทะเลเมืองก่าง เกาะไห่เทียน
ที่นี่คือเกาะเล็กๆที่อยู่ใกล้ทะเล ระยะร้อยกิโลเมตรมีเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆแห่งหนึ่ง เงียบเหงาไร้คน
เวลาเที่ยงวัน แสงแดดจ้า
เครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งมาเทียบจอดอยู่กลางเกาะ
ที่กลางเกาะ รอบล้อมด้วยป่าไม้ เป็นคฤหาสน์ส่วนตัวอันหรูหราเป็นหลังๆ เหมือนดั่งรีสอร์ตตากอากาศแห่งหนึ่ง
หน้าประตูคฤหาสน์ทุกหลัง มีชายแว่นดำยืนเรียงกันเป็นแถว ใส่ชุดทหาร พวกเขาทุกคนต่างสีหน้าโหดเหี้ยม หน้าตาแบบคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่นี่คือฐานฝึกอบรมส่วนตัวของจี้ฉงซาน ทุ่มเงินลงทุนไปพันล้าน ใช้สำหรับฝึกฝนนักฆ่ามืออาชีพในปฏิบัติการลับ และมีระบบการป้องกันและอาวุธอย่างแข็งแกร่งเพียบพร้อม
เครื่องบินส่วนตัวลงจอดในเขตคฤหาสน์หลังหนึ่ง หญิงวัยกลางคนสวมเสื้อลำลองคนหนึ่งเดินลงมา ตามมาด้วยชายวัยกลางคนที่ถือผ้าเช็ดหน้าคนหนึ่ง
“นายท่านจี้ ทหารรับจ้างหน่วยที่สามที่ท่านเรียกมา ได้มาถึงหมดแล้ว”
“ทหารลับตระกูลจี้ กำลังอยู่ระหว่างทางมารวมตัว”
ชายหนุ่มแว่นดำพร้อมอาวุธยืนเรียงแถวกัน ต้อนรับอย่างเคารพ
หัวหน้าชายชุดดำคนหนึ่ง รายงานอย่างเคร่งขรึม
“ได้ รีบจัดเตรียมให้เข้าที่ ต้องรับประกันความปลอดภัยของเกาะนี้อย่างดี” จี้ฉงซานเช็ดเหงื่อไปด้วยพูดไปด้วยสีหน้าซีดขาว
วันนี้ที่เกาะวงดาวคฤหาสน์เชียงปิง เขายังนั่งดื่มชาคุยกับเหวินเทียนเฟิ่ง ก็ได้รับคำเตือนจากคนข้างบนว่า หลินอิ่งฆ่าไปถึงที่แล้ว
ตกใจจนโรคหัวใจกำเริบ ไม่ได้สั่งเสียอะไรเลย รีบขึ้นเครื่องหนีออกจากเขตเมืองก่าง
หลินอิ่ง ให้ความกดดันเขาหนักมาก
โดยเฉพาะ เด็กคนนี้ทำงานรวดเร็วจนน่ากลัว
เมื่อคืนเขาเพิ่งให้หรงหยังไปทดสอบหลินอิ่ง ปรากฏว่ายังไม่ถึงสิบสองชั่วโมง หลินอิ่งก็พลิกเหตุการณ์พาหรงหยังฆ่ามาถึงที่พักของเขา ถ้าไม่ใช่หนีได้เร็ว คงถูกหลินอิ่งแยกชิ้นส่วนไปแล้ว
ฝีมือระดับหลินอิ่ง ช่างทำให้คนไม่อยากเชื่อจริงๆ ยอดเยี่ยมเหลือเชื่อ
“หลินอิ่งคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ ชีวิตนี้ฉันยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อันตรายขนาดนี้มาก่อน เกือบตายไปแล้ว” จี้ฉงซานพูดเคร่งเครียด ท่าทางตกใจ
“นายท่านจี้ นี่ก็ลงจอดอย่างปลอดภัยแล้ว ก็แค่ตกใจไม่มีอันตรายอะไรแล้ว” เหวินเทียนเฟิ่งพูดอย่างเชื่องช้า สีหน้าเรียบเฉย “คุณวางใจเถอะ มีผู้ใหญ่ข้างบนท่านนั้นอยู่ หลินอิ่งก็เป็นแค่ปลาในกระด้งเท่านั้น ทุกการเคลื่อนไหวของเขา ไม่พลาดสายตาของท่านไปแน่นอน”
จี้ฉงซานสีหน้าเคร่งเครียด มองเหวินเทียนเฟิ่ง อยากพูดแต่ก็เงียบ
ตามนี้ ทั้งสองจากการปกป้องของบอดี้การ์ด มาถึงในคฤหาสน์หลังหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง สั่งคนรับใช้ให้นำน้ำชามาเสิร์ฟ
จี้ฉงซานนั่งลง ดื่มน้ำชาไปคำหนึ่ง ถึงรู้สึกโล่งใจ มองรอบโซฟาอันสบาย
วินาทีนี้ เขาถึงรู้สึกโล่งอก
มาถึงที่ส่วนตัวที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวดแห่งนี้ เขาถึงรู้สึกปลอดภัย
หลินอิ่งคนนี้ โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว
“หลินอิ่งคนนี้ไม่ตาย ฉันก็คงไม่ได้หลับอย่างสบาย” จี้ฉงซานดื่มชาไปคำหนึ่ง แล้วพูดขึ้น
“นายหญิงเหวิน คุณรีบรายงานผู้ใหญ่ท่านนั้น ให้เขารีบจัดคนไปจัดการหลินอิ่งเลย”
เหวินเทียนเฟิ่งขมวดคิ้ว พูดว่า “ฉันเคยบอกตั้งนานแล้ว บอกให้คุณอย่าใจร้อน คุณทนไม่ไหวเอง ตัดสินใจไปหาคนของแก๊งหยางเหมินเอง ผลลัพธ์ละ คนของแก๊งหยางเหมินพึ่งไม่ได้แม้แต่น้อย แปรพักตร์เลย ทำให้แผนของพวกเราเสียหายหมด”
“หรงหยังแปรพักตร์ นี่เป็นเรื่องที่ผมคิดไม่ถึงเลย เรื่องนี้ผมคาดการณ์พลาดเอง” จี้ฉงซานพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “หรงหยังติดหนี้บุญคุณผม อีกอย่างคนคนนี้โลภในเงินทอง ร่วมงานกับผมในธุรกิจ”
“ใครจะไปคิดถึง เวลาแค่ชั่วค่ำคืน หรงหยังจะไม่ห่วงเรื่องทรัพย์สินกิจการในเมืองก่าง ไปยืนอยู่ฝั่งหลินอิ่ง?”
จี้ฉงซานไม่ได้นอนทั้งคืน ก็เพราะรอข่าวจากหรงหยังว่าจะเป็นข่าวดีอะไร ปรากฏว่า หรงหยังกลับพานักฆ่าโหดทั้งฝูง และพาหลินอิ่งมาเอาชีวิตเขา
“วันนี้ เหยื่ออย่างหยูจื๋อเฉิงพวกเราก็ไม่มีแล้ว” จี้ฉงซานพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “อีกอย่าง หลินอิ่งร่วมมือกับฉู่สงซาน ยืนในเมืองก่างอย่างหนักแน่นแล้ว พวกเราสูญเสียสิทธิ์อำนาจในการควบคุมไปแล้ว”
“เหอะ……ดูถูกหลินอิ่งไปหน่อย มาเมืองก่างไม่ถึงไม่ถึงเดือน ก็บีบคุณจนมุมเลย” เหวินเทียนเฟิ่งยิ้มและพูดอย่างเย็นชา “ต่อจากนี้ คุณก็อยู่ที่นี่ควบคุมธุรกิจเมืองก่าง ให้ความร่วมมือกับปฏิบัติการของฉัน แผนการจัดการหลินอิ่ง เดี๋ยวฉันจะรายงานผู้ใหญ่ท่านนั้น”
“ไม่ต้องใช้เวลานาน รอเวลาที่เหมาะสม ผู้ใหญ่ท่านตกลง ก็คือวันตายของหลินอิ่ง”