ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 484 ต่างมองหลินอิ่งผิดไป
ได้ยินแล้ว สายตาหลินอิ่งเย็นชาทันที ส่อแววอาฆาตที่ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
ตอนแรกจางเถียนไห่ยังอยากพูดต่อ แต่พอเห็นแววตาของหลินอิ่งแล้ว ก็ขนหัวลุกทันที ร่างกายเย็นเฉียบไปทั้งร่าง
“นี่……หลินอิ่ง คำพูดพวกนี้ ฉันไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวลือ นายอย่ามาหาเรื่องที่ฉัน…….” จางเถียนไห่พูดอ้ำๆอึ้งๆ สีหน้าหวาดกลัวมาก
วันนี้หลินอิ่งดูโหดเหี้ยมมาก
ท่าทางที่แสดงออกมา กดดันเขาจนเกือบหายใจไม่ออก
“ข่าวลือที่ใครเป็นคนปล่อยออกมา?” หลินอิ่งถามด้วยสีหน้าเย็นชา
จางเถียนไห่เหงื่อท่วมหน้าผาก พูดอย่างหวาดกลัว “อันนี้ มัน……น่าจะเป็นคนตระกูลโจปล่อยออกมา ลือกันอย่างเอิกเกริกในแวดวงไฮโซ”
“แต่ว่า เรื่องที่คุณชายโจผิงจะแต่งงานกับจางฉีโม่ คือความจริง ฉันไม่ได้พูดไปเลื่อย” จางเถียนไห่พูด
เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทั้งๆที่เบื้องหลังตัวเองมีอำนาจของตระกูลโจคอยหนุนหลังอยู่
ทำไมถึงได้กลัวลูกเขยไร้น้ำยาอย่างหลินอิ่ง?
ถึงแม้ว่าหลินอิ่งจะรู้จักหัวหน้าใหญ่ในโลกแห่งความมืดอย่างหลิวจุน นั่นก็สู้ตระกูลโจไม่ได้
“ตระกูลโจอีกแล้ว……เหอะ” แววตาของหลินอิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ
“หลินอิ่ง ปล่อยฉันไปเถอะ ถ้านายไม่อยากมีปัญหากับตระกูลโจ ทางที่ดีปล่อยฉันไป จากนี้ไป ตระกูลโจก็จะไม่ไปหาเรื่องนาย” จางเถียนไห่พูดอย่างทดสอบ
หลินอิ่งค่อยๆลุกขึ้น ยืนมือไขว้หลัง แววตาเคลื่อนไหวเล็กน้อย หันไปมองหลิวจุน
หลิวจุนพยักหน้ารับรู้ ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว สะบัดมือตบลงไปอย่างแรง
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ
ตบหน้าลงไปสี่ห้าครั้ง บนหน้าของจางเถียนไห่
“เอื้อก อ้าก”
“อย่าตบอีกเลย หลินอิ่ง ประธานหลิน ที่นี่มันบริษัท มีอะไรก็พูดกันดีๆ ผมบอกคุณไปทุกอย่างแล้ว ไว้หน้าผมหน่อยเถอะ”
จางเถียนไห่ร้องด้วยเสียงโอดโอย ถูกหลิวจุนตบจนกลิ้งอยู่บนพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว เลือดไหลจากปากไม่หยุด
“แกกล้าพูดเรื่องในครอบครัวของประธานหลินอยู่ข้างนอกไปเรื่อยอีก ไม่ต้องให้ประธานหลินลงมือเอง ฉันจะจัดการแกเอง”
หลิวจุนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทำให้จางเถียนไห่ตกใจตัวสั่น
“ไม่ ต่อไปนี้ผมจะไม่พูดอะไรไปเรื่อยอีก”
จางเถียนไห่จับแก้มที่ถูกตบจนปวด พูดอย่างหดหู่
ใจเขารู้สึกโกรธแค้นมาก รู้สึกถึงความอับอายขายหน้าอย่างที่สุด
ถูกหลินอิ่งลูกเขยไร้น้ำยาที่โดนเขาดูถูกมาตลอดเวลา ต่อหน้าผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ตบหน้าอย่างจับหมาตัวหนึ่ง ตบติดต่อกันเกือบยี่สิบสามสามครั้ง
ขายหน้าจริงๆ จากนี้ไปไม่รู้จะเอาไปหน้าที่ไหนมาใช้ชีวิตในสังคมอีก
แต่ว่า ในใจจางเถียนไห่ก็เต็มไปด้วยความสงสัย
ทำไมหลินอิ่งถึงสั่งการหลิวจุนได้
ทำไมหลินอิ่งถึงมีอำนาจใหญ่โตกะทันหันแบบนี้? แม้แต่ตระกูลโจก็ไม่กลัว?
เขาก็แค่คนพึ่งจางฉีโม่ลูกเขยไร้น้ำยาที่เกาะเมียกินคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ?
“หลิวจุน โทรหาเสิ่นซาน ให้เขาไปหาโจผิงของตระกูลโจออกมา” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
“ครับ”
ได้รับคำสั่งของหลินอิ่งแล้ว หลิวจุนก็พูดอย่างเคารพ ถีบจางเถียนไห่ที่อยู่บนพื้นออก จากนั้นก็ตบฝุ่นบนตัวออก หยิบมือถือออกมาโทรศัพท์
“แม่งเอ้ย? บริษัทเกิดอะไรขึ้น?”
“หลินอิ่ง? แกพาคนมาวุ่นวายในบริษัทเหรอ?”
เวลานี้เอง น้ำเสียงที่ตกตะลึงก็ดังขึ้นมา
เห็นเพียง จางหงจุนและจางหงซวนทั้งสองใส่ชุดสูทเดินเข้ามา พร้อมบอดี้การ์ดติดตามหลายคน เข้ามาในออฟฟิศอย่างรีบร้อน
จากนั้น มองเห็นจางเถียนไห่ที่ถูกตอบจนเลือดอาบปากนอนอยู่บนพื้น ทั้งคนก็โมโหขึ้นมาทันที
“ลูก? หลินอิ่งทำร้ายลูกเหรอ?” จางหงซวนโกรธมาก ถามด้วยเสียงเคร่งขรึม
“หวูอ้าก พ่อ มันนั่นแหละ ตอนนี้หลินอิ่งมันเหิมเกริมแล้ว รู้จักกับหลิวจุนของท่านเสิ่นซาน ไม่ได้มีตระกูลเราอยู่ในสายตาเลย พาคนมาหาเรื่องถึงบริษัท” จางเถียนไห่ตะโกนพูดไม่หยุด วิ่งไปยืนข้างจางหงซวน พูดบ่นร้องทุกข์
จางหงซวนมองเห็นสภาพลูกชายแล้ว ความโมโหก็พุ่งขึ้นมา สีหน้าเคร่งขรึมทันที
“หลินอิ่ง แกกล้ามาก แกถูกน้องห้าไล่ออกมาจากบ้านแล้ว ไม่ใช่คนของตระกูลจางเราแล้ว” จางหงซวนพูดอย่างเคร่งขรึม “เมื่อก่อนแกก็อวดดีอยู่แล้ว ฉันเห็นแก่หน้าน้องห้า ยังไม่ได้ทำอะไรแก”
“ตอนนี้ แก้กลับยโสโอหังขนาดนี้ พาคนมาทำร้ายคนถึงบริษัท? ยังทำร้ายลูกชายฉันถึงขนาดนี้?” จางหงซวนพูดอย่างโมโห “แกคิดว่าไอ้ลูกเขยไร้น้ำอย่างแกมันคือตัวอะไร?”
เมื่อก่อนเพราะครอบครัวจางฉีโม่ก้าวหน้าร่ำรวยแล้ว ก็เลยถูกกดดันไว้
วันนี้ครอบครัวจางฉีโม่ล้มละลายแล้ว ไอ้ลูกเขยไร้น้ำยาเกาะเมียกินอย่างหลินอิ่งถูกไล่ออกจากบ้าน ยังกล้ามาทำร้ายคน?
“เหอะ แกไปเอาความกล้าจากไหนมา” จางหงจูนพูดอย่างเย็นชา “หลินอิ่ง เมื่อก่อนเห็นแก่หน้านายท่าน ฉันให้แกกินอยู่ฟรีในตระกูลจาง สองปีนี้แกก็เกาะตระกูลจางกินมาตลอด ปรากฏว่า แกมันไม่รู้จักบุญคุณเลยแม้แต่น้อย กลับมาทำร้ายร่างกายคนของตระกูลจางอีก”
“แกมันงูเห่าเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ” จางหงจูนพูดอย่างเป็นเหตุมีผล สายตามองไปที่หลิวจุน
“หลิวจุน ผมรู้จักคุณ” จางหงจูนค่อยๆพูด “ผมเคยได้ยิน ไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งมันเคยมีความสัมพันธ์กับคุณหนูตระกูลหวาง คุณเห็นแก่ความสัมพันธ์นี้เหรอถึงได้ช่วยมัน?”
“เอาอย่างนี้ พี่ใหญ่หลิว คุณเรียกราคามาเลย ต้องการเท่าไหร่ ผมให้คุณ” จางหงจูนพูดด้วยท่าทางมั่นใจ “เอาไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่ง ให้ตระกูลจางเราจัดการ นี่เป็นเรื่องขจัดสิ่งเลวร้ายของตระกูลจางเรา”
หลังจากนำตระกูลจางติดตามตระกูลโจแล้ว จางหงจูนสองพี่น้องก็ได้ผลประโยชน์ไม่น้อย ยังได้ส่วนแบ่งจากบริษัทเครื่องประดับฉีซื่อ
พูดจานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เท่าที่เขาสองคนดูแล้ว หลินอิ่งก็แค่ลูกเขยไร้น้ำยาที่ไม่มีหน้าที่การงาน ไม่มีรากฐานอะไรเลย
รู้จักคนมากมายขนาดนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“เหอะเหอะเหอะ” หลิวจุนหัวเราะอย่างเย็นชา ไม่ได้สนใจจางหงจูนทั้งสองคน มองไปที่หลินอิ่ง
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย มองไปที่จางหงจูนสองคน
“ผมตบหน้าลูกชายคุณจางเถียนไห่ ต้องให้เหตุผลคุณเหรอ?” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา “ถึงผมจะทำให้คนแก่อย่างพวกคุณสองคนพิการ จำเป็นต้องมีเหตุผลไหม?”
“ถ้าผมไม่ได้เห็นแก่นายท่านจางตี้งติ่ง พวกคุณสองคนเป็นลูกของท่าน ผมเอาคุณถ่วงแม่น้ำชิงหยูนไปนานแล้ว” หลินอิ่งพูดอย่างไม่เกรงใจ
“แก หลินอิ่ง แกลองพูดอีกทีซิ? ช่างไม่มีขื่อมีแป?” จางหงจูนยื่นนิ้วชี้หน้าหลินอิ่งด้วยความโมโห
“จัดการมันสองคนคุกเข่าลง”
หลินอิ่งพูดด้วยเสียงเรียบ
“ครับ”
คำสั่งออกไป หลิวจุนก็หันตัวทันที สีหน้าเย็นชาโหดเหี้ยมสุดขีด
เพี๊ยะ
เพี๊ยะ
ชั่วพริบตา หลิวจุนก็พุ่งเข้าไปตบหน้าไปสองครั้ง ตบไปที่หน้าของจางหงจูนพี่น้อง
ตบจนเขาสองคนตะลึงมึนงงไปทันที ตัวหมุนล้มลงไปกับพื้น
“แก ลูกเขยเข้าบ้านตระกูลจางคนหนึ่ง แกกล้าเรียกคนมาทำร้ายผู้ใหญ่ของตระกูลจาง?”
จางหงจูนมองหลินอิ่งอย่างไม่อยากเชื่อสายตา