ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 525 จัดคนไปจัดการผู้หญิงของตระกูลฉู่คนนั้นซะ
“โครงการเมืองเทคโนโลยีเทียนหลง?” สวีจิ่วหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย กำลังคิดอะไรบางอย่าง “ฉันเคยได้ยิน ก็คือจะทุบภูเขาในเมืองพวกนั้นให้ราบเรียบ แล้ววางแผนสร้างเมืองใหม่อีกเส้นในตี้จิง”
“ได้ข่าวว่า โครงสร้างของเมืองใหม่ใหญ่มหาศาล ลำพังที่ดินก็มีมูลค่ามหาศาลที่ไม่อาจคาดคิดได้” สวีจิ่วหลิงพูดอย่างเชื่องช้า “หลังจากสร้างเสร็จแล้ว จะเกี่ยวข้องกับทุกกิจการทุกสายอาชีพ จะมีตลาดหลักทรัพย์และเมืองเทคโนโลยีในนั้น?”
เมืองเทคโนโลยี โครงการใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศหลุง
ใครสามารถยืนหยัดบนทางนี้ได้ อำนาจในอนาคตแห่งแวดวงตี้จิง ก็เป็นของเขาแล้ว
ผู้ได้ครอบครองเมืองมังกร เสมือนครอบครองโลก
คำพูดนี้ เป็นที่เลื่องลือในแวดวงตี้จิงมานานแล้ว
“นายท่านสวีก็พอรู้เรื่องนี้พอสมควร ผมก็ไม่แนะนำเรื่องของเมืองเทียนหลงแล้ว” กงจิ่วพูดอย่างเชื่องช้า “เท่าที่ผมรู้ หลินอิ่งได้ลงมือทำแล้ว เขาต้องอยากได้โครงการใหญ่จากเมืองเทียนหลงแน่นอน นี่เป็นโครงการเชิงกลยุทธ์ และยังสามารถส่งผลกระทบไปถึงโครงสร้างในอนาคตอีกสิบปีของเหล่าตระกูลใหญ่ในตี้จิงแน่นอน”
“เพราะฉะนั้น พวกเราต้องเอาเมืองเทียนหลงมาให้ได้ ถีบหลินอิ่งออกจากเกม”
“หลินอิ่งจะมีเงินทองอำนาจมากแค่ไหน ขอแค่ถูกถีบออกจากเกมนี้แล้ว ต่อไปเขาก็จะไม่มีสิทธิอำนาจในการพูดที่ตี้จิงอีก ตระกูลฉีของเขา ก็จะเป็นแค่ตระกูลว่างเปล่ากลางอากาศเท่านั้น”
กงจิ่วพูดวิเคราะห์อย่างเด็ดขาด
เมื่อพูดประโยคนี้จบแล้ว คนของตระกูลสวีที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดนี้
“ได้ คุณกงจิ่ว ทางด้านเมืองเทียนหลง พวกเราต้องวางแผนดำเนินการแน่นอน” สวีจิ่งหลิงพูดอย่างเชื่องช้า “เรื่องนี้จะให้หลินอิ่งเอาโอกาสไปก่อนไม่ได้ แต่ว่า ลูกน้องยอดฝีมือกลุ่มนั้นของหลินอิ่ง คุณจะจัดการยังไง?”
กงจิ่วหัวเราะ พูดว่า “พวกคุณวางใจได้ ไม่ว่าหลินอิ่งจะมียอดมือในที่ลับเท่าไหร่ หรือแม้แต่ทหารลับของตระกูลฉีและตระกูลนิ่งรวมตัวกัน วิชาการต่อสู้ก็สู้สำนักยุทธ์เชียนของเราไม่ได้”
“ต่อจากนี้ พวกคุณก็คิดดูว่าจะจัดการหลินอิ่งยังไงก็พอ” กงจิ่วพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ
“แผนการขั้นแรก ตระกูลสวีของพวกคุณก็เข้าร่วมได้” กงจิ่วพูดอย่างเชื่องช้า “ผมคิดจะกำจัดเด็กผู้หญิงคนนั้นของตระกูลฉู่ที่อยู่ในตี้จิง”
“คนที่ตระกูลฉู่เหลือไว้ในตี้จิง?” สวีไป๋เห้อถามอย่างสงสัย
“ใช่แล้ว ก็คือผู้หญิงลึกลับข้างกายหลินอิ่ง ที่เป็นข่าวลือที่ลือกันอย่างสนั่น ชื่อว่าฉู่ฉู่ เป็นหลานสาวที่รักของนายท่านตระกูลฉู่” กงจิ่วพูดอย่างเชื่องช้า “ฆ่าเธอ ตระกูลฉู่ต้องโมโหอย่างแน่นอน ถึงเวลา ก็คอยดูว่าหลินอิ่งจะพูดยังไงกับตระกูลฉู่”
“เขาเชิญคนของตระกูลฉู่มาช่วย ผมก็จะให้เขาขุดหลุมฝังศพตัวเอง” กงจิ่วหัวเราะโหดเหี้ยม พูดแผนการชั่วร้ายออกมา
“ได้ คุณกงจิ่ว แผนของคุณดีมาก ฉู่ฉู่คนนั้นตาย ตระกูลฉู่โกรธ ถึงเวลาก็ดูว่าหลินอิ่งจะตื่นตระหนกหรือไม่ ถึงเขาเป็นทศกัณฐ์ก็ไม่สามารถรับมือกับตระกูลมหาอำนาจมากมายขนาดนี้ได้” สวีไป๋เห้อปรบมือพูด สีหน้าดีใจ เห็นด้วยกับแผนการชั่วร้ายของกงจิ่ว
กงจิ่วหัวเราะพยักหน้า พูดว่า “ได้แล้ว ทุกท่าน ผมยังต้องไปเตรียมคนเพื่อปฏิบัติการ หากมีข่าว น้องไป๋เห้อก็ติดต่อนกพิราบส่งข่าวของผมได้เลย”
พูดจบ กงจิ่วก็หมุนตัวจากไป
ฝีเท้าของเขาดูช้ามาก แต่ก้าวออกไปจากห้องโถงได้ในชั่ววินาที เหลือไว้เพียงเงา คนก็หายไปจากตระกูลสวีในชั่วพริบตา ไม่เห็นแม้แต่เงา
……
ตี้จิง เมืองเทคโนโลยีเทียนหลง ศูนย์การค้าเลขที่18
ที่นี่เป็นถนนการค้าที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่ ยังมีโครงสร้างอีกมากมายที่ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง สถานบันเทิงมากมายในอาคารพาณิชย์เริ่มทำการทดลองเปิดกิจการแล้ว
รถเบนท์ลี่ย์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่ชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ตึกหนึ่ง ฮาเดสเปิดประตูรถ หลินอิ่งเดินออกมาช้าๆ ฉู่ฉู่ก็เดินตามอยู่ข้างหลัง
วันนี้มาเมืองเทียนหลง หลินอิ่งมาเพื่อสำรวจด้วยตัวเอง และทำการวางแผนในเมืองเทียนหลง
เพราะว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ใหญ่ ให้ลูกน้องมาทำ จะทำได้ไม่ดี
“คุณหลิน ถนนเส้นนี้เป็นธุรกิจของคุณเหรอคะ? อนาคตจะกลายเป็นสถานที่รุ่งเรืองที่สุดในตี้จิง?”ฉู่ฉู่มองไปรอบด้านด้วยสีหน้าสงสัย ถามหลินอิ่งด้วยแววตานับถือ
เธอทักทายกับหลินอิ่งทุกเช้า และถามหลินอิ่งว่าว่างไหม
พอดีหลินอิ่งจะมาสำรวจเมืองเทียนหลง คิดไปมา ก็เลยตกลงให้ฉู่ฉู่ตามมาด้วย ให้เธอมาดูและเที่ยวไปด้วย
“นี่เป็นกิจการของผม แต่ยังไม่พอ” หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย แววตาเฉียบคมมองไปที่ไกล พูดอย่างเชื่องช้า “เมืองเทียนหลงถูกทีมงานนานาชาติประเมินว่า เป็นโครงการเมืองใหม่ที่มีมูลค่าเงินลงทุนล้านล้าน ในอนาคต เพราะว่าเป็นเขตที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในตี้จิง”
“ที่นี่ เป็นเพียงถนนศูนย์การค้าหนึ่งสายในวงแหวนรอบนอกของเมืองเทียนหลง ในเขตนี้ โครงสร้างถนนศูนย์การค้าแบบนี้มีทั้งหมดสามสิบกว่าสาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงถนนศูนย์การค้าในเขตศูนย์กลางของเมืองเทียนหลง เป็นโครงสร้างใหญ่ขนาดไหน” หลินอิ่งค่อยๆพูดแนะนำ
ศูนย์การค้าเลขที่18 ก็ใหญ่มากพอแล้ว เอาออกไปเปรียบเทียบ สามารถเทียบกับถนนศูนย์กลางของเมืองหลวงหลักมากมาย
ส่วนถนนแบบนี้ ในโครงสร้างอนาคตของเมืองเทียนหลง อย่างน้อยเป็นร้อยสาย
กิจการ สาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องในนี้ สามารถคาดการได้ว่าใหญ่โตขนาดไหน
“ไม่เสียชื่อที่เป็นตี้จิง เมื่อเทียบกับทางด้านเมืองเตียนหนาน เจริญรุ่งเรืองกว้างใหญ่มาก” ฉู่ฉู่พูดเสียงอุทาน แววตามองไปรอบด้าน
“แต่ว่าเตียนหนานของเราก็มีข้อดีอย่างหนึ่ง ที่นั่นของเราทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศดีเหมาะสำหรับคน” ฉู่ฉู่มองไปที่หลินอิ่ง พูดว่า “คุณหลิน อนาคต ฉันพาคุณไปเที่ยวที่ภูเขาหยุนเหมิงของตระกูลฉู่เรา ถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับความเจริญรุ่งเรืองในตี้จิง แต่ก็มีบรรยากาศเฉพาะที่ดี”
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย เดินไปที่อาคารพาณิชย์ใกล้เคียงตึกหนึ่ง
“ฉู่ฉู่ ในนี้ คุณดูว่าจะกินอะไร” หลินอิ่งพูด “ผมนัดกับเพื่อนหลายคน จะมาถึงตอนเย็น”
“ได้ค่ะ” ฉู่ฉู่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
พูดไป หลินอิ่งพาฉู่ฉู่และฮาเดส เดินเข้าไปร้านอาหารหรูร้านหนึ่งที่อยู่ภายในอาคาร หาที่นั่งแล้วนั่งลง
เขาให้ฉู่ฉู่สั่งอาหาร ส่วนตัวเองหยิบมือถือออกมา กดเบอร์โทรออก
หลินอิ่งเรียกนิ่งซวนมา หาเขามาคุยเรื่องโครงการเมืองเทียนหลงกันต่อหน้า
“เฮ้เฮ้เฮ้? พี่สือ พี่รีบดู นั่นมัน นั่นมันไอ้แซ่หลินไม่ใช่เหรอ?”
ทันใดนั้น ร้านอาหารที่เงียบสงบ มีเสียงอันตกตะลึงดังขึ้น
มีชายหนุ่มหลายคนที่นั่งกินข้าวอยู่ หันมามองหลินอิ่งกันทั้งหมด
“เหอะ ช่างโลกแคบเหลือเกินนัก หลินอิ่ง ไอ้ลูกเขยไร้น้ำเมืองตงไห่ คุณยังจำผมได้ไหม?”
ชายหนุ่มที่แต่งตัวไม่ธรรมดา พาคนติดตามอยู่หลายคน เดินเข้ามาหาหลินอิ่งด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม
“คุณคือ?” หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองหน้าคนที่มา รู้สึกแค่ว่าคุ้นหน้า แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว
“เหอะเหอะเหอะ หมอเทพหลิน คุณนี่ช่างผู้ดีวางมาดหยิ่งยโส ตอนที่คุณอยู่มณฑลเกาหยาง ช่วยชีวิตนายท่านตระกูลผมไว้? คุณน่าเกรงขามขนาดนั้น ลืมผมแล้วเหรอ?”
ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าหยอกล้อ สายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังจ้องหน้าหลินอิ่ง