ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 527 ก็คือดูถูกนาย
“แต่ว่า หมอเทพหลิน ในเมื่อเจอนายที่ตี้จิงแล้ว งั้นนายวางใจได้ ฉันต้องให้เพื่อนในตี้จิง ‘ต้อนรับ’นายเป็นอย่างดี”
กงซุนใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม พูดจาข่มขู่
เท่าที่เขาดูแล้ว ในตี้จิงแห่งนี้ มีวิธีมากมายที่จะจัดการไอ้หน้าโง่หลินอิ่งนี่
เขาเป็นถึงลูกหลานตระกูลกงซุนที่มีหน้ามีตา อำนาจความสัมพันธ์ในตี้จิงไม่รู้กว้างขวางขนาดไหน จะจัดการกับคนบ้านนอกที่มาจากต่างจังหวัดอย่างหลินอิ่ง มันเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว?
“ใช่ พี่สือ พี่พูดถูกที่สุด” เจิ้งหยวนเป่าพูดจาประจบประแจง “คนสูงส่งอย่างหมอเทพหลินมาถึงตี้จิง แบบนี้ก็ต้องต้อนรับเป็นอย่างดี”
“หมอเทพหลิน พอดีเลย ฉันจัดงานเลี้ยงพอดี มีดาราดังมากมายและพวกเถ้าแก่ในตี้จิงก็มากัน ไปไหม หมดเทพหลิน แนะนำธุรกิจให้คุณ” กงซุนสือพูดอย่างหยอกล้อ “ฉันรับรอง ขอแค่นายแสดงฝีมือทักษะขั้นเทพของนายหน่อย พวกประธานเหล่านั้นต้องถูกใจนายแน่ จากนี้ไปก็ไม่ต้องใช้ชีวิตโดยพึ่งพาการเกาะผู้หญิงกิน”
พูดจบ ข้างกายกงซุนสือหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งกายทันสมัย มีบุคลิกเหมือนดารา หัวเราะขึ้นมากะทันหัน มองหลินอิ่งอย่างดูถูกโดยไม่ปิดบัง “ฮาฮาฮาฮา คุณชายสือ คุณจะพูดเก่งไปไหม? ฉันฟังจนขำใหญ่แล้ว”
“หมอเทพหลินท่านนี้ เก่งอย่างที่พวกคุณพูดขนาดนั้นเลยเหรอ?” หญิงสาวถามอย่างสนใจ
“แน่นอน ใช่อยู่แล้ว ฝีมือของหมอเทพหลิน แค่ยกนิ้วก็สามารถรักษาโลกได้แล้ว” กงซุนสือพูดจาเสียดสีต่อ ยื่นมือจับหน้าของดาราสาวคนนั้น
“ทำไม? หมอเทพหลิน คุณจะไม่ให้หน้ากันขนาดนี้เลยเหรอ? พี่สือให้แนะนำหนทางให้คุณนะเนี่ย?” เจิ้งหยวนเป่าก็พูดจาเสียดสีตาม “ไม่ว่ายังไง ติดตามพี่สือ ก็ดีกว่าที่คุณเกาะผู้หญิงกินไปวันๆใช่ไหม? หา?”
“ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าหมอเทพหลินจะชอบเกาะผู้หญิงกิน แบบนั้นพี่สือก็มีหนทาง คุณดูซิ ข้างกายพี่สือรู้จักไหม? ดาราสาวชื่อดังในสังคมตี้จิง ลู่เฉิง” เจิ้งหยวนเป่าพูดด้วยน้ำเสียงเกินจริง “ในแวดวงคุณลู่รู้จักผู้หญิงร่ำรวยมากมาย ว่ายังไง? คนไร้น้ำยาที่หลอกล่อผู้หญิงเพื่อเกาะผู้หญิงกินโดยเฉพาะอย่างนาย หวั่นไหวแล้วใช่ไหม?”
“โอ้โห คุณชายเจิ้ง คุณชายสือ พวกคุณหาเรื่องคนอื่น ทำไมยังเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วย” ลู่เฉินพูดจากเย้ายวนต่อกงซุนสือ “ฉันรู้จักผู้หญิงรวยและเก่งมากมาย แต่ว่า เขาก็อาจจะไม่ถูกใจหมอเทพหลินที่พวกคุณรู้จักก็ได้”
“พวกคุณพูดกันพอหรือยัง? พวกคุณสองคนเป็นใคร? เสียมารยาทกันคุณหลินขนาดนี้?” ฉู่ฉู่พูดกับเจิ้งหยวนเป่าและกงซุนสือ ทนดูหน้าสองคนนี้ไม่ไหว
คนเก่งอย่างคุณหลิน แต่กลับพวกเขาสองคนพูดจนไม่เหลืออะไรดี
“สาวน้อย เธอพูดจาต้องระวังหน่อย เธอรู้ฐานะของคุณชายสือและคุณชายเจิ้งไหม?” ลู่เฉินหัวเราะเย็นชามองหน้าฉู่ฉู่ ท่าทางหยิ่งยโส “พูดออกมาแล้ว เกรงว่าเธอจะตกใจ”
กงซุนสือและเจิ้งหยวนเป่า
คนหนึ่งเป็นคุณชายลูกหลานรุ่นที่สามผู้มีอำนาจ อีกคนเป็นทายาทรุ่นที่สามของตระกูลเจิ้งมณฑลเกาหยาง ตระกูลเจิ้งอยู่ในตี้จิงก็ถือว่าเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง
ระดับของสองคนนี้ ในตี้จิงที่เป็นดั่งสถานที่มีอัจฉริยะยอดฝีมือซ่อนอยู่ ก็ถือว่าอยู่ระดับต้นๆ
“โอ้โห หมอเทพหลิน นายเห็นหรือยัง ถูกผู้หญิงดูถูกแล้ว คนอื่นเขายังรู้สึกว่านายไม่มีสิทธิ์แม้แต่เกาะผู้หญิงกิน” กงซุนสือพูดอย่างได้ใจ
“ไม่ใช่ฉันพูด ฉันนี่ดูถูกคนอย่างนายจริงๆ นายจะทำอะไรได้? ฉันอยากช่วยเหลือนายสักหน่อย นายยังไม่รู้จักขอบคุณอีก?”
หลินอิ่งหัวเราะไม่ตอบ หัวเราะอย่างเย็นชามองสองคนนี้พูดคนนี้คำคนโน้นคำท่าทางปัญญาอ่อน
“นายแน่ใจหรือว่าจะให้ฉันทำยังไง?” หลินอิ่งถามอย่างสนใจ
“โอ้โห? ยังไม่พอใจเหรอ? ไม่พอใจแล้วนายจะทำอะไรได้? ไม่พอใจ ไปเรียกคนของนายมาเลย” กงซุนพูดอย่างเย็นชา
“นายโทรศัพท์ตอนนี้เลย ฉันก็อยากดูเหมือนกัน ในตี้จิงนี้นายจะมีความสัมพันธ์เยอะแค่ไหน ยังกล้ามาท้าทายฉันที่นี่?”
พูดจบ กงซุนสือหยิบซิการ์ขึ้นมา สีหน้าเต็มไปด้วยความได้ใจ
“ประธานหลิน ผมมาแล้ว ท่าน ที่นี่มันสถานการณ์อะไรครับ?”
ในเวลาเดียวกัน น้ำเสียงที่เคารพและรู้สึกแปลกใจดังขึ้น
เห็นเพียง นิ่งซวนพาบอดี้การ์ดสิบคน เดินเข้ามาจากประตู
นอกประตู ยังมีรถเบนท์ลี่ย์สีดำจอดอยู่สิบกว่าคัน มีชายหนุ่มร่างกายแข็งแกร่งยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ค่อนข้างเอิกเกริก
“นิ่งซวน คุณมาพอดี จัดการคนพวกนี้หน่อย จัดการเสร็จแล้วส่งไปที่คฤหาสน์ตระกูลกงซุนในตี้จิง” หลินอิ่งมองไปที่นิ่งซวน พูดอย่างใจเย็น
เขาขี้เกียจไปถือสาคุณชายเจ้าสำราญอย่างกงซุนสือและเจิ้งหยวนเป่า ขับรถหรู กอดดาราสาว แม้แต่พ่อเขาเป็นใครยังไม่รู้จัก
ตอนแรกคิดว่าจะให้ฮาเดสลงมือจัดการก่อนค่อยว่ากัน ในเมื่อนิ่งซวนถึงแล้ว ก็ให้นิ่งซวนไปจัดการ ทำให้สองคนนั้นจำอย่างเข็ดหลาบไปเลย
“จัดการพวกเขา? ได้ครับ ประธานหลิน ผมเข้าใจแล้ว” นิ่งซวนพยักหน้าอย่างเคารพ มองไปที่พวกกงซุนสือด้วยสายตาเย็นชา
“โอ้โห? นายยังชวนเพื่อนมาด้วยเหรอ? ให้เพื่อนนายจัดการพวกเรา? ตลกตายล่ะ คนอย่างนายที่ไปเป็นลูกเขยไร้น้ำยาเกาะผู้หญิงกิน จะไปรู้จักคนใหญ่โตในตี้จิงได้ยังไง?” เจิ้งหยวนเป่าพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยาม หันสายตาไปมองนิ่งซวน
“นายนี่มันตัวอะไร? มาคิดว่าตัวเองใหญ่โตที่นี่? ทำอย่างเอิกเกริกใหญ่โตเหรอ? อ้าปากก็พูดว่าจะจัดการคนอื่น รู้ไหมว่าคนข้างกายฉันนี่ฐานะอะไร? เป็นถึงตระกูลกงซุน……”
เจิ้งหยวนเป่าพูดกับนิ่งซวยด้วยสีหน้ายโสโอหัง
คำพูดยังพูดไม่จบ ก็เสียงดังเพี๊ยะ
นิ่งซวนยกมือก็ตบลงไปที่หน้า ตบไปที่หน้าของเจิ้งหยวนเป่าจนหน้าของเขามีรอยฝ่ามือ
“แกกล้าพูดไปเลื่อยต่อหน้าประธานหลินอีกคำ ฉันตัดลิ้นของแกแน่”
นิ่งซวนตะโกนเสียงเย็นชา แปร่งราศีอันน่าเกรงขามออกมา
เจิ้งหยวนเป่าสีหน้าแดงก่ำ ตกใจจนถอยหลังไปสองก้าว สีหน้าไม่พอใจ
“คุณชายสือ มัน มันกล้าลงมือกับผม” เจิ้งหยวนเป่าพูดด้วยสีหน้าหดหู่
กงซุนสือขมวดคิ้วเล็กน้อย สังเกตดูนิ่งซวนอย่างละเอียด แล้วดูสถานการณ์เอิกเกริกของนิ่งซวน ในใจก็ไม่ค่อยมั่นใจ
นิ่งซวนในวันนี้ หลังจากได้ควบคุมอำนาจตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงแล้ว ผู้คนที่ได้เจอต่างก็เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมตี้จิง แน่นอนว่าต้องมีบุคลิกที่น่าเกรงขามอยู่แล้ว พอโมโหขึ้นมา ก็ต้องให้ความกดดันกับคนที่อยู่ตรงหน้า
“คุณผู้ชายท่านนี้? ดูแล้วคุณก็เป็นคนมีฐานะในตี้จิง คุณเป็นคนตระกูลไหน? ผมคือกงซุนสือ กงซุนเฟยหงของตระกูลกงซุนเป็นพ่อของผม” กงซุนสือพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณอยู่ดีๆก็ตบหน้าเพื่อนผม นี่คือไม่ให้เกียรติผมเหรอ?”
“ทางที่ดีที่สุดให้เกียรติผมหน่อย ขอโทษเพื่อนผมด้วย ไม่อย่างนั้น วันนี้ไม่จบแค่นี้แน่” กงซุนสือพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มั่นใจในฐานะของตัวเอง ไม่กลัวแม้แต่น้อย
“ให้เกียรติคุณ คุณคิดว่าคุณเป็นตัวอะไร?”
นิ่งซวนยิ่งฟังยิ่งโมโห แค่คุณชายเจ้าสำราญของตระกูลกงซุนคนเดียวกล้าอวดดีต่อหน้าประธานหลิน?
ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ
“ลงมือ จัดการพวกมันทุกคนจนล้มนอนกับพื้น”
นิ่งซวนโบกมือ สั่งบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกาย