ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 544 ลอบฆ่า?
ภายในห้องโถงรองอันหรูหรา ยื่นมือไม่เห็นนิ้ว
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“หือ? ทำไมถึงไฟดับ?”
จ้าวหลินเอ๋อร์กับกงซุนชิวอวี่พูดด้วยความแปลกใจพร้อมกัน
“สองท่าน ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“คุณชายใหญ่กับคุณชายอิ่งล่ะ?”
เวลานี้ ตรงประตูมีแสงไฟส่องมา
หม่าผิงชวนถือมือถือเดินเข้ามา ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ภายใต้แสงไฟนี้ ก็พอมองเห็นบ้าง หลินอิ่งและจ้าวเฉิงเฉียนก็มาถึงห้องโถงรองอย่างไร้วี่แวว ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ชิวอวี่ ไม่เป็นไรใช่ไหม? ฉู่ฉู่ล่ะ?” หลินอิ่งกวาดตามอง แล้วถาม
“พี่ เมื่อกี้เธอไปเข้าห้องน้ำ น่าจะใกล้กลับมาแล้ว?” กงซุนชิวอวี่พูด
“ไปเข้าห้องน้ำ?” หลินอิ่งถามอย่างขมวดคิ้ว ในใจมีความรู้สึกไม่ค่อยดี
“ใช่ พี่ ไม่รู้ว่าสถานการณ์อะไร อาคารไฟดับกะทันหัน หรือว่าฝ่ายนิติบุคคลทำงานแย่ขนาดนี้?” กงซุนชิวอวี่พูดอย่างไม่พอใจ
จ้าวหลินเอ๋อร์ถูกคำพูดนี้ทำให้สำลัก สีหน้าไม่พอใจ
มองหลินอิ่งด้วยสายตาไม่พอใจ รู้สึกว่าหลินอิ่งไม่ถามถึงเธอเลยแม้แต่คำเดียว แต่กลับเป็นห่วงเป็นใยฉู่ฉู่และกงซุนชิวอวี่เป็นอันดับแรก
“เหล่าหม่า นี่มันเรื่องอะไรกัน? เผยหวูหมิงไปไหนแล้ว? ผู้รับผิดชอบของอาคารนี้อยู่ไหน ไปเรียกเขามา ถามให้ชัดเจนว่าเขาทำงานยังไง” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างเคร่งขรึม สีหน้าไม่ดี
เขากำลังคุยกับคนสำคัญอย่างหลินอิ่งอยู่ ในถิ่นของตระกูลตัวเอง กลับเกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้ จะให้เอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“เรียบคุณชายใหญ่ เมื่อครู่แขกผู้หญิงที่คุณชายอิ่งพามา ไปเข้าห้องน้ำ ผมให้เผยหวูหมิงตามไปเฝ้าข้างนอก เพื่อป้องกันเกิดอุบัติเหตุอะไร” หม่าผิงชวนพูดอย่างจริงจัง
“เพราะว่าเป็นแขกของคุณชายอิ่ง ในถิ่นของตระกูลจ้าว ผมไม่กล้าให้มีอุบัติเกิดขึ้นกับแขก” หม่าผิงชวนพูดอธิบาย กังวลว่าหลินอิ่งจะเข้าใจการกระทำของเขาผิด
“ไปนานแค่ไหนแล้ว? ทำไมเผยหวูหมิงยังไม่เข้ามา?” จ้าวเฉิงเฉียนถาม
“แขกผู้หญิงท่านนั้นออกไปประมาณห้านาทีแล้ว” เผยหวูหมิงตอบอย่างจริงจัง
“นี่…….” จ้าวเฉิงเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองหลินอิ่ง เพื่อถามความหมายของเขา
เขาดูการตอบสนองของหลินอิ่ง สงสัยว่าน่าจะมีคนเจาะจงมาเพื่อหลินอิ่งโดยเฉพาะ
สำหรับคนแข็งแกร่งอย่างหลินอิ่ง ปฏิบัติการที่เจาะจงเขาโดยตรง มีความอันตรายขนาดไหน
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย กำลังจะพูดอะไร
ทันใดนั้น บอดี้การ์ดหนุ่มชุดสูทสองนายเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“รายงานประธานจ้าว เกิดปัญหาขึ้นในอาคาร ห้องควบคุมไฟฟ้าไม่มีคนรับสาย ผมส่งคนไปสำรวจสถานการณ์แล้ว”
“แล้วก็ประธานจ้าว เมื่อกี้บอดี้การ์ดของท่านไม่รู้ว่ากำลังต่อสู้กับใคร พวกเราได้ยินเสียง”
“อะไร? บอดี้การ์ดผม” จ้าวเฉิงเฉียนสีหน้าเย็นชาทันที ประสาทตึงเครียดขึ้นมาทันที
เผยหวูหมิงต่อสู้กับคนอื่น?
คนที่สามารถสู้กับเผยหวูหมิงได้ นั่นไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่
เห็นได้ชัดว่า เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
หลินอิ่งสายตาเย็นชา ร่างกายชิ้วทีเดียว พุ่งออกจากห้องโถงรอง
ท่ามกลางความมืด การมองเห็นในที่มืดของเขา ไม่ต้องพึ่งแสงไฟ มุ่งหน้าไปทางห้องน้ำของลานจัดเลี้ยงทันที
“นี่มัน?” หม่าผิงชวนสีหน้าลังเล มองไปที่จ้าวเฉิงเฉียน
บรรยากาศตึงเครียด ตัวจ้าวเฉิงเฉียนเองก็ตื่นเต้นเล็กน้อย
“เหล่าหม่า คุณอยู่ที่นี่ดูแลหลินเอ๋อร์และคุณหนูกงซุน ผมไปดูด้วยตัวเองหน่อย”
“ต้องขอดูหน่อย ใครกันแน่ที่กล้าก่อเรื่องในถิ่นของตระกูลจ้าว”
สั่งเรียบร้อยแล้ว จ้าวเฉิงเฉียนก็ตามไปด้วยสีหน้าเย็นชา
หนึ่งนาทีผ่านไป
หลินอิ่งปรากฏตัวบนทางเดินหน้าห้องน้ำ
“ฉู่ฉู่?”
หลินอิ่งเรียกไปคำหนึ่ง ไม่มีคนตอบรับ ได้ยินเพียงเสียงสะท้อนกลับจากทางเดิน
รอบด้านไม่มีคนเลย เงียบไร้เสียง ผนังอาคารถล่มลงมาเป็นรู เหมือนเกิดการสู้รบอย่างรุนแรง
หลินอิ่งสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชาทันที
ตอนแรกเขาก็มีการคาดเดาที่ไม่ดีอยู่แล้ว ได้ยินบอดี้การ์ดมารายงานสถานการณ์แล้ว ก็เข้าใจทันที นี่มันเกิดเรื่องใหญ่แล้ว
สามารถต่อสู้กับยอดฝีมือรายการคนอย่างเผยหวูหมิงได้ นั่นก็เห็นได้ชัดว่าอันตรายแค่ไหน
ส่วนเผยหวูหมิงเมื่อกี้ก็ไปปกป้องฉู่ฉู่พอดี
เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นปฏิบัติการอยู่วางแผนไว้แล้ว
ไม่ได้เจาะจงมาที่เขา แต่คือฉู่ฉู่
มองไปตามร่องรอยการต่อสู้บนผนัง หลินอิ่งเดินไปที่ช่องทางนิรภัยอันกว้างขวางของอาคาร
ประตูนิรภัยถูกคนถีบจนแตกกระจายเป็นชิ้นๆ
ทางเดินด้านใน มืดสนิท มีกลิ่นคาวเลือดบางๆ บนผนังมีร่องรอยเลือดเปื้อนอยู่
หลินอิ่งสีหน้าตึงเครียด เสียงฝีเท้าดังกึกก้อง ค่อยๆเดินเข้าไป
อีกฝั่งหนึ่ง ทางโค้งแห่งหนึ่งบนทางเดินในอาคาร
เสียงดังเพี้ยงพร้าง ปังปังปัง
เสียงกระทบยังคงก้องอยู่ในทางเดิน และปะปนกับเสียงฝีเท้าที่วุ่นวายและหนักหน่วง
เห็นเพียงเงาดำที่เคลื่อนไหวดั่งสายฟ้าท่ามกลางความมืด และมีแสงดาบยาวกะพริบอยู่กลางความมืด ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
ท่ามกลางความมืด แสงดาบระยิบระยับผ่านไป
เลือดกระเด็นสาดออกไป
“เอื้อก”
เผยหวูหมิงตะโกนด้วยความเจ็บ ถูกดาบฟันที่ไหล่ ถอยหลังไปหลายก้าว สายตาหนักแน่นและเจ็บปวด สีหน้าซีดขาว
คนชุดดำถือดาบหลายคนยืนอยู่หน้าเขา ค่อยๆขยับเข้ามา
ฉู่ฉู่ยืนอยู่ที่ไม่ไกลนัก ปิดปากไว้ ด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“พวกแกเป็นคนต้าเหอ? นี่มันวิชาดาบของสำนักยุทธ์เชียน?” เผยหวูหมิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกแกเจาะจงใครกัน? กล้าลงมือในถิ่นของตระกูลจ้าว?”
จากการประลองฝีมือแล้ว เผยหวูหมิงรู้ที่มาของคนชุดดำลึกลับแล้ว
นี่คือกลุ่มคนต้าเหอ ยังเป็นสำนักยุทธ์เชียนที่ชื่อเสียงโด่งดังจากประเทศต้าเหอ
ล้วนเป็นยอดฝีมือระดับหนึ่งทั้งนั้น แม้แต่เขาก็แค่พอรับมือได้เท่านั้น
เขาไม่เข้าใจ ยอดฝีมือระดับนี้ทำไมถึงมาลอบฆ่าหญิงสาวผู้อ่อนแอที่ไร้อาวุธป้องกันตัวคนหนึ่งอย่างไร้ยางอายเช่นนี้
“นายรู้ว่าพวกเราคือสำนักยุทธ์เชียน? น่าสนใจ” หัวหน้าคนชุดดำพูดด้วยเสียงแหบ “นายดูแล้วก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือที่ใช้ได้ นายบอกว่าตระกูลจ้าว? นายไม่ได้ทำงานให้หลินอิ่ง?”
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอเตือนนายว่าอย่างเข้ามายุ่ง ไสหัวไปซะ เป้าหมายของเรา มีเพียงผู้หญิงคนนี้กับหลินอิ่ง”
คนชุดดำพูดจาข่มขู่
“หลินอิ่ง?” เผยหวูหมิงสีหน้าเคร่งเครียด รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนแรกเขาได้รับคำสั่งให้ปกป้องแขกที่หลินอิ่งพามา คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่โตแบบนี้
“ที่นี่เป็นถิ่นของตระกูลจ้าว แวดวงลึกลับประเทศหลงมีระเบียบ” เผยหวูหมิงพูดอย่างเย็นชา “ในประเทศหลุง ยังไม่ใช่สิทธิ์ของคนนอกจากต้าเหออย่างพวกแกมาอวดดี ยังอยากจะฆ่าคนต่อหน้าคนในแวดวงลึกลับอีก?”
“ถ้าอย่างนั้นแกก็ไปตายเถอะ”
คนชุดดำพูดเสียงเย็นชา
ทันใดนั้น ดาบหลายเล่มฟันลงไป ส่วนโค้งของดาบนั้นเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และรวดเร็วราวกับสายฟ้า
เผยหวูหมิงหมุนร่าง หนึ่งหมัดฟาดลงไป หมัดสะเทือนดั่งสายลม ฟาดดาบถอยออกไปหลายเล่มเสียงดังติ้งตั๊ง
จากนั้น คนชุดดำหลายคนก็พุ่งเข้ามา สู้กันพัลวันอยู่กับเผยหวูหมิง
หลังจากสู้กันห้าหกท่า เผยหวูหมิงสู้ไม่ไหว จากการถูกรุมล้อมก็ถูกฟันไปหลายครั้ง จนเลือดท่วมตัว แล้วถูกคนชุดดำคนหนึ่งฟากฝ่ามือลงมา คนทั้งคนกระเด็นออกไปไกลสิบเมตร ล้มลงข้างผนังอย่างแรง จนผนังเป็นรู
“แคกแคกแคก……” เผยหวูหมิงเลือดซึมออกจากปาก นอนอยู่บนพื้น ตัวชาไปทั้งร่าง ถูกทำร้ายจนเกือบตายแล้ว
“ไปฆ่าผู้หญิงคนนั้นซะ”
หัวหน้าคนชุดดำออกคำสั่งเย็นชา
ฉู่ฉู่ปิดปากไว้ ค่อยๆถอยหลัง ตางามคู่นั้นมีแววแห่งความหวาดกลัว