ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 555 เข้าเยี่ยมตระกูลจ้าว
“เชี่ยจุน แกรีบคุกเข่าที่ร้านอาหารจ้วยเจียงซานเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น กล้าพูดมากอีกแค่คำเดียว ฉันกลับไปเอาแกไปฝังบนเขาแน่”
ในโทรศัพท์ เป็นเสียงอันโมโหที่ดังขึ้นมา
ทันใดนั้น เชี่ยจุนสีหน้าซีดขาว ใบหน้าเหมือนคนตาย เหมือนดั่งไร้ความรู้สึกทั่วร่าง
เสียงดังติ๊ด ทางโน้นวางสายแล้ว
ทันใดนั้นบรรยากาศกดดันอย่างพูดไม่ถูก ทั้งด้านในด้านนอก ต่างก็เงียบไร้เสียง
ลูกน้องที่เชี่ยจุนพามา ต่างก็หุบปากแน่น ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลยแม้แต่คนเดียว
ทุกคน ต่างก็ใช้สายตาที่เคารพและเกรงกลัว แอบมองหลินอิ่ง ไม่กล้าแม้แต่มองโดยตรง กลัวว่าจะถูกหลินอิ่งจ้อง
พวกเขาเก็บอาวุธเข้าไปเงียบๆอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ท่าทางหวาดกลัว
หลินอิ่งนั่งดื่มน้ำชาอย่างใจเย็น ราศีที่ไม่ต้องโมโหก็ดูแข็งแกร่งขนาดนั้น ก็ทำให้ทุกคนหวาดกลัวจนตัวสั่นแล้ว เหงื่อไหลไม่หยุด
สถานการณ์ประหลาดมาก ช่างน่ากลัวมาก
สถานการณ์พลิกผันแบบนี้ คนโง่ขนาดไหนในเหตุการณ์ก็ดูออก
ชายหนุ่มที่นั่งดื่มชาตรงนั้น นั่นไม่ได้ข่มขู่ใคร แต่แค่โทรศัพท์สายเดียวก็เรียกลูกพี่ซื่อออกมาได้จริง
ต้องรู้ว่า ซื่อไท่ลูกพี่ซื่อ นั่นเป็นถึงผู้นำใหญ่ในเขตเมืองเก่า
อย่าว่าแต่ย่านพาณิชย์หยกมณีเล็กๆเลย ซอยต่างๆในเขตเมืองเก่า นั่นเป็นลูกน้องของลูกพี่ซื่อทั้งหมด
ลูกพี่ซื่อ ในโลกแห่งความมืดเขตเมืองเก่า ก็มีตำแหน่งอยู่เหมือนดั่งเจ้าพ่อ
สิบนาทีผ่านไป
รถRolls-Royceสีดำคันหนึ่งขับเข้ามาในซอยหยกมณี จอดอยู่หน้าร้านอาหารจ้วยเจียงซาน
เสียงฮวั๊ก ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ สีหน้าดุดัน บนใบหน้ามีรอยแผลมีดอยู่หลายแผล ไม่กล้ารอให้คนขับรถมาเปิดประตู ก็รีบวิ่งลงจากรถ วิ่งเข้าไปในร้านจ้วยเจียงซานอย่างรวดเร็ว
“ท่านอิ่ง ขอโทษครับ ผมมาช้าไปแล้ว”
ซื่อไท่ยืนตัวตรง ก้มคำนับต่อหน้าหลินอิ่งเก้าสิบองศา เหงื่อท่วมหน้าผาก
เขาให้หางตาเหล่มองเชี่ยจุน สายตาอันโหดเหี้ยมนั้นจ้องจนสามารถฆ่าเชี่ยจุนให้ตายได้
ลูกน้องในมือเชี่ยจุน ก่อเรื่องเก่งนัก แม้แต่ท่านอิ่งยังกล้าหาเรื่อง? นี่จะไม่รู้จักความเคารพที่ต่ำที่สูงแม้แต่นิดเดียว
ท่านอิ่ง นั่นเป็นถึงเจ้านายของลูกพี่ซื่อไท่ของเขาและหยูจื๋อเฉิง
หลินอิ่งวางแก้วน้ำชา มองซื่อไท่อย่างลึกซึ้ง
ซื่อไท่ไม่กล้ามองหลินอิ่ง ก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้น
“ซื่อไท่ คนนี้เป็นคนของคุณ ดูว่าจะจัดการยังไง” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
“ผมไม่กล้า รอคำสั่งท่านอิ่งทั้งหมดครับ” ซื่อไท่พูดอย่างเคารพ
“คุณไม่กล้า?” หลินอิ่งพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คุณดูแลลูกน้องยังไง?”
“เขตเมืองเก่าให้คุณเป็นคนดูแล ควบคุมจนวุ่นวายขนาดนี้? ยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกลางถนน? ยังสามารถใช้ชื่อของคุณสร้างเรื่องก่อกวน ปล่อยหนี้นอกระบบ แย่งลูกสาวชาวบ้าน?”
คำพูดอันเย็นชาของหลินอิ่งพูดจบ ก็เหมือนเข็มทิ่มแทงอยู่ในใจซื่อไท่
ความกดดันของซื่อไท่เพิ่มพูนขึ้น ตัวสั่นทั้งร่าง จนเกือบจะเป็นลมไปทันที
ท่านอิ่งโมโหจริงแล้ว เริ่มสงสัยความสามารถของเขาแล้ว……
“ท่านอิ่ง ผมสั่งสอนลูกน้องไม่ดี ขอโทษครับ ที่ทำให้ท่านผิดหวัง” ซื่อไท่สีหน้าตื่นเต้น พูดอย่างจริงจัง “ท่านจะลงโทษยังไง ผมยอมรับทุกอย่าง ผมจำบุญคุณของท่านอิ่งไว้ตลอด ถ้าตอนนั้นไม่มีท่านอิ่ง ผมก็ไม่มีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้แล้ว”
ใช่แล้ว ถ้าหากไม่ใช่หลินอิ่งควบคุมตี้จิง ตอนนั้นเขาและหยูจื๋อเฉิงถูกคนจับตัวไป ก็คงตายหมดแล้ว
ไม่มีท่านอิ่ง เขาก็ไม่มีวันมีตำแหน่งอย่างวันนี้ได้
สามารถเป็นถึงหัวหน้าของเขตเมืองเก่า นั่นก็เป็นเพราะผู้นำได้ดีก็ดีไปด้วย นั่งบนเรือลำเดียวกันพร้อมหยูจื๋อเฉิงของท่านอิ่งตระกูลฉี
เพราะฉะนั้น ถึงหลินอิ่งจะสั่งคำเดียวว่าให้เขาไปตาย เขาก็ต้องทำตามอย่างแน่นอน
หลินอิ่งค่อยๆลุกขึ้น มือไขว้หลัง สายตาอันเฉียบคมมองทุกคนในเหตุการณ์
วินาทีนี้ ชายฉกรรจ์ชุดสูททุกคนในเหตุการณ์ ต่างพากันก้มหน้า
เปาต๋าและเชี่ยจุน ยิ่งกลัวจนตัวสั่นร่างไร้เรี่ยวแรง ล้มตัวอยู่บนพื้นไม่กล้าขยับ
พวกเขาเห็นซื่อไท่ท่าทางเคารพหลินอิ่งขนาดนี้
บวกกับสองคำที่ออกจากปากของซื่อไท่ว่าท่านอิ่ง
ก็เข้าใจแล้ว คนที่นั่งตรงหน้าไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นคุณชายอิ่งแห่งตี้จิง
พูดไปแล้ว พวกเขาเหล่านี้ที่หากินอยู่ข้างนอก ยังต้องเอาชื่อของหยูจื๋อเฉิงมาข่มขู่คนอื่น ให้คนอื่นต้องคิดถึงว่าหยูจื๋อเฉิงเป็นตัวแทนของคุณชายอิ่งในวงการ
ชื่อเสียงของคุณชายอิ่งตระกูลฉี พวกเขาก็ใช้ไปไม่น้อยเลย
ครั้งนี้ กลับหาเรื่องถึงคนจริงแล้ว
“ซื่อไท่ คุณทำให้ผมผิดหวังมาก” หลินอิ่งพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ผมให้โอกาสคุณหนึ่งครั้ง จัดระเบียบลูกน้องในมือให้ดี ถ้าให้ผมพบอีก ว่ามีระเบียบแบบนี้อยู่ในเขตเมืองเก่า ยังมีใครกล้าทำชั่วอีก คุณ ก็เอาหัวมาพบผมได้เลย”
พูดจบ หลินอิ่งไม่ได้พูดอะไรมากอีก ไขว้มือเดินออกจากจ้วยเจียงซาน
เย่เฮยเดินตามด้วยสีหน้าเย็นชา
หวงชิงซานจูงมือลูกสาวหวงเสี่ยวเหมยเดินตามอยู่ข้างหลัง
หวงเสี่ยวเหมยใช้สายตาอันนับถือ จ้องมองหลินอิ่งไม่ละสายตา น่าเกรงขามเหลือเกิน
“ครับ ท่านอิ่ง ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอนครับ”
ซื่อไท่ยังคงก้มหน้า พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ส่วยเปาต๋าและเชี่ยจุน สีหน้าหม่นหมอง หน้าตาไม่ดีเหมือนคนเสียพ่อแม่ไป
คุณชายอิ่งไม่ได้ให้โอกาสพวกเขาสองคนขอโทษรับผิดเลย
ก็ตัดสินโทษตายโดยตรง แบบนี้เลย
แม้แต่ลูกพี่ซื่อก็ถูกพูดจาสั่งสอนตักเตือน ส่วนพวกเขาสองคนที่ทำผิด…….
ตามวิธีการจัดการของลูกพี่ซื่อ เปาต๋าต้องจบชีวิตแน่ ส่วนเขาเชี่ยจุน ถึงจะไม่ตาย ชีวิตนี้ก็ต้องจบแน่……..
หลินอิ่งเดินออกจากร้าน บอดี้การ์ดชุดสูทแต่ละนาย ต่างก็ก้มหน้าคำนับ หลบทางให้อย่างเจียมตัว
“ท่านอิ่งเดินทางปลอดภัย ได้โปรดท่านอิ่ง ครั้งหน้า ผมจะจัดระเบียบทั้งหมดให้ดี”
ซื่อไท่เดินไปถึงหน้าประตู ยืนอยู่ท่ามกลางคน ก้มหน้าส่งอย่างเคารพ
ตุ๊บตั๊บ
ตุ๊บตั๊บ
ทันใดนั้น บอดี้การ์ดที่ตามเชี่ยจุนมาหาเรื่องหลินอิ่ง ต่างพากันคุกเข่าบนพื้น ก้มคำนับให้หลินอิ่งทุกทิศทุกทาง
ทุกคนต่างก็ตกใจกันไปหมด
เจ้าพ่อใหญ่อย่างลูกพี่ซื่อแบบนี้ ยังโค้งคำนับเก้าสิบองศา ส่งตัวคุณชายอิ่งอย่างเคารพแบบนี้
ถ้าอย่างนั้นคนอย่างพวกเขา ก่อนหน้านี้ยังหาเรื่องหลินอิ่ง ไม่คุกเข่าได้ยังไง?
หลินอิ่งไม่ได้สนใจ มือไขว้หลังจากไป เหลือไว้เพียงแผ่นหลังให้กับคนพวกนั้น
เย่เฮยขับรถมา พวกเขาก็พากันขึ้นรถแล้ว
“ขับไปที่ตระกูลจ้าวเขตเสิ่นหนง” หลินอิ่งออกคำสั่ง จากนั้นก็หลับตาพักผ่อน
“ครับ” เย่เฮยพยักหน้าอย่างจริงจัง
จากนั้น รถเบนท์ลี่ย์สีดำขับออกจากซอยหยกมณี เข้าไปสู่ถนนอันเจริญรุ่งเรือง
ทางด้านเขตเมืองเก่า หลินอิ่งตั้งใจจะให้ซื่อไท่มารายงานด้วยตัวเอง ว่าจัดการได้ยังไง
ทุกวันนี้ หวงชิงซานเชิญออกมาแล้ว
เรื่องที่เขาจัดให้หวงชิงซาน ก็คือจับตาดูคนต้าเหอกลุ่มนั้นในเขตเสิ่นหนง
เขตเสิ่นหนง ก็คืออาณาเขตของตระกูลจ้าว
ตอบรับคำเชิญของแม่เฒ่าตระกูลจ้าวแล้ว ก็ต้องไปจัดการเรื่องดี