ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 564 แกเป็นอะไรกับหล่อน?
อาจารย์หลี ดูเหมือนเกรงกลัวในอิทธิพลของหูบาเป็นอย่างมาก ยิ้มประจบพูดว่า “ท่านประธานหูคะ ท่านวางใจเถอะค่ะ ดิฉันจะต้องตามเอาคนของหล่อนมาให้ได้ ถึงผู้ปกครองหล่อนไม่ยอมมา ดิฉันก็จะไม่ให้หล่อนเข้าเรียนอีกต่อไป หล่อนได้ทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียนแล้ว หากท่านยังไม่พอใจอีก ดิฉันก็จะให้หล่อนออกจากโรงเรียนไปเลย ถึงเวลานั้น คนที่บ้านหล่อนยังไงก็ต้องมาแน่แล้วละคะ”
“ฮึ!อาจารย์หลี จะให้ดีนะ คุณต้องจัดการเรื่องนี้ให้เคลียร์ คุณรู้ไหม ประธานเซ่ ของสถาบันนี้ เป็นอะไรกับฉัน ถ้าคุณเคลียร์ไม่ชัดเจน คุณก็ไม่ต้องอยู่ที่โรงเรียนนี้อีกต่อไป”หูบาพูดข่มขู่ นั่งลงที่เก้าอี้ครู สบัดขาขึ้นไขว่ห้าง
“ค่ะๆ ..เรื่องนี้ดิฉันเข้าใจค่ะ ทราบดีค่ะ ท่านประธานเซ่ ได้โทรศัพท์มาบอกดิฉันแล้วค่ะ”อาจารย์หลีพูดด้วยประจบยิ้ม
พูดจบ อาจารย์หลีตีหน้าบึ้ง หันกลับไปมองหยังสู้สู้ พูดเสียงเข้มว่า “หยังสู้สู้ ก้าวเข้ามานี่”
หยังสู้สู้ก้าวเข้าไปอย่างว่าง่าย
“เธอรีบเข้าไปขอโทษยอมรับผิดกับเพื่อนนักเรียนแซ่หู ซิ และกล่าวคำขอโทษท่านประธานหูด้วย ยอมรับผิด และรีบตามคนที่บ้านเธอมาให้เร็วที่สุด รู้ไหม?”อาจารย์หลีพูดตะคอกใส่ น้ำเสียงเต็มไปด้วยอำนาจ
“อาจารย์..อาจารย์หลี หนู หนูไม่ผิด”หยังสู้สู้ ปาดน้ำตาแล้วพูด “ก็เพราะหูเจี้ยนเค้าเอาเครื่องดื่มมาสาดใส่หนูก่อน แล้วยังชวนเพื่อนๆ มาล้อหนู ว่าหนูไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ฮือๆๆๆ ………”
“อาจารย์ครับ ผมเพียงเผลอทำขวดเครื่องดื่มหล่น เลยกระเด็นไปถูกหน้าเค้า เค้าก็ยังมาตบผมอีกทีหนึ่ง”น้ำตาตรงขอบตาหยังสู้สู้เอ่อล้นไหลออกมาอีก แต่แววตาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว “หูเจี้ยนมันด่าพ่อของหนู ฉะนั้น หนูจะไม่มีวันขอโทษมัน หนูไม่ขอโทษ!”
“เธอนี่มันเด็กพิลึก เธอว่าหูเจี้ยนด่าเธอ ด่าอะไรเธอ ฮ๊ะ?”อาจารย์หลีจ้องตาเขม็งใส่หยังสู้สู้อย่างไม่สบอารมณ์ “นักเรียนหู บอกว่าเธอไม่มีพ่อแม่ พูดผิดหรือ? เธอก็ไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว คนเขาจะพูดเรื่องจริงก็ไม่ได้เชียวหรือ? แค่นี้เธอก็เขวี้ยงขวดน้ำใส่เค้า แค่นี้เธอก็ตบตีคนได้หรือ? เธอช่างเป็นเด็กไม่มีการอบรมสั่งสอนจริงๆ มิน่าเพื่อนนักเรียนจึงไม่มีใครไม่อยากยุ่งกับเธอ”
“จะว่าไปก็อีกนะ ทำไมนักเรียนหูถึงต้องรังแกแต่เธอ? จ้องสาดน้ำเลอะเทอะใส่หัวเธอ ไม่เห็นไปรังแกคนอื่นไปล้อคนอื่นบ้าง”อาจารย์หลีพูดอย่างเป็นเหตุผล “ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังนะ เธอเอาไปคิดให้ดี หรือใครๆ ทุกคนจ้องแต่จะหาเรื่องเธอคนเดียว”
“หนู…หนู!”สีหน้าน้อยใจสุดๆ เต็มบนใบหน้าหยังสู้สู้ ไม่รู้จะพูดโต้คำพูดอาจารย์หลีได้อย่างไร
“อาจารย์ อาจารย์นั่นแหละจ้องเล่นงานหนู”หยังสู้สู้เชิดปากขึ้นพูดอย่างไม่ยอมสยบ “ท่านลำเอียง เห็นอยู่ชัดๆ ว่าหูเจี้ยนมันผิด”
“อ้าวๆ นี่เธอกล้าย้อนได้แม้ขนาดคำพูดของครูเลยนะ เธอนี่มันเรียนหนังสือไปเสียเปล่าจริงๆ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงว่าใครเป็นครูบาอาจารย์ อายุเพียงน้อยๆ ไม่ยอมรับการสั่งสอน ให้เธอโตขึ้นแล้วจะใช้ได้หรือจะหวังให้มีอะไรเป็นเรื่องเป็นราวได้”อาจารย์หลีว่าออกมาด้วยความโกรธ
“เราโรงเรียนชิงถึงนี้ล้วนชนชั้นผู้ดีมีสกุล สถาบันการศึกษาระดับมาตรฐานสูง มีม้าแหกคอกอย่างเธอ ขืนใครเล่าออกไปคงเป็นเรื่องโจทก์ขานให้ชาวบ้านนินทาว่ามีนักเรียนประเภทนี้ออกมาได้ยังไง!”
“มานี่ ยื่นมือออกมา”
อาจารย์หลีวางมาดอำนาจเต็ม ขยับแว่นขึ้น อีกมือคว้าเหล็กฟุตจะฟาดมือหนูน้อยหยังสู้สู้
“ไม่!คุณครู หนูไม่ผิด คุณครูทำไมต้องตีหนู?”หยังสู้สู้ส่ายหัวไปมา ความรู้สึกน้อยใจ ความไม่พอใจแสดงออกเต็มหน้า
“ยังว่าไม่ผิดอีก เธอดูหน้านักเรียนหู ซิ รอยข่วนจากเธอทำเอาห้อเลือดเต็มหน้า”อาจารย์หลีหน้าบึ้งพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ ชี้ไปที่กลุ่มเด็กชายที่ยืนแอบหัวเราะอยู่ข้างๆ
“แต่…แล้วคุณครูทำไมไม่ดูหน้าหนูละคะ ตะกี้เขาก็ตบหนูตั้งหลายที หนูก็เจ็บมาก”หยังสู้สู้ตอบด้วยความน้อยใจ
“หยังสู้สู้ นั่นมันสมน้ำหน้าแล้ว ใครให้เธอโยนขวดน้ำใส่หน้าฉัน”หูเจี้ยนย้อนตอบด้วยสีหน้าสะใจ ยืนแอบเข้าไปข้างตัวผู้เป็นพ่อ แบะปากล้อเลียน
“มันชักจะเกินไปใหญ่แล้ว ขนาดครูบาอาจารย์ยังไม่เคารพ คำตักเตือนของคุณครูก็ไม่ยอมฟัง เด็กเถื่อนอย่างนี้ ไม่มีพ่อแม่อบรมสั่งสอน ไม่รู้ไอ้คนที่เป็นผู้ปกครองจะเป็นพวกเศษเดนแบบไหน”หูบาขยับซิก้าในปาก พูดออกมาอย่างแดกดัน
อาจารย์หลีเห็นประธานหูไม่พอใจ เลิกคิ้วขึ้น
“ยื่นมือออกมา”
หล่อนก้าวเข้าไปคว้ามือของหยังสู้สู้..ขวับ..ขวับ…ฟาดเหล็กฟุตลงไปสองที
“ว้า…โฮ….”
ฟาดจนหยังสู้สู้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ฝ่ามือแดงบวม
“คุณทำอะไรนั่น?”
ในทันใดนั้นเอง เสียงตวาดเหี้ยมที่แฝงด้วยความโกรธดังเข้ามา
ทำเอาอาจารย์หลีสะดุ้งชะงักมือ กวาดตามองไป
ที่เห็นอยู่หน้าห้องทำงาน เป็นชายวัยหนุ่มในเสื้อเชิ้ตงูขาวกับการแต่งตัวสะอาดเรียบง่าย สีหน้าเย็นชาที่กำลังจ้องหล่อนอยู่
“โฮ….คุณอาหลิน ท่านมาแล้ว หนู…….”หยังสู้สู้พอเห็นหลินอิ่ง ตื่นเต้นตื้นตันจนพูดไม่ถูก รีบวิ่งถลาเข้าไปหา กอดขาของหลินอิ่งแน่น
หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย มองความน่าสงสารของหยังสู้สู้ ในใจเกิดความโกรธพลุ่งขึ้นมา ลูบหัวหล่อนเบาๆ
“ไม่ต้องกลัว อาอยู่ข้างๆ หนูแล้ว”หลินอิ่งพูดยิ้มๆ
หยังสู้สู้ผงกหัวรับรู้
“คุณผู้นี้? คุณเป็นอะไรกับหยังสู้สู้คะ”อาจารย์หลีมองหลินอิ่ง ถามอย่างสงสัย
“ผมเป็นอาของเค้า”หลินอิ่งพูดขึงขัง กวาดตามองหน้าแต่ละคนที่อยู่ในห้อง
“อา..? แล้วพ่อแม่เด็กทำไมไม่มา”อาจารย์หลีถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เด็กคนนี้ผลการเรียนก็แย่มาก และไม่ให้ความเคารพครูบาอาจารย์ อีกทั้งยังทำร้ายเพื่อนนักเรียน ทางเราได้ตัดสินให้เขาออกแล้วค่ะ จะให้ดี คุณควรจะให้พ่อแม่ของเค้ามาเองนะคะ”
“นั่น ท่านผู้นี้คือผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ถูกหล่อนทำร้าย ต้องการจะขอพบผู้ปกครองของหยังสู้สู้ เพื่อคุยปัญหากันให้รู้เรื่อง”
“คุณครูครับ คุณครูคงเป็นครูประจำชั้นของหยังสู้สู้มังครับ เด็กคนนี้ พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว ผมเป็นผู้ปกครองดูแลเขา”หลินอิ่งพูดอย่างชัดเจน
“พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว? มิน่า ว่าแล้วไหมละ เป็นเด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ มิน่าถึงได้รับการอบรมมาแบบนี้ ขยะแท้ๆเลย”หูบามองหน้าหลินอิ่งด้วยสีหน้าดูแคลน แค่นหัวเราะแล้วพูดว่า “สอนเด็กมาซะเป็นแบบนี้ อายุเพียงน้อยๆ ก็ไม่รู้จักเคารพครูบาอาจารย์แล้ว อีกทั้งยังทุบตีเพื่อนนักเรียน เห็นได้เลยว่าไอ้คนที่สั่งสอนเด็กคนนี้มา มันสวะที่ไร้คุณภาพขนาดไหน”
“เฮอะ เหอ ไอ้เด็กละอ่อนอย่างนี้ ไปคุยอะไรเรื่องการอบรมสั่งสอน ฉันดูมันก็ไอ้พวกเดนสังคม พวกไม่มีวัฒนธรรม ไม่รู้คิดมาได้ยังไงส่งเด็กมาเรียนในโรงเรียนชั้นสูงระดับนี้”หญิงวัยกลางคนพูดด้วยยิ้มเยาะ
ได้ยินดังนั้น หลินอิ่งขมวดคิ้วย่นเล็กน้อย ไม่พูดอะไร หันไปมองหยังสู้สู้
“สู้สู้ เกิดอะไรขึ้นในโรงเรียน เล่าให้คุณอาฟัง”หลินอิ่งถามด้วยใบหน้ายิ้ม
“เรื่องเป็นอยางนี้ค่ะ………”หยังสู้สู้จัดรายเรียงเล่าเรื่องทั้งหมดให้หลินอิ่งฟัง
“เอาล่ะ คุณอารู้ละ”
หลินอิ่งมองไปทางหูบากับอาจารย์หลี ด้วยใบหน้าเฉยนิ่ง มีแต่แววตาที่เยือกเย็นเห็นแล้วให้หนาว
“อาจารย์หลี ท่านว่าหยังสู้สู้ไม่เคารพครูบาอาจารย์ ตบตีเพื่อนนักเรียน”หลินอิ่งพูดเรียบๆ “ถ้างั้น ผมอยากจะฟังหน่อยว่า เด็กตัวน้อยๆ แค่นี้ไม่รู้จักเคารพครูบาอาจารย์ยังไง แล้วตบตีเพื่อนนักเรียนยังไง?”
“อ้าว..นี่มันอะไรกันคะคุณ คุณกำลังสอบถามพวกเราที่เป็นครูบาอาจารย์นี่นะ”อาจารย์หลีพูดด้วยความไม่พอใจ “แยกแยะให้ชัดเจนหน่อยนะคะ ดิฉันเป็นครูสายอาชีพ คุณเป็นอะไร หรือคุณคิดว่าคุณรู้เรื่องการให้การศึกษาเด็กนักเรียนได้ดีกว่าพวกเรา”
“เด็กคนนี้นี่ มันหมดหนทางช่วยแล้ว ผลการเรียนก็แย่มากแล้ว เมื่อตะกี้นี้ยังย้อนเถียงดิฉัน”อาจารย์หลีพูดอย่างไม่ยอมความ “ถึงยังไงก็ตามต้องบอกว่าห้องของดิฉันนี้ ไม่ต้องการเด็กคนนี้ อีกเรื่องหนึ่ง คือ ให้ดีที่สุด คุณต้องคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของเด็กชายหูเจี้ยนให้รู้เรื่อง ไปตบตีลูกเค้าซะขนาดนี้”
“อ้อ..นี่คือจุดยืนของอาจารย์หลี นะ”หลินอิ่งพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก หันกลับไปมองหูบา
“คุณต้องการคำตอบ? ไหนคุณลองว่ามา ตบตีลูกคุณขนาดไหน?”หลินอิ่งถามอย่างเย็นชา
“และผมก็อยากจะถามด้วยว่า รอยตบบนหน้าของหยังสู้สู้ ใครตี? มันเป็นฝีมือของไอ้คนอายุกี่สิบขวบ แล้วมาเล่นไม่เป็นเรื่องอย่างไร้ยางอายแบบนี้?”