ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 590 วางแผนการประชุมสุดยอด
เท่าที่สวีจิ่วหลิงดูแล้ว นี่เป็นข่าวที่ดีที่สุดแน่นอน
กำลังกังวลการตายของกงจิ่ว สูญเสียกำลังสนับสนุนอันแข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลังไป
แต่ศิษย์พี่ของกงจิ่วจะมาแก้แค้นให้กงจิ่ว ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่จะจัดการกับหลินอิ่ง ต้องเพิ่มความมั่นใจขึ้นมหาศาลอย่างแน่นอน
เผียวจินฮุนพยักหน้า หัวเราะเย็นชาพูดว่า “มุซาชิ จูโตะมา ต้องเป็นตัวช่วยสำคัญของพวกเราแน่นอน ใครให้หลินอิ่งอวดดีขนาดนี้ แม้แต่กงจิ่วยังกล้าฆ่า ทำให้สำนักยุทธ์เชียนโมโห ต้องเอาเป็นเอาตายกับเขาแน่…….”
“แต่ว่า ก่อนที่มุซาชิ จูโตะมาถึงตี้จิง ใกล้เปิดการประชุมสุดยอดเทียนหลงแล้ว ควรจัดการยังไง?”เผียวจินฮุนพูดอย่างจริงจัง “นายท่านสวี ท่านอยู่ในตี้จิงมีสิทธิ์เป็นผู้นำการประชุมสุดยอด นี่ต้องดูความสามารถของท่านแล้ว”
การประชุมสุดยอดเทียนหลงในอีกสองวัน นั่นเป็นเรื่องใหญ่ในแวดวงธุรกิจที่ทั่วตี้จิงให้ความสนใจ
จัดขึ้นโดยการประชุมธุรกิจใหญ่ตี้จิง ตระกูลผู้ดีชั้นสูงทั้งห้า รวมถึงตัวแทนตระกูลชั้นหนึ่งชั้นสองทั้งหมดมาร่วมการประชุม
เป้าหมาย ก็คือปรึกษาหารือการแบ่งโครงการในเมืองเทียนหลงว่าจะทำอย่างไร
พูดจากแง่มุมหนึ่ง นี่คือการสับไพ่ในแวดวงตระกูลชั้นสูงของตี้จิงก็คือการประชุมศิลปะการต่อสู้ครั้งหนึ่ง
นี่ ก็คือวินาทีแห่งการเปิดไพ่ครั้งสุดท้ายแล้ว
แต่ว่า ดูจากสถานการณ์ในทุกวันนี้แล้ว
แต้มในมือของหลินอิ่งมากกว่าอย่างชัดเจน อยู่เหนือชั้นกว่า
สวีจิ่วหลิงหรี่ตาเล็กน้อย พูดว่า “ข้อนี้ผมเข้าใจอย่างแน่นอน ประธานเผียว คุณวางโครงสร้างในเขตหัวหยางและเมืองเทียนหลงได้ยังไงบ้าง?”
พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเผียวจินฮุนไม่ค่อยดี พูดว่า “ทางด้านเขตหัวหยาง ผมสูญเสียรุนแรง ร้านค้าเปิดไม่ได้ ส่วนโครงการในเมืองเทียนหลง ตอนแรกธุรกิจที่คุยไว้กับตระกูลจ้าว สุดท้ายกลับถูกหลินอิ่งทำลาย ตระกูลจ้าวเก็บคืนสัญญาการร่วมงาน”
คำพูดของสวีจิ่วหลิง ทิ่มแทงบาดแผลของเผียวจินฮุน
คิดว่าเขาที่เป็นถึงนายทุนระหว่างประเทศ ประธานชีซิงกรุ๊ป แต่กลับก้าวเดินอย่างลำบากในตี้จิง
ผู้คนพื้นที่ในแวดวงธุรกิจตี้จิงต่างก็หวาดกลัวต่อความน่าเกรงขามของหลินอิ่ง ไม่ให้เกียรติเขา
แม้แต่โครงการเมืองเทียนหลงที่เจรจาเสร็จแล้ว ก็ถูกหลินอิ่งแย่งไป
“นายท่านสวี”เผียวจินฮุนพูดอย่างเคร่งขรึม “ถึงแม้อยู่ในตี้จิงผมทำอะไรหลินอิ่งไม่ได้ แต่ว่า ผมจัดตั้งสมาคมธุรกิจต่างชาติ จากอิทธิพลของชีซิงกรุ๊ปของผมในนานาชาติผมสามารถทำให้บริษัททุนต่างชาติทั้งหมด ทำการปิดกั้นหลินอิ่งได้”
“ขอแค่หลินอิ่งได้โครงการเมืองเทียนหลงไป ถ้าอย่างนั้น จะไม่มีบริษัททุนต่างชาติเข้าไปแม้แต่บริษัทเดียวอย่างเด็ดขาด”เผียวจินฮุนพูดอย่างมั่นใจ “มีข้อจำกัดแบบนี้ ผมคิดว่า ในงานประชุมสุดยอดเทียนหลง คนที่ยินดีสนับสนุนหลินอิ่ง ล้วนต้องพิจารณาให้ดีอีกนิด”
“ออ?”สวีจิ่วหลิงสีหน้าทั้งแปลกใจดีใจ “ประธานเผียว คุณรวมตัวบริษัททุนต่างชาติทั้งหมดในตี้จิงเรียบร้อยแล้วจริงหรือ บริษัทที่ร่วมกันต่อต้านหลินอิ่ง?”
“แน่นอน”เผียวจินฮุนพูดอย่างมั่นใจ “ผมไม่เพียงแค่ให้บริษัททุนต่างชาติทั้งหมดจำกัดหลินอิ่ง นอกจากนั้น ผมยังหมุนเวียนเงินทุนมาอย่างพอเพียง เตรียมตัวเข้าสู่เมืองเทียนหลงตลอดเวลา”
“สองข้อนี้ ก็คือแต้มต่อที่นายท่านสวีจะเอาไปสู้กับหลินอิ่งในการประชุมสุดยอดนี้”
“ดี”สวีจิ่วหลิงพยักหน้า เปลี่ยนจากสีหน้าอันหม่นหมองก่อนหน้านี้ “ประธานเผียว คุณสนับสนุนขนาดนี้ ในด้านธุรกิจ พวกเราก็มีความมั่นใจในชัยชนะแล้ว”
เผียวจินฮุนถึงแม้จะสู้กับหลินอิ่งในพื้นที่ตี้จิงไม่ได้ แต่ว่าผลกระทบต่อนายทุนบริษัทระหว่างประเทศวางอยู่ตรงนั้น
สำหรับบริษัททุนต่างชาติ มีคนมากมายให้การตอบรับ
คิดไปคิดมา เมืองเทียนหลงทั้งหมดเป็นตลาดใหญ่ขนาดนั้น ครอบคลุมทุกกิจการสาขาอาชีพ บริษัททุนต่างชาติทั้งหมดล้วนทำการปิดกั้นและจำกัด
ถ้าอย่างนั้นหลินอิ่ง ยังจะเรียกใครไปทำธุรกิจกับเขา? ต่อไปจะพัฒนาเมืองเทียนหลงยังไง?
“นายท่านสวี อำนาจพื้นที่ในตี้จิง ก็ต้องพึ่งคุณจัดการให้เรียบร้อยแล้ว”เผียวจินฮุนหัวเราะ “เชื่อว่า ด้วยบารมีของท่านในตี้จิงยาวนานขนาดนี้ สามารถกดทับหลินอิ่งได้”
“นั่นมันแน่นอน”สวีจิ่วหลิงพยักหน้า “ตระกูลชั้นหนึ่งชั้นสองพวกนั้นในตี้จิง ผมทักทายไว้หมดแล้ว”
“ที่พวกเราต้องทำตอนนี้ ก็คือรวบรวมกำลังพลใหม่ เฝ้ารอโอกาส”สวีจิ่วหลิงพูดอย่างช้าๆ “ประธานเผียว ในเมื่อมาแล้ว ก็กินอาหารเที่ยงค่อยไป……”
หลังจากทั้งสองหารือแผนการเสร็จแล้ว ก็มีแผนการล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว
…….
เมืองเทียนหลง ภูเขาฉางชิง
ตรงเชิงเขา มีคฤหาสน์หรูที่ก่อสร้างเสร็จแล้วหนึ่งแถว
ในใจกลางคฤหาสน์หลังหนึ่ง จัดแต่งในแบบโบราณ ตกแต่งอย่างสวยแบบมีระดับ
ข้างโต๊ะจีนชิงชัน จัดวางเก้าอี้อยู่สองตัว
หลินอิ่งนั่งอยู่ ในมือถือน้ำชาอยู่แก้วหนึ่ง กำลังจีบอย่างช้าๆ
จ้าวเฉิงเฉียนนั่งอยู่ตรงข้าม ยกกาน้ำชาขึ้นเติมน้ำชาให้ตัวเอง
“คุณชายอิ่ง คนต้าเหอของสำนักยุทธ์เชียนในตี้จิง ผมจัดการอย่างราบคาบหมดแล้ว”จ้าวเฉิงเฉียนดื่มน้ำชาไปคำหนึ่ง วางแก้วลง พูดอย่างช้าๆ
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย สำหรับฝีมือรวดเร็วและดุดันของจ้าวเฉิงเฉียน เขาไม่ได้แปลกใจเลย
โยนความสามารถตัวเองทิ้งไม่ต้องพูดถึง
อำนาจในที่ลับของจ้าวเฉิงเฉียนในตี้จิง จำนวนยอดฝีมือในมือ บางทีเทียบกับตัวเองแล้วอาจจะดุเดือดกว่าด้วยซ้ำ
อย่างไรเสีย ในพื้นที่ตี้จิงนี้จ้าวเฉิงเฉียนเป็นคุณชายอันดับหนึ่ง บริหารมานานหลายปี มีทั้งทหารลับตระกูลจ้าว และควบคุมอำนาจของแก๊งหยางเหมิน
จัดการข่าวกรองที่มีอยู่ของสาขาย่อยสำนักยุทธ์เชียน ก็เป็นเรื่องง่ายดาย
ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง หลินอิ่งมองไปที่จ้าวเฉิงเฉียน พูดว่า “ผมฟังลูกน้องรายงานว่า คนต้าเหอสองคนนั้นที่ถูกสอบปากคำ บอกว่าตำแหน่งของกงจิ่วในสำนักงานใหญ่สำนักยุทธ์เชียนสูงมาก ผู้นำใหญ่หลายคนในสำนักงานใหญ่สำนักยุทธ์เชียนกับเขาเป็นศิษย์พี่น้องจากสำนักเดียวกัน”
“คุณรู้เรื่องนี้หรือไม่?”
“เรื่องนี้”จ้าวเฉิงเฉียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พูดว่า “มีเรื่องนี้จริง กงจิ่วมีตำแหน่งสูงมากในสำนักงานใหญ่สำนักยุทธ์เชียน ฆ่าเขา ชาตินี้หนีไม่พ้นสำนักยุทธ์เชียนแล้ว”
“ข่าวกรองใหม่ที่ผมได้รับ ทางด้านสำนักยุทธ์เชียน ได้ส่งคนมาแล้วอยู่ระหว่างทางมาตี้จิง”จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างจริงจัง “อีกอย่าง ไอ้แก่ตระกูลสวีคนนั้น ก็เชิญคนในแวดวงลึกลับออกมาแล้ว”
“ออ?”หลินอิ่งรู้สึกสนใจ “กงจิ่วตายแล้ว ตระกูลสวีไม่ได้ลุกลี้ลุกลนหรือ?”
ตระกูลสวีเรียกใช้อำนาจแวดวงลึกลับ นี่ไม่ได้ทำให้หลินอิ่งรู้สึกแปลกใจ
นี่ก็ล้วนอยู่ในการคาดการณ์ของเขา
“เท่าที่แสดงออกมาตระกูลสวีสำรวมไปเยอะ ยกเลิกการดำเนินการทางการค้าจำนวนมาก แต่ว่า ทำการติดต่อผู้นำตระกูลชั้นสูงในตี้จิงจำนวนมากในที่ลับ ไอ้แก่นั่นยอมลดหน้าลดตัวลงไปบ้าง อิทธิพลยังคงเพียงพออยู่”จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างจริงจัง “ตระกูลชั้นสูงมากมายในตี้จิง ความจริงลับหลังได้โน้มเอียงไปทางตระกูลสวีแล้ว ไม่ได้มีแนวโน้มมาทางคุณเท่าไหร่”
หลินอิ่งหัวเราะ พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกเขาเลือกฝั่งเลย”
อิทธิพลของตระกูลสวี รากฐานมั่นคงในตี้จิง
ตรงกันข้าม ตระกูลฉีที่ตัวเองควบคุมอยู่ พูดได้แค่ว่าตระกูลฉี “ใหม่”
ครั้นนั้นที่เปิดศึกกับตระกูลเหวิน ทำลายรากฐานของวงศ์ตระกูลใหญ่อย่างแท้จริง บารมีและชื่อเสียงในใจคนก็สั่นคลอน
ถึงแม้หลังจากที่ตัวเองกลับมาแล้ว ทำให้ตระกูลเหวินหายไปจากตี้จิง แสดงความแข็งแกร่งอย่างเด็ดขาด
แต่ในใจคนตี้จิง รากฐานของตระกูลฉี ไม่เพียงพอที่จะเอาไปเทียบกับตระกูลตั้งเดิมอย่างตระกูลชั้นสูงทั้งสี่
ครั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของเมืองเทียนหลง จัดระเบียบตระกูลผู้ดีเก่า
ตัวเอง จำเป็นต้องก่อตั้งความน่าเกรงขามของตระกูลฉีขึ้นมาใหม่อย่างแท้จริง ต้องให้กลุ่มตระกูลชั้นสูงแห่งตี้จิงเข้าใจอย่างซาบซึ้งถึงประสบการณ์ลึกซึ้งอย่างไม่รู้ลืม