ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 610 ไร้เทียมทาน
“คุณยังหลงเหลือพลังอีกหรอ”
มุซาชิ จูโตะมือถือมีดเบญจมาศ สายตาจดจ้องไปยังตัวหลินอิ่ง พร้มก้าวถอยหลังด้วยสีสีหน้าเต็มไปด้วยความระแวดระวัง
ชายระดับผู้นำของสำนักงานใหญ่สำนักยุทธ์เชียน ตอนนี้เหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผากอย่างไม่หยุดหย่อน
เขาเริ่มตื่นตระหนก พร้อมทั้งสูญเสียความมั่นใจเดิมที่คิดจะต่อกรกับหลินอิ่งไปแล้ว
หลังจากที่ผ่านการต่อสู้อันทรหด พลังภายในของมุซาชิ จูโตะก็ได้หายไปเกือบหมดแล้ว และไม่ได้มีท่าทีเหมือนในช่วงสุดยอดของพลัง ไม่มีแม้แต่พลังที่จะปล่อยการโจมตีออกมา
เดิมคิดว่าเพียงแค่ทั้งสามล้อมเพื่อลดระดับความแข็งแกร่งได้ก็จะสามารถจัดการกับหลินอิ่งแล้ว
แต่ผลที่ตามมากลับเป็นว่าหลินอิ่งยังคงสามารถรักษาระดับพลังต่อสู้ที่มีประสิทธภาพเอาไว้ได้ แต่พวกเขากลับตรงข้ามกันพลังค่อยๆ ถดถอย ……
“พวกคุณสามารถรั้งผมมาได้นานขนาดนี้ ถือว่าไม่เลวแล้วล่ะ” หลินอิ่งหลินอิ่งพูดอย่างเลี่ยงๆ พร้อมกับค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปหา มุซาชิ จูโตะ
คนที่อยู่ในช่วงอ่อนแออย่างหลินอิ่ง ความแข็งแกร่งของพลังนั้นได้ลดลงมาจนถึง อีกทั้งสถานะร่างกายยังไม่มั่นคงอีกด้วย จึงทำให้เขาไม่มีมีพลังที่จะระเบิดฆ่าพวกมุซาชิ จูโตะ ได้ในคราวเดียว
แต่ถึงอย่างนั้น ความแข็งแกร่งแบบนี้ก็ยังถือเป็นความสุดยอดที่มีอยู่ในโลกธรรม
การที่พวกมุซาชิ จูโตะสามารถรั้งมาจนถึงระดับนี้ได้ ก็ถือว่าไม่ธรรมดามากแล้ว
“คุณ……” มุซาชิ จูโตะถอยหลังไปทีละก้าวๆ
“วันนี้ต่อให้คุณจะเก่งกาจระดับไหน ก็อย่าเพิ่งคิดว่าคุณชนะแล้ว ถึงผมจะฆ่าคุณไม่ได้ แต่ว่าได้บรรลุจุดประสงค์แล้ว !” มุซาชิ จูโตะพูดด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก
“ทางด้านการประชุมสุดยอด ตระกูลสวีได้กุมสถานการณ์เอาไว้ได้แล้ว คุณพลาดโอกาสที่ดีที่สุดไปแล้ว !” มุซาชิ จูโตะยิ้มเยาะ “หลินอิ่ง เวลายังอีกยาวไกล สักวันหนึ่ง คุณจะต้องตายในกำมือของ สำนักยุทธ์เชียน”
“เหอะ” หลินอิ่งหัวเราะเยาะออกมาแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง “คุณคิดว่าคุณจะยังหนีรอดได้อีกหรือไง?”
“ฮ่าๆ ๆ !” มุซาชิ จูโตะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “คิดจะรั้งผมไว้?คุณยังห่างชั้นเกินไป!”
พรืด!
ทันทีที่คำพูดนั้นออกมา ร่างของหลินอิ่งก็โหมกระหน่ำเข้าไปราวกับพายุทอร์นาโดที่รุนแรง รัศมีพลังของเขานั้นน่าเกรงขามอย่างมาก !
“หืม?”
สีหน้าของมุซาชิ จูโตะตกใจภายใต้ความตื่นตระหนก มีดถูกกวาดแกว่งปะทะกับลมว่างเปล่า มีดเบญจมาศเรียวยาวประกายคมแสงอันเยือกเย็น เงามีดแยกร่างกลายเป็นคลื่นพลังอันเยือกเย็นรุนแรงดั่งพายุ!
บูม!
เสียงโครมครามดังขึ้นมา ระเบิดกลายเป็นเศษหินกระจัดกระจายไปทั่ว ฝุ่นคละคลุ้งตรงบริเวณที่ทั้งสองยืนอยู่ ราวกับว่าทั้งสองกำลังอยู่ในกระแสน้ำวนกำลังเกิดการระเบิดหลายร้อยลูก
เสียงหึ่งๆ ดังสนั่น
มือทั้งสองของมุซาชิ จูโตะที่กำลังจับมีดเบญจมาศที่กำลังสั่นสะท้านไม่หยุดนิ่งจนตัวเขาสั่นเทาอย่างบ้าคลั่ง
หลินอิ่งจับใบมีดด้วยมือเปล่าพร้อมกับบิดมีดเบญจมาศนั้นด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก อากาศที่ปั่นป่วน บวกกับพลังภายในที่กำลังระเบิดคลื่นแผ่ซ่านเข้าไปตามใบมีด
“เอื้อก……”
มุซาชิ จูโตะร้องครวญออกมาด้วยเสียงทุ้มหนัก ใบหน้าบิดเบี้ยว ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด มือทั้งสองยังคงสั่นไม่หยุด พร้อมกับเลือดสดๆ ที่พุ่งออกมาจากปาก
“เป็นไปได้อย่างไร!คุณยังมีพลังล้ำลึกขนาดนี้อีกหรอ!” มุซาชิ จูโตะพูดด้วยใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
“หลินอิ่ง คุณเป็นยอดฝีมือระดับไหนกันแน่?”
ดวงตาของมุซาชิ จูโตะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และอยากจะหนีออกไปจากที่นี่ แต่ว่าพลังร่างกายของเขาเหมือนจะถูกพลังบางที่มองไม่เห็นกำลังกลืนกิน จนไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อีก!
เหตุการณ์แบบนี้จะแปลกเกินไปแล้ว
จากการวิเคราะห์การต่อสู้ในเวลาก่อนหน้านี้ พลังการต่อสู้ทั้งหมดที่หลินอิ่งได้แสดงออกมา ควรจะไร้ขีดจำกัดเทียบเท่ากับระดับรายการแห่งฟ้า ดังนั้นเขาถึงได้มีความมั่นใจว่าจะค่อยๆ ชะลอกำลังของหลินอิ่งลงแล้วค่อยฆ่าทิ้งซะ
แต่ว่าพื้นฐานของหลินอิ่งนั้นดูเหมือนจะไร้ขีดจำกัด มีความสุดยอดมายิ่งกว่าระดับรายการแห่งฟ้าหลายเท่าตัวเลย ไม่ว่าจะเข้าต่อสู้กันสักกี่รอบ สุดท้ายก็ยังสามารถรักษาระดับความแข็งแกร่งเอาไว้ได้
มุซาชิ จูโตะที่ท่องยุทธภพมานับสิบปี ฆ่าคนไปแล้วนับไม่ถ้วน นี่ถือเป็นเหตุการณ์แรกที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน ……
สายตาของหลินอิ่งเยือกเย็น ไม่ได้สนใจคำพูดของมุซาชิ จูโตะเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จู่ๆ จะสบถคำคำหนึ่งออกมา
“ตาย!”
บูม!
หลังจากที่หลินอิ่งสะบัดข้อมือ ทันใดนั้นก็เกิดคลื่นเสียการระเบิดที่ทะลุเข้าไปในหู !
พลังภายในอันดุดันสะท้านออกมา ทำให้มีดเบญจมาศไร้เทียมทานที่อยู่ในมือของมุซาชิ จูโตะแตกกระจายกลายเป็นผุยผงโปรยปรายลงพื้นทันที
“อ้าก!”
มุซาชิ จูโตะส่งเสียงครวญออกมา ร่างกายของเขาเหมือนกับลูกบอลที่ลมยางแตกระเบิด กระดอนไปไกลถึงหลายสิบเมตรพลางกระแทกลงไปกับพื้นอย่างแรง
“คุณ!คุณ……แค่กๆ !”
ดวงตาของมุซาชิ จูโตะเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจ้องมองไปยังหลินอิ่ง พร้อมกับกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทว่าเขากลับกระอักเลือดสดๆ ออกมาเสียก่อน
ร่างกายของเขาเหี่ยวแห้งลงอยู่ตรงนั้นด้วยความรวดเร็วที่น่าเหลือเชื่อ พร้อมกับกระดักแตกดังขึ้นมา
“เอื้อก!”
ในตอนสุดท้ายมุซาชิร้องครวญเจ็บปวดออกมาอย่างสิ้นหวัง ดวงตาเต็มไปด้วยความสำนึกผิดความเกลียดชังและความแคลงใจ ก่อนที่สุดท้ายเขาจะทรุดตัวลงไปกับพื้น สิ้นสุดชีวิตลง
ผู้นำรุ่นที่หนึ่งของสำนักยุทธ์เชียนตายลงไปเสียอย่างนั้น
จนกระทั่งตอนที่ตาย เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าหลินอิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตระดับไหนกันแน่
ทำไม ถึงได้กล้าไปหมิ่นประประมาทยอดฝีมือที่ยากจะหยั่งรู้ได้อย่างหลินอิ่งด้วยนะ!
ถ้าให้โอกาสเขาได้เริ่มใหม่อีกครั้ง เขาจะไม่มีทางมาประจันหน้ากับหลินอิ่งเด็ดขาด ……
แต่น่าเสียดาย ชีวิตของเขาได้จบลงไปแล้ว……
“อ๊าๆ ๆ ๆ ๆ !”
เหอซานจินส่งเสียงร้องหวาดกลัวอย่างมากออกมา ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปยังหลินอิ่งด้วยความสยอง ร่างกายสั่นเทาอย่างบ้าคลั่ง เพราะได้ถูกภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำลายความกล้าของเขาไปหมดแล้ว
หลินอิ่งในตอนนี้ น่ากลัวเกินไปแล้ว……
หลินอิ่งสีหน้าเรียบนิ่ง สายตาเย็นชา เดินเข้าไปตรงหน้าของเหอซานจิน
“ไม่ อย่าฆ่าผมเลย !คุณชายอิ่ง ผม ผมก็แค่ไม่มีตัวเลือก!” เหอซานจินพูดด้วยเสียงที่ลุกลนอย่างมาก “คุณเองก็รู้ดีว่าคนท่องยุทธภพล้วนไร้หนทางทั้งนั้น !ผมกับคุณไม่เคยมีความแค้นต่อกัน ผมเองก็ไม่ได้จงใจที่จะผิดใจกับคุณ การช่วยเหลือ ตระกูลสวีเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เท่านั้น!”
“ไว้ชีวิตผมเถอะ!”
เหอซานจินร้องวิงวอนของความเมตตาอย่างไม่ยอมหยุดด้วยความที่ถูกหลินอิ่งทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้ว
ในสายตาของเขา ชายลึกลับที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่เหมือนปีศาจซึ่งไม่มีใครสามารถเทียบได้
“คุณคือคนจากหุบเฉินเฟิง?” หลินอิ่งถามด้วยหน้าที่นิ่งเฉย
“ใช่แล้ว!คุณชายอิ่ง ผมเป็นจากหุบเฉินเฟิง อาจารย์ของผมคือท่านเฉินเฟิง!ขอให้คุณโปรดแก่หน้าของอาจารย์ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ อย่าได้ทำให้เรื่องมันเกิน ……” เหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผากเหอซานจินไปหมด พร้อมกับการพูดร้องขอชีวิตอย่างหนักแน่น
“ท่านเฉินเฟิง ผมเคยได้มีโอกาสเจอกับเขามาแล้ว” หลินอิ่งพูดอย่างเรื่อยเปื่อย “ถ้าเกิดว่าผมไม่ไว้หน้าตาแก่คนนั้นล่ะ?”
ท่านเฉินเฟิง เป็นชายในตำนานที่รู้จักกันดีในแวดวงลึกลับ ทั้งยังเคยเป็นสุดยอดยอดฝีมือของรายการแห่งฟ้าด้วย
แต่ว่าหลังจากนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ความแข็งแกร่งของเขาเสื่อมถอยลง จนถูกคัดออกจากรายการแห่งฟ้า
ช่วงนั้นในตอนที่หลินอิ่งยังเด็กได้ทำการล่าสังหารเหล่า ท่านเฉินเฟิงคนนี้ก็เป็นชายคนหนึ่งที่พ่ายแพ้ไป
“คุณ คุณรู้จักอาจารย์ของผม?” เหอซานจินพูดด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ ราวกับว่าได้มองเห็นเส้นทางรอดแล้ว “คุณชายอิ่ง วันนี้ถ้าคุณปล่อยผมไป ผมจะกลับไปรายงานกับอาจารย์ และพวกเราชาวหุบเฉินเฟิงจะให้การตอบแทน ……”
“แต่ถ้าคุณจะไม่ไว้หน้าอาจารย์ของผมจริงๆ แบบนั้นมันก็ไม่มีผลอะไรกับคุณเลย เกียรตสูงศักดิ์นี้ของอาจารย์ ถ้าคุณฆ่าผม เขาจะต้องมาตามแก้แค้นคุณแน่นอน” เหอซานจินพูดด้วยเสี่ยงสั่น “คุณเองก็คงจะไม่อยากถูกสุดยอดยอดฝีมือระดับรายการแห่งฟ้าเล็งเป้าหรอกใช่ไหม?”