ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 725 ให้เด็กคนนี้ไปมณฑลจี้โจว
ได้ยินแม่เฒ่าเอ่ยถาม สีหน้าของหลินเสวียนคุนถึงกับตึงเครียดในทันที สายตาหลอกแหลก ในสมองไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
“หลินอิ่งเด็กคนนี้ มีพรสวรรค์พิเศษ ฝีมือเกินมนุษย์ แม่เฒ่าไม่ได้มองผิดไป ได้เด็กคนนี้ เป็นความโชคดีของตระกูลหลินของเรา” หลินเสวียนคุนพูดอย่างสงบ
แม่เฒ่าหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดว่า “ตาใหญ่ อย่าเลือกพูดแต่เรื่องดีๆ พูดความจริงมา แกคิดยังไงกับที่ ฉันมอบตำแหน่งทายาทสืบทอดให้กับหลินอิ่ง”
ริมฝีปากของหลินเสวียนคุนขยับเบาๆ มองไปที่แม่เฒ่าแวบหนึ่ง ไม่ได้รีบตอบกลับทันที
ในใจของเขารู้ดี ที่แม่เฒ่าเรียกให้ผู้อาวุโสตระกูลหลินอย่างเขาอยู่ต่อ มีอะไรมากกว่าที่เห็น
เนื่องจาก ตอนนี้หลินเซี่ยวตายแล้ว ตระกูลหลินมีเพียงทายาทแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอด คนหนึ่งคือหลินอิ่งที่ถูกแม่เฒ่าเรียกกลับตระกูลหลิน อีกคนหนึ่งคือหลินเซวียน ลูกชายที่น่าภูมิใจของเขา
เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดในตอนนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะ เห็นความคาดหวังและความลำเอียงของแม่เฒ่าต่อหลินอิ่งเด็กคนนี้
หลินเสวียนคุนไม่รู้ว่าแม่เฒ่าคิดจะทำอะไร หรือเป็นไปไหมที่อยากให้หลินอิ่งรับตำแหน่งของตระกูลหลิน?
“การให้สถานะทายาทแก่หลินอิ่งเป็นการตัดสินใจของแม่เฒ่า ผมไม่กล้ามีความเห็นอะไรหรอกครับ” หลินเสวียนคุนพูดอย่างจริงจัง
“หืม?ไม่กล้าออกความเห็นงั้นหรอ?” แม่เฒ่าหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ตาใหญ่ แกมีความเห็นแต่ไม่กล้าพูดงั้นหรอ?”
“พูดมาเถอะ ที่ให้แกอยู่ต่อ ก็เพราะอยากฟังความเห็นของแกดู ไหนพูดมาสิ หลินอิ่งคนนี้มีข้อดียังไง คนเราไม่มีทางเต็มไปด้วยข้อดีหรอก?”
แม่เฒ่าถามอย่างนิ่งเฉย
ความจริงแล้ว เธอเองก็คาดเดาหลินอิ่งไม่ได้เช่นกัน
เด็กคนนี้มีพลังบางอย่างเกินมนุษย์ และไม่สามารถหยั่งรู้พลังภายในได้ เมื่อพิจารณาจากทัศนคติที่หลินอิ่งมีต่อตระกูลหลินและบางสิ่งบางอย่างที่เขาทำ เขาเป็นชายหนุ่มที่ไม่ยอมศิโรราบจิตใจเด็ดเดี่ยวเข้มแข็ง
ถ้าหาดหลินอิ่งเติบโตในตระกูลหลิน แม่เฒ่าอาจจะพิจารณาให้ความใส่ใจในการฝึกอบรมเขาก็เป็นได้
เดิมทีแม่เฒ่ามีความรู้สึกที่ซับซ้อน ต่อหลินอิ่ง ด้านหนึ่งคือเริ่มรักในพรสวรรค์ของเขา อีกด้านคืออยากจะใช้ประโยชน์จากหมากรุกตัวฉกาจอย่างหลินอิ่ง
แต่หลังจากพบกันถึงได้ตระหนักได้ว่า หลินอิ่งไม่ใช่คนที่ควบคุมได้ง่ายๆ
“แม่เฒ่าครับ ถ้าหากจะให้พูดข้อเสียของหลินอิ่ง จริงๆก็ไม่มีอะไรนอกจากความสามารถที่มีล้นเอ่อ ความตั้งใจอันแรงกล้า” หลังจากที่หลินเสวียนคุนครุ่นคิดแล้ว ก็ค่อยๆพูดขึ้นมาว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร เนื่องจากอายุของหลินอิ่งก็มีให้เห็น อายุน้อยเลยไม่รู้จะทำตัวยังไง หลังจากผ่านการฝึกฝน ถึงยังไงก็ต้องยอมอ่อนข้อให้กับตระกูลหลินอยู่ดี”
แม่เฒ่าขำแห้งๆ แล้วพูดอย่างครุ่นคิดว่า “ตาใหญ่แกก็เห็นว่าหลินอิ่งเป็นคนมีความสามารถ ไม่เลวเลย เป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงๆ แต่ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์ต่อตระกูลหลินหรือไม่”
“หลินอิ่งมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับตระกูลหลินแต่เดิมอยู่แล้ว มาวันนี้ยังมีสถานะเป็นทายาทของตระกูลหลินอีก จะไม่มีประโยชน์ต่อตระกูลหลินยังไงล่ะครับ?” หลินเสวียนคุนค่อยๆพูดขึ้นมาว่า “หน้าที่การงานในสังคมของหลินอิ่งใหญ่โต มีเงินทองอำนาจ ฐานะของเขาก็รุ่งเรืองที่สุด บนโลกใบนี้ยังมีอะไรให้เขาต้องหวั่นไหวอีกหรอครับ?เขากลับมาที่ตระกูลหลิน แน่นอนว่าอยากหาโอกาสทะลุเข้าไปสู่รายการแห่งฟ้า เมื่อจับจุดนี้ได้แล้ว แม่เฒ่าไม่กลัวว่าหลินอิ่งจะมีประโยชน์หรอครับ”
“ฮ่าๆ” แม่เฒ่าหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดขึ้นมาว่า “ตาใหญ่ แกตีโจทย์สถานการณ์โดยรวมแตกจริงๆ มันเป็นแบบนี้จริงๆนั่นแหละ ถึงหลินอิ่งจะหยิ่งจองหองยังไง นั่นมันก็คือการก้าวไปที่อีกขั้นของบูโดไม่ใช่หรอ?”
จากที่แม่เฒ่าดูแล้ว ที่หลินอิ่งยอมกลับตระกูลหลิน ต้องเป็นเพราะอยากไล่ลำดับรายการแห่งฟ้าของบูโดอย่างแน่นอน
เนื่องจาก พรสวรรค์วิชาบูโดของหลินอิ่งไม่ธรรมดา แต่เขาจะไปเรียนรู้วิชาบูโดขั้นสูงสุดอะไรจากโลกของคนธรรมดาล่ะ?ที่เขาก้าวมาถึงในทุกวันนี้ได้จนเกือบเข้าไกลขีดจำกัด ไม่มีวิชาบูโดขั้นสูงสุด จะไม่สามารถคว้ารายการแห่งฟ้าได้
รายการแห่งฟ้า นั่นเป็นช่องว่างที่นักบูโดหลายคนใช้ทั้งชีวิตในการก้าวข้ามผ่าน
ถึงแม้หลินอิ่งจะมีเส้นสายของแก๊งมังกร มีอิทธิพลกว้างใหญ่ ณ จุดที่สำคัญที่สุด ก็มีแค่ตระกูลหลินที่สามารถช่วยเหลือเขาได้
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมาเฒ่าถึงตัดสินใจให้หลินอิ่งเป็นทายาท
เพราะด้วยวิธีนี้ ถึงจะสามารถดึงดูดคนมีความสามารถอย่างหลินอิ่งได้
ชะงักไปครู่หนึ่ง แม่เฒ่าก็พูดขึ้นมาว่า “ตาใหญ่ แกคิดว่า หลินอิ่งกับเซวียนเอ๋อเทียบกันแล้วเป็นยังไง?”
“เอ่อคือ……” สีหน้าของหลินเสวียนคุนระมัดระวังมากขึ้น
คำถามที่แม่เฒ่าถามนั้นอ่อนไหวมาก
หลินเซวียน คุณชายตระกูลหลิน ปัจจุบันเป็นคู่แข่งเพียงคนเดียวของหลินอิ่ง
คุณชายหลินเซวียน อายุสามสิบต้นๆ มีเกียรติยศมากในตระกูลหลินแห่งลังยา มีความสุขุมมากเมื่อเทียบกับหลินเซี่ยว เขามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และมีชื่อเสียงในทางที่ดี ได้รับเสียงเชียร์ให้ขึ้นรับตำแหน่งในตระกูลหลินสูงมาก
การเติบโตของหลินเซวียนในตระกูลหลินเต็มไปด้วยสีสันที่น่าทึ่งมาก
เขาไม่ได้เกิดมาจากตระกูลหลินโดยแท้จริง แต่เป็นลูกนอกสมรสของผู้อาวุโสหลินเสวียนคุน มีพื้นเพต่ำต้อย
ในตอนที่หลินเซวียนกลับมายังตระกูลหลินแห่งลังยา สิ่งที่เขาพบเจอก็ไม่ได้ดีไปกว่าหลินอิ่งเลย เพียงแต่เขารู้จักอดทนที่จะอยู่เฉยๆ ไม่เหมือนกับหลินอิ่งที่แสดงความสามารถที่มีอยู่ออกมา แต่จะต้องแบกรักกับความอัปยศอดสู จนวิชาบูโดบรรลุผล ถึงค่อยๆเปิดเผยความสามารถออกมา
จนถึงขณะนี้ ภายในตระกูลหลินไม่มีใครกล้าพูดถึงตัวตนของคุณชายหลินเซวียน แม้แต่ภรรยาคนแรกของผู้อาวุโส เหล่าบรรดาลูกๆของเขา ก็ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจตำแหน่งของหลินเซวียน
“แม่เฒ่าครับ หลินอิ่งกับเซวียนเอ๋อไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้หรอกครับ” หลินเสวียนคุนพูดอย่างจริงจัง “ถ้าว่ากันตามศักดิ์แล้ว เซวียนเอ๋อโตกว่าหลินอิ่งหนึ่งรุ่น อายุก็มากกว่าไม่น้อย”
“ทั้งสองคนนี้นิสัยตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง หลินอิ่งแรงอาฆาตหนักมาก เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ เซวียนเอ๋อท่านก็น่าจะรู้ดี เป็นคนสุขุมเยือกเย็น ทำอะไรรอบคอบเสมอ”
แม่เฒ่าหัวเราะ แล้วพูดขึ้นมาว่า “แกพูดได้ไม่เลว ทั้งสองคนนี้เป็นลูกชายที่โดดเด่นของตระกูลหลิน แต่ว่านิสัยกลับตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง”
“หลินอิ่งเหมาะที่จะต่อสู้ในยุทธภพ แต่เซวียนเอ๋อเหมาะที่จะเฝ้าปกป้องยุทธภพ ในอนาคตจะต้องเลือกหนึ่งในพวกเขาสองคนมารับผิดชอบตระกูลหลิน เลือกยากจริงๆ” แม่เฒ่าแสดงความคิดเห็น
“จริงสิ ตาใหญ่ ฉันจะใช้หลินอิ่งซะหน่อย แกคิดว่า งานแบบไหนที่เหมาะกับเขามากกว่ากัน?”
จู่ๆแม่เฒ่าก็เปลี่ยนบทสนทนา แล้วหันไปถามหลินเสวียนคุน
หลินเสวียนคุนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดขึ้นมาว่า “แม่เฒ่าครับ เรื่องแบบนี้ ผมไม่ค่อยสะดวกให้ความเห็นครับ? ท่านตัดสินใจเองดีกว่า”
“ฉันให้แกพูด แกก็พูดมาเถอะ!” แม่เฒ่าพูดอย่างเคร่งขรึม
สายตาของหลินเสวียนคุนหลอกแหลก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นมาว่า “ในเมื่อแม่เฒ่าอยากจะใช้งานหลินอิ่ง งั้นผมก็ขอเสนอว่า ให้หลินอิ่งไปจัดการเรื่องของตระกูลเผยแห่งจี้โจว”
“ให้เขากับเซวียนเอ๋อไปจัดการเรื่องนี้ที่มณฑลจี้โจวด้วยกัน แบบนี้จะยิ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าฝีมือของสองคนนี้เป็นยังไง”
แม่เฒ่าหรี่ตาลง แล้วหัวเราะพลางถามขึ้นมาว่า “ตาใหญ่ ดูท่าแกจะมั่นใจในตัวเซวียนเอ๋อมากใช่ไหม?ถึงได้เอาตระกูลเผยแห่งจี้โจวเป็นเวทีประลอง ให้พวกเขาสองคนสู้กันว่าใครเก่งกว่ากัน?”
“ได้ งั้นก็เอาตามที่แกพูดมานั่นแหละ อีกเดี๋ยว ฉันจะให้หลินอิ่งไปทำธุระที่มณฑลจี้โจว เขากับเซวียนเอ๋อใครเก่งกว่ากัน กลับมาก็ให้คนที่ชนะไปชักดาบที่สระลังยา” แม่เฒ่าพูดอธิบาย
หลินเสวียนคุนตกใจ พูดขึ้นมาว่า “ทำตามที่แม่เฒ่าจัดการได้เลยครับ”
เขาจงใจให้หลินเซวียนไปเปรียบเทียบเพื่อให้หลินอิ่งแพ้
แต่แม่เฒ่าบอกว่าจะให้ไปชักดาบที่สระแห่งลังยา นั่นก็คือการให้หลินอิ่งกับหลินเซวียนประลองกันว่าใครเก่งกว่ากัน
สระลังยาเป็นสระที่ต้องห้ามของตระกูลหลิน และถูกเรียกว่าสระล้างดาบ มีอาวุธวิเศษที่บรรพบุรุษของตระกูลหลินแห่งลังยาอยู่ในนั้น มีเพียงผู้ที่ได้รับการยอมรับถึงจะสามารถชักดาบออกจากฝักได้
ผู้ที่สามารถชักดาบออกมาได้ ล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง ตามกฎของตระกูลหลิน จะสามารถได้รับเคล็ดลังยา
แม่เฒ่า ใจกว้างจริงๆ!
ภายในใจของหลินเสวียนคุนหนักอึ้ง และเขาได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด….