ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 77 ลงโทษด้วยการตัดเอว
บทที่ 77 ลงโทษด้วยการตัดเอว
“ได้ยินว่า มีคำที่พูดกันในกลุ่มตระกูลชั้นสูงแห่งตี้จิงว่า ลงโทษด้วยการตัดเอว นั่นหมายถึงตระกูลเหวินได้เลื่อนให้เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆของประเทศหลุง แทนที่ตระกูลฉีแห่งตี้จิง นายหญิงเหวินในฐานะภรรยาม่ายของนายท่าน ก็ออกหน้ารับช่วงต่อเส้นสาย กิจการ อำนาจ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลฉีไป!” หลี่ผูพูดเหมือนคนไร้วิญญาณ “ตี้จิงยังมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยลือกันว่า ทำนายออกมาเป็นรูปหกเหลี่ยมและแฉกแปดสิบเอ็ดตัว หมายถึงลงโทษด้วยการตัดเอว ดวงของตระกูลฉีก็หมดลง และตระกูลเหวินได้ฝึกฝนมาเป็นเวลาสิบปี มันคงเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ที่จะให้ตระกูลเหวินก้าวไปสู่จุดสูงสุดของประเทศหลุง”
“ช่างน่าขำจริงๆ! ตระกูลเหวินไม่เพียงแต่ทำลายและยึดครองตระกูลฉี แต่ยังให้คนปล่อยข่าวลือ และแม้แต่ปกปิดความจริงจากคนอื่นๆ นายหญิงเหวินทำเป็นร้องไห้เสียใจอาลัยต่อตระกูลฉีด้วย!” หลี่ผูพูดอย่างเย็นชา “ยังแอบส่งคนมาตามฆ่าถึงเมืองชิงหยูน ต้องการฆ่าให้สิ้น ตามฆ่านายท่าน แล้วยังค้นหาตัวและที่อยู่ของคุณชายด้วย ต้องการตัดรากถอนโคนตระกูลฉีให้สิ้นซาก! นี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ
หลินอิ่งเลือดไหลออกมา และถามด้วยท่าทีปกติว่า “ตระกูลเหวินคือตระกูลของผู้หญิงคนนั้นที่ฉีเหอถูแต่งงานด้วยในภายหลังงั้นเหรอ”
เขาจำได้ว่า ในตอนแรกฉีเหอถู ต้องแข่งขันกับลุงใหญ่และลุงสามเพื่อชิงตำแหน่งทายาทผู้สืบทอดตระกูล เขาจึงแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลเหวินเพื่อใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ จากนั้นก็ไล่ตัวเขาและหลินซูชิงแม่ของเขาออกจากตระกูลฉี!
ตระกูลเหวินถือได้ว่าเป็นตระกูลชั้นแนวหน้าของตี้จิง และมีอิทธิพลอย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างตระกูลฉีแล้ว ก็ยังด้อยกว่าอยู่ดี
“ครับ คือครอบครัวของนายหญิงเหวิน!” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ท่าทีของหลี่ผูก็แสดงถึงความรังเกียจออกมา “นายท่านสงสัยมาตลอดเวลาว่ารอบตัวมีหนอนบ่อนไส้อยู่ ตอนนี้ฉันยืนยันได้แล้วว่า หนอนบ่อนไส้ตัวนี้ก็คือเหวินเทียนเฟิ่ง! เธอคงวางแผนมากว่าสิบปีตั้งแต่แต่งงานเข้ามาตระกูลฉี! มิฉะนั้น จะเป็นไปไม่ได้ที่จะกวาดล้างคนตระกูลฉีแห่งตี้จิงได้เพียงชั่วข้ามคืน! ซึ่งการจะทำแบบนี้ได้ ต้องใช้เวลาทำการวางแผนเตรียมการหลายปีเท่านั้น!”
“นายท่านแต่งงานกับเหวินเทียนเฟิ่งเข้ามาในบ้าน ก็คือการปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายครอบครัว!” หลี่ผูพูดอย่างเจ็บปวด “หลายปีมานี้ที่อยู่ในตระกูลฉีเหวินเทียนเฟิ่งทำตัวเป็นคนที่มีคุณธรรม มีความกตัญญูและใจดี ไม่เคยขอมีอำนาจในกิจการของตระกูลฉี และคอยดูแลคุณท่านตอนที่นอนป่วยอยู่หลายปี แม้แต่คุณท่านก็ยังชื่นชมเธอมาก จะเห็นได้ว่า ผู้หญิงคนนี้มีความอดทนและฉลาดเป็นอย่างมาก แต่จริงๆคือมีจิตใจที่โหดร้าย!”
“ดีนะ! เป็นคำพูดที่ดีเลย ลงโทษด้วยการตัดเอว!” หลินอิ่งหัวเราะอย่างโกรธแค้น สายตาแสดงความอาฆาต
ผู้หญิงจากตระกูลเหวินคนนี้ เป็นคนบีบตัวเขาเองและแม่ให้ออกจากตระกูลฉีในตอนนั้น และเป็นหนอนบ่อนไส้อยู่นานกว่าสิบปี ตอนนี้ยังช่วยตระกูลเหวินทำร้ายคนตระกูลฉีอย่างใจดำ ทำหน้าที่แทนตระกูลฉีในฐานะภรรยาของตระกูลฉี เป็นคนที่โหดร้ายจริงๆ!
“แค่ก แค่ก แค่ก!” หลี่ผูพูดด้วยความโกรธ พร้อมกับไอเอาเลือดสีดำจำนวนมากออกมาบนพื้น สีหน้าของเขาดูซีดมาก
หลินอิ่งเดินไปจับชีพจรของหลี่ผู จากนั้นทำมือเป็นกำปั้น และกดจุดที่คอของหลี่ผูไปมาอยู่หลายจุด
“คุณชาย นี่คือ” หลี่ผูถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ดวงตามองชัดขึ้น สีหน้ากลับมาดูดีขึ้นเล็กน้อย
“ฉันจะช่วยเอากระสุนออกมาก่อนแล้วค่อยพูดต่อ ไม่เช่นนั้นคงไม่รอดไปถึงพรุ่งนี้” หลินอิ่งพูดเบา ๆ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง
ณ วิลล่าหิมะมังกร เขตบ้านพักกลางเมือง
ในบ้านพักของหลินอิ่ง หลี่ผูนอนอยู่บนเตียง กัดฟันด้วยความเจ็บปวด หลังของเขามีเลือดไหล และเนื้อเน่าเป็นหนอง
หลินอิ่งท่าทางเย็นชา ใช้คีมในมือ ค่อยๆคีบกระสุนที่ฝังอยู่ในเนื้อของหลี่ผูออกมา
บนโต๊ะข้างๆมีแอลกอฮอล์ คีมและเครื่องมือต่างๆ รวมถึงยาชา ยารักษาบาดแผล กล่องยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบหลากหลายชนิด ในถาดยังมีปลอกกระสุนปืนสองอันวางอยู่ด้วย
ตึ้ง
เมื่อเอากระสุนนัดสุดท้ายออกมาใส่ในถาดแล้ว หลินอิ่งก็ลุกขึ้นยืนทำหน้าเฉยเมย และพูด “ช่วงนี้คุณก็อยู่รักษาตัวที่นี่ก่อน ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
หลี่ผูทำสีหน้าประหลาดใจ เขาไม่รู้ว่าคุณชายเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์ขั้นสูงมาจากไหน ถึงขั้นสามารถทำการผ่าเอากระสุนออกมาและเย็บบาดแผลได้
“คุณชาย คุณยังไม่ไปอีกเหรอ ตระกูลเหวินส่งคนมาถึงเมืองชิงหยูนแล้วนะ!” หลี่ผูพูดด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก
“ไปอะไร อีกไม่กี่วันฉันจะไปตี้จิง และไปเจอตระกูลเหวิน” หลินอิ่งพูดด้วยความนิ่งเฉย
“อย่าเป็นอันขาด! ตี้จิงเป็นที่ที่น่ากลัวดุจถ้ำของเสือ คุณไปแล้วต้องตายแน่ๆ! คุณจะจัดการกับตระกูลเหวินได้อย่างไร แม้แต่นายท่านยังต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทหาร ถึงจะรอดชีวิตมาได้! อย่าไปคิดเรื่องแก้แค้นเด็ดขาด! คุณเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลแล้วนะ!” หลี่ผูพูดอย่างเป็นกังวลมาก
เขารู้ดีว่า คุณชายออกจากตี้จิงไปนานกว่าสิบปีแล้ว และไม่เคยติดต่อกับคนในแวดวงชั้นนำของตระกูลฉีเลย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการเป็นลูกเขยที่ไม่ได้รับการต้อนรับของตระกูลจางที่เมืองชิงหยูน เขาจะอำนาจมากมาย พอที่จะไปสู้กับตระกูลเหวินได้อย่างไรกัน
ตระกูลเหวินเพิ่งเข้ามาแทนที่ตระกูลฉี และมีอิทธิพลที่แข็งแกร่ง ไม่ต้องพูดถึงเมืองเล็กอย่างตุงไห่ แม้แต่ตระกูลนิ่ง หรือตระกูลซูนที่เป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยอันดับต้นๆแห่งตี้จิง ในเวลานี้พวกเขาต่างก็ไม่กล้าขัดแย้งกับตระกูลเหวิน!
“ในเมื่อคุณรู้ว่าฉันเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลฉี แล้วฉันจะปล่อยให้พวกตระกูลเหวินครอบครองรัง และยึดกิจการของตระกูลฉีที่อยู่มาหลายร้อยปีได้อย่างไร” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา
ไม่ว่าเขาจะรู้จักหรือไม่รู้จักฉีเหอถู แต่ศัตรูที่ฆ่าพ่อของเขาก็คงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุณปู่ที่ตอนนี้นอนเป็นอัมพาตอยู่ที่ตี้จิง แล้วเขาจะไม่ไปที่ตี้จิง เพื่อยึดทุกสิ่งที่เป็นของเขาคืนมาได้อย่างไร
แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ง่าย และไม่รู้ว่าเบื้องหลังตระกูลเหวินจะมีอำนาจซ่อนเร้นอะไรเข้ามาแทรกแซงอีก การจะยึดกิจการของตระกูลฉีคืนมานั้นต้องใช้การวางแผนระยะยาว
แต่สำหรับเหวินเทียนเฟิ่งผู้หญิงคนนี้ เขาต้องฆ่าให้ได้!
“คุณชายครับ ผมไม่สามารถดูคุณเอาชีวิตตัวเองไปตายได้!” หลี่ผูพูดเกลี้ยกล่อมอย่างขมขื่น “คุณไม่รู้ว่าตระกูลเหวินมีความน่ากลัวแบบไหน คุณอาจจะมีทรัพย์สินมากมาย ได้อยู่ในวิลล่าหรูหราในเมืองชิงหยูน แต่นี่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย!”
“คุณไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว รีบรักษาบาดแผลให้หาย” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา และมองหลี่ผูด้วยสายตาเยือกเย็น
หลี่ผูตกใจ ที่ถูกมองด้วยสายตาที่โหดเหี้ยมนี้
จู่ๆเขาก็รู้สึกได้ว่า คุณชายที่พลัดพรากจากกันมาหลายปี ไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป
หลี่ผูใช้ชีวิตในตระกูลฉีมากว่าครึ่งชีวิต ที่ตี้จิงอำนาจพวกเจ้าขุนมูลนายก็เคยเจอมาทุกรูปแบบ แต่สถานการณ์ของหลินอิ่งในเวลานี้ จะอำนาจแบบไหนก็เอามาเทียบไม่ได้! แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัวมากๆ
ตื๊ด!
ในเวลานี้ โทรศัพท์ของหลินอิ่งก็ดังขึ้น
“ท่านหลิน ตอนนี้ฉันกำลังเผชิญหน้ากับโจปินอยู่ที่ท่าเรือหลุงหู นัดกับเขาว่าจะส่งคนไปต่อสู้ศึกสังเวียนแห่งชีวิต เพื่อตัดสินการเป็นเจ้าของเขตตะวันออกของเมือง ตอนนี้แชมป์มวยใต้ดินที่อยู่ในมือของฉันตายบนสังเวียนไปหลายคนแล้ว พวกปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ของจีนที่อยู่ฝั่งเขานั้น ฝีมือโหดเหี้ยมเกินไป สามารถหักดาบได้ด้วยมือเปล่า! เมื่อไหร่ท่านจะมา” เสิ่นซานพูดน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ตอนนี้เลย”
หลินอิ่งวางสายลง
เดิมที คิดว่าหลี่ผูแค่ส่งข้อความมาเท่านั้น ก่อนหน้าจึงให้เสิ่นซานพาคนล่วงหน้าไปที่ท่าเรือหลุงหูก่อน จากนั้นตัวเขาเองค่อยรีบตามไป
แต่ไม่คาดคิดว่าสถานการณ์ทางฝั่งตี้จิงจะร้ายแรงขนาดนี้ และช่วยหลี่ผูเอากระสุนออกไปต้องใช้เวลานานทำให้ล่าช้าไปอีก
“ฉันต้องออกไปทำธุระข้างนอก คุณนึกให้ดีๆ ว่ายังมีข้อมูลอะไรจากตี้จิงเหลืออยู่บ้าง แล้วพวกที่ตามล่าฆ่าคุณที่เมืองชิงหยูน คุณมีวิธีที่จะหาพวกมันเจอได้หรือไม่” หลินอิ่งพูดเสียงเย็นชา “ฉันกลับมา แล้วบอกฉันให้ชัดเจนทุกอย่าง ฉันต้องไปจัดการพวกแก๊งที่มาเมืองชิงหยูนก่อน”
เรื่องของตระกูลเหวินแห่งตี้จิงนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกคนที่มาจากตี้จิงเพื่อตามฆ่าตัวเขา ก็อยู่ในมุมมืดของเมืองชิงหยูน และอยู่ใต้จมูกของพวกเขา แท้ๆ เหมือนก้างปลาติดคอ ถ้าหาไม่เจอคงเจ็บใจ ฉันั้นต้องหาตัวให้เจอและฆ่าให้ตาย!
“คุณชายครับ ผมเดาได้ว่าคนที่ตระกูลเหวินส่งมานั้นอยู่ที่ไหน และจะหาพวกเขาได้ที่ไหน” หลี่ผูพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่สามารถเกลี้ยกล่อมหลินอิ่งได้ และท่าทางของหลินอิ่งก็ไม่ยอมหลบหนีไปต่างประเทศแน่นอน
หลินอิ่งพยักหน้า และเดินออกไปจากวิลล่าด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์