ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่117 ตัดขาดความเป็นพ่อลูกของพวกเขา
บทที่117 ตัดขาดความเป็นพ่อลูกของพวกเขา
“อ๋อ?ยังจะโทรหาใครอีกงั้นเหรอ?คุณเรียกใครมาช่วยก็ไม่มีประโยชน์หรอก!วันนี้ลูกชายฉันจะทำอยู่ตรงริมถนนนี่แหละ!” หวางกั๋วคางพูดเสียงเย็นชา ด้วยความไม่สนใจอะไรเลย
“คุณนายหลิน?ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?บอกฉันมา!” เสิ่นซานได้ยินเสียงแทรกขึ้น ก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉัน ฉันอยู่ที่หน้าประตูของอาคารเป่าติ่ง” จางฉีโม่พูดด้วยความตกอกตกใจ ถูกท่าทีของพ่อหวางกั๋วคางทำให้ตกใจ
พ่อลูกคู่นี้นี่มันเกินเยียวยาจริงๆ น่าเศร้าใจเหลือเกิน!
ปัง!
หวางจื่อเหวินอยากจะปรี่เข้าไปลากจางฉีโม่สักที จางฉีโม่ตกใจจนซ่อนตัว และโทรศัพท์ตกพื้น จนหน้าจอแตกออก
“ยังจะซ่อนตัวอีกเหรอ?วันนี้คุณซ่อนตัวไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันมีอะไรกับคุณก่อนค่อยพูดกัน!” หวางจื่อเหวินพูดอย่างร้ายกาจ ก่อนจะถอดชุดสูทออก แล้วดึงเนกไทออก จากนั้นก็มีท่าทีทนไม่ไหว “พวกคุณยังจะอึ้งอะไรอยู่อีก?จับผู้หญิงเอาไว้!รอให้ฉันทำก่อน แล้วค่อยให้พวกคุณมาสนุกด้วยกัน”
หวางจื่อเหวินออกคำสั่ง เพียงไม่นาน บอดี้การ์ดหลายๆ คนก็เข้าไปจับจางฉีโม่
ปัก!
ในตอนนั้นเอง มีชายกำยำสามคนเดินลงมาจากรถสีดำด้วยความรวดเร็ว พลางรีบเดินเข้าไปในกลุ่มคน ก็แหวกกลุ่มบอดี้การ์ดใส่สูท แล้วมาขวางจางฉีโม่อยู่ตรงหน้า
“ให้ตายเถอะ คุณมาจากไหน อยากจะมาขัดขวางเรื่องดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นเหรอ?” หวางจื่อเหวินด่า และระบายออกมา แต่ความโกรธแค้นในใจมันยังไม่ได้ปล่อยออกมา
“ไองั่งนี่มาจากไหนกัน อยากมาทำตัวเป็นฮีโร่เหรอ?” หวางกั๋วคางพูดด้วยความไม่แยแส ในเมืองชิงหยูน กล้ามาปะทะกับเขานั้นมีเพียง ก็นับมือได้เลย วันนี้มาช่วยลูกชายออกหน้าแทน ใครจะกล้ามาไม่ไว้หน้าเขาล่ะ?
“พวกเราเป็นคนของท่านเสิ่นซาน!เพื่อป้องคุณจางโดยเฉพาะ” ชายชุดดำพูดเสียงเย็นชา โดยไม่เกรงกลัวอะไรเลย
บอดี้การ์ดพวกนั้นเป็นคนที่เสิ่นซานจัดหามา เขาได้รับการสั่งการให้ปกป้องจางฉีโม่ ตอนที่พวกเขาทำลายเซควนที่เขตตะวันออกนั้น ก็ได้เห็นความเก่งกาจของท่านหลิน ผู้หญิงของท่านหลินนั้น พ่ออย่างหวางกั๋วคางกล้ามาหยอกด้วยเหรอ?อยากตายหรือไงกัน?
“ท่านเสิ่นซานเหรอ?” หวางกั๋วคางมีสีหน้าแววตาเปลี่ยนไป ก่อนจะเกรงกลัวมากขึ้น
เขาเองก็รู้ว่าคนอย่างท่านเสิ่นซานนั้น ช่วงนี้โดดเด่นเหมือนกับพระอาทิตย์ในเมืองชิงหยูนเลย แถมยังเป็นหัวหน้าแก๊งใต้ดินในเมืองชิงหยูนอีกด้วย
ถ้าเกิดก่อนหน้านี้ที่เมืองหนานเฉิงสามารถสู้กับเสิ่นซานได้ หวางกั๋วคางคงจะไม่แยแส แถมกำลังอำนาจก็จะมากกว่าเสิ่นซานด้วย แต่วันนี้มันไม่ใช่ ท่านเสิ่นซานสามารถกดให้ตระกูลโจโงหัวไม่ขึ้นอีกเลยก็ยังได้ เขาเองก็ไม่กล้าจะสู้ด้วย
“เป็นคนของท่านเสิ่นซานอีกแล้วเหรอ?” หวางจื่อเหวินอึ้งไป จากนั้นจึงมีสีหน้าเกลียดชังออกมา!
ครั้งที่แล้วก็ถูกลูกน้องของท่านเสิ่นซานอย่างหลิวจุนมาทำร้ายจนต้องคุกเข่าลงตรงประตู เป็นเรื่องที่หวางหงหลิงช่วยหลินอิ่งในการทำเรื่องต่างๆ นี่เอง!
ครั้งนี้ สามคนนี้มาบอกอีกว่าเป็นคนของท่านเสิ่นซาน?ให้ตายเถอะ คนของท่านเสิ่นซานมีประโยชน์ขนาดนั้นเลยเหรอ?หลินอิ่งมีสิทธิ์อะไรถึงได้มาสั่งและโยกย้ายคนของท่านเสิ่นซานเพื่อมาช่วยภรรยาของตัวเอาได้นะ?
นี่มันต้องโม้แน่นอน แถมยังพูดเป็นต่อยหอยอีกด้วย!
หวางหงหลิงพยายามจะหลอกล่อหลินอิ่ง ถึงได้ถูกคุณท่านโกรธมากขนาดนี้ ตอนนี้ยังมาปิดตัวอยู่ในบ้านพักตากอากาศตระกูลหวางอีก!
“พ่อ ครั้งก่อนฉันบอกเรื่องในเขตเหนือของเมืองกับคุณน่ะ ลูกน้องของท่านเสิ่นซานอย่างหลิวจุนก็เป็นคนออกหน้า” หวางจื่อเหวินพูดด้วยความไม่ชอบหน้า “ฉันว่าครั้งนี้ ก็น่าจะพล่ามไปเรื่อยอีกเหมือนกัน เอาชื่อเสียงของท่านเสิ่นซานมาขู่ ไม่ต้องไว้หน้าของพวกเขา!”
เขาทนไม่ได้ที่จะมีสัมพันธ์สวาทกับจางฉีโม่อีกแล้ว เขาโกรธเป็นอย่างมาก
หวางกั๋วคางมีแววตาเย็นชา ครั้งก่อนลูกชายถูกหัวเราะเยาะหน้าชุมชนสุ่ยหยวน มันทำให้เขาขายหน้าในเมืองชิงหยูน เลยอดกลั้นไม่กล้าไปแก้แค้นท่านเสิ่นซานอีก
ในครั้งนี้ คนพวกนี้บอกว่าเป็นคนของท่านเสิ่นซานงั้นเหรอ?
“หึ!ไม่ต้องมาทำเก่งต่อหน้าฉัน คุณเป็นคนของท่านเสิ่นซานใช่ไหม?” หวางกั๋วคางพูดเสียงเย็นชา “ท่านเสิ่นซานแล้วจะทำไมเหรอ?คุณรู้หรือไม่ ว่าก่อนหน้านี้ท่านเสิ่นซานที่เมืองหนานเฉิง เจอฉันต้องเคารพฉันขนาดไหน?”
“หึ!” ชายชุดดำที่อยู่คนแรกนั้นยิ้มขึ้นด้วยความเย็นชา “พวกเราโทรไปบอกท่านสามแล้ว ท่านสามบอกว่าจะมาถึงภายในห้านาทีนี้ จะให้ดีพวกคุณอย่ามาอวดให้มากเลย”
“มาถึงภายในห้านาทีเหรอ?คุณคิดว่าพวกคุณเป็นใครกัน?เก่งกาจขนาดนั้นเลยเหรอ?” หวางจื่อเหวินยิ้มขึ้นด้วยความเย็นชาอย่างไม่แยแส เขาไม่เชื่อเลย จางฉีโม่คนเล็กๆ นั้น จะมาเรียกท่านเสิ่นซานไปเรื่อยเปื่อยได้อย่างไร
“ตีพวกสามคนนี้ที่ไม่รู้จักเป็นตายให้มันตายไปเลย!” หวางกั๋วคางสะบัดมือออก เพื่อเป็นการสั่ง
ตบตีอย่างรวดเร็วเหมือนกับสายฟ้า บอดี้การ์ดสิบกว่าคนปรี่เข้ามาเพื่อเตะต่อย กับชายชุดดำทั้งสามคน
เมื่อเตะต่อยไปได้สองนาที ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ บอดี้การ์ดใส่สูทสี่ห้าคนต่างร้องด้วยความเจ็บปวด ดูไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เก่งกาจพวกนี้
เตะต่อยกันอยู่นาน!
สู้ไม่ได้ บอดี้การ์ดใส่สูทแต่ละคนรีบหยิบหนังสือพิมพ์สีดำขึ้นมา พลางทำเป็นรูปทรงกระบอก และเล็งไปที่ชายชุดดำทั้งสาม
“เตะต่อยต่อสิ?ทำต่อไปสิ!” หวางจื่อเหวินรีบเข้ามาตบหน้าของชายชุดดำ
เพี๊ยะ!
ชายชุดดำหน้าแดงไปด้วยความโกรธ และกำหมัดแน่น
จางฉีโม่ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่รู้แน่ชัดว่านี่มันคืออะไรกัน
“รีบแก้ไขเร็ว และทำเธอซะ เสร็จกิจแล้วค่อยเอากลับไปที่บ้านพักตากอากาศ” หวางกั๋วคางยิ้มด้วยความเยือกเย็นก่อนพูดขึ้น พลางมองจางฉีโม่ ด้วยความเกลียดชังในแววตา และในใจเองก็มีความเกลียดชังไม่แพ้กัน
หวางจื่อเหวินรู้สึกทระนง ก่อนจะถอดนาฬิกาออก และยื่นมือออกมาปลดเข็มขัด บอดี้การ์ดใส่สูทกลุ่มนั้นก็ล้อมเข้ามาเหมือนกับกำแพง เพื่อบังสายตา เห็นได้ชัดเลยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อลูกหวางจื่อเหวินทำเรื่องเลวร้ายนี้เป็นครั้งแรก
ติ๊ดๆ !
มือถือของชายชุดดำดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มาคุยไม่กี่ประโยค ก่อนจะมองพ่อหวางกั๋วคางด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดว่า: “โทรศัพท์ของท่านสาม อยากให้พวกคุณรับ!”
หวางกั๋วคางขมวดคิ้วเบาๆ แล้วทำสัญญาณให้หวางจื่อเหวินหยุดก่อน จากนั้นจึงรับโทรศัพท์
“คุณคือหวางกั๋วคางเหรอ?” ปลายสาย มีเสียงเย็นชาดังขึ้นมา
“คุณคือใคร?” หวางกั๋วคางถามขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็น
“ฉันคือเสิ่นซาน ฉันจะไปถึงอาคารเป่าติ่งในอีกสองนาที ถ้าเกิดว่าคุณกล้าแตะต้องจางฉีโม่แม้แต่นิดเดียว ฉันจะทำให้สองคนพ่อลูกต้องเสียใจจนตายไปเลย!” ปลายสายนั้น มีเสียงที่เย็นยะเยือกดั่งน้ำแข็ง และเต็มไปด้วยเสียงแห่งความอาฆาต
หวางกั๋วคางมีสีหน้าเปลี่ยนไป ความโกรธก็มากขึ้น มีคนกล้ามาข่มขู่ตัวเองแบบนี้อีกเหรอ?
“โอเค!ฉันจะให้เวลาคุณสองนาที ฉันจะดูว่าคุณจะทำอะไรได้?แถมยังมีเสิ่นซาน?เสิ่นซานจะไม่รู้เรื่องอะไรแบบนั้นเชียวเหรอ?” หวางกั๋วคางยิ้มด้วยความเยือกเย็นก่อนพูดขึ้น ในใจนั้นแดกดันสุดๆ ไม่รู้จริงๆ ว่ามันเป็นความอัปยศจากไหน ถึงได้กล้ามาเว่อร์ที่นี่ ตัวเองอยู่ที่เมืองชิงหยูนมาหลายปี จะมาตกใจกลัวกับอะไรแบบนี้เหรอ?
ติ๊ด!หวางกั๋วคางวางโทรศัพท์ ก่อนจะมองจางฉีโม่กับชายชุดดำหลายคนด้วยแววตาเย็นชา
“รอสามนาที ถ้าเกิดสามนาทีแล้วเสิ่นซานยังไม่มา!” หวางกั๋วคางพูดด้วยความดุดัน “ฉันจะฆ่าพวกคุณทั้งสามอย่างโหดเหี้ยม!แล้ววนกันใช้จางฉีโม่ จากนั้นจะส่งเข้าไปในอาคารปิดทึบ เพื่อขายให้คนอีกมากมายได้ใช้ซะ!”
หวางจื่อเหวินเองก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พลางมองจางฉีโม่ “ไม่สนใจจะมาลองกับฉันเหรอ?ตอนนี้พ่อฉันโกรธแล้ว คุณไม่ได้ถูกฉันทำคนเดียวแน่นอน!”
จางฉีโม่หน้าซีด รู้สึกเหมือนว่ากำลังเผชิญหน้ากับผีสองตนอยู่ ท่าทีและคำพูดที่บ้าเกินรับมือนั้น ทำเรื่องแบบนี้ได้ หญิงคนไหนที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็ต้องกลัวจนใจเย็นไม่ลง
ผ่านไปหนึ่งนาที ก็มีเงาของโรลส์รอยซ์คันหนึ่งพาดผ่านเข้ามา
จากนั้น มีรถอย่างน้อยสามสิบคันรีบปรี่เข้ามา ก่อนจะล้อมเอาไว้ แล้วลงมากันเต็มไปหมด จนทำให้พ่ออย่างหวางกั๋วคางตะลึง
เสิ่นซานใส่ชุดดอกไม้ พลางมีลูกประคำอยู่ในมือ งลมาจากรถอย่างเย็นยะเยือก บนหน้าผากมีเหงื่อไหล และกำลังรับโทรศัพท์
“ท่านหลิน ฉันไปที่อาคารเป่าติ่งแล้ว คุณนายหลินไม่เป็นไร!คุณบอกมาดีกว่าว่าจะให้จัดการอย่างไร?” เสิ่นซานพูดเหงื่อแตก พลางยินดีที่คุณนายหลินไม่ได้เป็นอะไร
“ตัดความเป็นพ่อลูกของพวกเขา” ปลายสายนั้น มีเสียงเย็นชาดังออกมา