ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่378 คุณลุง คุณพ่อของฉันฝากของสิ่งนี้ไว้ให้คุณ
บูม!
เสียงประตูคฤหาสน์ดังขึ้น
หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย หยังสวนเจิงตายแล้ว?
ถึงแม้ว่าศิลปะการต่อสู้ของหยังสวนเจิงจะไม่ดีเท่ากับตัวเขาเอง ถึงจะยังไงก็คือลูกศิษย์ที่อาจารย์สอนออกมา บุคคลที่อยู่ในระดับหัวหน้าสำนักแก๊งมังกร ในโลกนี้เป็นเรื่องยากที่จะมีคนสามารถทำร้ายเขาได้
ถ้าอย่างนั้น ก็สามารถแน่ใจได้ว่า หยังสวนเจิงเสียชีวิตในระหว่างการเปลี่ยนหัวหน้าแก๊งมังกรครั้งที่แล้วที่เกิดวุ่นวายภายในเกิดขึ้น
หรือว่าหยังสวนเจิงตายแล้ว แต่ยังทิ้งลูกสาวไว้หนึ่งคน?
หลินอิ่งมองท่าทางการแสดงออกของหญิงสาวและเด็กหญิง รู้สึกว่าต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในเรื่องนี้ เกี่ยวกับข้อมูลภายในแก๊งมังกร ดังนั้นเขาต้องสืบเรื่องนี้ให้ได้
หลินอิ่งครุ่นคิดแล้วส่งสัญญาณทางสายตาให้ฮาเดส
ฮาเดสเดินเข้าไป ตบหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้าอยู่หน้าประตูจนหมดสติ แล้วหยิบกุญแจไปเปิดประตูใหญ่ของวิลล่า
ทั้งสองคนเดินเข้าไปยังวิลล่าอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในสวนของวิลล่า ข้างกายของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์มีชายวัยกลางที่สวมชุดลายๆหลายคนตามอยู่
หยังสู้สู้ทำท่าทางอย่างกับทำผิดอะไรมา ก้มหัวแล้วเอามือไขว้หลังไว้
“ไอ้เด็กบ้านี้ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆไอ้ไม่ได้เรื่อง! ยังเป็นเด็กเป็นเล็ก แค่เห็นก็รู้จักเข้าหาผู้ชาย โทรมาต้องเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีแน่เลย!” ใบหน้าของสาวเจ้าเสน่ห์เต็มไปด้วยความโกรธ และพูดด้วยน้ำเสียงที่หยาบคาย
“ไม่ใช่! คุณแม่สวี เข้ามาหาพ่อของหนู หนูก็แค่ตอบรับไปคำหนึ่ง” หยังสู้สู้พูด
ป๊าบ!
ใบหน้าของแม่สวีเต็มไปด้วยความโกรธ และกก็ตบหน้าหยังสู้สู้ไปหนึ่งครั้ง “ อย่าเรียกฉันว่าแม่! ฉันไม่ใช่แม่ของแก! ไอ้เด็กบ้านนี่ ยังกล้ามาเถียงกับฉันใช่ไหม?”
“ มาหาพ่อที่ตายแล้วของแกแล้วจะยังไง? ก่อนจะที่พ่อของแกจะตายได้ให้สิ่งของมีค่าอะไรไว้ให้กับแกใช่ไหม?” แม่สวีมองหยังสู้สู้ด้วยใบหน้าที่มืดมน “ แกมีเจ้าเล่ห์จริงๆ ถามแกมาตั้งนาน ยังไม่เต็มใจที่จะเอาสิ่งนั้นออกมาอีกหรอ?”
หยังสู้สู้หลั่งน้ำตา กัดฟันแน่นไม่ให้ตัวเองร้องไห้เสียงดัง ก้มหน้าสะอื้นเบาๆ
“ไร้ยางอายจริงๆ! ไอ้เด็กเวร!” ชายวัยกลางคนหนึ่งพูดด้วยความโกรธ “ถ้าไม่เห็นแก่พ่อที่ตายไปแล้วของแก พวกเราคงทิ้งแกไว้ข้างถนนให้อดตายแล้วให้หมามันกิน! พวกเราเลี้ยงแกไว้ แกยังไม่รู้จักสำนึกบุญคุณอีกเหรอ?”
“เมื่อก่อนถามอะไรแกก็ไม่พูด แกล้งเป็นใบ้? พอคนนอกมาแกก็วิ่งเข้าหา? แกว่าแกมันไร้ยางอายใช่มั้ยห๊า!”
“รอเธอให้โตกว่านี้หน่อย เราค่อยเอาเธอไปขายที่เลาจน์ ก็ยังมีราคาหน่อย จะได้ค่าเลี้ยงดูคืนมาบ้าง” แม่สวีพูด
“ทั้งวันก็กอดแท่งเหล็กอันเน่าๆที่พ่อของเธอทิ้งไว้ราวกับเป็นของมีค่า มันสามารถทำอะไรได้?”
“ฮ่าๆ! ก็แค่ไอ้เด็กบ้าคนหนึ่ง ยังคิดว่าพ่อของเธอทิ้งของมีค่าอะไรให้ซะอีก?”
ชายหญิงหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนหัวเราะเยาะอย่างสะใจ
“พ่อ พ่อของหนูบอกว่า นี่คือคำพูดสุดท้ายของเขา จะต้องเก็บของนี้ไว้ให้กับผู้มีอำนาจคนหนึ่ง ผู้มีอำนาจคนนั้นจะมาหาด้วยตัวเอง” หยังสู้สู้พูด “ แค่รอผู้มีอำนาจคนนั้น เขาก็จะช่วยหนูบรรลุความปรารถนาหนึ่งอย่าง”
เธอบีบก้อนหินสีดำในมือของเธอแน่น ก็เหมือนคอยเฝ้าดูแลปกป้องของที่รักอะไรอย่างนั้น
“เป็นไอ้โง่จริงๆมองก้อนหินก้อนหนึ่งเป็นของมีค่า? พกติดตัวอยู่ตลอด โง่มากๆ!”
“นี่ ยังพูดถึงผู้มีอำนาจอะไร? สามารถช่วยบรรลุความปรารถนาได้? แกคิดว่าพ่อของแกรู้จักกับเทวดาหรือไง?”
“ยังบรรลุความปรารถนา? ไอ้เด็กบ้าคนนี้ อยากรอเพื่อนของพ่อแกมาใช่ไหม? แล้วไล่พวกเราออกไปหรอ? ให้แกอยู่บ้านหลังนี้?” แม่สวีพูดอย่างประชดประชัน “เอาลูกหินเน่าๆก้อนนั้นมา วันนี้ฉันจะต้องทิ้งมันให้ได้ ดูว่าแกยังจะแสดงอะไรอีก!”
“หนู หนู……นี่คือความหวังสุดท้ายที่พ่อของหนูขอไว้ หนูจะต้องทำให้สำเร็จแทนพ่อ” หยังสู้สู้รวบรวมความกล้าล้าพูดว่า “คุณแม่สวี แม่แย่งมันไปไม่ได้”
“หึๆ ใครจะอยากได้ก้อนหินของแก? ฉันถามแก ก่อนที่พ่อแกจะตายได้พูดอะไรกับแก? ได้ซ่อนสมบัติเอาไว้ที่ไหนสักแห่งใช่ไหม?” แม่สวีพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ไม่มี พ่อของหนูทิ้งก้อนหินนี้ให้เท่านั้น” หยังสู้สู้ก้มหน้าแล้วพูด
“หยังสวนเจิงก็เป็นคนไม่ได้เรื่อง มาตายอย่างน่าแปลกใจ แม้แต่มรดกก็ไม่ทิ้งไว้ให้! ช่างเป็นคนที่ไร้ค่า สมควรตายจริงๆเลย!”แม่สวีสาปแช่ง
คุณสวียิ่งคิดก็ยิ่งไม่พอใจ ตอนที่หยังสวนเจิงยังมีชีวิตอยู่เขาเป็นคนที่เก่งมาก แม้กระทั่งกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับจี้ฉงซานมหาเศรษฐีแห่งเมืองก่าง จี้ฉงซานยังต้องมาชนแก้วแสดงเพื่อความเคารพ หลังจากที่ตายไป กลับทิ้งไว้แค่วิลล่าหลังนี้? และพื้นที่พังๆของวัด?
นี่สามารถมีราคามากแค่ไหน? ไม่สมกับที่เป็นคุณหนูของตระกูลสวี ในปีนั้นเธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่ออ่อยหยังสวนเจิง ขึ้นเตียงของเขายอมเป็นมือที่สาม เป็นแม่ม่ายมาตั้งหลายปี! เสียเวลาช่วยวัยรุ่นไปหลายปี! กลับได้มรดกแค่นี้?
หยังสวนเจิงยังพูดอะไรนะช่วยดูแลลูกสาวของเขาให้ดีๆ ถุย! ก็แค่ต้องการจะทรมานลูกสาวของเขา!
“คุณแม่สวี คุณพ่อไม่ใช่คนที่ไม่ได้เรื่อง หนูไม่อนุญาตให้คุณพูดเขาแบบนี้” หยังสู้สู้พูดอย่างดื้อรั้น
“ยังกล้าเถียง? มานี่ ตบปาก!” สีหน้าของแม่สวีเต็มไปด้วยความโกรธและดุอย่างเย็นชา
“หยุด!”
ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งดังเข้ามา ทำให้คุณแม่สวีตกใจและถอยหลังไปสองก้าว
หลินอิ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม สั่งฮาเดสอุ้มหยังสู้สู้ไปอยู่อีกข้างๆ
“นาย? นายเข้ามาได้ยังไง? นี่คือการบุกรุกเข้าบ้านผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต นายรู้หรือเปล่า?”แม่สวีทั้งตกใจทั้งโกรธ และด่าหลินอิ่ง
“ใครให้เธอลงมือกับลูกสาวของหยังสวนเจิง?” หลินอิ่งถามด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย
“นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของตระกูลสวี! นายมันก็แค่คนนอกเกี่ยวอะไรด้วย?” แม่สวีพูดอย่างเย็นชา “ไอ้เด็กบ้านี่เป็นลูกสาวของฉัน ฉันอย่างจะตียังไงก็ตีย่างนั้น!”
“ไม่! หนูไม่ใช่ลูกสาวของเธอ!” หยังสู้สู้ตอบกลับ” แม่แท้ๆของหนูคือหยังฉ่ายเซียคุณเป็นแม่เลี้ยงของหนู”
“โอ๊ย!แกมันกล้ามาก!” สีหน้าของแม่สวีเต็มไปด้วยความโกรธ เดินไปก็จะตีหยังสู้สู้
ฮาเดสยืนบังอยู่ข้างหน้าด้วยท่าทางที่เย็นชาและพูดเสียงเข้ม “ประธานหลินถาม พวกคุณไปยืนข้างๆให้หมด”
“นายเป็นใคร? มาถึงบ้านตระกูลสวีเพื่ออวดเก่ง?”
“ให้ตายสิ มาถึงบ้านของพวกเรายังขนาดนี้ รนหาที่ตายใช่ไหม?”
ชายวัยกลางกลุ่มนี้เดินล้อมเข้ามาและตะโกนลั่น
บูม!
ฮาเดสเหวี่ยงมือออกไป ตบชายที่ยืนอยู่ข้างๆคุณแม่สวีกระเด็นออกไปไม่ต่ำกว่าสิบเมตร นอนชักดิ้นชักงออยู่บนพื้น ทันใดนั้นบรรยากาศก็เงียบสงบทันที
“ดูพวกเขาไว้ดีๆ ใครกล้าหนี ฆ่าทิ้งได้ทันที” หลินอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
หยังสวนเจิงทำงานอย่างซื่อสัตย์ให้กับแก๊งมังกร หลังจากที่ตายไป ลูกสาวกลับตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ถูกคนนอกเข้าครอบครองวิลล่าไม่พอ ลูกสาวยังถูกแม่เลี้ยงทรมานและทำร้ายอีก!
กลุ่มคนของแม่สวี ทำกับหยังสู้สู้แบบนี้ มันช่างโหดร้ายและทารุณเกินไปแล้ว
“หยังสู้สู้ ไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่ที่นี่ จะไม่มีใครกล้ารังแกหนูอีก” หลินอิ่งมองไปยังหยังสู้สู้ ด้วยรอยยิ้ม “ฉันเป็นเพื่อนของพ่อหนู หนูสามารถบอกเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวกับพ่อของหนูให้ฉันได้มั้ย?”
“คุณ คุณเป็นเพื่อนของพ่อจริงๆใช่ไหม?” หยังสู้สู้ถามด้วยความสงสัย “คุณชื่ออะไรหรอ?”
ทั้งชีวิตนี้หยังสู้สู้ไม่มีวันลืม คุณพ่อเคยบอกกับเธออย่างจริงจัง จะต้องมอบหินสีดำที่อยู่ในมือนี้ ให้ไปอยู่ในมือของชายหนุ่มที่มีชื่ออิ่งอยู่ มีแต่ชายหนุ่มนี้เท่านั้นที่รู้ความลับของหินก้อนนี้ ยังพูดอีกว่า ในช่วงที่เหลือของชีวิต เขาคนนั้น จะมาที่หอบรรพบุรุษตระกูลหยังในไม่ช้า
“ฉันชื่อหลินอิ่ง คุณพ่อของหนูเคยเอ่ยชื่อของฉันกับหนูไหม?” หลินอิ่งพูดอย่างเคร่งขรึม
ทันใดนั้นหยังสู้สู้ก็ร้องไห้ออกมาและพูดว่า “คุณลุง คุณพ่อของหนูได้ฝากสิ่งนี้ให้กับคุณ”