ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - ตอนที่ 125 ประสบการณ์ทำให้โชกโชน
“เฮ้อ อย่าพูดแบบนี้เลย ใช้ครีมกระวานที่นายผสม ผลลัพธ์มันดีมากจริงๆ ” จางฟางเอ่ยชม “นายรู้ไหม? เมื่อก่อนผัวฉันรังเกียจที่ฉันหัวนมดำ ตรงนั้นก็ดำ ตอนนี้เห็นฉันกลายเป็นสีชมพู แถมยังใช้ปาก……”
พูดไป จางฟางก็หัวเราะออกมา “ก็ต้องขอบคุณครีมกระวานของนาย ช่วยให้ผู้หญิงหลายคนรอด ทำให้นายมีสมญานามว่าเป็นมิตรกับผู้หญิง”
หลินหยางได้ยินแล้วก็เหงื่อแตกพลั่ก
ด้วยการควบคุมของหลินหยางจางฟางรอไม่ไหวแล้ว หลังจากเถาหยวนเปิดออกแล้ว ก็กลืนกินมันเข้าไปทันที รู้สึกถึงความสมหวังที่หายไปนาน จางฟางอดไม่ได้ที่จะครางออกมา
แอบกินกับหลินหยางอยู่หลายครั้ง จางฟางยังคงปรับตัวไม่ได้ จนกระทั่งรู้สึกได้แล้ว จึงเริ่มบิดเอวอย่างบ้าคลั่ง
“ต้องเป็นความรู้สึกแบบนี้สิ หลินหยาง แรงอีก!” จางฟางตะโกนอย่างเป็นสุข โชคดีที่หน้าต่างรถเก็บเสียงได้ดี ทำให้ไม่รบกวนคนภายนอก
เสียงสูงต่ำขึ้นลงไม่มีสิ้นสุด อย่างไรแล้วก็เป็นสาวใหญ่ รสชาติที่เป็นผู้ใหญ่และประสบการณ์ในการออกรบมานานของจางฟาง ปรนนิบัติจางฟางได้สบายอย่างมาก
หนึ่งชั่วโมงกว่า หลินหยางกอดร่างกายที่ไร้กำลังของจางฟางแน่น แล้วทิ้งสิ่งสำคัญไว้ในร่างกายเธอ
การสู้รบระหว่างกองทัพทั้งสองก็หยุดลง จางฟางไร้เรี่ยวแรงในอ้อมแขนหลินหยาง เผยอริมฝีปากเล็กน้อย หอบหายใจเหงื่อออก ดวงตามองไปที่หลินหยางแล้วพูดขึ้น “หลินหยาง ให้ป้าฟางตายในอ้อมแขนนายนะ”
“ได้ยังไงกัน ฉันอยากสบายกับป้าฟางตลอดชีวิตนะ” หลินหยางพูดคำหวานข้างหูจางฟาง
ชายหญิงคู่นี้กอดจูบกันในรถอีกครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็แยกจากกันอย่างไม่เต็มใจ
แต่งตัวหนาๆ กันเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็ขับรถออกจากที่นี่ เมื่อถึงทางแยกถนน ทั้งสองก็แยกทางกัน
หลังจากหลินหยางกลับไปที่ร้านซักรีด เห็นสองสาวกำลังคุยอะไรกันอยู่ หลินหยางยิ้มแล้วถามขึ้น “พวกเธอสองคนทำอะไรกัน ทำไมดีใจขนาดนี้?”
“ทำเงินได้ ไม่ดีใจได้เหรอ?” หวังเถียนเถียนยิ้มคิกคักพูดขึ้น
“ทำเงินได้แล้วเหรอ? ทำเงินอะไร?” หลินหยางสงสัยนิดหน่อย “เพิ่งเปิดร้านก็มีคนมาซักผ้าแล้วเหรอ? ”
“ไม่ใช่ ทำเลนี้ยังไม่ค่อยดีนัก ทางนั้นยังมีชุมชนเล็กๆ ที่หนึ่งที่มีผู้คนอาศัยอยู่เยอะมาก เสื้อผ้าดีๆ บางอย่างพวกเขาไม่ได้ใช้มือซัก แค่ส่งมันไปซักแห้งโดยตรง แล้วก็มีพวกผ้าปูเตียงและอื่นๆ บ่ายวันนี้เลยได้เงินมาร้อยกว่า รอนักเรียนเปิดเทอม น่าจะได้เยอะขึ้น”
จ้าวจินฟ่งบอกผลลัพธ์กับหลินหยางด้วยความดีใจ ถึงแม้ครั้งแรกจะไม่ได้มากนัก แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี ทำเงินง่ายกว่าตอนที่เปิดโรงพยาบาลของตัวเองอีก
บริเวณนี้หลินหยางใช้เงินหกล้านกว่าซื้อมา ร้อยกว่าหยวนกับหกล้านหยวนมันเทียบกันไม่ติดเลย
แต่หลินหยางก็ไม่คิดจะโจมตีจ้าวจินฟ่ง ปากก็พูดแสดงความยินดี จากนั้นก็พาสองสาวไปทานอาหารด้วยกัน
“คืนนี้พวกเธออยู่ที่นี่ไหม? ฉันอยากกลับไป” หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ หลินหยางก็พูดกับสองสาว
“กลับไป? ไปไหน?” จ้าวจินฟ่งค่อนข้างลุกลี้ลุกลน ช่วงนี้คบค้าสมาคมกับหลินหยาง หลินหยางก็กลายเป็นกระดูกสันหลังตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว
“กลับบ้านเกิด ถ้าขับรถต้องใช้เวลาสองสามชั่วโมง” หลินหยางคิดสักพักแล้วพูดขึ้น
“บ้านเกิดนายอยู่ที่ไหน? ทำไมไกลขนาดนี้” หวังเถียนเถียนถามขึ้น
“หมู่บ้านบางเพทอ่ะ ตำบลป๋ายสาร อยู่ขอบๆ เมืองจินหลิง แน่นอนว่าไกล” หลินหยางยิ้มอธิบาย
“บ้านนายมีคนไหม? ดึกแล้วยังต้องกลับไปอีก กลับพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ?” หวังเถียนเถียนเบ้ปาก
“ไม่มีคน ทั้งบ้านมีแค่ฉันคนเดียว ฉันมีธุระนิดหน่อยต้องกลับไป มะรืนจะกลับมา”
“กลับมะรืน? กลับมาที่นี่เหรอ? ไม่งั้น……” หวังเถียนเถียนหมุนดวงตา เธอเป็นหัวหน้าห้องของหลินหยาง ค่อนข้างรู้จักบางคนในชั้นเรียน รู้ว่าหลินหยางเป็นเด็กกำพร้า ได้ยินว่าที่บ้านไม่มีคน สนใจอยากมีประสบการณ์ชีวิตในชนบท ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ไม่งั้นนายพาฉันไปดูหน่อยสิ? ”
“ชนบทมีอะไรน่าดู ชนบทที่น่าเที่ยวก็พัฒนาโดยนักพัฒนาทั้งหมด” หลินหยางเบ้ปาก อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านบางเพทตลอดปี ถึงหมู่บ้านนี้จะเป็นสถานที่ที่ตัวเองอาศัยอยู่ แต่คิดไม่ออกจริงๆ ว่ามันมีอะไรน่าเที่ยว
“ไม่หรอกน่า ฉันไม่เคยอยู่ชนบทมาก่อนเลย นายพาฉันไปดูหน่อยสิ” หวังเถียนเถียนกอดแขนหลินหยางแล้วเขย่า ในขณะนี้หลินหยางถึงได้รู้สึกว่าหน้าอกของหวังเถียนเถียนนั้นขนาดไม่เล็กเลย เนื้อนุ่มสองลูกแนบกับแขนตน ตัวเองรู้สึกถึงแรงกระเพื่อมที่ผ่านเข้ามา
“เธออยู่นี่เป็นเพื่อนจินฟ่งเถอะ ตอนนี้ที่ชนบทร้อนมาก ฉันกลัวว่าเธอจะทนไม่ไหว” หลินหยางส่ายศีรษะ
“ฉันทนได้หมดแหละ ทำไมฉันจะทนไม่ได้? หลินหยางฉันจะบอกนายให้นะ นายห้ามดูถูกความแข็งแกร่งของหัวหน้าห้องอย่างฉัน เมื่อก่อนตอนค่ายฤดูร้อน เงื่อนไขยากลำบากฉันก็ทนได้หมด ไปอยู่บ้านนายแค่สองวันมันจะเป็นอะไรไป นายทารุณฉันได้เหรอ? ” หวังเถียนเถียนจ้องมองหลินหยาง
“หลินหยาง นายพาเถียนเถียนไปดูเถอะ แล้วก็อยู่สักสองวัน นายยังจะกล้าทารุณเธอไหม?” จ้าวจินฟ่งอยู่ข้างๆ ช่วยหวังเถียนเถียนพูด
“เธอเป็นผู้หญิงอยู่ที่นี่คนเดียวมันอันตราย” หลินหยางขมวดคิ้วเป็นห่วงนิดหน่อย
“อันตรายอะไรกัน นายอย่าลืมนะว่าฉันเรียนที่นี่มาสี่ปีแล้ว คุ้นเคยกับที่นี่มากๆ” จ้าวจินฟ่งยิ้มกว้างพูด
“งั้นก็ได้ ฉันจะพาเถียนเถียนไป เธอมีอะไรก็โทรหาฉันทันทีนะ” หลินหยางพยักหน้าตอบตกลง
หลังจากเจรจากันแล้ว หลินหยางก็ขับรถพาหวังเถียนเถียนไปยังหมู่บ้านบางเพท
“หลินหยาง นายปิดบังเก่งมากจริงๆ ถ้าฉันไม่ได้พบเจอนาย ทั้งห้องคงไม่มีใครรู้ว่านายเป็นเจ้าถิ่น” หวังเถียนเถียนพูดโอเวอร์ภายในรถ
“เจ้าถิ่นอะไรกัน ใช่ที่ไหนล่ะ เออจริงสิเถียนเถียน เรื่องของฉันอย่าบอกเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นนะ คุยโวเกินไปมันจะไม่ดี” หลินหยางเอ่ยเตือน
“นายไม่ต้องเป็นห่วง แฟนฉันฉันก็ไม่บอก เฮ้อ มันคงจะดีถ้าแฟนฉันเก่งได้ครึ่งของนาย” หวังเถียนเถียนถอนหายใจอยู่ตรงนั้น
“ผู้ชายยากจนแค่ชั่วหนึ่ง เธอต้องมั่นใจในตัวเขานะ” หลินหยางพูดอย่างปลอบใจ
“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนี้ จริงสิหลินหยาง นายอยากมีแฟนไหม พี่สาวช่วยนายแนะนำได้นะ” หวังเถียนเถียนยิ้มพูด
“ซิงหมดไหม?” ถึงในใจจะไม่ได้คิดอะไร แต่หลินหยางก็แกล้งพูดแบบนั้น
“ไม่ซิงแล้วทำไม? ก็พวกผู้ชายอย่างพวกนายทำลายมันไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างตอนนี้มีใครเขาซิงกันบ้าง เยื่อหุ้มบางบางส่วนดึงมันขึ้นมาโดยตรง” หวังเถียนเถียนพูดเยาะเย้ย
“ก็ได้ๆๆ ฉันพูดผิดไปแล้วโอเคไหม” หลินหยางรีบอ้อนวอนขอการให้อภัย พูดเหตุผลกับผู้หญิงนี่ยุ่งยากจริงๆ
“รู้ว่าผิดแล้วเหรอ? งั้นพี่สาวจะแนะนำให้นายรู้จักคนที่ไม่ซิง นายยังต้องการไหม?” หวังเถียนเถียนพูดอย่างร้ายกาจ
“ไม่ต้องการ” หลินหยางพูดอย่างมุ่งมั่นเด็ดขาด
“นายยอมรับผิดตรงไหนเนี่ย? ” หวังเถียนเถียนไม่พอใจทันที
“ฉันไม่ต้องการไม่ได้เหรอ? ” หลินหยางทนไม่ไหวกับอำนาจของหวังเถียนเถียน รีบขอความเมตตาทันที
“ก็ประมาณนั้น เออจริงสิหลินหยาง นายก็ไม่ซิงแล้วใช่ไหม? ” หวังเถียนเถียนหมุนดวงตามามองหลินหยางแล้วถามขึ้น
หลินหยางอึ้งไปเมื่อถูกถาม ถึงตัวเองจะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมาไม่น้อย แต่ต้องใช้ความกล้ากับการเผชิญกับปัญหานี้
“ฉัน……ฉัน……” ฉันอยู่นานมาก หลินหยางก็ไม่ได้เผยออกมา
“คิกๆ คงไม่ได้ซิงอยู่จริงๆ หรอกนะ? ไม่งั้นจะขอให้อีกครึ่งหนึ่งเป็นครั้งแรกทำไม” ไม่รอให้หลินหยางคิดคำพูด หวังเถียนเถียนก็รีบใส่หมวกให้หลินหยาง
“แล้วเธอยังซิงไหม?” ขณะที่จับพลัดจับผลู หลินหยางก็ถามคำถามนี้
“อยากตายหรือไง ถามทำไม! ” หวังเถียนเถียนหยิกต้นขาหลินหยางอย่างแรง
“โอ๊ย! ” หลินหยางร้องออกมาทันทีเพราะเจ็บ หันศีรษะไปจ้องเขม็งหวังเถียนเถียน แกล้งทำเป็นขู่ “ถ้าเธอหยิกอีกที เชื่อไหมว่าคืนนี้ฉันจะตรวจสอบเธอด้วยตัวเอง?”
“คิกๆ นายจะตรวจสอบยังไง?” ดูเหมือนมั่นใจว่าหลินหยางเป็นมือสมัครเล่น หวังเถียนเถียนจึงพูดหยอกล้อหลินหยาง
“ตรวจสอบยังไงล่ะ ก็ตรวจสอบเหมือนที่แฟนเธอทำกับเธอไง!” หลินหยางตอบทันที
“หลินหยาง นายรู้หรือเปล่าวว่าตอนผู้หญิงทำเรื่องอย่างว่า ถ้าผู้ชายเก่งมากพอ จะถึงจุดสุดยอดได้สองครั้งเลยนะ?” จู่ๆ หวังเถียนเถียนก็ถามขึ้น
“รู้สิ ทำไม?” หลินหยางเรียนแพทย์แผนจีน รวมถึงตัวเองก็มีประสบการณ์มากกับเรื่องนี้ อย่าว่าแต่สองครั้ง ทุกครั้งที่หลินหยางสู้รบ การต่อสู้ที่ดุเดือดนั้นมากกว่าห้าหกครั้งอีก?
“แฟนฉันมีเซ็กส์กับฉัน ครั้งหนึ่งสู้รบกันอย่างดุเดือดยี่สิบนาที บางครั้งก็ทำให้ฉันถึงจุดสูงสุดสองครั้ง แฟนฉันทำแบบนั้นได้ นายทำได้ไหม?” หวังเถียนเถียนมองหลินหยางอย่างยั่วยุ
“ทำไมจะไม่ได้? อย่าว่าแต่สองครั้ง สามครั้งก็ทำได้” หลินหยางรับประกันอย่างให้คำมั่นสัญญา
“สามครั้งเหรอ? ได้ครั้งเดียวก็ไม่แย่แล้วนะ” หวังเถียนเถียนเหมือนพอใจมากที่ได้โจมตีหลินหยาง
“ทำไมฉันจะทำแค่ครั้งเดียวไม่ได้?” หลินหยางแกล้งถามอย่างไม่มั่นใจ
“คิกๆ ประสบการณ์ทำให้ฉันโชกโชน ร่างกายฉันผ่านศึกมานับร้อย ทักษะชำนาญมากแล้ว นายเป็นมือสมัครเล่น นายทนได้ถึงห้านาทีก็ไม่แย่แล้วล่ะ” หวังเถียนเถียนพูดอย่างภูมิใจ
ถึงปากจะพูดจาหมกมุ่นโลกีย์ แต่ในใจหวังเถียนเถียนกลับเต้นระรัว ปกติตัวเองอยู่ในฐานะหัวหน้าห้อง มีภาพลักษณ์สง่างามในใจทุกคน วันนี้นั่งข้างๆ หลินหยาง อดไม่ได้จริงๆ ที่จะพูดจาหมกมุ่น
หลินหยางมีทักษะการขับรถดี ขับได้ราบรื่นและรวดเร็ว บนถนนที่ไม่มีกล้องจราจร หลินหยางเหยียบคันเร่งทันที ความพยายามในหนึ่งชั่วโมง ก็มาถึงถนนที่ไม่มีคนแล้ว คาดว่าอีกสักครู่ก็จะถึงตำบลป๋ายสารแล้ว
“ประสบการณ์ทำให้โชกโชนเหรอ? เธอคุยโวแล้ว เธอเคยทำกับกี่คนถึงได้กล้าพูดแบบนี้” หลินหยางเบ้ปากพูดขึ้น
“หกคน ถือว่าประสบการณ์โชกโชนหรือยัง?” หวังเถียนเถียนใช้นิ้วทำมือเป็นเลข “หก” ห้อยตรงหน้าหลินหยาง
มีการเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็ยังตะลึงกับจำนวนตัวเลขที่หวังเถียนเถียนบอก
“หกคน? ใครบ้างอะ?” หลินหยางถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
“ตอนอยู่มหาวิทยาลัยฉันก็คุยกับผู้ชายหลายคนนายไม่รู้เหรอ?” หวังเถียนเถียนถามหลินหยาง
หลินหยางขมวดคิ้วคิดแล้วพูดขึ้น “สี่คนปะ? ”
“ตอบถูกต้อง นายชอบฉันหรือเปล่าเนี่ย? ทำไมรู้?” หวังเถียนเถียนยิ้มถาม
พูดตามตรง หลินหยางก็เคยสังเกตหวังเถียนเถียนจริงๆ นั่นแหละ หัวหน้าห้องที่หน้าตาสวย หุ่นร้อนแรงคนนี้ นักเรียนชายในห้องก็ชอบกันหมด สำหรับแนวโน้มของเธอ หลินหยางก็เคยได้ยินมาไม่น้อยเหมือนกัน
“ได้ยินคนในห้องพูดกัน จริงสิ เธอคงไม่ได้เคยมีอะไรกับทั้งสี่คนหรอกนะ? ” หลินหยางถามขึ้นอย่างสงสัย
“อืม เคยทำด้วยหมด หลังจากทำครั้งแรกกับแฟนโดยบังเอิญ ก็ค่อนข้างเฉยๆ กับเรื่องนี้แล้ว”
“นั่นสี่คน แล้วอีกสองคนล่ะคือใคร?” หลินหยางค่อนข้างสงสัย
“อีกคนเล่นวีแชทที่บ้านแล้วเจอ อีกคน……” หวังเถียนเถียนลังเลขึ้นมา ดูเหมือนกำลังคิดว่าจะพูดดีไหม
“เธอพูดมาเถอะ ฉันไม่บอกคนอื่นหรอก” หลินหยางพูดรับประกัน
“คิกๆ พี่สาวเชื่อนายนะ นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงได้อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าห้อง?” หวังเถียนเถียนยิ้มถาม
หลินหยางจำได้ว่าตอนหวังเถียนเถียนสมัครเป็นหัวหน้าห้องเป็นการรับเลือกภายใน ตอนนั้นมีข่าวลือว่าหวังเถียนเถียนเป็นญาติกับคณบดี หลินหยางมีประกายไฟในสมองแวบผ่านไป ถามขึ้นอย่างตกใจ “เธอคงไม่ได้กับคณบดี……”
“คิกๆ ถือว่านายฉลาดนะ” หวังเถียนเถียนยิ้มแล้วพูดขึ้น “มันคือความลับนะ ถ้านายกล้าพูดกับคนอื่น ฉันจะแก้แค้นนายแน่”
“เธอวางใจได้ ฉันสาบานว่าจะไม่บอกใคร เธอไม่เชื่อใจนิสัยฉันเหรอ? ” หลินหยางรับประกันแล้วถามต่อ “คณบดีอายุสี่สิบกว่าแล้ว เธอไปเกี่ยวข้องกับเขาได้ไง?