ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - ตอนที่ 46 ดูดี
ตอนที่ 46 ดูดี
“ป้าจาง นี่เป็นเงินที่ป้าให้ฉัน ฉันคืนให้ป้า” หลินหยางหยิบเงินยี่สิบหยวนออกมาจากกระเป๋าเสื้อยื่นให้จางหุ้ยฉุ้ย
จางหุ้นฉุ้ยผู้ที่กำลังดีใจอยู่ในใจได้ยินดังนั้นก็โบกมือปฏิเสธ “นายเสียเงินตั้งมากมายซื้อของอันนี้ให้ฉัน ฉันก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่แล้วที่ไม่ได้ให้เงินนายเพิ่ม นายยังคิดจะคืนเงินให้ฉันอีก ฉันจะรับมาได้ยังไง?”
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ของอันนี้ฉันให้ป้าจาง ถ้าป้าไม่อยากเอา จะเรียกว่าให้ได้ยังไง พูดก็พูดนะป้าจาง ป้าสวยขนาดนี้ คนที่อยากจะให้ของกับป้าคงมีอีกเยอะ ป้าต้องการของของฉัน ก็ถือว่าเป็นเกียรติกับฉันมากแล้ว” เมื่อหลินหยางพูดจบเขาก็นำเงินยี่สิบหยวนไปใส่ไว้ที่กระเป๋าเสื้อของป้าจาง
แม้ว่าบ้านของจางหุ้ยฉุ้ยค่อนข้างมีฐานะ แต่ก็ไม่ได้ว่ารวยมั่งคั่งมาก บวกกับเธอมีความคุ้นชินกับการใช้จ่ายที่ประหยัด ชอบซื้อของราคาถูก เมื่อหลิงหยางคืนเงินให้กับตนเอง จางหุ้ยฉุ้ยจึงรับเงินมาอยากมีความสุข
“ เสี่ยวหยาง ความมีน้ำใจของนายฉันจะรับไว้นะ” จางหุ้ยฉุ้ยมองที่ตาหลินหยางแล้วพูด เธอมองดูครีมบำรุงอย่างเบิกบานใจซักพักถึงจะนำเอากลับเข้าไปใส่ในกล่องอย่างอาลัยอาวรณ์
“ป้าจาง ฉันยังซื้อของอย่างอื่นให้ป้าอีกนะ” พูดเสร็จเขาก็หยิบเครื่องสำอางที่มีลักษณะโปร่งใสออกมาจากกระเป๋าอีกครั้ง
นี่คืออะไรหรอ? จางหุ้ยฉุ้ยเอ่ยถามประหลาดใจแล้วรับเอาขวดเล็กๆที่ข้างในบรรจุของเหลวใสมาจากในมือของหลินหยาง
“อันนี้คือมาสคาร่า วันธรรมดาเมื่อป้าแต่งหน้าก็สามารถปัดนึดนึงตรงบริเวณขนตา มองดูแล้วจะสวยมากขึ้น ถ้าป้าอยากลองดู ฉันจะช่วยป้าปัด” หลินหยางยิ้ม
เดิมทีจางหุ้ยฉุ้ยยังไม่เคยใช้ของสิ่งนี้มาก่อน เมื่อได้ฟังหลินหยางพูดเธอก็รีบพยักหน้า “งั้นนายช่วยฉันทำหน่อย ฉันจะดูว่าตกลงแล้วจะสวยหรือไม่สวย”
สำหรับความงามนั้น ผู้หญิงทุกคนก็ต่างไล่ล่ากันอย่างบ้าคลั่ง จางหุ้ยฉุ้ยพาหลินหยางไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ นั่งที่บนเก้าอันหนึ่ง มองที่หลินหยางแล้วพูด “เร็วเข้า”
แม้ว่าก่อนหน้านี้หลินหยางก็ใช้ไม่เป็นเหมือนกันแต่ว่าของสิ่งนี้ใช้ง่ายมาก หลินหยางไม่รอช้า เขาเปิดฝาออกแล้วเริ่มปัดไปที่ขนตาของจางหุ้ยฉุ้ย
วันนี้จางหุ้ยฉุ้ยใส่เสื้อผ้าสีเหลืองอ่อน ส่วนล่างยังคงเป็นกระโปรงสั้นและยังมีถุงเท้าสีดำอยู่บนสองขาเรียวยาวที่สวยงามซึ่งดูน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงในหมู่บ้าน ส่วนน้อยมากที่จะคุ้นชินกับการสวมเสื้อชั้นใน วันนี้จางหุ้ยฉุ้ยก็ยังคงไม่ใส่ ถึงแม้ว่าเสื้อแขนสั้นตัวนี้ไม่ใช่คอลึก แต่ว่าหลินหยางอยู่ใกล้จางหุ้ยฉุ้ยมาก และมองจากข้างบนลงไปข้างล่าง รูปทรงของข้างใน ก็สามารถแอบดูได้ไม่มากนัก
ปกติแล้วการดูแลตัวเองของจางหุ้ยฉุ้ยถือว่าดีมาก ภายใต้ผิวขาวนวล หน้าอกที่ใหญ่หนาและสูงตรงแสดงออกถึงการมีแรงยืดหยุ่นที่สูง
เมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนของจางหุ้ยฉุ้ยส่งผ่านออกมาในขณะที่เธอปัดเสื้อตรงบริเวณหน้าอกตรงที่นูนนูน ใจของหลินหยางก็สั่น และเนื่องจากไม่ได้ใส่เสื้อชั้นในสองเม็ดนูนนูนก็ออกมาให้เห็น หลินหยางอดใจไม่ไหวจึงยื่นมือไปคลึงทั้งสองอัน
การกระตุ้นในชั่วพริบตาทำให้จางหุ้ยฉุ้ยใจสั่น รีบมองไปที่หลินหยางทันที “จะรีบร้อนอะไร นายมาทำให้ฉันดูก่อน”
หลินหยางก้มลงไปพูดที่ข้างหูของจางหุ้ยฉุ้ยว่า “ป้าจางสวยขนาดนี้ ใครเห็นก็ต้องรีบ ฉันยังอยากจะนอนกอดป้าทุกวันเลย”
“พูดไปเรื่อย รอให้นายมีภรรยาก่อนเถอะ ยังจะคิดถึงป้าจางอยู่มั้ย” จางหุ้ยฉุ้ยพูดด้วยจิตใจที่สวยงาม หลินหยางรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาและยังเป็นคนมีการศึกษา ผู้หญิงในหมู่บ้านก็ชื่นชอบกันหมด
“จะเป็นไปได้ยังไง ขอเพียงเมื่อถึงเวลานั้นป้าจางยังให้ความสนใจ ยังไงฉันก็ยังคิดถึงป้าจาง” หลินหยางพูดอย่างดึงดูด แต่ในมือก็ยังคงไม่ปล่อย หลังจากคลำไปได้สักพักเขาก็เอามาสคาร่ามาปัดที่บนขนตาของจางหุ้ยฉุ้ย
“ป้าจาง เงยหน้าขึ้นให้ฉันดูหน่อย” หลังจากที่หลินหยางจับหน้าป้าจางยกขึ้น ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
จางหุ้ยฉุ้ยที่เดิมทีก็แต่งหน้าอ่อนอ่อนอยู่แล้ว เขียนคิ้ว ปัดแป้งบางๆ ดูแล้วสวยหยาดเยิ้มมาก และจากเดิมที่ดวงตาของเธอนั้นสวยงามอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ได้ถูกหลินหยางปัดขนตาให้อีก เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ได้เพิ่มแรงดึงดูดให้กับเธออีกอย่างไม่จำกัด
หลินหยางคิดแค่เพียงว่า ใบหน้าอันละเอียดอ่อนสวยงาม สองดวงตาที่เป็นประกาย ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน
“หลินหยาง ดูสวยมั้ย” มีบางอย่างที่เฝ้าคอยจ้องมาที่หลินหยาง ป้าจางรีบเร่งถาม
ใช้เวลาซักครู่ใหญ่หลินหยางถึงสงบอารมณ์ได้ เมื่อหลายปีก่อนป้าจางก็เป็นคนสวยที่มีชื่อเสียง แต่ว่าด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น ความสวยก็ค่อยๆจางหายใจ แต่ตอนนี้ป้าจางอยู่ในหมู่บ้านก็ถือว่าหน้าตาดีใช้ได้ แต่ก็เปรียบไม่ได้กับหญิงสาววัยรุ่น
แต่ว่าเมื่อได้ปัดมาสคาร่านิดหน่อย ดวงตาของเธอก็เปรียบเสมือนมีดอกไม้อยู่ในนั้น ทำให้หลินหยางหัวใจเต้นเมื่อมองไปที่เธอ
เมื่อหลินหยางกำลังอยากที่จะชื่นชมป้าจางนั้น จู่จู่ก็มีเสียงจากข้างนอกส่งผ่านเข้ามา “พี่จางอยู่มั้ย เอาไอศกรีมอันนึง”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น หลินหยางก็ฟังออกเลยว่าเสียงข้างนอกคือแม่ม่ายหลี่ หลี่ยิง
จางหุ้ยฉุ้ยอยากที่จะออกไป แตะแล้วแตะอีกที่ขนตาของตัวเอง ความหมายคือต้องการที่จะถามหลินหยางว่าตนเองสวยมั้ย
เมื่อเห็นหลินหยางพนักหน้า จางหุ้ยฉุ้ยก็เดินออกไปแล้วพูดว่า “ยิงจื่อ ทำไมวันนี้ไม่ไปหักข้าวโพดหล่ะ?”
“ไป นี่ไม่ใช่กำลังจะไปหรอ วันนี้อากาศร้อนมาก ซื้อไอศรีมซักอันคลายร้อน” หลี่ยิงพูดพลางยิ้ม ทันใดนั้นก็มองไปเห็นตาของจางหุ้ยฉุ้ย จึงพูดอย่างประหลาดใจว่า “พี่ฉุ้ย ทำไมวันนี้ขนตาพี่ดูดีจัง ทำยังไงหรอ?”
เมื่อได้ยินหลี่ยิงทักอย่างประหลาดใจ ในใจของจางหุ้ยฉุ้ยก็พอใจเป็นอย่างมาก ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อหลินหยางยิ่งเพิ่มมากขึ้น จางหุ้ยฉุ้ยใบหน้ายิ้มแย้มแล้วพูดขึ้นว่า “ปัดมาสคาร่ามานิดหน่อย สามีซื้อมาให้จากในเมือง วันนี้เลยเอามาลองใช้ดูหน่อยว่าจะออกมาดีมั้ย”
“ซื้อที่ในเมืองหรอ? แพงมั้ย? มีเวลาจะให้เลขาหนิวเอาติดมาให้ซักอัน” หลี่ยิงพูด
“ฉันไม่รู้ว่ากี่บาท ถ้าครั้งหน้ามาฉันจะถามให้” จางหุ้ยฉุ้ยยิ้มเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แล้วป้าจางก็ถามขึ้นมาว่า “กลางวันแดดยังคงร้อนจ้าขนาดนี้ เธอไปหักข้าวโพดตอนเย็นๆหน่อยก็ไม่ช้าไปมั้ง”
“จะได้ยังไงกัน ในบ้านมีฉันคนเดียว ฉันยังมีอีกหลายที่ยังไม่ได้ทำ ถ้าไม่รีบทำ ถึงเวลานั้นคนในหมู่บ้านทำเสร็จหมดแล้วแต่ฉันยังทำไม่เสร็จ ก็รู้สึกไม่ดีนิดหน่อย” หลี่ยิงถอนหายใจอย่างจนปัญญา
“เฮ่ย~ หลายปีมานี้ลำบากเธอหน่อย เดี๋ยวอีกไม่นานฉันจะดูว่ามีคนดีดีบ้างมั้ย จะช่วยแนะนำให้เธอซักคน คนที่มีฐานะและดูดี รีบหาคนมาดูแล” จางหุ้ยฉุ้ยยิ้ม
“เรื่องแบบนี้จะสามารถทำตามใจได้ยังไง ค่อยว่ากันเถอะ สำหรับเรื่องของการแต่งงานใหม่ ในหมู่บ้านก็ไม่นิยมกัน ถ้าใครไปแต่งงานใหม่ คงต้องถูกคนด่าอย่างหนักแน่นอน”
หลังจากซื้อไอศรีมเสร็จแล้ว หลี่ยิงก็ดันรถสามล้อแล้วพูดกับจางหุ้ยฉุ่ยว่า “ฉันไปหนานหูก่อนนะ”
“อืม ไปเถอะ ถ้าเธอรู้สึกว่าจะหักข้าวโพดไม่หมด ฉันจะหาซักคนไปช่วยเธอ” จางหุ้ยฉุ้ยพูดตามหลังหลี่ยิง
“ตอนนี้บ้านไหนไม่ยุ่ง ตัวฉันก็ได้หมด” หลี่ยิงโบกมือแล้วยิ้ม แล้วผลักขาปั่นรถสามล้อออกไป
“ชีวิตแม่ม่ายหลี่ไม่ง่ายเลย พื้นที่ตั้งหลายไร่ ตอนนั้นปลูกคนเดียวตอนนี้ก็ยังต้องมาเก็บคนเดียว” จางหุ้ยฉุ้ยถอยหายใจหนัก แล้วพูดพลางเดินอ้อมไปที่หลังเคาน์เตอร์
“เดี๋ยวซักพักฉันจะไปช่วยป้าหลี่ ฉันอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรให้ทำมาก” หลินหยางพูดแล้วยิ้ม
เมื่อมองไปที่หลินหยาง จางหุ้ยฉุ้ยก็พยักหน้าและพูด “นายไปก็ดีเหมือนกัน ช่วยเธอทำนิดหน่อย ก็เร็วขึ้นอีกหน่อย เพราะถ้าถึงเวลานั้นทำช้ากว่าคนอื่นจะรู้สึกขายหน้ามาก”
“อืม เดี๋ยวอยู่ซักพักนึงก็จะไปละ ป้าจาง ป้าดูว่าป้าสวยหรือไม่” หลินหยางหยิบกระจกจากบนโต๊ะ ส่งให้จางหุ้นฉุ้ย
สำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับความสวยงามของตนเอง จางหุ้ยฉุ้ยก็สนใจขึ้นมาโดยธรรมชาติ รีบรับกระจก รอคอยที่จะดูตนเอง แล้วสายตาก็ปรากฏความประหลาดใจขึ้นมาทันทีทันใด
“นี่ยังใช่ฉันอยู่มั้ย” จางหุ้ยฉุ้ยพูดด้วยความประหลาดใจ
“ต้องใช่แน่นอนสิ ป้าจางเดิมทีก็สวยอยู่แล้ว จะสวยกว่านี้อีกหน่อยก็ไม่มีอะไรให้ตกใจอีกแล้ว” หลินหยางผู้ชายที่ไม่รู้ว่าหน้าจะด้านขนาดไหน ก็พูดประจบประแจงอีกครั้ง
จางหุ้ยฉุ้ยมีความสุขจนไม่มีอะไรสามารถเปรียบได้ จางหุ้ยฉุ้ยเพ่งมองตนเองอย่างพินิจพิเคราะห์อยู่พักนึง ริมฝีปากสองแผ่นแดงๆก็ประกบไปที่ริมฝีปากของหลินหยาง
ลิ้นของทั้งสองผัวพันกันอยู่นานถึงจะแยกออกจากกันด้วยลมหายใจที่หอบแรง เมื่อมองไปที่หลินหยางด้วยสายตาที่สวยหยาดเยิ้ม จางหุ้ยฉุ้ยก็พูดขึ้นว่า “นายเอาสิ่งของที่สวยงามนั้นมาทำให้ฉัน เป็นเจตนาที่หาได้ยาก”
มองที่ตาของจางหุ้ยฉุ้ย บนหน้าอกสองคู่นั้นสั่นไหว อิ่มเอิบจนหาที่เปรียบไม่ได้ แล้วสองมือก็ยื่นออกไปอย่างไม่รู้ตัว
ในขณะที่อยู่เล่นกับสองก้อนเนื้อที่อ่อนนุ่ม หยางหลินก็พูดขึ้นว่า “ป้าจางป้าส่องกระจกไปก่อน ฉันไปช่วยป้าหลี่ก่อน”
“อย่างงั้นก็ได้ ถ้ามีเวลาก็มาหาฉัน” จางหุ้ยฉุ้ยมองไปที่กางเกงของหลินหยางสักครู่หนึ่ง มองดูจนเธอหัวใจเต้นอย่างต่อเนื่อง นึกถึงความบ้าคลั่งในวันที่หลินหยางไปเมืองเจียงหลิง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าด้านล่างของตนเองกลวงนิดหน่อย
ลูบคลำไปที่หลินหยางแล้วกุมจับไปที่ตรงนั้นของเขาอย่างเหนียวแน่นถึงจะปล่อยให้หลินหยางจากไป
ก่อนหน้านี้หลินหยางได้ยินว่าป้าหลี่จะไปหักข้าวโพดที่ไร่แถวหนานหู พอออกจากร้านของจางหุ้ยฉุ้ยก็มุ่งหน้าไปทางหนานหู
เมื่อขณะที่หลินหยางยังเป็นเด็กมักจะอยู่ในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นที่ดินของใคร เขาก็จะรู้อย่างชัดเจนไปโดยธรรมชาติ หลินหยางรู้สึกมีความสุขที่ได้เดินบนเส้นทางที่คุ้นเคย แต่ภายใต้ความรู้สึกที่มีความสุขนั้นยังมีความรู้สึกหดหู่ซ่อนอยู่บ้าง
ภายใต้ความทรงจำ ยังรู้สึกว่าความเป็นเด็กของตนเองเหมือนยังพึ่งผ่านไปเมื่อวาน คิดถึงตอนที่ปู่เอาตนเองไปเรียนการแพทย์ด้วย พาตนเองไปเดินเล่นในหมู่บ้าน เผลอแป๊ปเดียวตนเองก็อายุ21ปีแล้ว เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ปู่กลับมาจากตนเองไปตลอดกาล
ในขณะที่ตนเองยังเป็นเด็ก เขากับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันก็ได้วิ่งไปรอบหมู่บ้าน แต่ทว่าตอนนี้ก็ต่างแยกย้ายกันไปหมดแล้ว เมื่อคิดถึงความหลังหลินหยางก็ถอดหายใจออกมาทันที
หลินหยางมาถึงหนานหูอย่างไม่รู้ตัว เขารู้จักเส้นทางที่เล็กคดเคี้ยวนี้อย่างแน่ชัด เขารู้ว่าถ้าเดินจากตรงนี้ไปไม่กี่นาทีก็จะสามารถหาหลี่ยิงเจอ
ตามทางที่กำลังเดินไปนั้นมีคุณตาจางและภรรยาของเขากำลังหักข้าวโพดอยู่ คุณตาจางยิ้มให้แล้วพูดว่า “เสี่ยวหยาง นายไม่พักอยู่ที่บ้าน แสงอาทิตย์แรงขนาดนี้มาทำอะไรที่ไร่?”
“ เออ คุณตาจาง ฉันได้ยินป้าจางบอกว่าป้าหลี่หักข้าวโพดคนเดียว ฉันอยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรก็เลยมาช่วย” หลินหยางยิ้ม
“มาช่วยยิ่งจื่อหรอ งั้นก็สมควรที่จะช่วยแล้ว คนมีน้ำใจแบบนายหาได้ยาก ลำบากนายแล้วหน่อยนะ พวกเราในหมู่บ้านมักจะพูดกันว่า เสี่ยวหยางสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ จากนี้คงจะไปเสวยสุขกับชีวิตตัวเองอย่างแน่นอน คงจะไม่สามารถมาทำงานหนักพวกนี้แล้วแหละ นายมีน้ำใจแบบนี้ดีมากจริงๆ” คุณตาจางพูดถึงสิ่งที่ปกติคนในหมู่บ้านพูดถึงหลินหยาง
“ฉันเติบโตมาจากที่ชนบท จะไปเสวยสุขกับชีวิตได้ยังไง งานลำบากอะไรฉันก็ทำได้ คุณตาจางอย่าพึ่งดูหมิ่นฉัน ฉันรับรองว่าฉันทำงานให้ป้าหลี่เร็วไม่แพ้กับทุกคนหรอก”
“ฮาฮา เจ้าเด็กหนุ่มนี่กล้าสู้งาน งั้นนายไปเถอะ” เมื่อคุณตาจางได้ยินหลินหยางพูดดังนั้นก็หัวเราะชอบใจ จากนั้นก็ให้หลินหยางรีบไปช่วย
“เจ้าเด็กคนนี้เป็นคนรู้จักคิดจริงๆ หลานสาวของเราปีนี้ก็อายุยี่สิบแล้วนะ เห็นหลินหยางยังไม่มีคนรัก หาโอกาสให้พวกเค้าทั้งสองพบกันก็ได้นะ” หลังจากที่เห็นหลินหยางเดินจากไปภรรยาคุณตาจางก็ยิ้มและพูดขึ้น
“มีเวลาว่างก็แนะนำให้พวกเขารู้จักกัน แต่ว่าเรื่องแบบนี้ก็พูดยาก หยางหลินอยู่ในเมืองใครจะไปรู้ว่ามีหรือไม่มีคนรัก” คุณตาจางส่ายหัวถอนหายใจหนักแล้วเริ่มหักข้าวโพดต่อ
ไร่ของป้าหลี่ที่หนานหูไม่ใช่เล็กๆเลยและที่ตรงนั้นยังลาดเอียงนิดหน่อย หลินหยางเดินไปซักพักถึงจะเห็นรถสามล้อของหลี่ยิง
รถสามล้อมีลักษะค่อนค้างเก่า แต่ที่ดีอยู่อย่างเดียวคือใหญ่กว่ารถสามล้อทั่วไป หลินหยางประมาณการคร่าวๆ ถ้าใช้รถสามล้อนี้ขนข้าวโพดทั้งหมดกลับไป น่าจะต้องใช้หลายรอบ
เมื่อถึงที่ของหลี่ยิง พื้นที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกล ไร่ข้างๆของคนอื่นไม่กี่ไร่ต่างก็เก็บข้าวโพดกันเสร็จหมดแล้ว