ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - ตอนที่ 47 ช่วยเหลือ
ตอนที่ 47 ช่วยเหลือ
มองไปที่ในไร่ข้าวโพดเห็นร่างกายอันบอบบางของป้าหลี่เคลื่อนไหวไปๆมาๆ ฝักข้าวโพดถูกหักลงจากก้าน ข้างในใจของหลินหยางรู้สึกสงสารเล็กน้อย
“เฮ่ย เมื่อไหร่จะเสร็จเนี่ย” หลี่ยิงเพียงแค่หักข้าวโพดไปซักพักก็เหงื่อไหลไคลย้อยไปทั่วทั้งตัว
“ป้าหลี่” หลินหยางอยู่ข้างหลังหลี่ยิงเรียก
หลี่ยิงที่กำลังหักข้าวโพดอยู่เมื่อได้ยินคนเรียกตนเองจากข้างหลังก็รีบหันกลับมาดู เมื่อพบว่าเป็นหลินหยาง หลี่ยิงก็ยิ้มแล้วพูด “หลินหยางนายมาทำอะไรที่นี่ แดดแรงขนาดนี้ทำไมยังไม่กลับไปพักให้ตัวเย็นสบาย”
หลินหยางรีบเดินไปที่ข้างๆหลี่ยิงและพูดว่า “ตอนนี้อยู่บ้านก็ไม่ได้ทำอะไร ฉันเห็นป้าหลี่ทำคนเดียวเลยเข้ามาช่วย ถือซะว่าออกกำลังกาย”
“นายเป็นเด็กมหาวิทยาลัยแล้วจะมาทำงานหนักแบบนี้ได้ยังไง” หลี่ยิงรีบพูดขึ้น
“เป็นเด็กมหาวิทยาลัยแล้วยังไง?เป็นเด็กมหาวิทยาลัยแล้วไม่อนุญาตให้มีคนชนบทหรอ?ไม่มีงานอะไรที่ฉันทำไม่ได้ ป้าหลี่วางใจเถอะ ยังไงฉันก็ทำเร็วกว่าป้าแน่นอน” เมื่อพูดเสร็จก็ไม่รอช้าเอามือคว้าไปที่ก้านข้าวโพดที่อยู่ข้างหน้าและหักข้าวโพดลงมาอย่างเร็ว
เมื่อเห็นหลินหยางท่าทางคล่องแคล่ว ในใจของหลี่ยิงก็รู้สึกซาบซึ้ง แล้วพูดด้วยเสียงเบาๆ “ถ้าหากนายทำจนเหนื่อยก็ไปพักได้นะ อย่าทำให้ร่างกายเหนื่อยมาก”
“ป้าวางในเถอะ ฉันรูปร่างยังกับวัว ทำอย่างกับป้าไม่รู้” หลินหยางปากพูดไปแต่มือก็ทำอย่างไม่ล่าช้า หักข้าวโพดฝักต่อฝักลงมา
หลี่ยิงเมื่อได้ยินหลินหยางพูดยังนึกว่าเขาพูดถึงเรื่องที่วันนั้นตนกับหลินหยางแอบไปมีความสุขกัน แล้วใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมา มองไปที่หลินหยางที่อยู่ข้างหน้ากำลังออกแรงหักข้าวโพด จิตใจที่เศร้าสร้อยเหงาหงอยที่มีอยู่ก็หวานอบอุ่นขึ้นมา จากนั้นก็รีบไปช่วยหลินหยางทำงานอย่างเร็ว
ราวกับว่าเข้าใจเหตุผลของคำพูดที่ว่าชายหญิงทำงานคู่กันยังไงก็ไม่เหนื่อย แต่ก่อนหลี่ยิงทำงานแล้วรู้สึกจืดชืดจำเจและเหนื่อยล้า ตอนนี้มีหลินหยางเข้ามาการหักข้าวโพดก็เร็วขึ้นเป็นอย่างมาก
หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป มือของป้าหลี่ก็รู้สึกเมื่อย หลังก็ปวดเล็กน้อย ความเร็วในการหักข้าวโพดก็ลดลงมาก
มาดูที่หลินหยาง สองมือยังคงหักข้าวโพดอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าพึ่งเริ่มต้นทำ ความเร็วก็ไม่ตกเลยซักนิด แต่กลับยิ่งเพิ่มความเชี่ยวชาญในการหักข้าวโพดให้เร็วขึ้นมาก
เมื่อมองไปที่หลินหยางที่ราวกับไม่รู้จักความเหนื่อยล้า ในใจของป้าหลี่ก็อุทานขึ้นมาว่า”ช่างเหมือนกับวัวจริงๆ”
ไม่น่าหล่ะถึงสามารถอยู่บนร่างตนเองได้อย่างคึกและแข็งแรงขนาดนั้น
และเวลาอันสั้นไม่ถึงชั่วโมง หลี่ยิงหันกลับไปมอง คาดไม่ถึงว่าหลินหยางจะหักข้าวโพดได้มากกว่าที่ตนเองทำมาครึ่งวันซะอีก ยิ่งหลี่ยิงรู้อยู่ในใจว่าที่ทำได้ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะหลินหยางออกแรงทำ หัวใจเธอก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้ง
“หลินหยาง นายพักซักหน่อย” เมื่อหลี่ยิงเห็นหลินหยางยังอยากที่จะหักต่อจึงรีบพูดขัด
“ฉันไม่เหนื่อย ทำต่ออีกซักหน่อยนะ” หลินหยางพูดอย่างยิ้มๆ
“ยังจะมาพูดว่าไม่เหนื่อยอีก นี่ก็ทำมาตั้งนานแล้ว พักซักเดี๋ยวเถอะ” หลี่ยิงพูดอย่างเสียงแข็ง
เมื่อหลินหยางได้ยินดังนั้นก็จำใจหยุดทำ และหลินหยางก็ไม่ได้โกหกหลี่ยิง ตอนนี้ตนเองไม่เหนื่อยจริงๆเพราะหลินหยางฝึกซ้อมบทหลงเฟิ่งเจว๋ เพียงแต่รู้สึกจืดฉืดน่าเบื่อเท่านั้น แต่ไม่สูญเสียพละกำลังมากเท่าไหร่
เมื่อเห็นหลินหยางหยุดทำแล้วก็เดินไปเอากาน้ำที่คันนามา
ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนชนบทจึงไม่ต้องมาพิถีพิถันอะไรมากจึงนั่งพักผ่อนลงบนพื้นดินโดยตรง
ในเวลานั้นทั้งสองคนอยู่บริเวณไร่ข้าวโพดที่ลึกเข้าไป คนข้างนอกก็มองมาไม่เห็นข้างในอย่างแน่นอน สองคนนั่งเผชิญหน้ากัน หลี่ยิงมองที่ตาของหลินหยาง หัวใจก็เต้นแรง คิดไม่ถึงว่าในเวลานั้นมีความรู้สึกบางอย่างต่อหลินหยางที่อยู่ตรงหน้า เป็นความรู้สึกที่ตนเองพึ่งพาได้
ปลายเดือนเจ็ดอากาศร้อนมาก เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวของหลี่ยิงก็เปียกด้วยเหงื่อ
หลินหยางมองดูเสื้อสีขาวบนตัวของหลี่ยิงที่ได้เปียกเหงื่อไปหมดแล้ว เสื้ออันบางแนบติดไปกับบนตัว บนหน้าอกอันอิ่มเอิบนุ่มนวลสองข้างก็ปรากฎให้เห็นในระยะสายตาของหลินหยาง
บริเวณหน้าอกที่ดูขมุกขมัว แม้ว่าจะไม่เห็นโดยตรงแต่ก็เพียงพอที่ดึงดูดคนอื่นได้ เสื้อผ้าที่แนบแน่นเข้าไปบริเวณข้างในหน้าอก ปลายยอดที่งดงามปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ทัศนียภาพที่ลุกเป็นไฟเช่นนี้สายตาหลินหยางก็จับจ้องอย่างต่อเนื่อง
รับรู้ถึงสายตาของหลินหยาง หลี่ยิงก็ก้มหัวลงมองเรือนร่างของตัวเอง หลังจากที่ค้นพบว่าสภาพรูปร่างของตัวเองนั้นเป็นยังไง ใบหน้าอันสวยงามนั้นก็เสมือนเมาเหล้า สองแก้มแดงเป็นประกาย
เดิมทีมีความคิดที่จะใช้มือฉีกดึงเสื้อผ้า แต่เมื่อเห็นแววตาอันเร่าร้อนของหลินหยาง หลี่ยิงก็ยกเลิกความคิดนี่ไป เพื่อทำให้หลินหยางเกิดความคาดหวัง
“ป้าหลี่ ตรงนั้นของป้าดูดีจริงๆ เอิบอิ่มและใหญ่” เมื่อหลินหยางเห็นหลี่ยิงมีท่าทีที่เขินอาย เลยพูดอย่างหยอกล้อ
“วันนั้นนายก็ชิมมาหมดแล้ว ยังคิดว่าดูดีอีกหรอ” หลี่ยิงพูดด้วยเสียงเล็กๆอย่างหน้าแดง
“คิดว่าดูดีแน่นอน อย่าพูดเลยแค่ชิมไปแค่ครั้งเดียวเอง ต่อให้เห็นทุกวัน กินทุกวัน ก็ยังคิดว่าป้าหลี่สวยและดูดี” ได้ฟังที่หลินหยางพูดชื่นชมใจของหลี่ยิงก็หวานชื่น
ยังไงหลี่ยิงก็คือผู้หญิง เมื่อถูกคนชื่นชมจะไม่มีความสุขได้ยังไง เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงเล็กๆอย่างหน้าแดงว่า “ถ้านายคิดว่าดูดี งั้นก็ดูให้มากๆนะ”
เมื่อเห็นหลี่ยิงหน้าแดงระเรื่อ ดูดีเหลือเกิน ก็ทำให้ใจหลินหยางสั่นไหว
เมื่อมองไปที่ก้อนเนื้ออันใหญ่โตที่ปรากฏรูปลักษณ์ออกมาอย่างชัดเจน หลินหยางก็แหวกเสื้อแล้วไปจับที่หน้าอกของเธอ
ความรู้สึกที่นุ่มนิ่มถ่ายทอดออกมา ถึงแม้ว่าจะต้องการขนาดไหน แต่เนื่องจากเสื้อผ้าที่เปียกชื้นมากก็กลัวว่าหลี่ยิงจะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว หลินหยางจึงชักมือกลับ
“ทำไมไม่คลำแล้วหล่ะ? รู้สึกไม่ดีหรอ?” หลี่ยิงรีบถามขึ้นมา
“ไม่ใช่อย่างนั้น เสื้อผ้าป้าเปียกชื้นแล้ว เมื่อคลำแล้วฉันสบายแต่ป้าน่าจะไม่ค่อยสบาย หลังจากนี้ยังมีเวลาอีกเยอะ ฉันยังอยู่ในหมู่บ้านอีกเดือนกว่าๆ ฉันจะไม่มีเวลาคลำได้ยังไง” หลินหยางพูดพลางยิ้ม
เมื่อได้ยินคำพูดที่ใส่ใจของหลินหยาง หางตาของหลี่ยิงก็เปียกชื้น หลินหยางเป็นถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว ปกติน่าจะถูกเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม ตอนนี้ไม่เพียงแต่มาช่วยตัวเองเก็บข้าวโพด ยังสามารถอดทนต่อความปรารถนา ไม่มาลูบคลำตัวเอง หลายปีมาแล้วมีน้อยคนนักที่จะมาเอาใจใส่ตนเองแบบนี้
“เออป้าจาง รถสามล้อป้าบรรทุกข้าวโพดได้น้อยมาก เกรงว่าจะไปมาหลายรอบถึงจะเก็บหมด บ้านป้ามีรถเข็นมั้ย ใช้อันนั้นแล้วรอบนึงน่าจะดึงลากได้ไม่น้อยเลย” หลินหยางถามอย่างยิ้มๆ
“มี แต่ฉันไม่ชอบทางลาดเอียงของบริเวณนี้ ออกแรงดึงเยอะแล้วฉันก็ยังดึงไม่ไป ถ้านายใช้มันได้ ฉันก็จะกลับไปเอาให้” หลี่ยิงพูดด้วยเสียงเบา
“ฉันกลับไปเอาดีกว่า ป้าพักอยู่ตรงนี้ซักพัก เสื้อผ้าป้ากลายเป็นแบบนี้ กลับไปคงไม่สะดวก” หลินหยางยิ้มแล้วพูด “เอากุญแจบ้านมาให้ฉัน”
“กุญแจอยู่หลังประตู นายยื่นมือเข้าไปก็จะคลำหาเจอ” หลี่ยิงพูด
“ในหมู่บ้านก็ไม่มีพวกขโมยขโจร หลายๆบ้านเค้าก็ซ่อนกุญแจไว้กันแบบนี้ ถ้ามีคนอื่นกลับเข้าบ้านก็จะเข้าประตูบ้านได้สะดวก”
หลินหยางได้ยินดังนั้นก็ไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปในหมู่บ้าน
เมื่อเดินไปถึงคันนา ก็เห็นคุณตาจางและภรรยาของเขานั่งยองๆก้มหน้าพักผ่อนอยู่ พอเห็นหลินหยางผ่านมา คุณตาจางก็ยิ้มแล้วพูด “ทำไม ต้องกลับไปแล้วหรอ?”
“ยังครับ ยังทำไม่เสร็จเลย รถสามล้อคันนั้นลากได้น้อย ฉันกลับบ้านไปเอารถเข็นก่อน จากนั้นก็จะหาถุงกระสอบมาใส่ข้าวโพด” หลินหยางยิ้มกล่าว
“อ่า ยังต้องไปเปลี่ยนเป็นรถเข็น ดูแล้วหักข้าวโพดได้ไม่น้อยเลย” คุณตาจางพูดอย่างประหลาดใจ
“แน่นอนสิ ฉันรูปร่างร่างกายแข็งแรง หักข้าวโพดสบายมาก และในครั้งนี้ป้าหลี่ทำเร็วกว่าพวกคุณแน่นอน” หลินหยางยิ้มและบอกลาคุณตาจาง แล้วเดินไปทางข้างในหมู่บ้าน
เมื่อถึงบ้านหลี่ยิงแล้ว หลังจากนำเอารถเข็นลากออกมาหลินหยางก็เดินไปทางคันนา
“เสี่ยวหลิน เธอลากรถเข็นทำไม?” เมื่อเห็นหลินหยางผ่านมาจางหุ้ยฉุ้ยที่อยู่ตรงหน้าหมู่บ้านถามอย่างเสียงดัง
ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินหยางกลับมาเขายังมองไม่เห็นจางหุ้ยฉุ้ย ตอนนั้นเธอน่าจะอยู่หลังเคาน์เตอร์ หลังจากที่ตอนนี้มองเห็นจางหุ้ยฉุ้ย หลินหยางก็รีบพูดทักทาย รถสามล้อลากของได้น้อยมาก ใช้รถเข็นลาก ประมาณสองสามครั้งก็ลากเสร็จแล้ว ถ้าใช้รถสามล้อไม่รู้ต้องลากกี่ครั้งถึงจะเสร็จ
“ที่หักออกมาได้ตลอดทั้งบ่าย ใส่รถสามล้อไม่พอหรอ? หลี่ยิงนี่จริงๆเลย” จางหุ้ยฉุ้ยพูดบ่น
“เป็นฉันเองที่อยากใช้รถเข็นลาก ไร่ข้าวโพดที่ตรงหนานหูทำเสร็จไปครึ่งนึงแล้ว วันนี้น่าจะทำเสร็จหมดเรียบร้อย” หลินหยางพูดอย่างภาคภูมิใจ
“ที่ไร่ตรงหนานหูหรอ ที่ไร่ตรงนั้นของหลี่ยิงใหญ่ที่สุด ถ้าทำเสร็จก็แทบจะเสร็จหมดแล้ว วันนี้นายจะสามารถทำเสร็จหรอ? ขี้โม้รึเปล่า! ดูที่นายเหงื่อก็ไม่เห็นไหลเยอะ จะหักไปได้ซักเท่าไหร่ นายรีบมากินไอศกรีมตรงที่ฉันนี่มา” จางหุ้ยฉุ้ยไม่เชื่อว่าหลินยางจะมีความสามารถขนาดนี้
“ทำไมป้าถึงไม่เชื่อฉันหล่ะ ครั้งที่แล้วที่เรามีอะไรกัน ป้าก็เหงื่อท่วมไปหมด แต่ฉันกลับเหมือนไม่เป็นอะไรเลย” หลินหยางพูดเข้าใกล้หูจางหุ้ยฉุ้ย
เมื่อได้ยินหลินหยางพูด จางหุ้ยฉุ้ยก็หน้าแดงขึ้นมา แล้วคลำไปที่ส่วนลับของหลินหยางแล้วพูดว่า “ถ้าพูดมั่วๆอีกครั้งฉันจะตีนาย!”
เมื่อได้เตือนหลินหยางไปแล้ว จางหุ้ยฉุ้ยก็อดนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้ ตอนที่หลินหยางออกแรงปะทะลงบนร่างกายของตนนั้น สิ่งที่เต็มไปด้วยรสชาติอันยอดเยี่ยม จนถึงวันนี้ก็ยังติดอยู่ในหัวไม่สามารถที่จะกำจัดออกไปได้ เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น จางหุ้ยฉุ้ยก็มองไปที่บนขาของหลินหยางอีกครั้ง มือก็ยื่นออกไปโดยไม่รู้ตัว
เมื่อถูกจับโดยจางหุ้ยฉุ้ยแล้วหลินอยางก็ไม่ได้ว่าอะไร เพลิดเพลินไปกับการหยอกเล่นของจางหุ้ยฉุ้ยแล้วกินไอศรีมด้วยคำโต
ผ่านไปไม่นาน หลินหยางที่กินไอศกรีมหมดแล้วก็ขอตัวออกไป และก่อนที่จะออกก็ได้ลูบคลำวนๆไปที่หน้าอกอันอิ่มเอิบของจางหุ้ยฉุ้ย ทันใดนั้นลมหายใจของจาหุ้ยฉุ้ยก็แรงและเร็วขึ้น
มองหลินหยางอย่างหยาดเยิ้ม แล้วพูดด้วยเสียงระทวยว่า เธอรีบไปได้แล้ว ถ้ามีเวลาว่างก็มาเล่นกับป้าจางที่นี่
“ ถ้ามีโอกาสก็จะมา” หลินหยางยิ้มแล้วพูด
“ฮ่าฮ่า ได้ยินมาว่าสามีฉันอีกไม่กี่วันก็ไปประชุมในเมือง ถึงเวลานั้นก็อาจจะสะดวกนายแล้ว” จางหุ้ยฉุ้ยพูดอย่างหน้าแดงแล้วไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
หลังจากที่หลินหยางได้ยินก็หัวเราะออกมาอย่างดัง ในใจก็เฝ้าคอยวันเวลาที่เลขาหนิวไปประชุมในเมือง แล้วลากรถเข็นออกไปทางหนานหู
เมื่อถึงปากทาง คุณตาจางที่เห็นหลินหยางกลับมาก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาดใจ
ฉันคิดว่าเจ้าหนุ่มคนนี้โกหกพวกเราแล้วซะอีก ที่แท้ก็จะใช้รถเข็นลากข้าวโพดจริงๆ ภรรยาของคุณตาจางที่นั่งอยู่ข้างๆพูดด้วยเสียงเล็กๆ
“คุณตาจาง วันนี้ฉันจะทำไร่ตรงนั้นให้เสร็จทั้งหมด พรุ่งนี้ฉันก็จะไม่มาแล้ว” หลินหยางพูดอย่างยิ้มๆ
“ฮ่าฮ่า นายสามารถทำได้ครึ่งหนึ่งเหล่าจางก็ยอมรับเธอแล้ว” คุณตาจางพูดแล้วยิ้ม
“ แหะแหะ ถ้าอย่างนั้นมาดูกันว่าฉันจะทำเสร็จหรือไม่เสร็จ” หลินหยางไม่ได้อธิบายอะไรมาก รีบเดินลากรถเข็นออกไปไกล
เมื่อมาถึงคันนาของป้าหลี่ ก็นำเอาถุงกระสอบไม่กี่ใบมาวางไว้ที่บนรถสามล้อ เมื่อมาถึงข้างๆป้าหลี่ที่เริ่มหักข้าวโพดแล้วนั้น หลินหยางก็ยิ้มแล้วพูด “ป้าหลี่ทำไมไม่พักผ่อนเยอะๆ”
“จะพักได้ยังไง นายทำหนึ่งชั่วโมงเท่ากับฉันทำครึ่งวันเช้าเลย ถ้าฉันไม่เร่งทำอีกซักหน่อย ข้าวโพดทั้งหมดไร่นี้จะไม่ถูกนายหักคนเดียวหรอ เป็นแบบนั้นฉันคงรู้สึกไม่สบายใจ” หลี่ยิงเช็ดเหงื่อแล้วพูดขึ้น
ในเวลานั้นหลี่ยิงรู้สึกพอใจหลินหยางจนพูดไม่ออก ถ้าไม่ใช่ว่าตัวเองแก่แล้ว บางทีอาจจะสามารถหน้าด้านไร้ยางอายใช้ชีวิตอยู่กับหลินหยาง
“ดูป้าพูดสิ ถ้าฉันให้ป้าทำเยอะขึ้นแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร” หลินหยางยิ้มแล้วพูด แล้วหักข้าวโพดด้วยกันกับป้าหลี่ต่อไป
หลินหยางที่ปกติฝึกซ้อมบทหลงเฟิงเจว๋ ความเร็วในการหักข้าวโพดนั้นยิ่งทำยิ่งเร็ว หลี่ยิงพึ่งจะหักได้อันเดียวแต่หลินหยางหักลงมาแล้วสี่ห้าอัน ป้าหลี่ไม่ได้หักข้าวโพดช้า แต่หลินหยางนั้นหักเร็วกว่า ด้วยวิธีนี้เท่ากับว่าพวกเค้าทั้งสองคนมีสมรรถนะในการทำงานที่ดีกว่าคนอื่น