ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - ตอนที่52ฝังเข็มเพื่อหยุดเลือด
ตอนที่52ฝังเข็มเพื่อหยุดเลือด
หลังจากที่ปิดฝาขวดอย่างภาคภูมิใจพอดูเวลาก็บ่ายสามโมงเข้าไปแล้ว
การสกัดยานี่มันช่างกินเวลาจริงๆหลินหยางยิ้มอย่างเหน็ดเหนื่อยแล้วก็เริ่มด่าความโลภของตัวเองไม่กี่ชั่วโมงก็หาเงินได้เป็นล้านละยังจะไม่พอใจอะไรอีกเนี่ย?
“ถ้าเกิดเธอให้เงินล้านขึ้นมาจริงๆฉันก็จะไปซื้อรถไม่ได้ๆยังไม่มีใบขับขี่งั้นไปซื้อบ้านก็ไม่ได้อีกตอนนั้นจะเอาเวลาไปลงทุนที่ไหนอีก……..”หลินหยางก็มีความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว
ติ๊งต่องติ๊งต่อง……โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาหลินหยางดูเบอร์ที่โทรเข้ามาก็รู้ว่าเป็นเบอร์ของหลี่อิงเขาจึงรีบรับสายแล้วถามไปว่า“น้าหลี่มีธุระอะไรหรอครับ?”
“หลินหยางมาช่วยขนข้าวโพดหน่อยได้มั๊ยน้าเอาใส่ถุงกระสอบเรียบร้อยแล้วแต่ต้องใช้แรงในการยกน่ะ”เสียงที่ผ่านออกมานั้นหลี่อิงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจ
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เหน็ดเหนื่อยของหลี่อิงหลินหยางก็ตอบไปทันทีว่า“โอเคครับน้าอยู่เป่ยหูใช่มั๊ยเดี๋ยวผมไปหา”
“โอเคงั้นจะรออยู่นี่นะ”
เมื่อหลินหยางวางสายก็เก็บโคลนพอกหน้ากับหม้อเข้าที่ล็อคประตูบ้านแล้วมุ่งหน้าไปที่เป่ยหู
เมื่อถึงไร่ข้าวโพดของหลี่อิงก็เห็นหลี่อิงนั่งอยู่บนกระสอบที่ด้านในเต็มไปด้วยข้าวโพดหลี่อิงที่นั่งอยู่นั้นก็กำลังหายใจอย่างหอบหืด
เมื่อเห๋นหลินหยางมาถึงหลี่อิงก็เข้าไปพูดอย่างเกรงใจว่า“หลินหยางต้องรบกวนหนูอีกแล้วนะ”
เมื่อเห็นหลี่อิงที่เปียกเหงื่อหลินหยางก็ยิ้มแล้วพูดว่า“กระสอบนี้ไม่ใช่เล็กๆนะทำไมน้าไม่เรียกผมล่ะ”
“กระสอบนี้เมื่อเทียบกับหนานหูแล้วถือว่าเล็กนะอีกอย่างก็คือน้าทำเสร็จเรียบร้อยแล้วจัดข้าวโพดใส่กระสอบจนชินแล้วทุกๆครั้งก็ใส่จนเต็มน้าคิดว่าจะยกไหวสุดท้ายก็ยกได้ไม่กี่ถุง”หลี่อิงก็พูดอย่างเขินอาย
“งานแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนเขาทำกันให้ผู้ชายทำเถอะ”หลินหยางหัวเราะเบาๆแล้วใช้แรงจากแขนสองข้างข้าวโพดหนึ่งกระสอบก็ถูกยกขึ้นอย่างง่ายดาย
เขานำกระสอบไปบนกระบะของรถแล้วไปยกกระสอบที่สอง
ถึงไร่นี้จะเป็นไร่เล็กๆแต่ก็แบ่งเป็นหลายแปลงย่อยๆเมื่อเก็บได้เจ็ดกระสอบก็หมดแล้วเมื่อเห็นหลินหยางยกกระสอบได้อย่างง่ายดายหลี่อิงก็ชมเขาว่า“แรงเยอะเหมือนกันนะเนี่ยกระสอบหนักขนาดนี้คนในหมู่บ้านยังยกไม่ได้เลยนะ”
“เหอะๆคราวหน้าถ้าต้องยกอะไรหนักๆก็ตามผมได้”หลินหยางพูดพร้อมหัวเราะปิดกระบะและเดินเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมหลี่อิง
เมื่อถึงบ้านของหลี่อิงหลังจากรอหลีอิงอาบน้ำเสร็จหลินหยางก็ปิดประตูบ้านและเข้าไปจูบหลี่อิง
เมื่อลิ้นของทั้งคู่เริ่มพันเข้ากันมือของหลินหยางก็เริ่มอยู่ไม่สุขเข้าไปลูบไล้บนร่างกายของหลี่อิง
ด้วยแรงกระตุ้นจากหลินหยางหลี่อิงก็เริ่มหายใจแรงขึ้นหน้าเริ่มแดงมือทั้งสองข้างก็เข้าไปลูบไล้บนร่างของหลินหยางอย่างอดใจไม่ได้
เมื่อไม้แห้งติดไฟทั้งคู่ก็รีบเข้าไปในห้องนอนของหลี่อิงเสียงครึกโครกก็ดังออกมาจากด้านในห้อง
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปหลี่อิงก็หายใจอย่างอิดโรยหันมองหลินหยางแล้วเอามือทั้งสองข้างไปลูบหน้าเขา“ไอ้หนูเอ้ยทำไมบ้าขนาดนี้ทำให้คนทั้งรักทั้งกลัว”
“น้ากลัวอะไรหรอ?”หลินหยางถามด้วยความสงสัย
“น้ารักคนที่ทำให้น้ารู้จักรสชาติของความเป็นหญิงที่กลัวคือกลัวว่าต่อไปถ้าแกไปจากหมู่บ้านแล้วน้าจะไปหาคนๆนั้นที่ไหนได้”หลี่อิงพูดอย่างอย่างแดง
“จะไปกลัวอะไรน้าหลี่ยังวัยรุ่นอยู่เลยยังแต่งงานใหม่ได้เมื่อถึงตอนนั้นก็ยังหาสามีได้นะพูดอีกอย่างก็คือหมู่บ้านวี่หลงเป็นฐานของผมผมต้องกลับมาทุกปีอยู่แล้ว”หลินหยางพูดปลอบใจ
“แต่งงานใหม่หรอน้าก็อายุขนาดนี้แล้วถ้าจะหาผู้ชายสักคนแล้วเจอคนที่เก่งได้สักครึ่งนึงของหนูก็คงจะไม่เลวนะ”หลี่อิงเอามือไปลูบหน้าอกของหลินหยางเป็นวงกลมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาๆ
“น้าหลี่น้าสวยขนาดนี้ตอนนี้ก็ยังดูอ่อนกว่าวัยถ้าหาคนที่อายุอ่อนกว่าสักห้าหกปีคงไม่มีปัญหาอะไรผู้ชายที่อายุสามสิบกว่าเรี่ยวแรงยังดีอยู่นะ“หลินหยางเข้าไปกระซิบข้างหูของหลี่อิง
“ไปเลยแต่ยังไงน้าก็คงจะต้องหาคู่ครองจริงๆซะละ”หลี่อิงพูดไปคิดไป
“น้าหลี่ครับผมว่าน้าไปหาในเมืองดีกว่าน้าสวยขนาดนี้ยังจะกังวลเรื่องหาผู้ชายไม่ได้อีกหรอ?เมื่อถึงตอนนั้นจะได้ไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในเมืองก็ไม่เลวนะ”หลินหยางพูดแนะนำ
“น้ายังไม่รู้เลยว่าจะมีลุกได้รึเปล่าขนาดอยู่กับผู้ชายมาตั้งหลายปียังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย”หลี่อิงบ่นเมื่อคิดถึงสุขภาพตัวเอง
เมื่อได้ยินที่หลี่อิงพูดหลินหยางก็หัวเราะแล้วพูดว่า“น้าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกน้าต้องเชื่อวิชาการแพทย์ของผมผมรับรองเลยนะว่าน้าไม่ได้มีปัญหาสุขภาพอะไรร่างกายแข็งแรงที่ยังไม่มีลูกก็เพราะว่าผู้ชายของน้าร่างกายไม่แข็งแรง”
“นี่แกพูดจริงรึเปล่า?”เมื่อได้ยินดังนั้นหลี่อิงก็ตาสว่างปัญหากวนใจที่ตนเองยังไม่มีลุกมาตลอดหลายปีมานี้
“ไม่ใช่หรอน้าแข็งแรงมากเลยนะพอถึงเวลาก็จะเจอผู้ชายคนนั้นเองขอแค่เจอคนที่ยอมรับและดีกับน้าเท่านั้น”หลินหยางพูดจากด้านข้าง
เรื่องนี้ฉันรู้แต่ยังไม่เจอคนที่ใช่งั้นหรอ?มันน่าตลกนะน้าหลี่กระพริบตาแล้วพูดว่า“ตอนนี้ข้าวโพดก็เก็บมาหมดละอีกสองสามวันจะมีคนมารับไปน้าก็จะขายให้หมดแล้วจะกลับไปบ้านพ่อแม่แล้วจะให้คนแนะนำผู้ชายให้หลินหยางแกพูดจริงใช่มั๊ยน้าสวยจริงๆใช่มั๊ย?”
เมื่อมองใบหน้าที่กำลังแดงของหลี่อิงหลินหยางก็จูบที่ริมฝีปากของเธอและพูดว่า“นี่ยังจะต้องพูดอีกหรอ?ก็สวยจริงๆแหละ!ถ้าน้าแต่งตัวแต่งหน้าน้าก็จะสวยว่าพวกผู้หญิงอายุยี่สิบในเมืองอีก”
หลินหยางพูดอย่างแน่วแน่ว่าหลี่อิงเป็นคนที่หวานมาก
“ได้ถ้างั้นเดี๋ยวสองสามวันนี้น้ากลับบ้านพ่อแม่น้าก็มักจะชมเรื่องนี้อยู่บ่อยๆแต่น้าไม่เชื่อพวกเขาแต่ตอนนี้กระจ่างแล้วถ้าไม่มีสามีใช้ชีวติคนเดียวจะต้องไม่สะดวกแน่ๆ”หลี่อิงคิดถึงตอนที่จะต้องขนข้าโพดแล้วในใจก็ว้าวุ่นมาก
ถ้าปีนี้ไม่ได้หลินหยางมาช่วยตัวเองจะต้องยุ่งมากแน่ๆถึงตอนนั้นคนอื่นคงจะสบายแล้วแต่ตัวเองยังต้องมาอยู่ไร่แบบนี้คนในหมู่บ้านคงจะต้องหัวเราะเยาะแน่ๆ
เมื่อหลี่อิงเข้าใจภาณเองก็แฮปปี้เขาไม่อยากรบกวนมากกว่านี้จึงใส่เสื้อผ้าแล้วเดินกลับไปที่บ้าน
เมื่อถึงหน้าประตูเขาได้เปิดประตูข้างแล้วเดินเข้าไปในบ้านทันใดนั้นหลินหยางก็ได้ยินเสียงแว่วมาจากไกลๆ
หลินหยางหันไปด้วยความสงสัยเดินไปทางทิสตะวันออกเขาก็เห็นคนจำนวนมากยืนล้อมที่มุมถนนของหมู่บ้าน
ด้วยสายตาที่ดีของหลินหยางเขาได้เห็นคนๆนึงนอนบนพื้นราวกับว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เมื่อได้เห็นหลินหยางก็ไม่รอช้าเขาหายใจเข้าลึกๆรีบเดินไปในห้องหยิบกล่องพยาบาลออกมาแล้วเดินไปทางกลุ่มชน
เมื่อเดินไปถึงหลินหยางก็ตกใจเพราะคนที่นอนอยู่บนพื้นไม่ใช่ใครอื่นแต่คือเซี่ยผิงเพื่อนบ้านของเขาเอง
เซี่ยผิงที่กำลังนอนอยู่บนพื้นตอนนี้ในท้องส่วนล่างมีเลือดออกสามีของเธอก็กำลังอยู่ในอาการตกใจและกำลังเอามือประคองที่เอวเซี่ยผิง
หลินหยางมองไปที่เซี่ยผิงที่นอนอยู่บนพื้นเธอมีสีหน้าที่ซีดริมฝีปากเริ่มมีม่วงและสั่นไปทั่วร่างกายที่บริเวณท้องน้อยมีเลือดออกไม่หยุดเหมือนจะบาดเจ็บจากอะไรสักอย่าง
เมื่อคำนวณสถานการณ์รอบๆข้างๆของสองคนนั้นคือรถซาเล้งบนรถมีส้อมที่เปื้อนเลือดอยู่หนึ่งคันหลินหยางรู้สึกตกใจว่าเธอคงจะไม่ได้โดนส้อมคันนี้แทงนะ?
“ผิงผิงเธอต้องไม่เป็นอะไรนะรอก่อนนะเดี๋ยวรถพยาบาลก็มาถึงแล้ว!หวังเฉียงนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นผิดที่ฉันเองฉันมันไม่ได้เรื่องเองที่ไม่ได้หยุดรถไว้”
เมื่อได้ยินที่หวังฉียงพูดหลินหยางเริ่มจะเข้าใจเรื่องราวหวังเฉียงคงจะเก็บข้าวโพดพอถึงเนินก็ไม่ได้ดึงรถไว้รถจึงถอยหลังแล้วถอยมาชนเซี่ยผิงบนรถก็มีส้อมเหล็กอยู่แล้วเซี่ยผิงก็โดนส้อมเหล็กคันนั้นแทงเข้าไป
เมื่อหลินหยางเห็นส้อมที่แหลมคมอันนั้นหลินหยางก็ไม่สบายใจเซี่ยผิงเป็นเพื่อนบ้านซึ่งก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดีและตัวเขาเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเซี่ยผิงอยู่เล็กน้อยหลินหยางก็อดที่จะช่วยเหลือไม่ได้
“พี่เฉียงให้ผมดูหน่อย”หลินหยางเข้าไปจับแขนของเซี่ยผิง
“หลินหยาง?”เมื่อเห็นเขาเข้ามาหวังเฉียงที่ร้องไห้อยู่ก็หยุดสักครู่
หลินหยางได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยในเมืองได้ยินจากคุณปู่ว่าเขาเรียนหมอมาซึ่งคุณปู่ของเขาเป็นหมอประจำหมู่บ้านที่เก่งมากจะต้องมีวิธีการแน่ๆผู้ใหญ่บ้านหนิมผิงก็รีบมาที่นี่โดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่เมื่อเห็นว่าหลินหยางก็มาด้วยก็กระจ่างทันที
จากชุ่ยฮัวภรรยาของหนิมผิงก็มาที่นี่เช่นกันเมื่อเห็นหลินหยางอยู่ที่นี่ก็ดีใจ“ไม่เลวไม่เลวหลินหยางเรียนหมอมา”
เมื่อได้ยินคำพูดจากภรรยาของหนิมผิงหวังเฉียงก็รีบพูดขึ้นมาว่า“หลินหยางรีบช่วยเซี่ยผิงหน่อยช่วยเสร็จแล้วจะให้ทุกอย่างเลย”
หลินหยางไม่ได้ตอบเขาถอนหายใจแล้วรีบดูแผลของเซี่ยผิง
เมื่อตรวจดูอาการแล้วหลินหยางก็โล่งใจขึ้นมาเพราะถึงส้อมอันนี้จะแทงเข้าไปในท้องน้อยแต่ก็ไม่ได้แทงเข้าไปในตับแต่กระเพาะก็ยังฉีกขาดเส้นเลือดก็ยังฉีกขาดอย่างแรกที่ต้องทำคือการห้ามเลือด
“พี่เฉียงอย่าเพิ่งใจร้อนครับผมรักษาได้!”ในที่หลินหยางพูดเขาก็นำเข็มเงินออกมาจากกระเป๋าเมื่อพบแอลกอฮอล์ถกเสื้อขอเซี่ยผิงขึ้นและทาแอลกอฮอล์บริเวณรอบๆแผล
เมื่อเช็ดแอลกอฮอล์ลงที่แผลร่างกายของเซี่ยผิงก็สั่นขึ้นมาทำให้คนที่ดูอยู่รอบๆตกใจ
“พี่ผิงพี่ทนหน่อยนะเดี๋ยวก็หายแล้ว”เมื่อหลินหยางพูดจบก็นำเข็มเงินในมือฝังเข้าไปบริเวณรอบๆแผล
เข็มเงินที่ยาวและสะท้อนแสงนี้เมื่อผู้คนรอบข้างได้เห็นก็ไม่อาจจะทนดูต่อไปได้
หวังเฉียงมองที่หลินหยางทำแล้วก็กำมือแน่นกลัวว่าเขาจะทำพลาด
เข็มเงินหกเล่มได้ถูกฝังเข้าไปในบริเวณแผลของเซี่ยผิงหลินหยางก็โยนเสื้อของหวังเฉียงที่อุดแผลไว้ออกไปแล้วนำเข็มอีกสองเล่มฝังเข้าไปที่บริเวณหัวใจ
“จะมาทิ้งเสื้อตัวนี้ได้ยังไงใช้ห้ามเลือดอยู่นะ!”หวังเฉียงบ่นดัง
ถึงได้ยินหวังเฉียงโวยวายแบบนี้หลินหยางก็ไม่โกรธเพราะเขาห่วงเซี่ยผิงขนาดนี้หลินหยางดีใจแทนเซี่ยผิงที่สามารถหาคนที่ดูแลเอาใจใส่เธอได้ขนาดนี้
ยิ้มอ่อนๆหลินหยางจึงบอกไปว่า“พี่เฉียงอย่าเพิ่งโมโหพี่ดูดีๆสิว่าแผลมีเลือดออกมั๊ย”
“ไม่ออกแล้วเลือดไม่ออกแล้วจริงๆ!”จางฮุ่ยชุ่ยชี้ไปที่บาดแผลของเวี่ยผิงด้วยความประหลาดใจ
ผู้คนรอบๆเมื่อได้ยินที่เธอพูดก็เข้ามาดูบาดแผลถึงมันจะดูน่ากลัวแต่เลือดที่เคยไหลออกมานั้นไม่มีแต่ยังคงค่อยๆซึมออกมาแทน
เขาได้นำผ้าไหมออกมาจากกล่องชุบแอลกอฮอล์และทาลงบริเวณรอบๆแผลจนสะอาดรอยแผลสองนิ้วได้ปรากฏให้เห็นคนที่ดูอยู่ก็รู้สึกเสียวขึ้นมา
หลินหยางก็หมุนเข็มอย่างตั้งใจเพื่อที่จะปรับกระแสเลือดรอบๆแผลเซี่ยผิงที่หน้าซีดเลือดลมก็เริ่มไหลเวียน
หลินหยางทักษะทางการแพทย์ของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก!หม่าเจี้ยนผู้ใหญ่บ้านก็มาเห็นหลินหยางใช้เข็มเงินฝังเข็มเพื่อหยุดเลือดด้วยตาของเขาเองก็ยกนิ้วให้เพื่อสรรเสริญ
“สมกับที่เรียนมหาวิทยาลัยมาจริงๆความสามารถแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ”ผู้คนรอบๆต่างชื่นชม
หลินหยางได้ยินก็ยิ้มในใจถึงตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยจะไม่ค่อยได้อะไรแต่ในสายตาของหมู่บ้านในชานเมืองมหาวิทยาลัยยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่เพราะคนที่ไปเรียนมหาวิทยาลัยนั้นจะเรียนอย่างเดียวไม่ทำอย่างอื่นคนที่มีความสามารถจริงๆนั้นมีไม่เยอะ