ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - ตอนที่55สกัดแร่ธาตุ
ตอนที่55สกัดแร่ธาตุ
“แล้วเขาทำอย่างนั้นกับผู้ชายบ่อยมั๊ย?”เพื่อเพิ่มความสนใจของลั่วหยิ่งหลินหยางจึงถามไป
“หนูก็ไม่รู้แต่นางบอกว่านางเห็นของลับผู้ชายมาเยอะนะน่าเกลียดอ่ะ”ลั่วหยิ่งก็ยังเป็นเด็กที่ไร้เรียงสาเธออายจนพูดไม่ออก
หลินหยางรู้สึกสนใจในเพื่อนคนนี้ของลั่วหยิ่งมากเพิ่งจะม.ปลายก็เจนสนามแล้วฟังจากที่ลั่วหยิ่งเล่าตงฟาเยี่ยนคนนี้คงจะบ้านรวยไม่ก็คงชอบคนรวยๆที่มีชื่อเสียงแน่ๆ
ลั่วหยิ่งที่ได้ลูบไล้บนตัวของหลินหยางอยู่นั้นก็เพิ่งจะวางมือลงด้วยความเขินอายเธอจึงตัดสินใจที่จะกลับบ้านเธอคุยกับหลินหยางอีกสองสามประโยคแล้วก็รีบวิ่งออกไป
จากการที่เขาโดนลั่วหยิ่งกระตุ้นให้เกิดอารมณ์หลินหยางก็หัวเราะหลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จแล้วหยิบดอกกัสฟูมัรยัมขึ้นมาจากถังน้ำเดินไปที่หลังคากางถุงออกพับมุมของถุงลงแล้วก็วางดอกกัสฟูมัรยัมลงไป
ตอนนี้อากาษร้อนเขาเชื่อว่าสองวันก็สามารถเก็บดอกกัสฟูมัรยัมตรงนี้ไปได้แล้ว
เมื่อกลับเข้าห้องหลินหยางนั่งขัดสมาธิบนเตียงแล้วเริ่มฟื้นลมปราณของตัวเอง
คืนนั้นก็ผ่านไปด้วยความสงบ
ช่วงเช้าตอนที่ฟ้าเริ่มสว่างแสงอาทิตย์ส่องผ่านตาของหลินหยางเมื่อรับรู้ถึงแสงที่ส่องเข้าไปหลินหยางก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา
หลังจากที่เขาได้ฝึกรำหลงเถิงเฟิงอู่และทำกับข้าวกินแบบง่ายๆหลินหยางก็เริ่มฝึกเขียนพู่กันต่อ
หลินหยางเขียนเร็วบ้างช้าบ้างบางครั้งถ้าอารมณ์ดีก็จะกระปรี้กระเปร่าเขียนได้หลายร้อยตัวในเวลาอันรวดเร็วบางครั้งใจสงบก็จะค่อยๆบรรจงเขียน
แต่ไม่ว่าหลินหยางจะเขียนในอารมณ์แบบไหนอักษรที่เขียนนั้นสวยมีความมหัศจรรย์จากการฝึกที่ยาวนานอักษรที่เขียนออกมานั้นมีทั้งสไตล์ที่แข็งแกร่งเรียบง่ายมีพลังมีความสง่างามยิ่งเพิ่มลมปราณเข้าไปด้วยแล้วอักษรของหลินหยางนั้นสวยราวกับถูกเขียนโดยปรมาจารย์
เมื่อวางพู่กันหลังการฝึกก็เป็นเวลาสิบโมงครึ่งขณะที่เขากำลังวางแผนชีวิตในวันนี้ก็ได้ยินเสียงข้อความเข้ามา
เมื่อหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่าหลี่หรูส่งข้อความมาก็คิดถึงวันก่อนๆที่เขาได้ไปเมืองเจียงหลิงได้ไปอยู่กับหลี่หรูมาตั้งอาทิตย์นึงหลินหยางยิ้มเบาๆแล้วรีบเปิดข้อความอ่าน
“หลินหยางคุณคิดถึงฉันมั๊ย?”ข้อความที่ถูกส่งมาพร้อมกับลงชื่อของหลี่หรู
หลินหยางยิ้มอ่อนๆแล้วตอบข้อความกลับไปว่า“คิดถึงสิ”
ในเวลาอันรวดเร็วมือถือของหลินหยางก็ดังขึ้นอีกเขาเปิดดูหลี่หรูโทรเข้ามาเขายิ้มแล้วกดรับสาย
“หลินหยางคนโกหกถ้าคิดถึงทำไมไม่โทรหาฉันล่ะ?”เสียงของหลี่หรูดังผ่านโทรศัพท์เข้ามา
“คุณมีแฟนแล้วนี่ถ้าผมโทรไปมันก็ไม่สะดวกนะ”หลินหยางก็พูดพร้อมขมวดคิ้ว
“เหอะๆถือว่ารู้กาลเทศะเอ้อใช่ยาที่ฉันถามไปคุณสกัดได้มั๊ย?”หลี่หรูถามกลับ
หลินหยางก็คิดอยู่พักหนึ่งเพราะหลี่หรูอยากจะลดส่วนผสมในครีมของเธอเองซึ่งเมื่อคืนเขาได้คำนวณอยู่พักหนึ่งก็คิดโครงสร้างส่วนผสมมาได้บ้างจึงตอบไปว่า“อื้มผมคิดส่วนผสมได้บ้างละคาดว่าไม่กี่วันนี้ก็จะสกัดออกมาให้คุณได้”
“ประมาณกี่วันหรอ?”หลี่หรูถามด้วยความสนใจ
เมื่อคำนวณเวลาแล้วหลินหยางจึงได้ตอบไปว่า“ช้าสุดห้าวันถ้าเร็วสุดก็สองวัน”
“งั้นทำเร่งหน่อยละกันเดี๋ยววันมะรืนจะโทณหาคุณอีกทีปีนี้แฟนต้องจะฉลองวันชีซีพร้อมกับฉันครั้งที่แล้วไปอยู่กับคุณตั้งอาทิตย์นึงทำเขาเครียดเลยแต่ตอนนี้ก็ผ่อนคลายลงบ้างละเป็นเพราะคุณเลย!”หลี่หรูบ่นและต่อว่าหลินหยาง
เมื่อหลินหยางได้ยินที่หลี่หรูพูดในใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะเพราะสัปดาห์ที่ว่านั้นมันช่างหอมหวานเหลือเกิน
“โอเคผมก็จะสกัดครีมให้คุณแน่นอนวางใจได้”ขณะที่หลินหยางพูดในใจก็กำลังคิดคำนวณว่าจะลดส่วนผสมของครีมลงอีกดีมั๊ยเผื่อจะได้กำไรเพิ่ม
“งั้นถ้าเสร็จแล้วจะไปหาตอนที่โรงเรียนเปิดเทอมจะไปช่วยโฆษณาการนวดทรวงอกของคุณให้นะ”หลี่หรูหัวเราะพูดกำชับหลินหยางแล้วก็วางสายไป
เมื่อวางสายลงหลินหยางก็ยังไม่รีบร้อนที่จะสกัดครีมให้หลี่หรูเขาได้เอาส่วนผสมที่ได้เลือกไว้เพื่อเตรียมจะสกัดยาให้กับหารซินซึ่งตอนนี้ร่างกายของหารซินนั้นกำลังเสียสมดุลถ้ารีบกินยาบำรุงร่างกายก็คงจะดีขึ้น
เขาได้นำส่วนผสมมาบดจนละเอียดหยิบหม้อเล็กออกมาเมื่อหาขดลวดเจอก็นำถ่านมาใส่เพื่อเพิ่มความร้อน
อุปกรณ์ของหลินหยางนี้ใช้ง่ายมากเนื่องจากอุปกรณ์เพิ่มความร้อนด้านล่างสามารถใช้ได้ทั้งแอลกอฮอล์และถ่านหินการที่เขาต้องสกัดยาจำนวนเยอะขึ้นเขาจึงต้องใช้ถ่านหินเป็นพลังงานเพื่อสามารถปรับอุณภูมิความร้อนได้สะดวกขึ้น
เหล้าขาว,โสม,โกศเขมา,ตังกุย,เก๋ากี้รวมถึงรกอ่อนค่อยๆถูกหลินหยางใส่ลงหม้อไปตามสูตรที่วางไว้
ถึงสมุนไรจะมีจำนวนไม่เยอะแต่มีความหลากหลายเพราะมีสมุนไพรยี่สิบกว่าชนิดนอกจากนี้ยังต้องคำนวณเวลาให้พอดีเมื่อใส่ลงไปในหม้อต้ม
เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากที่หลินหยางก็นำของทั้งหม้อใส่ลงไปเขาปิดฝาหม้อแล้วจึงค่อยๆรอให้มันต้มเสร็จ
ตัวยามักจะแห้งหลินหยางจึงไม่กล้าที่จะทำอย่างอื่นไปด้วยกลัวว่าถ้าประมาทไม่ควบคุมอุณภูมิอาจจะทำให้อุณภูมิในหม้อไม่สมดุลซึ่งจะส่งผลต่อตัวยาได้
เวลาผ่านไปกลิ่นหอมของตัวยาก็เริ่มลอยออกมาถึงครั้งนี้จะไม่มีกลิ่มที่หอมสดชื่นเหมือนโคลนมาร์กหน้าแต่ก็ยังมีกลิ่นหอมที่ทำให้คนหลงใหลอยู่
เมื่อรู้ถึงกลิ่มหอมกับประสิทธิภาพของยาหลินหยางก็พอใจมากหลังจากที่เขารู้สึกว่ายาในหม้อเริ่มใช้การได้หลินหยางก็ดับไฟแล้วยกหม้อเล็กใบนี้ขึ้นมาโดยที่ในมือก็สั่นไม่หยุด
ก๊าซได้ถูกฉีดเข้าไปในหม้อครีมในหม้อก็ถูกสกัดอย่างต่อเนื่อง
ผ่านไปสิบหน้านาทีหลินหยางก็หยุดเขย่าหม้อตอนนี้อุณภูมิในหม้อก็ค่อยๆลดลง
เมื่อเปิดดูตัวยาข้างในหม้อหลินหยางก็มีความสุขมากเนื่องจากตอนแรกคิดว่าถ้าทำได้ประมาณห้าหกขวดก็โอเคแล้วแต่คิดไม่ถึงว่าในหม้อใบนี้สามารถทำได้สิบสองขวด!
เมื่อมองไปที่ตัวยาสีแดงๆเหล่านั้นหลินหยางไปหาโถเล็กๆมาหนึ่งโถแล้วนำยาทั้งหมดใส่ลงไปเขายืดเส้นยืดสายแล้วเดินออกนอกประตูไป
ยุ่งมากเลยทำนานขนาดนี้ควรจะออกไปเดินเล่นด้านนอกบ้าง
เมื่อทุกอย่างเจริญขึ้นมลภาวะบนโลกนี้ก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิมแต่ในชนตอนที่ห่างไกลเช่นนี้ก็ยังคงมีต้นไม้สีเขียวกับอากาศที่สดชื่นอยู่
เมื่อเดินไปบนถนนเส้นเล็กๆสูดอากาศที่บริสุทธิ์มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก
หลินหยางกำลังเดินอยู่ข้างนอกเมื่อดูเวลาก้เป็นเวลาบ่ายสามโมงครึ่งแล้วมันช่างน่าเบื่อหลินหยางจึงต้องเตรียมของที่จะสกัดยาให้หลี่หรูในวันพรุ่งนี้แล้วมันมะรืนจะไปตกปลาเพื่อพักผ่อน
หมู่บ้านยวี่หลงนั้นไม่ใหญ่แต่ก็มีคนอยู่ร้อยกว่าคนบริเวณรอบๆหมู่บ้านก็ล้วนแต่เป็นป่า
หลินหยางเดินไปสิบกว่านาทีก็เดินไปถึงไร่แห่งหนึ่งตอนนี้ยังเป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวโพดเหมือนว่าทางหมู่บ้านเริ่มเก็บเกี่ยวไปเมื่อวานนี้โดยปกติแล้วเวลาเก็บเกี่ยวข้าวโพดนั้นสั้นมากสองสามวันก็เก็บเสร็จหมดแล้ว
ตอนนี้ยังเก็บไม่หมดคงเป็นเพราะว่าแรงงานในหมู่บ้านนั้นไม่เพียงพอ
หลินหยางมองดูอย่างสบายใจข้าวโพดส่วนใหญ่นั้นถูกเก็บหมดแล้วยังพอเหลือบางส่วนเชื่อว่าไม่นานก็จะเสร็จ
เมื่อเดินมาสักพักหนึ่งก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาซึ่งเป็นเสียงร้องตะโกนเหมือนกับว่ามีของหล่นลงพื้นตามมาด้วยเสียงของที่กดทับข้าวโพด
หูของหลินหยางนั้นดีมากเขาฟังสักครู่ถึงจะไม่อยากเดินไปตามเสียงแต่เสียงที่ได้ยินนั้นเหมือนกับเป็นเสียงคนล้มเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งหลินหยางจึงเดินไปตามเสียงนั้น
เดินแทรกไปตามต้นข้าวโพดไม่นานหลินหยางก็เห็นคนๆหนึ่งนอนอยู่บนพื้นเขารีบเดินเข้าไปหลินหยางก็ประหลาดใจเพราะคนที่นอนอยู่บนพื่นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหลี่เถาเพื่อนสมัยประถมของเขานั่นเอง
“หลี่เถาเกิดอะไรขึ้น?”หลินหยางรีบเดินเข้าไปแล้วถามคนที่นอนอยู่บนพื้น
แต่คนๆนั้นก็ไม่ได้ตอบกลับหลินหยางจึงคุกเข่าลงเพื่อดูร่างกายอันอ่อนแรงของหลี่เถาหน้าเขาซีดขาวร่างกายมีอาการสั่นเล็กน้อยซึ่งหลินหยางเดาว่าหลี่เถาต้องเป็นลมแดดแน่นอน
เมื่อนึกได้ว่าที่ขอบของไร่นั้นมีรถซาเล้งแล้วบนรถมีกาน้ำอยู่หลินหยางจึงรีบวิ่งไปเอากาน้ำนั้นมาเขายกหัวหลี่เถาขึ้นจับที่แก้มแล้วเอาน้ำเทเข้าไปในปากของเธอ
แต่หลินหยางก็พบว่าหลี่เถานั้นไม่ได้ดื่มน้ำเข้าไปหลินหยางลังเลสักครู่แล้วจึงหยิบเหยือกมาดื่มน้ำไปหนึ่งคำแล้วค่อยๆปล่อยน้ำเข้าไปทางริมฝีปากของหลี่เถา
หลังจากที่ป้อนน้ำหลินหยางก็ประคองหลี่เถานอนลงเขาบ่นกับตัวเองว่าทำไมไม่เอาเข็มเงินมาด้วยเขาจึงถอดรองเท้าเธอออกเริ่มเดินลมปราณแล้วลงมือนวดให้
เมื่อเดินลมปราณสำเร็จหลินหยางก็เริ่มเดินลมปราณไปที่ตัวเธอด้วย
เมื่อไล่จากท้องน้อยขึ้นไปไม่นานหลินหยางก็นวดถึงหน้าอกของหลี่เถาเขาจึงถ่ายพลังในบริเวณที่ยอดของหน้าอกอย่างต่อเนื่องเมื่อกล้ามเนื้อเริ่มนุ่มและเลือดลมเดินหลินหยางก็ตื่นเต้น
หลี่เถาเพิ่งคลอดลูกไปไม่ถึงเดือนด้านในมีน้ำนมอยู่มากซึ่งเมื่อสัมผัสไปจะต้องรู้สึกเหมือนคลื่นน้ำ
มือทั้งสองก็เร่งนวดที่ทรวงอกไม่นานหลี่เถาที่หมดสติก็เริ่มรู้สึกตัว
เมื่อเห็นว่าหลี่เถาเริ่มรู้สึกตัวหลินหยางก็นวดไปบริเวณหน้าอกของเธออย่างต่อเนื่องเขาดื่มน้ำแล้วก็ไปป้อนผ่านทางปากของหลี่เถา
“แฮ่กๆ….”หลังจากที่หลินหยางป้อนน้ำหลี่เถาก็ค่อยๆตื่นขึ้นมาแต่ยังไม่ทันได้กลืนน้ำลงไปก็คายออกมาทันที
ด้วยสายตาที่มาพร้อมคิ้วที่สวยงามหลี่เถาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
เรื่องที่ตัวเองหมดสติไปนั้นหลี่เถาก็จำได้ตอนนี้เธอได้นอนพิงที่อกของหลินหยางแล้วพูดไปว่า“ขอบคุณมากนะ”
“ไม่เป็นไรทำไมคุณมาคนเดียวล่ะ?พ่อตาแม่ยายล่ะ?”หลินหยางถามด้วยความสงสัย
“พวกเขาฝานข้าวโพดอยู่ที่บ้านน่ะไร่นี้ไม่ใหญ่ฉันเลยมานเดียวใครจะไปรู้ว่าจะเป็นลมไปซะงั้น”หลี่เถาพูดเบาๆ
“เธอเป็นโรคลมแดดนะมาดื่มน้ำเยอะๆ”หลินหยางหยิบเหยือกน้ำขึ้นมาแล้วป้อนเข้าไปในปากของหลี่เถา
เมื่อดื่มเข้าไปสองสามคำหลี่เถาก็หยุดมองที่หลินหยางแล้วถามไปว่า“เมื่อกี้เอาน้ำป้อนฉันยังไง?”
“เมื่อกี้ผม…….”เมื่อถูกถามเขาก็อึ้งไปพักหนึ่ง
“เมื่อกี้ยังไง?”หลี่เถาเห็นหลินหยางมีอาการเขินอายจึงรู้สึกสนุกเลยถามไป
เมื่อเห็นท่าทางกวนๆของหลี่เถาหลินหยางจึงตอบไปว่า“เมื่อกี้ผมป้อนทางปากน่ะ”
“ตายละพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน!”หลี่เถาผลักหลินหยางออกไป
หลินหยางก็เฉยๆเพราะการที่จะอธิบายเหตุผลกับผู้หญิงนั้นนอกจากจะเสียเวลาแล้วก็ยังเถียงไม่ชนะ
“ฉันดื่มน้ำอีก”หลังจากที่หยุดไปสักพักหลี่เถาก็พูดขึ้น
หลินหยางก็หยิบกาน้ำมาที่ข้างๆปากของหลี่เถาแต่หลี่เถาก็ส่ายหัวแล้วพูดกับหลินหยางอย่างหน้าแดงๆว่า“เมื่อกี้คุณป้อนฉันยังไงก็ป้อนฉันแบบนั้น”
เมื่อมองที่หลี่เถาที่นอนอยู่บนพื้นแก้มทั้งสองข้างแดงๆที่มีเสน่ห์ดวงตาที่ละเอียดอ่อนและมีประกายราวกับสุนัขจิ้งจอกนั้นแฝงไปด้วยความสวยงาม
หลินหยางก็คิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ดื่มน้ำและป้อนหลี่เถาผ่านริมฝีปาก
หลี่เถาหลับตาลงรอให้ริมฝีปากตัวเองสัมผัสกับริมฝีปากของหลินหยางแล้วก็ดื่มน้ำลงไป