ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - ตอนที่60การฟื้นตัว
ตอนที่60การฟื้นตัว
“ถ้าพวกคุณไม่สบายใจก็ให้คุณหาน่าเข้าไปดูกับผมก็ได้ครับ”หลินหยางพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ใช่ๆเสี่ยวหานคุณเข้าไปดูสิ”ผู้ใหญ่บ้านหม่าเจี้ยนบอกกับภรรยาตัวเอง
“ได้เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูกับคุณเอง”หานน่าพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของหลินหยาง
เมื่อถึงห้องนอนของหลินหยางก็เห็นผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงร่างกายก็มีเข็มฝังอยู่ผิวเธอบวมเป่งจากการที่แช่น้ำนานหานน่าก็ตกใจมาก
“หลินหยางเธอกล้าหาญมากนะคนสภาพนี้ยังกล้าอุ้มกลับมาบ้านอีก”หานน่าพูดเบาๆ
“ด้วยหัวใจความเป็นแพทย์ผิวเธอปวดแค่นี้ผมไม่กลัวหรอกครับถ้าเรื่องแค่นี้ไม่กล้าทำจะไปเป็นหมอที่ดีได้ยังไง”หลินหยางพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“โหมองไม่ออกเลยนะเนี่ยว่าเธอคิดแบบนี้แต่การที่พาหญิงมาถอดเสื้อที่บ้านแบบนี้มีเจตนาที่จะฉวยโอกาสอะไรรึเปล่า”หานน่าอยู่ดีๆนึกสนุกหันไปหาหลินหยางแล้วจึงถามขึ้นมา
“มีที่ไหนนี่คือให้สะดวกกับการรักษาเฉยๆ”เมื่อโดนหานน่าถามหลินหยางก็รู้สึกอายขึ้นมา
“ใช่หรอ?”หานน่าก็ถามด้วยความสนุกอีกครั้ง
ตอนนี้หลินหยางก็ได้สังเกตสิ่งที่หานน่าสวมใส่หานน่าเป็นภรรยาของผู้ใหญ่บ้านที่บ้านก็มีฐานะเธอใส่เสื้อผ้าแฟชั่นท่อนบนใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินท่อนล่างใส่กระโปรงสั้นสีดำแล้วไม่ได้ถุงน่องจึงเห็นได้ชัดเจนว่าขาเธอขาวมาก
หานน่าก็หน้าดีใช้ได้ตาโตจมูกโด่งคิ้วงอนงามโดยเฉพาะความงามนั้นเปรียบได้ดั่งใบของต้นหลิวซึ่งสวยงามมากหานน่าปีนนี้อายุเพิ่งสี่สิบซึ่งอายุน้อยกว่าสามีห้าหกปี
เมื่อเห็นว่าหานน่ากำลังหยอกเล่นกับเขาหลินหยางจึงพูดแบบจริงจังไปว่า“ใช่ครับถ้าเกิดฝังเข็มผิดจุดก็จะมีผลต่อการรักษาหรือเป็นอันตรายต่อชีวิตได้”
“เธอจะบอกว่าถ้าฉันมาให้รักษาเธอต้องฝังเข็มให้แล้วต้องถอดเสื้อออกมั๊ย?”หานน่าถาม
เมื่อได้ยินที่หานน่าพูดในใจของหลินหยางก็พูดไม่ออกแต่ก็ตอบไปว่า“ถ้าจำเป็นขึ้นมาก็ต้องถอด”
พูดจบหลินหยางก็เหลือบไปเห็นหน้าอกของหานน่าหน้าออกที่นูนออกมานั้นทำให้หลินหยางใจเต้นผู้หญิงของหมู่บ้านยวี่หลงนี่มันช่างร้อนแรงเสียจริงๆ
หานน่าเหมือนจะรู้ว่าหลินหยางมองอยู่จึงเปิดเสื้อตรงหน้าอกแกส่วนที่เป็นของดีของตนเองตอนนี้ก็ควรนำมาโชว์
“หลินหยางตอนนี้เธอสร้างชื่อในหมู่บ้านเราไว้นะเธอได้ไปช่วยหลี่อิงเก็บข้าวโพดมาตั้งกี่รอบใครๆก็พูดกันว่าเธอแรงเยอะร่างกายแข็งแรงตอนกลางคืนมีคนอยากจะมาเคาะประตูไหนบอกน้าซิว่าใครมาเคาะประตูกลางดึกแล้วบ้าง?”หานน่าพูดแซว
“มีที่ไหนล่ะครับอย่าพูดเพ้อเจ้อ”ปภณพูดเบาๆ
“ไม่มีจริงๆหรอ?ในกลุ่มพวกเจ๊ๆเวลาเจอกันก็มักจะพูดถึงเธอไม่มากก็น้อยหลินหยางเธอยืนนิ่งๆอย่าพูดอะไรน้าของตรวจดูหน่อย”หานน่ากระซิบเบาๆข้างหูหลินหยาง
เมื่อพูดจบเอก้ไม่สนว่าหลินหยางจะว่ายังไงจึงค่อยๆเอามือลูบไปเมื่อทำเสร็จหานน่าก็อึ้งจนทำปากเป็นรูปตัวโอแล้วถามไปว่า“โอ้พระเจ้าหลินหยางนี่เปลี่ยนไปได้ยังไงเนี่ยในหมู่บ้านนี้คงไม่มีใครใหญ่กว่าเธออีกแล้วใช่มั๊ย?”
หลินหยางที่อยู่ดีๆก็โดนลูบคลำมือเล็กๆที่อ่อนนุ่มนั้นก็ทำให้ตัวเขาตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อได้รับการลูบคลำจากหานน่าเรียบร้อยหลินหยางก็พูดว่า“น้าหานของๆผมก็ไม่เลวใช่มะ?”
“เหอะๆมิน่าล่ะพวกเจ๊ๆวันๆพูดถึงแต่เธอที่แท้มีของดีอยู่นี่เอง”เมื่อได้จับสิ่งนั้นหานน่าก็ค่อยๆปล่อยมือออกมา
“น้าก็สวยดีนะผิวดีขนาดนี้สวยกว่าผู้หญิงในเมืองอีก”หลินหยางก็พูดชม
เมื่อได้ยินที่หลินหยางพูดหานน่าก็มีความสุขยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า“เหอะๆพูดเก่งนี่แล้วเธอคนนี้ล่ะช่วยไว้ได้จริงๆหรอ?”
“แน่นอนครับดูที่ท้องน้อยของเธอว่ามีการหายใจอ่อนอยู่รึเปล่า?”หลินหยางชี้ไปที่ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง
เมื่อหานน่ามองไปที่ท้องน้อยของผู้หญิงคนนี้มียุบพองอยู่ซึ่งแสดงว่าเธอยังหายใจยังมีชีวิตอยู่จริงๆจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า“เอเก่งจริงๆเลยระหว่างทางก็ได้ยินคนเขาพูดกันว่าเธออุ้มศพกลับมา”
“โอเคพวกเราไปข้างนอกเถอะ”หลินหยางพูดพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อพวกเขาออกไปคนสองคนที่รออยู่ที่ห้องรับแขกก็ถามหานน่าทันที
หานน่ายิ้มแล้วพูดว่า“ฝีมือการแพทย์ของหลินหยางไม่ธรรมดานะเธอคนนั้นยังหายใจอยู่”
“พวกคุณวางใจได้ครับวันนี้ต้องตื่นขึ้นมาแน่นอน”หลินหยางรับรอง
เมื่อได้ยินคำยืนยันจากทั้งหานน่าและหลินหยางทั้งสองก็สบายใจขึ้นหม่าเจี้ยนยิ้มและพูดว่า“ผมรู้เลยฝีมือการแพทย์ของหลินหยางเนี่ยได้มาจากปู่เขาแถมยังได้เรียนที่มหาวิทยาลัยของเมืองเจียงหลิงอีกเขาต้องเก่งมากๆเลย”
“ไม่หรอกครับวิชาแพทย์ต้องฝึกฝนให้ดีไม่ว่าจะรักษายากแค่ไหนก็ต้องหาวิธีให้ได้”เมื่อคนทั้งสองพูดชมแบบซึ้งๆเขาจึงพูดออกมาอย่างภูมิใจ
หลังจากที่ได้พูดคุยตามมารยาทแล้วก็ได้ล่ำลากันไป
หลังจากที่ทั้งสามคนกลับไปลั่วหยิ่งก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า“เมื่อกี้ตกใจมากโชคดีที่ล้อคประตูไว้ไม่งั้นพวกเขาเข้ามาก็จะเห็นหมดเลยว่าเราทำอะไรกัน”
เมื่อได้ยินที่ลั่วหยิ่งพูดหลินหยางก็เงียบและคิดในใจว่าต่อไปถ้าจะพาสาวเข้าบ้านก็ควรจะล็อคประตูให้ดีก่อนและถ้าเกิดตัวเองจะทำเรื่องที่จะทำให้ตัวเองเสียหายหรือโดนจับได้ตัวเขาเองคงจะต้องร้องไห้แน่ๆ
เนื่องจากโดนขัดจังหวะจากสามคนนั้นหลินหยางกับลั่วหยิ่งก็ไม่มีอารมณ์จะทำเรื่องที่มีความสุขแบบเมื่อกี้ต่อ
ลั่วหยิ่งก็รู้สึกอายเลยคิดจะกลับบ้านแต่หลินหยางก็รั้งไว้แล้วหยิบเงินห้าสิบหยวนจากกระเป๋าตังค์ให้ลั่วหยิ่ง“เสี่ยวหยิ่งเดี๋ยวแกไปซื้อแม่ไก่มาตัวนึงนะเธอคนนั้นร่างกายยังอ่อนแอต้องกายเนื้อสัตว์มาบำรุงร่างกาย”
“แม่ไก่ไม่แพงขนาดนี้หรอกสามสิบหยวนก็พอแล้วค่ะเดี๋ยวหนูไปเอาตัวที่บ้านมาให้จะได้ไม่ต้องใช้เงิน”ลั่วหยิ่งก็เอาห้าสิบหยวนคืนหลินหยางไป
“ไม่ได้ๆที่หมู่บ้านเราเลี้ยงคือไก่บ้านที่ในเมืองต้องซื้อในราคาตัวละแปดสิบเก้าสิบแห่นะพี่ให้เงินแกก็รับไว้เถอะ”หลินหยางพูดบอกไป
“พี่ให้เงินหนูเยอะแล้วแล้วถ้าหนูจะเอาอีกหนูยังเป็นคนอยู่มั๊ยเนี่ย?”สาวน้อยตอบกลับ
“ไม่เกี่ยวกันเลยเอางี้ละกันพี่ให้สี่สิบหยวนแกไม่ต้องปฏิเสธนะ”หลินหยางได้ลองคิดดูแล้วหยิบแบงค์ยี่สิบสองใบแล้วยื่นให้ลั่วหยิ่ง
ถึงลั่วหยิ่งจะไม่อยากรับแต่ก็ต้องรับและกลับไปที่บ้าน
มานานลั่วหยิ่งก็อุ้มแม่ไก่กลับมาหนึ่งตัวซึ่งเป็นแม่ไก่ที่ตัวใหญ่มากหลินหยางก็ได้แต่คิดว่าถ้าซื้อตัวนี้ในเมืองคงจะราคาร้อยกว่าหยวนขึ้นไป
หลินหยางนั้นชอบทำกับข้าวตั้งแต่เด็กเขาสามารถฆ่าไก่ได้อย่างชำนาญเขาใช้น้ำร้อนถอนขนไก่ออกแล้วเอาไก่ใส่ลงไปในหม้อแล้วหาสมุนไพรใส่ลงไปในหม้อตามส่วนผสมเติมนำแล้วเปิดไฟต้มไก่
ไม่นานกลิ่นหอมของไก่ก็ลอยไปทั่วห้องและค่อยๆลอยออกไปด้านนอก
ลั่วหยิ่งที่กำลังมองไก้ต้มที่หลินหยางทำก็ดมกลิ่นหอมเข้าไปจนน้ำลายแทบจะไหลออกมา
“พี่หลินหยางพี่ทำกับข้าวได้หอมมาก”สาวน้อยที่อยู่ข้างก้พูดขึ้นมา
“งั้นก็อยู่ต่ออีกหน่อยเอคนนั้นใกล้จะตื่นแล้วร่างกายคงจะอ่อนแรงมากเลยยังไม่สามารถกินอะไรได้เยอะเมื่อเธอตื่นก็ให้เธอกินน่องไก่ซดน้ำแกงก็พอ”หลินหยางพูดพร้อมรอยยิ้ม
“จะไปทำงั้นได้ไงต้องให้พี่สาวคนนั้นกินสิ”ลั่วหยิ่งรีบส่ายหัวถ้าตัวเองกินหมดจะทำให้คนนั้นได้กินช้าแล้วก็คงจะรู้สึกผิดมากๆ
“ได้สิผงยาสมุนไพรมันอยู่ในน้ำแกงอาหารหลักของเธอคนนั้นก็คือน้ำแกงเนี่ยแหละและที่ให้กินน่องไก่นั้นก็เพื่อให้มีอะไรใส่ท้องเฉยๆ”หลินหยางยิ้มแล้วพูดปลอบใจ“แกไปตรงโต๊ะที่ห้องรับแขกนะแล้วเลือกแฮมขาใหญ่ๆมาสองอันเอาพริกไปล้างเดี๋ยวพี่จะทำแฮมผัดพริกหยวกเพิ่มให้แล้วคืนนี้ก็อยู่กินข้าวที่บ้านพี่เนี่ยแหละ”
“อื้มโอเคค่ะ”ลั่วหยิ่งกับหลินหยางก็คุ้นเคยกันดีในสองวันนี้จึงไม่ต้องมีพิธีการอะไรมากพอเธอได้ยินที่เขาพูดก็ดีใจแล้วพูดกับตัวเองว่าคืนนี้ลาภปาก
ตุ๋นไก่นั้นใช้เวลานานเมื่อหลินหยางตุ๋นไก่เสร็จก็เอาเนื้อไก่ออกมาวางไว้บนเขียงแล้วหั่นน่องไก่ออกมาตักน้ำแกงและน่องไก่ใส่ชามแล้วยกไปที่ห้องนอน
“เสี่ยวหยิ่งเดี๋ยวช่วยหั่นไก่หน่อยนะแล้วก็อุ่นแฮมให้สุกแล้วรอกินข้าวกัน”หลินหยางพูดพร้อมรอยยิ้ม
ลั่วหยิ่งที่เตรียมเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก็ตอบตกลงแล้วหยิบไก่มาหั่น
เมื่อกลับไปในห้องก็เห็นว่าเธอคนนั้นไม่ได้ใส่เสื้อผ้ายังคงมีเข็มฝังไว้ทั่วร่างเรือนร่างที่งดงามทรวกอกที่อวบอิ่มบริเวณส่วนลับที่น่าหลงใหลล้วนแต่มีเสน่ห์เหลือเกินจนหลินหยางหลงในความงามนั้น
เนื่องจากขึ้นมากจากน้ำรวมถึงได้รับการฝังเข็มจากหลินหยางในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็เริ่มมีเลือดไหลเวียนที่ผิวหนัง
เมื่อมองเห็นผู้หญิงคนนี้เริ่มหายใจหลินหยางก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายตัวเองเขาได้นำซุปไก่ไปวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วจึงดึงเข็มที่ฝังไว้ออกที่ละเล่มจากท่อนล่างขึ้นบนทุกๆเข็มก็ถูกดึกออกหน้าตาของเธอเริ่มมีเลือดไหลเวียนจนผิวเริ่มแดงอ่อนๆ
จนกระทั่งหลินหยางเอาเข็มที่ฝังไว้ทั้งหมดออกร่างกายของผู้หยิงคนนี้ก็ผ่อนคลายผิวพรรณสดใสขึ้น
เมื่อเห็นว่าเสน่ห์ของผู้หญิงคนนี้หลินหยางก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปสัมผัสหน้าอกของเธอแต่ก็กลั้นใจไว้แล้วเอามือกลับมา
อีกประมาณ10นาทีเธอคนนี้คงจะตื่นขึ้นมาขณะที่คิดอยู่ก็เดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
ตอนนี้สาวน้อยก็ได้จัดกับข้าวเรียบร้อยแล้วหลินหยางเอาเจียนปิ่งสองสามชิ้นวางไว้บนโต๊ะทั้งสองคนก็เริ่มกินข้าว
อาจเป็นเพราะหลินหยางทำกับข้าวอร่อยมากสาวน้อยก็แทนจะกลืนกินทุกอย่างภายในสิบนาทีก็กินไปเยอะพอสมควร
เมื่อเห็นลั่วหยิ่งกินแบบนั้นหลินหยางก็ยิ้มแล้วพูดว่า“ต่อไปกินข้าวช้าหน่อยข้าวเย็นอย่ากินเยอะมันไม่ดีต่อสุขภาพ”
เธอว่าหลินหยางเป็นหมอทุกคำพูดนั้นเชื่อถือได้ลั่วหยิ่งพยักหน้าแล้วพูดอย่างเขินอายว่า“ไม่ใช่ว่าหนูไม่รู้นะแต่อาหารที่พี่หลินหยางทำเนี่ยมันอร่อยมากหนูเลย…..”
เมื่อเห็นลั่วหยิ่งเขินหลินหยางก็หัวเราะออกมาแล้วก็มีเสียงไอมาจากในห้องนอนด้วยหูที่ดีของหลินหยางเมื่อเขาได้ยินก็เดินเข้าไปในห้องนอน
ผู้หญิงคนนี้ลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆแล้วเอามือลูบที่หน้าอกซึ่งยังมีความรู้สึกเจ็บอยู่เล็กน้อย
เธอได้คิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมาเหมือนว่าตนเองนั้นโดนทำร้ายโดนจับโยนลงแม่น้ำแล้วก็สลบไปเธอรู้สึกอ่อนแรงมากแต่รู้ตัวว่ายังไม่ตาย
เมื่อเห็นหลินหยางเดินเข้ามาเธอก็มองด้วยความสงสัยแล้วพูดด้วยเสียงแหบๆว่า“คุณช่วยชีวิตฉันหรอ?”
“ใช่ครับตอนนั้นคุณยังมีลมหายใจอยู่ถ้าช่วยช้าไปครึ่งชั่วโมงคุณคงไม่รอดแล้ว”หลินหยางมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นแล้วตอบกลับเบาๆ
“ขอบคุณมากๆนะคะวันนี้วันที่เท่าไหร่แล้ว?”ผู้หญิงถามต่อ
“2กันยายนครับ”หลินหยางตอบตามความจริง
ผู้หญิงหันไปมองนอกหน้าต่างที่ฟ้ากำลังมืดลงแล้วพูดออกมาว่า“คิดไม่ถึงว่าจะผ่านมาสองวันแล้ว”