ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 193 อดใจไม่ไหว
บทที่ 193 อดใจไม่ไหว
ตอนที่จางเยว่แกล้งหลับ อารมณ์ก็มีความวาบหวามเล็กน้อยแล้ว
ไป๋เซียนเฉ่าถูกนวดจนเสียวซ่านไปทั้งตัว ในใจของ จางเยว่ก็ปั่นป่วนไปด้วยความหึงหวง ผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอายจริงๆ แม้ว่าจะเป็นการนวดบำบัด แต่ยังร้องเสียงดังขนาดนี้! อย่างไรก็ตาม จางเยว่ก็ประเมินความไร้ยางอายของไป๋เซียนเฉ่าต่ำไปอย่างรวดเร็ว
เธอยังยั่วยวนหลินหยางด้วย ยังจะขอทำเรื่องอย่างว่ากับเขาด้วย!
ต้องเป็นเธอยั่วยวนแน่นอน ในใจจางเยว่เชื่อแบบนี้
เมื่อเธอได้ยินไป๋เซียนเฉ่าเชิญชวนก่อน ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ชายล้วนเป็นสัตว์กินเนื้อ หลินหยางก็
ขี่ขึ้นไปบนตัวของไป๋เซียนเฉ่าแบบนี้ เริ่มโล้สําเภากับเธอ ทั้งสองคนทรมานซ้ำซากอยู่แค่เอื้อม แรงเขย่าสั่นสะเทือนที่มาจากเตียงใหญ่ ทำให้หัวใจของจางเยว่เสียวซ่านเต้นระรัว
ในหัวใจของเธอ แทนตัวเองเป็นผู้หญิงที่ถูกบดขยี้อยู่ใต้ร่างตั้งนานแล้ว ในหัวสมองจินตนาการว่า ตัวเองถึงเป็นผู้หญิงที่กำลังคร่ำครวญอย่างปลดปล่อยอารมณ์
ตอนที่หลินหยางและไป๋เซียนเฉ่าทรมานซ้ำซากจนถึงจุดสูงสุด ไป๋เซียนเฉ่าดึงจางเยว่ไว้กะทันหัน หัวใจของจางเยว่พุ่งมาถึงที่ลำคอ ผู้หญิงบ้าคนนี้ สำเร็จความใคร่อย่างนี้แล้วเหรอ? ยังจับแขนตัวเองไว้แน่น ที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้น คือจางเยว่ตัวสั่นไปพร้อมกับเธอด้วย
เมื่อไป๋เซียนเฉ่าเห็นว่า จางเยว่เบิกตากว้างจ้องมองพวกเธอ แทบจะตะโกนร้องออกมา แต่ในเวลานี้ หลินหยางได้ขยันขันแข็งกระแทกอย่างรัวถี่
“คนชั่ว ฉันไม่ไหวแล้ว คุณรีบลงมา!” ไป๋เซียนเฉ่าที่ได้ปลดปล่อยแล้ว ก็ไม่มีความกล้าที่จะมองจางเยว่อีกต่อไป
หลินหยางถึงสังเกตเห็นว่า จางเยว่ตื่นขึ้นมาแล้ว
ยังหายใจหอบอยู่ด้านข้าง
หลินหยางอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่ท่อนล่างจ่อไว้อยู่ตรงนั้น เดินหน้าถอยหลังไม่ได้
“คุณไม่ได้ ฉันทำได้! ตอนนี้เขาเป็นของฉันแล้ว!”
จางเยว่ลุกขึ้นพูด
ไป๋เซียนเฉ่าจ้องมองหลินหยางที่ถูกจางเยว่ลากไปด้วยความตกตะลึง จากนั้นก็ขึ้นขี่บนตัวเขา จางเยว่ หันกลับมาพูดด้วยความโกรธเคือง “คุณอยากจะดู ก็ให้คุณดูจนพอใจ!”
การเคลื่อนไหวของจางเยว่ ไม่ได้มีท่าทางเปิดกว้างเหมือนกับหลินหยาง เพียงแค่ขยับตัวช้าๆบนตัวเขา และไม่ร้องเสียงดัง แค่กัดริมฝีปากไว้ เคลิบเคลิ้มดื่มด่ำอย่างเงียบๆ
ไป๋เซียนเฉ่ารู้สึกแปลกใจมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้เธอมองชายหญิงที่ไร้ความละอายสองคนนี้ ด้วยความชื่นชม
จางเยว่ไม่ดัดจริต แย่งผู้ชายยังแย่งได้อย่างใจกล้าเช่นนี้
มีคนบอกว่า ใช่หญิงที่มีอารมณ์รัก สวยงามที่สุด
บางทีอาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ ไป๋เซียนเฉ่าใช้สายตาที่ชื่นชม มองทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
เธอด้วยความชื่นชม
ดาวตำรวจใช่ว่าจะจัดการได้ง่าย หลินหยางต้องใช้แรงไม่น้อย ถึงได้ส่งจางเยว่ขึ้นสู่ปลายฟ้า ในที่สุดทุกอย่างก็กลับสู่ความสงบ ผู้หญิงสองคนนอนอยู่ข้างกายทางซ้ายและขวาของหลินหยาง
ไป๋เซียนเฉ่าทำลายความเงียบสงบก่อน โอบแขนของหลินหยางข้างหนึ่ง แล้วพูดว่า “คุณได้ฉวยโอกาสได้เปรียบไปหมดแล้ว คุณนี่ช่างโชคดีจริงๆ!”
หลินหยางนิ่งเงียบไม่พูดอะไร พูดในเวลานี้ ง่ายต่อการเหยียบกับระเบิด จางเยว่ก็โอบแขนของเขาอีกข้างหนึ่งตามด้วย พูดอย่างหงุดหงิด “ให้คุณฉวยโอกาสไปหมดเลย ผู้หญิงทั้งสองคนให้คุณกินหมดเกลี้ยง คุณไม่มีอะไรจะพูดเหรอ?”
หลินหยางหัวเราะแก้เก้อ แล้วพูดว่า “พูดอะไรกัน? พวกคุณสองคนจงใจดื่มจนเมา แล้วให้ฉันฉวยโอกาสฟรีๆหรือ? ได้เปรียบแล้วยังแสร้งทำเป็นขาดทุน!”
ไป๋เซียนเฉ่ารู้สึกง่วงเล็กน้อย เลยตัดสินใจที่จะไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ในเวลานี้ เพราะในใจเธอ ยังมีเวลาอีกไม่กี่เดือน ที่จะได้อยู่กับผู้ชายคนนี้ เรื่องของน้าฟางเธอก็ไม่ถือสาแล้ว จะโวยวายกับผู้หญิงที่แอบช่วยเธอและหลินหยางอยู่ลับหลังทำไมกัน?
จางเยว่แปลกใจมาก ก็ไม่รู้ว่าทำผิดพลาดตรงไหน ถึงได้ปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้แทรกเข้ามา แม้ว่าชาติตระกูลของเธอ ภูมิหลังของเธอ จะมีระดับสูงกว่าตัวเอง แต่ก็ไม่มีเหตุผล ที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หลังจากคิดไปคิดมา เธอก็ง่วงนอนแล้ว พิงบนตัวของหลินหยาง แล้วนอนหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินหยางตื่นเร็วกว่าพวกเธอทั้งสอง ค่อยๆย่องลงจากเตียง ออกรถแลนด์โรเวอร์ไปโยนไว้ให้กับที่ล้างรถ ชำระล้างสิ่งสกปรก จากนั้นก็ไปที่ร้านอาหารเช้า ซื้ออาหารเช้ามาไม่น้อย เมื่อกลับไปถึงเซียนเฉ่าเก๋อ เพิ่งจะแปดโมงเช้าพอดี
ค่อยๆเดินย่อง เปิดประตูเบาๆ ภาพตรงหน้าทำให้เขาตกตะลึง ไป๋เซียนเฉ่าถึงกับขยับเข้าไปแต่งหน้ากับจางเยว่ด้วยกัน ราวกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย!
ในเมื่อพวกเธอทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวเองก็จะไม่พูดอะไร
“สาวๆ ตื่นแล้วเหรอ? ดูสิ อาหารเช้าของหนานเซียงหยวน!”
หลินหยางพูดพร้อมกับถือเสี่ยวหลงเปาไว้ในมือ
ไม่มีใครสนใจเขา หลินหยางโยนอาหารเช้าลงบนโต๊ะอย่างเก้อเขิน ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
“ยังถือว่ามีจิตสำนึกอยู่บ้าง ซื้ออาหารเช้าให้พวกเราด้วย!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดเมื่อเห็นด้านหลังภาพของหลินหยางที่หนีออกไป
“จะฉวยโอกาสอย่างเดียว ไม่ทำงานเลยก็คงไม่ใช่? ก็แค่ซื้ออาหารเช้านิดหน่อยเท่านั้น ปล่อยให้เขาตบตาแบบนี้ไม่ได้!” จางเยว่พูดพลางวาดคิ้วไปด้วย
ไป๋เซียนเฉ่ามือเท้าคางจ้องมองจางเยว่ แล้วพูดว่า “ที่จริงก็แค่ไม่กี่เดือนนี้เท่านั้น คุณอย่าโทษฉันนะ!”
จางเยว่ค่อยๆก้มหน้าลง พูดยิ้มเยาะ “มีโทษหรือไม่โทษที่ไหนกัน เรื่องของความรักความรู้สึก ไม่เคยมีเหตุผลใดๆทั้งนั้น ทั้งคุณและฉันต่างก็ไม่ต้องถอยอะไรทั้งนั้น! ชีวิตตัวเองที่มีความสุขก็พอแล้ว! อีกอย่าง คุณอย่าดูถูกความสามารถของเขา ไม่แน่หลังจากสิ้นปีแล้ว เขาก็จะพาคุณกลับจากยันจิงอีก!
ถึงเวลานั้น ฉันได้จดจำคำพูดของคุณหมดแล้วนะ! คุณอย่าไม่ยอมรับแล้วกัน!”
เมื่อเห็นจางเยว่พูดล้อเล่นกับตัวเองแบบนี้ ในใจของ
ไป๋เซียนเฉ่า จะยังมีความตะขิดตะขวงใจอะไรกัน ทั้งสองคนขยับเข้าใกล้ พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ราวกับว่าเรื่องในเมื่อคืน เหมือนดั่งลมพายุ ที่ถูกพัดหายไปแล้ว
ในตอนเช้า หลินหยางทำงานยุ่งอยู่กับการค้นหาข้อมูลเอกสารเกี่ยวกับการค้าขาย ในห้องทำงานของตัวเอง เตรียมที่จะหาตัวแทนอีกบริษัท ที่มีความน่าเชื่อถือ
สักพักหลินชิงเคาะประตูเดินเข้ามา ถามอย่างลึกลับว่า “เมื่อคืนคุณไปที่ไหนกับประธานไป๋? เช้าวันนี้เธอผิวพรรณเปล่งปลั่งเป็นประกาย ยังพาตำรวจหญิงคนหนึ่งไปเดินช็อปปิ้ง ถึงกับทิ้งเลขาอย่างฉันไว้ที่นี่!”
“โอ้ นั่นเป็นเพื่อนของพวกเราคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่า” หลินหยางนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า
หลินชิงทำหน้ามุ่ยแล้วถามขึ้น “นึกไม่ถึงอะไร?”
“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว กำลังจะหาคุณพอดี ฉันต้องการข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทตัวแทนขายล่าสุด ช่วยฉันหาหน่อย!” หลินหยางพูดขึ้น
เมื่อได้ยินคำสั่งของหลินหยาง หลินชิงก็ต้องตอบตกลงด้วยความเต็มใจอยู่แล้ว
ทางหลินหยาง กำลังยุ่งอยู่กับเรื่องการหาตัวแทนรายใหม่ แต่คิดไม่ถึงว่า นายเหลยหยุนนั่น ได้พาจ้าวกางเถียนเข้ามาหา
จ้าวกางเถียนเคาะประตูห้องทำงานของไป๋เซียนเฉ่าโดยตรงก่อน ไม่มีการตอบรับ เห็นหลินชิงออกมาจากห้องทำงานของหลินหยาง เรียกเธอไว้
“ประธานไป๋ของพวกเธออยู่ที่ไหน?” จ้าวกางเถียนถอดแว่นกันแดดออก มองพิจารณาเธอแล้วสอบถาม
และถาม
“ประธานเหลย ประธานไป๋ออกไปแล้ว คุณมีเรื่องอะไร สามารถไปหาประธานโจวได้!” หลินชิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์
มองหลินชิงเดินสะบัดไป โดยไม่สนใจไยดีพวกเขาเลย จ้าวกางเถียนยิ้มและพูดว่า “เป็นเลขาของไป๋เซียนเฉ่าสินะ? อารมณ์ไม่เบาเลยจริงๆ! เธอไม่อยู่ก็ดีเหมือนกัน ฉันกำลังจะไปพบปะกับไอ้นามสกุลเซียวนั่นเสียหน่อย!”
เหลยหยุนก้มหน้าก้มตัวนำทาง หลินหยางได้ยินบทสนทนาของไอ้สองตัวนี้ตั้งแต่ไกล
เขาไม่ต้องเสียเวลาทักทายเลยด้วยซ้ำ เมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามา ก็พูดอย่างเย็นชา “ประธานเหลย ครั้งนี้คุณมาคุยอะไรอีก? เรื่องบริษัทตัวแทนคงจะต้องล้มเลิกแล้ว
เซียนเฉ่าของบ้านเรา ไม่ชอบร่วมมือกับคนที่หลบๆซ่อนๆ!”
จ้าวกางเถียนสำลักกับประโยคนี้ เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “หลินหยาง ตอนนี้นายเก็บสีหน้าที่ได้ใจของนายจะดีที่สุด ฉันมาในครั้งนี้ ไม่ใช่พูดคุยเรื่องปัญหาตัวแทนอะไรกับนาย! ฉันมาคุยเรื่องการเทคโอเวอร์!”
หลินหยางขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ไป๋เซียนเฉ่านี่ เนื้อหอมกลายเป็นที่หมายปองแล้ว ใครก็อยากจะมากินคำหนึ่ง?
“คุณจ้าว คุณมาคุยเรื่องเทคโอเวอร์กับพวกเรา ในฐานะอะไร? ในขณะนี้ เราไม่รับการเทคโอเวอร์ทุกรูปแบบ” หลินหยางกล่าว
“เกรงว่าคุณไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้!” จ้าวกางเถียนพูดหัวเราะเยาะ
หลินหยางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดว่า “คุณไม่เชื่อ? คุณสามารถสอบถามความคิดเห็นของเซียนเฉ่า
บ้านเราได้!”
จงใจพูดเน้นคำว่า “บ้านเรา” ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น นิสัยของจ้าวกางเถียนไม่ดีนัก แสดงอาการบ้าคลั่งในทันที เขายืนขึ้นมากะทันหัน ชี้ไปที่หลินหยางและตะโกนว่า “ไอ้นามสกุลเซียว นายยังสามารถเชิดหน้าชูตาได้กี่วันเชียว? ข้าจะบอกนายวันนี้เลยว่า หลิวจิ่นได้โอนหุ้นทั้งหมดของบริษัทให้พวกเราแล้ว!
ตอนนี้สัญญาเทคโอเวอร์ ได้เป็นของเราแล้ว นายมีความคิดเห็นอะไรไหม?”
“อ๋อ เป็นแบบนี้เหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันจะต้องแสดงความอวยพรกลับหลิวจิ่นจริงๆ เขาได้โยนทิ้งภาระในมือออกไปแล้ว! ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ ฉันก็ยังสามารถตอบคุณได้อย่างชัดเจน ข้อเสนอการเทคโอเวอร์ฉบับนี้ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ท่าทีของเรา ยังคงปฏิเสธการเทคโอเวอร์!” หลินหยางพูดอย่างใจเย็น
เหลยหยุนรีบกระทืบเท้าขึ้นทันที แล้วตะโกนว่า “หลินหยาง ไว้หน้าให้แล้ว นายอย่าหน้าด้านอีก! นายมายืนเฝ้าที่ตรงนี้ ก็เพื่ออยากจะได้เงินไม่ใช่หรือ? นายพูดมา นายจะเอาเท่าไหร่ หนึ่งล้านหรือสองล้าน?”
จ้าวกางเถียนมองเขาด้วยสายตาเย้ยหยัน ราวกับว่ากำลังรอให้เขาเสนอราคา จากนั้นก็ดูถูกเขาอย่างโหดเหี้ยม
หลินหยางโยนปากกาในมือทิ้ง หยิบสี่คำที่ตัวเองเขียนด้วยความแข็งแกร่งมีพลัง ——สมบัติล้ำค่า
“จ้าวกางเถียน นายรู้ไหมว่า ทำไมนายถึงน่ารำคาญขนาดนี้? เพราะพวกนายชอบตั้งราคาของตัวเองกับสิ่งของต่างๆ จากนั้นก็สามารถนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อย่างงดงามโดยไม่สนใจไยดี นายคิดว่านายเป็นตัวอะไรกัน? มีของบางอย่าง ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน เงินสามารถซื้อผู้หญิงที่สวยแต่รูปจูบไม่หอมจำนวนนับไม่ถ้วน สามารถซื้อคำประจบประแจงล้นฟ้าได้ แต่คุณไม่สามารถซื้อแม้แต่ขนเส้นเดียว จากตัวฉันได้
เพราะคุณไม่มีคุณค่า! คุณไม่คู่ควรที่จะได้ครอบครองบริษัทนี้ คุณไม่คู่ควรที่จะเอาเงินทองของคุณ มาแลกเปลี่ยนกับความรู้สึก ผลิตภัณฑ์ครีมแผลลายนี้ ขายในราคาสูงเสียดฟ้า เพราะสินค้านี้ มีคุณค่ามากจริงๆ ดังนั้นครีมแผลลายมีคุณค่าที่คู่ควร! ฉันว่านายน่าจะไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างคุณค่ากับราคาสินะ! ไอ้นามสกุลจ้าว ไสหัวกลับบ้านไปเรียนหนังสืออีกสักสองสามปีก่อน ค่อยมาเรียกตัวเองว่าข้ากับฉัน!” หลินหยางเยาะเย้ยเสียงดัง
สีหน้าของจ้าวกางเถียน โกรธจนเลือดขึ้นหน้า นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาถูกคนเยาะเย้ยแบบนี้ ดูท่าทางที่หยิ่งผยองของหลินหยาง และนึกถึงท่าทางของไป๋เซียนเฉ่า ที่สนิทสนมกับเขา เขาก็บันดาลโทสะ พุ่งกระโดดเข้าไป จะฉีกไอ้หมอนี่ออกเป็นชิ้นๆ
หลินหยางเห็นว่า จ้าวกางเถียนโกรธแล้ว ขาดสติแล้ว เขาก็รู้ว่าไอ้หมอนี่ล้มเหลวไม่เป็นท่าแล้วจริงๆ ทันทีที่หมัดของจ้าวกางเถียนพุ่งเข้าไป หลินหยางไม่ได้หลบหลีก ใช่กำปั้นของตัวเองต่อยกลับไปอย่างจริงจัง หมัดต่อหมัด กระแทกกันอย่างรุนแรง เสียงดังกร๊อบแกร๊บ จ้าวกางเถียนกรีดร้องสนั่น
เมื่อก่อนเหลยหยุนแค่ได้ยินลูกน้องชายของตัวเองบรรยายว่า หลินหยางจัดการกับคนสิบกว่าคนยังไงบ้าง วันนี้ถือว่าเขาได้เปิดหูเปิดตาแล้ว มือของหลินหยางไม่ได้เป็นอะไรเลย
แต่จ้าวกางเถียน กลับล้มลงกับพื้น กรีดร้องโหยหวน ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ มือของเขาบิดเป็นรูปตัว S แล้ว
เสียงกร๊อบแกร๊บในเมื่อกี้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คือเสียงกระดูกแตกหักของจ้าวกางเถียน ผลของการปะทะกันตัวต่อตัวแบบนี้ โดยทั่วไปคือการสูญเสียทั้งสองฝ่าย แต่ผลที่ที่อยู่ตรงหน้า ก็ได้บอกกับจ้าวกางเถียนว่า หลินหยางเป็นนักฝึกกำลังภายในยอดฝีมือ
หลินหยางเหลือบมอง จ้าวกางเถียน พูดด้วยรอยยิ้ม “ไอ้สภาพอย่างนาย ไม่มีค่าแม้แต่สตางค์แดงเดียว ยังถือเป็นการยกย่องนายด้วยซ้ำ ร่างที่เหม็นเน่าของนายนี้ โยนให้คนเก็บขยะ ยังไม่มีใครเอาเลย!”