ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 196 ศึกนองเลือด
บทที่ 196 ศึกนองเลือด
จางเยว่หยิบปืนยิงออกไป ใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัว ผู้ชายคนนี้ทำให้เธออาลัยอาวรณ์ตลอดเวลา มันช่างเป็นโชคชะตาที่เลวร้ายจริงๆ
เสียงไซเรนของรถตำรวจมาถึงชานเมือง ลมในฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่าน ที่นี่มันช่างเงียบและเหน็บหนาว
เมื่อชักปืนกลับ จางเยว่ฉันเท้าถีบประตูโกดัง ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเธอมันน่ากลัวเกินไป เธอเกือบจะอ้วกออกมา กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่วทุกที่ ขาและแขนที่ขาดวิ่น มีคนคนหนึ่งกำลังใช้มีดต่อสู้อย่างเดือดดาลกับอีกฝ่ายที่ใช้ไม้กระบอง คนที่ถือมีดคือหลินหยาง เขาต่อสู้กับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างดุเดือดเลือดพล่าน
จางเยว่แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นแบบนี้!
มันน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวาน ตอนที่หลินหยางขับรถแลนด์โรเวอร์มีคนสะกดรอยตามอยู่ข้างหลัง เพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นกังวล หลินหยางจึงลาหยุดกับไป๋เซียนเฉ่า เขาจะสะสางกับอีกฝ่ายอย่างดี ดูสิว่าพวกเหลยหยุนจะมีไม้เด็ดอะไร
ตอนแรกหลินหยางไม่ได้สนใจไอ้พวกนั้น แต่เขาพบว่าทักษะการขับรถของอีกฝ่ายดีมาก พวกมันรักษาระยะห่างกับรถของเขาได้เป็นอย่างดี หลินหยางเริ่มมีลางสังหรณ์ หลังจากเขาขับวนถนนรอบเมือง เขากะจะไปเติมน้ำมัน อีกฝ่ายตามเขาเข้ามาในปั๊มน้ำมัน
หลินหยางลงจากรถ ดึงบุหรี่ออกมา จากนั้นจึงหยิบไฟแช็กขึ้นมา เด็กปั๊มรีบห้ามเขาพัลวัน
“คุณผู้ชายครับ ห้ามใช้วัตถุไวไฟที่นี่นะครับ”
“อะไร ฉันแค่จะสูบบุหรี่ แกคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมายุ่งกับฉัน!” หลินหยางจงใจพูดหาเรื่อง
รถBMW ควันขึ้น ชายร่างสูงคล้ำลงจากรถและเดินมาทางนี้ หลินหยางเห็นว่าโอกาสมาถึงแล้ว เขาหยิบเงินขึ้นมาโยนให้เด็กปั๊ม จากนั้นจึงเหยียบเบรกรถออกไปอย่างรวดเร็ว ไอ้หมอนี่รักษาระยะเวลาห่างได้เป็นอย่างดี มันย้อนกลับมาบนถนนอีกครั้ง
บุคคลรูปร่างสูงคล้ำตามมาด้วยสีหน้าหงุดหงิด ครั้งนี้เป้าหมายของเขาหลุดรอดไปแล้ว ไอ้หลินหยางมันเร็วยิ่งนัก!
หลินหยางไม่ได้ขับรถเตร็ดเตร่อีก เขาเตรียมกลับรถ คิดไม่ถึงว่ารถสองคันข้างหน้าจะชะลอลงอย่างรวดเร็ว
นี่มันจะเอาชีวิตกันชัดๆ หลินหยางถูกรถทั้งสองคันขนาบไว้ ในเมื่อไม่สามารถหลุดพ้นจากตรงนี้ได้ ก็เล่นกับพวกมันซะหน่อย เขาปล่อยคันเร่งและเลี้ยวซ้ายอย่างรวดเร็วเพื่อขวางรถสองคันนั้นเอาไว้ แต่ตัวเขาเองก็โดนขวางไว้เช่นกัน รถคันขวาขวางถนนเอาไว้
หลินหยางรีบเปลี่ยนเกียร์และชะลอความเร็ว หลังจากที่เขาเลี่ยงได้ก็พยายามขับรถไปด้านข้าง เมื่ออีกฝ่ายเห็นท่าไม่ดีจึงเอาหัวรถยนต์เข้ามาขวาง
หลินหยางเหยียบคันเร่งโดยไม่กะพริบตา เสียงปังดังขึ้น ด้านข้างของรถทั้งสองคันชนกัน รถแลนด์โรเวอร์กระแทกอีกคันกระเด็น หลินหยางถอนหายใจแล้วเร่งความเร็วขับออกไปทันที
ความน่ากลัวบนถนนเมื่อครู่ ทำให้หลินหยางรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีเส้นตายที่จะเล่นกับชีวิตของเขา ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะอยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต
เมื่อออกจากถนนในเมือง ก็มีรถที่เหมือนกันสี่คันขับตามรถของเขามาติดๆ !
หลินหยางมองรถที่ขับตามหลังเขามาติด เขาตัดสินใจเสี่ยงอีกครั้ง! เขาจอดลงในที่ที่ค่อนข้างห่างจากผู้คน จากนั้นจึงเดินลงจากรถอย่างแน่วแน่
รถทั้งสี่คันล้อมตัวเขาเอาไว้ แต่ละคนเป็นชายร่างกำยำ ไอ้อ้วนที่เป็นหัวหน้าพูดขึ้นมาว่า “แกนี่กล้าขับรถแบบนั้นบนถนนในเมือง ไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหม ดูสิว่าแกจะหนีไปไหนได้อีก!”
“พวกพี่จะทำอะไร ไม่ใช่จะชวนผมไปดื่มชาใช่ไหม” หลินหยางยิ้มแล้วพูดออกมา
ไอ้อ้วนถุยน้ำลายออกมา แล้วด่าว่า “ฝันไปเถอะ ไปกับพวกฉันอย่างว่าง่าย ฉันรับรองว่าจะให้แกเจอกับบทเรียนที่ไม่รู้จบ!”
หลินหยางยกมือทั้งสองคนขึ้นแล้วยิ้มแหยๆ จากนั้นก็เดินตามคนพวกนั้นขึ้นรถ คนพวกนั้นใช้เชือกหนังวัวมัดเขาเอาไว้
ศีรษะโดนคลุมด้วยที่คลุมสีดำ แถมยังโดนต่อยตามตัวอีกด้วย หลินหยางรับตาและรออย่างเงียบๆ รถเคลื่อนที่อยู่นานกว่าจะหยุดลง ที่คลุมศีรษะถูกดึงออก ข้างนอกมืดไปหมด ดูๆ ไปแล้วที่นี่น่าจะเป็นในโรงงานร้างแห่งหนึ่ง กลิ่นเหม็นเน่าลอยคละคลุ้งไปหมด
หนุ่มรูปหล่อเดินออกมามองผมอย่างประเมิน จากนั้นก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ไอ้เด็กน้อย แกนี่แกจริงๆ นะ ถ้าเก่งนักก็โชว์ให้ฉันดูหน่อย แกกล้าทำร้ายพี่ชายฉันจนเป็นแบบนั้น แกนี่มันเหิมเกริมยิ่งนัก!”
ที่แท้ก็คนแซ่จ้าว หลินหยางหัวเราะออกมาเสียงดังจนทำให้คนตรงนั้นประหลาดใจ ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้วหรือไง มีเพียงคนร่างสูงคล้ำที่ยืนขมวดคิ้วแน่น เขาก็คือคนที่โดนทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมัน
“คุณชายสาม ระวังด้วย!” คนร่างสูงคล้ำตะโกนออกมา แต่มันสายไปแล้ว
หลินหยางใช้แรงทั้งหมดกระชากเชือกหนังวัวที่มันตัวเขาอยู่จนขาดสะบั้น เขายกเท้าถีบไปที่อกของหนุ่มหล่อคนนั้น หนุ่มคนนั้นกระเด็นลอยไป
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้คนพวกนั้นพากันอึ้ง ไอ้หมอนี่ทำให้เชือกหนังวัวขาดงั้นเหรอ พูดไปใครจะเชื่อ และที่ไม่อยากจะเชื่อไปกว่านั้นคือหลินหยางถีบคุณชายสามกระเด็นลอยออกไป แรงถีบนั่นทำให้พวกเขาขนหัวลุก!
คนร่างสูงคล้ำตั้งสติได้เร็วที่สุด เขาพุ่งตัวเข้าไปรับตัวของคุณชายสามแล้วกลิ้งลงไปบนพื้น คนร่างสูงคล้ำลุกขึ้นมาเขาไม่เป็นอะไร แต่คุณชายแย่แล้ว หน้าอกของเขายุบลงไป เขาไม่สามารถหายใจเข้าได้อีกแล้ว!
คนร่างสูงคล้ำรีบจับชีพจรของคุณชายสาม และใช้แรงตบหลังของคุณชาย เลือดพุ่งออกมาทางปากของคุณชายสาม คนร่างสูงคล้ำถอนหายใจออกมา เลือดคลั่งโดนเขาตบออกมาแล้ว ถึงจะช่วยชีวิตคุณชายเอาไว้ได้ แต่คุณชายคงต้องนอนเป็นผักไปทั้งชีวิต
หลินหยางขมวดคิ้ว เป็นไปตามว่าคนร่างสูงคล้ำเป็นผู้มีฝีมือ และวิชากำลังภายในก็ไม่ได้ด้อยเลย
“รีบพาคุณชายไปโรงพยาบาลเร็ว!” คนร่างสูงคล้ำตะโกนออกมา
พวกลูกน้องที่กำลังตกตะลึงรีบกุลีกุจอยกคุณชายออกไป คนร่างสูงคล้ำมองหลินหยางด้วยความโมโห หลินหยางยักไหล่แล้วพูดว่า “ขอโทษ ผมน่าจะใช้แรงน้อยกว่านี้สักหน่อย เขาจะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับบาปไง ลงนรกไปทีเดียวเลย!”
“แกมาจากไหน ทำไมถึงมีวิชากำลังภายใน” คนร่างสูงคล้ำเอ่ยขึ้น
หลินหยางยิ้มแหยๆ “ผมไม่ใช่คนมีชื่อเสียงหรอกอะไรหรอก แต่โดนพวกนายจับมา ผมโกรธมาก ไอ้หมอนั่นยังมายั่วโมโหผมอีก ผมเกลียดคนที่มาอวดเก่งต่อหน้าผมที่สุด คำว่าอวดเก่งมันอยู่ในพจนานุกรมของผมคนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้!”
คนร่างสูงคล้ำกำมือจนดังกร๊อบ คนแผดเสียงออกมาว่า “เข้ามาเดี๋ยวนี้ เอาอาวุธเข้ามาด้วย!”
เมื่อลูกน้องได้ยินเช่นนั้นก็รีบเข้ามาล้อมเขาเอาไว้ และดึงคนนั้นออกมา หลินหยางดูก็รู้ว่าคนเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ดีกว่าลูกน้องไม่เอาไหนของเหลยหยุนเยอะ เขาสงสัยว่าพวกมันน่าจะมาจากยันจิง และเป็นพวกกลุ่มอิทธิพลมืด
หลินหยางช้อนตามอง บริเวณรอบๆ เขามีประมาณยี่สิบกว่าคน แต่ละคนมีอาวุธติดมือ เขาปิดตาลง เจินชี่พุ่งขึ้นมา มือเขาเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“ยืนอึ้งอะไรอยู่อีก เข้าไปจัดการมันสิ” คนร่างสูงคล้ำตะโกนออกมา
ช่างเลวทรามจริงๆ ไอ้หมอนั่นมันส่งลูกน้องมาตายก่อน ไอ้พวกนี้ก็พุ่งเข้ามากันอย่างเชื่อฟัง
หลินหยางทำสมาธิอยู่สิบนาที เขาอาศัยความรู้สึกและการได้ยินระบุตำแหน่งของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ ขณะเดียวกันเขาก็ตอบโต้กลับ ขณะที่มีดปอกแตงโมพุ่งเข้ามาตรงหน้าเขา หลินหยางรีบแย่งมีดนั่นมา จากนั้นจึงฟันกลับไป
เสียงโอ๊ยดังขึ้น เขาใช้มีดอย่างรวดเร็ว หลินหยางตอบโต้กลับอย่างไร้ความปรานี เมื่อเจอกับพวกที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี หลินหยางจึงไม่ได้ออมแรง เจินชี่ของพลังมังกรและหงส์ระดับสองพลุ่งพล่านขึ้นมา
นักสู้ยี่สิบกว่าคนของกลุ่มอิทธิพลมือยันจิงลงไปนอนกองอยู่บนพื้นในเวลาไม่ถึงนาที บนตัวของหลินหยางเต็มไปด้วยคราบแดง มันน่าตกใจเป็นอย่างมาก
คนร่างสูงคล้ำสีหน้าไม่สู้ดี นี่เป็นนักสู้ที่เขาปั้นออกมาด้วยความยากลำบาก แค่ครั้งเดียวก็ทำล้มพับกันหมด พวกนั้นไม่แขนหักก็ขาหัก หลินหยางตอบโต้กลับอย่างรุนแรง และไม่ยืดเยื้อ ตอนนี้คนร่างสูงคล้ำไม่เสียใจแล้ว เพราะเขารู้ถึงวิธีการต่อสู้ของหลินหยางแล้ว
ไอ้หมอนี่ทำให้ลูกน้องของเขาตาย แต่เขาก็ได้ประโยชน์จากตรงนี้ หลินหยางมองออกเช่นกัน แต่เขาไม่ได้กังวล แค่อีกฝ่ายเป็นคนธรรมดา เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องกลัว!
คนร่างสูงคล้ำถอดสูทออก เผยให้เห็นร่างกายกำยำ จากนั้นมันก็หยิบกระบองเหล็กที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
“แกนี่เก่งนะ คิดไม่ถึงว่าจะเจอคนมีฝีมือในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองเจียงหลิง ฉันดีใจมากเลยล่ะ แต่น่าเสียดายที่แกจะต้องจบชีวิตลงวันนี้!” คนร่างสูงคล้ำแสยะยิ้ม
หลินหยางส่งเสียงถุยออกมา “อย่ามาอวดเก่ง กล้าก็เข้ามาเลย”
คนร่างสูงคล้ำ เอากระบองเหล็กฟาดไปมาในอากาศ หลินหยางยกมีดขึ้นมา เสียงสู้กันดังขึ้น ทั้งสองก็ถอยหลังไป หลินหยางตกใจ ซวยแล้ว มีดที่อยู่ในมือไม่เหมาะที่จะต่อสู้กับมัน
กระบองเหล็กของคนร่างสูงคล้ำขยับอย่างรวดเร็วและดุดัน หลินหยางยิ่งเสียเปรียบ เขาเริ่มเจ็บฝ่ามือ
หลินหยางคิดว่าจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ หลังจากที่เขาหลบการจู่โจมของอีกฝ่าย เขากระโดดถอยหลังแล้วฟันลงไปที่ฝ่ายตรงข้าม หลินหยางเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายบุกบ้าง คนร่างสูงคล้ำตกใจเล็กน้อย หลังจากที่มันใช้กระบองเหล็กขวางไว้ และใช้ขาเตะออกไป
หลินหยางคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนวิธีการต่อสู้ได้รวดเร็วขนาดนี้ ประสบการณ์ของอีกฝ่ายทำให้เขาเสียเปรียบ การเตะทำให้หลินหยางล้มลงไป เสียงกร๊อบเหมือนกระดูกซี่โครงหัก
หลินหยางกัดฟันลุกขึ้นมา แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นผู้มีฝีมือด้านการต่อสู้นิ น้อมรับคำสอน!”
คนร่างสูงคล้ำยกกระบองเหล็กเดินเข้ามา หลินหยางถูกกดดันจนถอยกรูด อีกฝ่ายเห็นว่าตัวเองชนะแล้ว จึงไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของหลินหยาง อีกฝ่ายเอากระบองเหล็กตีลงมา เจินชี่ของหลินหยางแผ่ออกมา เขาดันกระบองเหล็กของอีกฝ่ายกลับไป
อีกฝ่ายกระอักเลือดออกมา เขาบาดเจ็บแล้ว!
“ไอ้เด็กน้อย แกนี่เก่งจริงๆ เลยนะ ทำตัวอ่อนแอใส่ฉันแล้วตอบโต้กลับ เก่งจริงๆ!” อีกฝ่ายเบิกตาโตแล้วพูดอย่างโมโห
หลินหยางเช็ดมุมปาก เขาเลือดออกเหมือนกัน เขาส่ายหน้า ยิ้มและพูดออกมาว่า “ไม่เก่งขนาดนั้นหรอก แต่ตอนนี้นายก็ลงไปนอนกับพื้นแล้ว วันนี้ไม่นายก็ฉันต้องตายกันไปข้าง!”
อีกฝ่ายแผดเสียงออกมา และพุ่งเข้ามาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้มีแรงเหมือนตอนแรก ทั้งสองต่อสู้กันด้วยความสามารถ ใช้เจินชี่จนถึงขั้นสุดยอด
ทั้งสองต่อสู้กันหนึ่งชั่วโมงเต็ม ไม่รู้ว่าใครแพ้ใครชนะ ทั้งคู่บาดเจ็บและมีแผลเต็มตัว สภาพน่าสังเวชเป็นอย่างมาก
คนหนึ่งถือมีด ส่วนอีกคนถือกระบองเหล็ก ใกล้จะหมดแรงกันแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ไม่มีใครยอมใคร ต่อสู้กันจนกระทั่งจางเยว่ถีบประตูเข้ามา
จางเยว่ยกปืนจ่อไปที่หัวของคนร่างสูงคล้ำ อีกฝ่ายถอนหายใจ และวางกระบองเหล็กลง เขาดวงซวยจริงๆ
“หลินหยาง นายมาเป็นอะไรใช่ไหม” จางเยว่เอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“วางใจเถอะ ผมยังไม่ตาย ดูไอ้นี่ไว้ให้ดี มันไม่ใช่คนธรรมดา!” หลินหยางพูดจบก็เป็นลมล้มลงไป