ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 267 การรักษา
หลินหยางยื่นนิ้วก้อยตัวเองออกมา และครั้งนี้ส้งซูยี่จะไม่หลงกล ส่ายตัวไปไม่มองเขา
หลินหยางเกาหัวยิกๆ จากนั้นก็พูดประจบว่า “เอาล่ะ เด็กดีต้องเชื่อฟัง ไม่อย่างนั้นสิ่งที่ฉันพูดไปจะเป็นโมฆะนะ!”
หลังจากเล่นลูกไม้ออกมา ส้งซูยี่จึงค่อยยื่นนิ้วก้อยตัวเองออกมาแล้วเกี่ยว
“เด็กดี เราไปกันเถอะ ต้องส่งหนูกลับไปรักษาแล้วนะ!” หลินหยางดีดนิ้วพูด
หลังจากหลอกไอ้เด็กซุกซนนี้อย่างยากลำบากได้แล้ว เขาก็ส่งเธอกลับไปที่เซียนเฉ่าเก๋อ แต่หลินหยางกลับได้รับข่าวร้ายว่า ฉีเยนเอ๋อร์ผู้ซึ่งคอยเพิ่มเติมความรู้หลังจากการท่องเที่ยวก็ตกอยู่ในอาการโคม่าอีกครั้ง และร่างกายของคุณหนูคนนี้ก็อ่อนแอเกินไป
ฉีหวนโทรหาหลินหยาง โดยให้เขารีบไปที่นั่นโดยเร็ว
ดังนั้นเขาจึงรีบไปอย่างเร่งด่วนทันที ซึ่งในขณะนี้คุณหนูที่สวยหยาดเยิ้มคนนี้ก็หน้าซีด และหมดสติไปแล้ว
“หลินหยาง สาวน้อยคนนี้อยู่ในอาการโคม่ามาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว ตอนแรกฉันคิดว่าเธอขี้เกียจและยังอยากนอนอยู่ แต่พอเพื่อนร่วมชั้นของเธอมาหาคิดไม่ถึงเลยว่าเธอก็ยังไม่ตื่น” คุณปู่ฉีพูดด้วยความกังวล
หลินหยางเหลือบมองไปยังหญิงสาวที่รู้สึกอึดอัดไปแวบหนึ่ง ซึ่งเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉีเยนเอ๋อร์ที่มีชื่อว่าซินเสี่ยวลื่อ หญิงสาวไว้ผมหน้าม้า ดวงตากลมโตของเธอนั้นสวยมาก แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้เธอกำลังเศร้าสลด เธอเข้าไปในห้องส่วนตัวของฉีเยนเอ๋อร์ เธอร้องเรียกมาทั้งเช้าแล้วฉีเยนเอ๋อร์ก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อเลย
หลินหยางพูดปลอบโยนว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมจะช่วยดูเธอให้ ว่าที่จริงเธอเป็นอะไรกันแน่”
หลินหยางลูบหัวของฉีเยนเอ๋อร์เบาๆ หัวของเธอร้อน ส่อให้เห็นว่ามีไข้ เขาจับชีพจร ก็เหมือนว่าชีพจรก็คงที่ แต่อาการโคม่านี้มันคืออะไรกัน?
เขาเปิดเปลือกตาของฉีเยนเอ๋อร์เบาๆ รูม่านตาภายใต้แสงไฟหดตัวลงเล็กน้อย แต่โชคดีที่ปัญหายังไม่ได้ใหญ่มาก
หลินหยางหันหน้ากลับมาพูดว่า “งั้นเอาอย่างนี้ ให้ผมลองฝังเข็มให้!”
“ได้ครับ หลินหยาง งั้นฝากสาวน้อยคนนี้ด้วยนะ!” ฉีหวนพูดจบก็ออกไป
ซินเสี่ยวลื่อโน้มตัวเข้าใกล้พร้อมกับพูดอย่างเสียงเบาว่า “คุณเป็นแฟนของเยนเอ๋อร์ ที่ชื่อว่าหลินหยางใช่ไหม? ฉันสามารถอยู่ช่วยคุณได้ไหม?”
หญิงสาวถูมุมเสื้อตัวเองเหมือนกับกำลังประหม่าเล็กน้อย ราวกับว่าอาการโคม่าของฉีเยนเอ๋อร์นั้นเป็นเพราะเธอ
“ได้ครับ งั้นคุณช่วยกดข้อเท้าของเยนเอ๋อร์หน่อยนะ เธออาจชักหลังจากได้รับการกระตุ้นของร่างกาย” หลินหยางพูดเตือน
ซินเสี่ยวลื่อพยักหน้า พร้อมกับนั่งลงที่ปลายเตียงและกดข้อเท้าของฉีเยนเอ๋อร์ตามที่หลินหยางสั่ง
หลินหยางปลดกระดุมเสื้อของฉีเยนเอ๋อร์อย่างช้าๆ โดยไม่แตะต้องร่างกายของเธอเลย ซินเสี่ยวลื่อดูจนตกตะลึงตาค้าง เธอคิดว่าต่อให้ผู้ชายคนนี้จะกังวลยังไงมันก็ยังไม่ใช่เวลาแบบนี้? นอกจากนี้เธอยังอยู่ข้างๆอีกด้วย เป็นไปได้ว่าเขายังอยากเล่นอะไรที่มันตื่นเต้นเร้าใจ?
มือทั้งสองข้างของหลินหยางกำลังเตรียมการอย่างเต็มที่ จากนั้นก็คลำไปตามร่างกายของฉีเยนเอ๋อร์ และเขาก็ไม่ได้ถือโอกาสนี้เอาเปรียบเธอ แต่แค่กระตุ้นร่างกายเธอเท่านั้น
ในที่สุดร่างกายของฉีเยนเอ๋อร์ก็เริ่มสั่น และเริ่มชมพูขึ้นเล็กน้อย ซินเสี่ยวลื่อถึงได้เข้าใจขึ้นมา คนอื่นเขากำลังรักษาอยู่นี่นา เธอคิดเลอะเทอะไปหมดแล้ว
หลินหยางดึงเข็มเพื่อระบุจุดฝังเข็ม จากนั้นก็ค่อยๆ ปักเข้าไป หลินหยางเหมือนขมวดคิ้วเข้าหากัน ซึ่งในตอนนี้เขากำลังพยายามกระตุ้นฉีเยนเอ๋อร์ผ่านการรักษาที่คล้ายกับส้งซูยี่ เป้าหมายก็เพื่อฟื้นคืนความรู้สึกตัวของตัวเธอ
แต่หลินหยางก็พบว่าร่างกายของฉีเยนเอ๋อร์ที่นอกจากปฏิกิริยาตอบสนองของระบบประสาท แล้ว ไม่มีคลื่นใดๆในจิตสำนึกเลย สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกกังวล เขาเงยหน้าขึ้นและถามว่า “คุณเห็นเยนเอ๋อร์เป็นแบบนี้เมื่อไหร่แล้ว?”
“เมื่อเช้านี้ คุณปู่ของเธอบอกว่าเธอนอนอยู่บนเตียงมาทั้งวันแล้ว! หลังจากที่เธอกลับมาจากการท่องเที่ยวก่อนหน้านี้ เธอก็สะลึมสะลือ และช่วงนี้เธอมักจะลืมเรื่องต่างๆอยู่บ่อยๆ” ซินเสี่ยวลื่อพูด
หลินหยางตกอยู่ในห้วงความครุ่นคิด ตั้งแต่ที่เขารักษาร่างกายของฉีเยนเอ๋อร์แล้ว เธอก็ค่อยๆฟื้นตัวได้ดีมากขึ้น แต่อาการโคม่าในตอนนี้มันจะน่าแปลกเกินไปแล้ว
“เยนเอ๋อร์ ตอนนี้คุณได้ยินผมไหม? คุณรู้สึกถึงแรงกระตุ้นแล้วใช่ไหม? ถ้าคุณไม่สามารถแสดงออกมาได้ คุณสามารถบอกผมจากการเต้นของหัวใจคุณได้นะ!” หลินหยางกระซิบที่ข้างหูของเธอ
นิ้วมือวางอยู่บนชีพจรของเธอ ในที่สุด การเต้นของหัวใจฉีเยนเอ๋อร์ก็มีคลื่น!
หลินหยางดีใจ ถือว่านี่ยังมีร่องรอย เธอได้ยินเสียงจากภายนอกแล้ว แค่เธอยังไม่สามารถฟื้นได้ในขณะนี้เท่านั้นเอง
“เจ้าเด็กงี่เง่าเอ๊ย คุณต้องได้รับการกระตุ้นแล้วแน่ ผมจะต้องช่วยคุณให้ฟื้นได้อย่างแน่นอน!” หลินหยางพูดอย่างหนักแน่น
หลินหยางคุยกับฉีเยนเอ๋อร์ต่อ เขาเริ่มพูดถึงการรู้จักของคนสองคน ตั้งแต่ขั้นตอนการรักษาที่มีเสน่ห์ไปจนถึงอารมณ์อันเร่าร้อนของคนสองคนในสระว่ายน้ำเขาเล่าออกมาทั้งหมดเลย โดยเป้าหมายของเขาคือกระตุ้นจิตใจของฉีเยนเอ๋อร์ ให้เธอสามารถฟื้นคืนการควบคุมร่างกายของตัวเองได้
ซินเสี่ยวลื่อมองไปที่หลินหยางอย่างโง่เขลา ไอ้หมอแปลกประหลาดคนนี้ระบายความในใจข้างหูของฉีเยนเอ๋อร์ ในฐานะผู้ยืนดูคนเดียวที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกอิจฉาฉีเยนเอ๋อร์ และในฐานะเพื่อนร่วมชั้น ประสบการณ์ชีวิตและรูปลักษณ์ของฉีเยนเอ๋อร์ก็เพียงพอที่จะบดขยี้ทุกคนอยู่แล้ว แต่ซินเสี่ยวลื่อก็มีความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองเช่นกัน แค่มีความแตกต่างกับฉีเยนเอ๋อร์ในแง่อื่นๆเท่านั้น
เมื่อเห็นฉีเยนเอ๋อร์ที่มีชายผู้ซึ่งน่าหลงใหลขนาดนี้อีก ในใจเธอก็มีการเปรียบเทียบขึ้นมาทันที
ซินเสี่ยวลื่อพูดด้วยความอิจฉาว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าพวกคุณทั้งสองจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายขนาดนี้ คุณให้การรักษาเธอก็ล้วนต้องให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกันอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ?”
“ใช่ครับ ผมต้องการให้ร่างกายของเธอสัมผัสกับบรรยากาศการรักษาของผม!” หลินหยางพูดอธิบาย
“บรรยากาศการรักษาเหรอคะ? มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?” ซินเสี่ยวลื่อถามด้วยความประหลาดใจ
หลินหยางพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า “ไม่นานคุณก็จะรู้เอง แต่ผมจะต้องล้างไขกระดูกให้เธอ!”
การล้างไขกระดูกเป็นวิธีการขั้นสูงที่สุดของเจินชี่ และนี่ก็เป็นการทดลองครั้งแรกของหลินหยาง ซึ่งในตอนนี้ระดับความสามารถของหลินหยางก็เก่งกว่าเมื่อก่อนขึ้นมาก แต่เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขาจะสามารถประสบความสำเร็จได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
การล้างไขกระดูกเป็นการช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยได้รับการชำระล้าง และช่วยทำให้หลุดพ้นจากฝันร้าย ความเสื่อมเปลี่ยนและอาการของโรคอื่นๆ โดยต้องอาศัยประสบการณ์ที่ลึกซึ้งในการแพทย์แผนจีน และมีความรู้เกี่ยวกับร่างกายของผู้ป่วยเป็นอย่างดี
หลินหยางนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง หายใจเข้าลึก ๆไปสองสามครั้ง และรวบรวมกำลังภายในของเขา จากนั้นก็กระโดดขึ้นทันที มือทั้งสองข้างของเขากดลงที่ศีรษะของฉีเยนเอ๋อร์อย่างหนาแน่น
เพราะศีรษะของมนุษย์เป็นศูนย์รวมของเส้นประสาท ที่โลดแล่นที่สุด หลินหยางจึงเริ่มลงมือที่กระดูกแข็งนี้ก่อน และเจินชี่ที่ทรงพลังก็พุ่งเข้ามาในหัวของฉีเยนเอ๋อร์
ซินเสี่ยวลื่อตกตะลึง ขั้นตอนการรักษาแบบนี้เธอเคยเห็นจากไหนกันล่ะ เข็มที่มากมายและหนาแน่นนั้นเมื่อดูแล้วช่างชวนให้คนหวาดกลัว แต่ร่างกายของฉีเยนเอ๋อร์กลับให้ผลตอบรับที่ดีอย่างชัดเจน
“กดเธอไว้!” หลินหยางตะโกน
ซินเสี่ยวลื่อออกแรงจับขาทั้งสองข้างของเธอไว้ทันที และฉีเยนเอ๋อร์ก็ดูเหมือนจะโดนฟ้าผ่า จนชักอย่างรุนแรง
หลินหยางไม่ได้หยุดลงเลย เขารู้ว่าเขาต้องโหมทำรวดเดียว เพื่อให้ร่างกายของเธอฟื้นคืนจิตสำนึกโดยเร็วที่สุด
ฉีเยนเอ๋อร์ร้อนไปทั้งตัว ร่างกายของเธอก็ชื้นแฉะ และเหงื่อก็ออกมาอย่างมาก ภายใต้ความสับสนวุ่นวาย ฉีเยนเอ๋อร์ตะโกนออกมาคำหนึ่ง “ฉันต้องการ!”
หลินหยางตกใจ เขาเข้าไปใกล้ที่ศีรษะเธอเพื่อฟังอย่างระมัดระวัง แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาอื่นใดอีกเลย
นี่มันเรื่องอะไรกัน? เธอต้องการ? ต้องการอะไร? หลินหยางสับสน ซินเสี่ยวลื่อไม่สามารถยืนดูได้อีกต่อไป เธอพึมพำว่า “ไม่ใช่ว่าเธอต้องการให้คุณทำอย่างนั้นกับเธอเหรอ?”
เพียงคำเดียวหลินหยางก็ตื่นขึ้น เขาอุ้มแต่สติปัญญาของการรักษาโรค จนเกือบลืมส่วนที่สำคัญที่สุดระหว่างคนสองคนเลย
หลินหยางรีบปลดเสื้อผ้าของเขาออกทันที พร้อมกับกอดฉีเยนเอ๋อร์ไว้แน่นและพูดว่า “ที่รัก ผมจะให้มันกับคุณ!”
เขาใจร้อนเกินไป หลินหยางยังจำได้ว่าข้างหลังเขายังมีผู้ติดตามคนหนึ่ง จากนั้นใบหน้าเดิมของเขาก็แดงขึ้น คุณ…จะออกไปไหม?”
ซินเสี่ยวลื่อเขินอาย และพูดอย่างเร่งรีบว่า “ทำไมต้องออกไปล่ะ นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกของพวกคุณทั้งสองแล้วนะ!”
หลินหยางขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบาย ในวินาทีนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการฟื้นขึ้นมาของฉีเยนเอ๋อร์แล้ว! เขาลูบไล้ร่างกายของฉีเยนเอ๋อร์เบาๆ เหมือนกับตอนที่พวกเขาทั้งสองกำลังใกล้ชิดกันในอดีต
หน้าอกที่อวบอึ๋มนี้ และหัวนมสีแดงที่สวยสดงดงาม 2 ข้างนั้น หลินหยางไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว เขาโคตรคิดถึงพวกมันเลย เขาก้มหน้าลงและกัดหัวนมไปข้างหนึ่ง และมืออีกข้างของเขาก็ไม่ได้ปล่อยหัวนมอีกข้างไว้เลย ดังนั้นเขาจึงค่อยๆนวดมันอย่างช้าๆ
ปฏิกิริยาของฉีเยนเอ๋อร์นั้นยิ่งแรงมาก แม้ว่าเธอจะอยู่ในอาการโคม่าที่รุนแรง แต่สัมผัสทั้งหกของเธอก็ยังชัดเจน หลินหยางยังคงกระตุ้นบทหลงเฟิ่งเจว๋ โดยไม่คำนึงถึงต้นทุนที่ได้ลงทุนเข้าไป
หลินหยางในตอนนี้เชี่ยวชาญมาก เขารู้ว่าต้องยั่วผู้หญิงคนหนึ่งยังไง เขาทุ่มเททั้งใจให้กับมันแต่กลับมองข้ามผู้หญิงที่อยู่ข้างๆไปโดยสิ้นเชิง
เดิมทีซินเสี่ยวลื่อก็รู้สึกอายอยู่บ้าง แต่เธอก็อดทนทำในสิ่งที่ยากต่อไป เพราะเธออยากดูว่าพวกเขาทั้งสองใกล้ชิดกันยังไง และเธอยังอยากรู้ด้วยว่าคุณหนูที่ดังเกริกก้องคนนี้มีความสุขภายใต้ผู้ชายคนนี้ยังไง แม้ว่าเธอจะดูหนังประเภทนั้นบ้างในบางครั้ง แต่ก็ไม่เคยน่าชมเท่าฉากตรงหน้านี้เลย
มีดและปืนของจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือหลินหยางควักองคชาตที่แข็งนั้นออกมา ขนาดที่ทำให้ซินเสี่ยวลื่อหัวเราะอย่างหนักจนไม่สามารถเงียบปากได้ ฉีเยนเอ๋อร์เคยอธิบายถึงไอ้ของชิ้นนี้กับเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ หากตามที่เธอเคยพูดนั้นแล้ว ในโลกนี้มันคงไม่มีอะไรที่จะน่ารักและน่าดึงดูดใจไปกว่าสิ่งที่มีเสน่ห์สิ่งนี้อีกแล้ว
ผู้หญิงทุกคนต่างก็ปรารถนาการโดนผู้ชายทำให้ชุ่มชื้น และซินเสี่ยวลื่อเองก็ไม่เว้น เมื่อเห็นหลินหยางควักองคชาตเข้าไปหัวใจของเธอก็ยิ่งทรมานเข้าไปอีก ในวินาทีนี้เธอทนไม่ไหวจนอยากจะขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงแทนฉีเยนเอ๋อร์ที่หมดสติไปแล้วนั้น เพราะเธออยากรู้ว่าถ้ายอดของสิ่งนั้นดันเข้ามามันจะยอดเยี่ยมเหมือนอย่างที่ฉีเยนเอ่อร์พูดหรือเปล่า!
ตรงหน้า หลินหยางเริ่มกระตุ้น เขาขยับไปด้วย พร้อมกับตะโกนด้วยว่า “ที่รัก รีบฟื้นได้แล้ว ฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวผมจะพาคุณบิน!”
ใช่แล้ว จะบินได้อย่างแน่นอน! ซินเสี่ยวลื่อลูบไล้หน้าอกของตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังจะพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ เธอเอื้อมมือไปลูบ และมันก็เปียกจริงๆด้วย!
และด้านล่างของฉีเยนเอ๋อร์ก็ชุ่มฉ่ำมากขึ้น ซึ่งทำให้หลินหยางกระแทกเข้าไปได้ง่ายโดยไม่ลังเล แม้ว่าตอนนี้ฉีเยนเอ๋อร์จะอยู่ตกในอาการนอนหลับอย่างไม่รู้สึกตัว แต่เธอก็สามารถสัมผัสได้ว่าคนรักของเธอกำลังทำให้เธอชุ่มชื่น และร่างกายของเธอก็สั่นไหวตามจังหวะ
“ที่รัก คุณรีบฟื้นเร็วเข้า ผมรู้สึกได้ว่าคุณกำลังดูดผมเข้าไปข้างใน!” หลินหยางหอบพร้อมกับพูดไปอย่างนั้น
และในขณะนั้นเองหลินหยางก็ได้ลืมสภาพที่แสดงออกของเขา แต่ยังไงเขาก็แค่ไม่อยากหยุดการกระตุ้น เพื่อให้ฉีเยนเอ๋อร์ฟื้นคืนจิตใจเท่านั้น
ในที่สุดความพยายามของหลินหยางก็ได้ผล และฉีเยนเอ๋อร์เริ่มพูดเพ้อเจ้อขึ้นมา แม้ว่าจะเป็นเพียงการพูดพล่ามโดยไม่รู้ตัว แต่มันก็แสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ว่าได้ผลแล้ว!
สิ่งนี้ทำให้ความมั่นใจของหลินหยางเพิ่มมากขึ้น และการเคลื่อนไหวของเขาก็ยิ่งแรงขึ้น ราวกับฝูงม้าป่าที่วิ่งห้อเข้ามา และควบม้าบนร่างกายของฉีเยนเอ๋อร์
ในขณะนั้นซินเสี่ยวลื่อก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอถอดเสื้อของตัวเองออก พร้อมกับปีนขึ้นมาและแนบที่หลังของหลินหยางอย่างแน่น พร้อมกับออกแรงโอบกอดเขา
“ฉันก็ต้องการเหมือนกัน!” หญิงสาวพูดด้วยท่าทางตาพร่ามัว