ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่ 274 เปิดโรงพยาบาลแผนจีน
ส้งเจียวไม่เข้าใจว่าตัวเองนั้นเป็นอะไรกันแน่ การเป็นโสดหลายปีมานี้ มีผู้ชายมากมายเปลี่ยนวิธีการมาตามใจตัวเอง ตัวเองนั้นตั้งแต่เริ่มจนจบก็ไม่เคยจะรู้สึกหวั่นไหว
แต่ว่าเมื่อคืน จับพลัดจับผลูยอมรับความละมุนละไมของชายหนุ่มที่ชื่อว่าหลินหยาง และตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคือสำหรับเขาแล้วก่อเกิดความไม่สงบที่ไม่อาจควบคุมได้
โน้มกายเข้ามาในอ้อมกอดของหลินหยาง ส้งเจียวรู้สึกได้ถึงความรู้สึกปลอดภัยที่ไม่อยากจะจากไปได้ เหมือนกับว่าหน้าอกของหลินหยางนั้นเป็นท่าเรือที่ปลอดภัย ทำให้เธออยากจะจอดเทียบท่า
ส้งเจียวรู้ดีว่าความคิดของตัวเองนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก แต่ว่าตัวเองก็อดไม่ได้
หลินหยางนั้นไม่ได้คิดอะไรมากมาย ยิ้มและพูดออกมา “พี่เจียว ยังต้องการอีกไหม?”
ผู้หญิงไม่น้อยเลยที่ประเมินหลินหยางเป็นสัตว์ดุร้าย ที่จริงแล้วก็ไม่ได้แย่เลย เพราะว่าหลินหยางตั้งแต่เริ่มฝึกพลังมังกรและหงส์ในวัยเด็ก ก็มีเรื่องชายหญิงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เปรียบเหมือนสัจธรรมที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดแล้ว พอความรู้สึกมาแล้ว เขาโดยทั่วไปก็ไม่อาจที่จะบังคับตัวเองกดเอาไว้ได้
แต่ว่าส้งเจียวนั้นเพราะว่าคำพูดนี้ของเขา มีสติขึ้นมาอย่างรุนแรง ใช้กำลังผลักออกจากอ้อมกอดของเขา เหมือนกับจะอยากหนีเตลิดไป
ตอนที่ส้งเจียวพยายามฟื้นฟูภาพลักษณ์ของเถ้าแก่บริษัทใหญ่ให้กลับมาเป็นปกติ ลักษณะแบบน่าเกรงขามและเยือกเย็น “หลินหยาง จากนี้ไปพวกเราดีที่สุดควรจะรักษาระยะห่าง”
หลินหยางตกตะลึง “พี่เจียว เหมือนว่าจะเป็นคุณที่เรียกให้ฉันมาหานะ”
ส้งเจียวเขินมาก อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสนขึ้นมา กัดฟันพูด “ฉันอยากจะคุยกับคุณเรื่องการรักษาอาการป่วยให้กับลูกสาวของฉัน ไม่ใช่ให้คุณให้คุณทำกับฉันแบบ……”
หลินหยางได้ยินคำพูดนั้น หัวเราะไม่มีเสียง ถึงแม้ว่าเขานั้นส้งเจียวกระเหี้ยนกระหือรืออย่างรวดเร็วแล้ว แต่ว่าส้งเจียวนั้นเป็นคนเริ่มหยุดก่อน เขาเองก็ไม่สามารถที่จะบีบบังคับ
พยักหน้า หลินหยางพูด “พี่เจียวมีอะไรอยากจะถามหรือเปล่า?”
ส้งเจียวพูด “ฉันอยากรู้ว่าเมื่อไหร่ลูกสาวของฉันถึงจะกลับมามีสติปัญญาเหมือนคนปกติ?”
หลินหยางครุ่นคิด พูดออกมา “หลังจากเริ่มทำการรักษา นอนไปก็เรียบร้อยแล้ว”
“ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
หลินหยางยิ้มตอบ “พี่เจียวยังไม่เชื่อฝีมือแพทย์ของฉันเหรอ?”
ส้งเจียวพูด “แต่ว่าหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”
หลินหยางยักไหล่ ส่งยิ้มอย่างมั่นใจให้ส้งเจียว ไม่ได้พูดอะไรมาก
เรื่องการรักษาเสี่ยวชัยหง หลินหยางได้กำหนดวันไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่รอไปอีกไม่กี่วัน พลังมังกรและหงส์ของตัวเองจะอยู่ในขั้นต้นระดับสองโดยสมบูรณ์ได้นั้นก็ต้องเสถียรและมั่นคงก่อน ถึงจะสามารถลงมือทำได้ ก็จะไม่ถือว่ายากเกินไป
“หลินหยาง คุณใกล้จะจบแล้วใช่ไหม? ตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อ?”ส้งเจียวเงียบไปสักพัก ก็ถามขึ้นมา
หลินหยางลูบจมูก ตอบอย่างซื่อตรง “ยังไม่ได้คิดเลย”
ดูแล้วว่าวันที่จะต้องไปจากโรงเรียนนั้นไม่ไกลแล้ว ในมือของหลินหยางถึงแม้ว่าจะมีทางเลือกอยู่หลายทาง แต่ว่ายังไม่มีเวลาคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ว่าตัวเองอยากจะเดินไปในทางไหน
ถ้าอยากจะเป็นหมอ โรงพยาบาลสูตินรีเวชนั้น คงจะรีบรับเขาได้ตำแหน่งหัวหน้าเฉพาะทางแน่ๆ และถ้าจะทำธุรกิจ ร่วมทุนกับไป๋เซียนเฉ่าเปิดบริษัททำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง คงจะรับเขาไว้อยู่ที่สำนักงานเกรดสูง
แต่ว่า หลินหยางรู้สึกว่า พวกนี้ยังไม่ใช่งานที่ตัวเองอยากเข้าร่วมทำมากที่สุด ดังนั้นก็เลยไม่เคยสนใจมาก่อน
ตอนนี้ส้งเจียวยกหัวข้อนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะให้หลินหยางเริ่มคิดไตร่ตรอง
“ถ้าหากว่าสนใจ คุณสามารถมาทำงานที่บริษัทของฉันได้นะ ตำแหน่งอะไรฉันสามารถจัดให้ได้ ยุติธรรมกับคุณแน่นอน”ส้งเจียวพูด
หลินหยางยิ้มแล้วพูด “พี่เจียว บริษัทของพวกคุณกับเซียนเฉ่าเซวียนนั้นเป็นคู่แข่งกัน เซียนเฉ่าเซวียนยังมีฉันเป็นหุ้นส่วนทั่วไป คุณจะมาโค่นล้มแบบนี้ จะกล้าหาญเกินไปแล้วหรือเปล่า?”
ส้งเจียวพูดอย่างเน้นย้ำ “คุณอยู่ที่เซียนเฉ่าเซวียนเองก็เป็นแค่หุ้นส่วนที่ไม่มีอำนาจอย่างแท้จริงเท่านั้นเอง ให้ไป๋เซียนเฉ่าช่วยคุณทำกำไรก็ได้แล้ว แต่ว่ามาที่ของฉันที่นั่น ฉันรับประกันว่าคุณสามารถเพิ่มศักยภาพให้กับแขนขา บรรลุเป้าหมาย”
คุณเป็นผู้ชาย นอกจากเงินแล้ว ก็ยังมีอย่างอื่นให้แสวงหาอยู่อีกใช่ไหม?”
คำพูดนี้กระตุ้นหัวใจของหลินหยาง สิ่งที่ตัวเองแสวงหานั้นแท้ที่จริงแล้วคืออะไรกัน?
คิดไปคิดมา ในใจของหลินหยางก็มีความคิดเลือนรางออกมา แต่ว่าไม่ได้คิดว่าจะต้องบอกส้งเจียว เพียงพูดออกไปว่า “ขอบคุณพี่เจียวที่ให้ความสำคัญ ฉันจะลองไปคิดดู”
“อืม” ส้งเจียวตอบรับ ไม่รู้จะคุยอะไรกับหลินหยางได้อีก ช่วงเวลานั้นทั้งสองคนจมอยู่ในความเงียบ บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นแปลกประหลาด
ส้งเจียวรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าบนร่างกายของหลินหยาง มีรสชาติดึงดูดให้เข้าไปของตัวเองแพร่กระจายอยู่ กลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหว กัดฟันพูด “ไม่เป็นไร คุณยังไม่ไปอีกเหรอ?”
“โอ้ว งั้นฉันไปละ”
หลินหยางมีเรื่องอยู่ในใจ ก็ไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้เอง ตอบรับ แล้วเดินออกไป
“เด็กคนนี้ สมองนี่ทำไมดื้อด้านอย่างนี้ บอกไปก็ไปเลย? เฮ้อ ส้งเจียวเอ๋ยส้งเจียว คุณนี่เป็นอะไรไปกันแน่ ทำไมถึงคิดอยากจะเก็บเขาไว้ แล้วยังปากไม่ตรงกับใจอีก?”
มองเงาของหลินหยางหายไป ส้งเจียวพึมพำ เทเหล้าให้ตัวเองแก้วหนึ่ง
“ผู้จัดการหลินมาแล้ว!?”
หลินหยางเข้าไปในอาคารสำนักงานของเซียนเฉ่าเซวียน เพิ่งจะออกมาจากลิฟต์ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของสาวเสื้อขาวร้องเรียกอย่างประหลาดใจ เกือบจะเหมือนตีฆ้องร้องป่าวอยู่แล้ว
“ไม่ได้เจอกันไม่กี่วัน เปลี่ยนเป็นสวยขนาดนี้ แฟนทำให้ชุ่มฉ่ำใช่หรือเปล่า?”หลินหยางยิ้มแล้วพูดออกมาอย่างไม่ได้คิด
“น่าเกลียด! ฉันยังไ่ม่เคยมีแฟนยะ!” สาวเสื้อขาวตอบออกมาอย่างเขินอาย ในเวลาเดียวกันก็ใช้สายตาหว่านเสน่ห์มาที่หลินหยางอย่างไม่หยุดหย่อน
หลินหยางสังเกตคิ้วของสาวเสื้อขาว พบว่าคิ้วของเธอแยกออก ดวงตาผลิบานเหมือนฤดูใบไม้ผลิ มองออกในทันที สาวเสื้อขาวนั้นเคยเรื่องอย่างนั้นมาแล้วแน่ๆ บอกว่าไม่มีแฟน เชื่อกับผีนะสิ!
“อะ! ผู้จัดการหลิน ไม่ได้เจอกันซะนาน ฉันคิดถึงคุณมากเลย!”
“ผู้จัดการหลิน ฉันช่วงนี้ตอนที่ทำเรื่องนั้น รู้สึกไม่สบายนิดหน่อย คุณสะดวกตอนไหน ช่วยมาดูให้หน่อยนะ?”
สาวสวยมีเสน่ห์ในสำนักงานพอได้ยินการเคลื่อนไหวของหลินหยาง ก็รีบแย่งกันพุ่งตัวออกมา ล้อมรอบตัวหลินหยางไว้ต่างคนต่างแย่งกันพูด
หลินหยางรับมือไว้ทุกอย่าง เรียนรู้ไปเรื่อยๆกับความรู้สึกพึงพอใจของการห้อมล้อมไปด้วยดอกไม้หอมสะพรั่ง
“ทำอะไรนะ?ไม่มีงานอะไรทำกันแล้วเหรอ?โหวกเหวกโวยวายอะไรแบบนั้นทำไม?”
ไป๋เซียนเฉ่าออกมาจากห้องทำงาน ดุด่าเสียงดังอย่างน่าเกรงขามกับสาวเสื้อขาวที่พยายามหว่านเสน่ห์ดุเดือดให้กับหลินหยาง
“คุณตามฉันมาที่ห้องทำงาน”ไป๋เซียนเฉ่าเหลือบมองไปที่หลินหยาง ใบหน้าท่าทางเคร่งขรึม
หลินหยางหัวเราะ ตามไป๋เซียนเฉ่าเข้าไปในห้องทำงาน
พอปิดประตู ไป๋เซียนเฉ่าก็หันตัวกลับมา แนบชิดเข้ามาทันที หลินหยางรู้สึกได้ว่าแท่งตรงกลางระหว่างขานั้นแข็งขึ้นมา ถูกไป๋เซียนเฉ่ากำเอาไว้ในมือ
“เจ้าหมอนี่ มาบริษัทก็จีบสาวเลยนะ ทำเหมือนว่าฉันตายไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?”ไป๋เซียนเฉ่าพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
หลินหยางตะโกนแปลกๆออกมาจากลำคอ “โอ้ว! แรงอีกหน่อย สบายมากเลย!”
ไป๋เซียนเฉ่าหน้าแดงขั้นมาในทันที “เจ้าหมอนี่หน้าไม่อาย ที่นี่มันบริษัทนะ เสียงเบาหน่อย!”
“คุณเองก็รู้นี่ว่านี่มันบริษัท ยังจะเสียมารยาทกับฉันอีก? ฮิฮิ!”หลินหยางหัวเราะ กอดรัดไป๋เซียนเฉ่า
ไป๋เซียนเฉ่าจับจ้องมองไปที่หลินหยาง สายตาวาบหวาม เปลี่ยนเป็นจับน้องชายของหลินหยางไว้ในมือไว้อย่างอ่อนโยนมาก ค่อยๆถูกไถอย่างเบามือ
หลินหยางถูกกระตุ้นจนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สงครามในยุครุ่งเรือง ไม่มีความคิดที่จะพูดอะไรมากอีก โอบกอดไป๋เซียนเฉ่าย้ายไปบนโซฟา
“ไอ้หย่า! ไม่ได้ ข้างนอกมีคน!”ไป๋เซียนเฉ่าเข้าใจการตัดสินใจของหลินหยาง จึงรีบดิ้นรนออกมา
หลินหยางพูด “ฉันไม่ตะโกนหรอก”
ไป๋เซียนเฉ่าหน้าแดงเหมือนแอปเปิลที่สุกงอม ค้อนหลินหยาง พูดว่า “ถูกพลิกไปมานั้นไม่ใช่คุณสักหน่อย คุณไม่ร้องตะโกน ฉันทนไม่ไหวนะ!”
หลินหยางหัวเราะเสียงดัง ถึงแม้ว่าอยากจะลองลิ้มรสความรู้สึกในห้องทำงานว่าเป็นยังไง แต่ก็ไม่อยากจะโอ้อวดเกินไปจนทำให้ไป๋เซียนเฉ่ารู้สึกอึดอัด ดังนั้นจึงกอดรัดไป๋เซียนเฉ่า ให้ความอบอุ่นกับเธอ
อย่างไรก็ตาม หลินหยางก็ยังกระตุ้นไป๋เซียนเฉ่าจนหายใจเหนื่อยหอบ เกือบจะไม่มีสติสัมปชัญญะอยู่แล้ว ท้ายที่สุดยังใช้เจินชี่ของหลินหยาง ช่วยเธอกระตุ้นร่างกายและจิตใจให้คงที่
“เอาละ ฉันมีธุระจะคุยกับคุณ”หลินหยางจัดการกับเสื้อผ้าที่ถูกไป๋เซียนเฉ่าจับจนยับเป็นรอยพูดขึ้น
ไป๋เซียนเฉ่าอ่อนปวกเปียกเข้าไปในอ้อมกอดของหลินหยางพูด “คุณนอกจากจะมีธุระแล้ว ยังจะพูดอะไรได้อีกไหม?”
หลินหยางไม่ได้พูดอะไร หรือว่าฉันในสายตาของคุณก็เป็นสัตว์ในพื้นที่เพาะปลูก?
หลินหยางพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “บริษัทของพวกเรานั้นทำเงินบ้างหรือเปล่า?”
ไป๋เซียนเฉ่ารู้สึกมึนงง แต่ก็ยังตอบออกมา “มีฉันเป็นคนดูแลภาพรวม ยังจะต้องพูดอะไรอีกเหรอ? สินค้าที่พวกเราออกจำหน่ายนั้นขายดีมาก และยังขาดตลาดอีกด้วย ใบสั่งสินค้านั้นฉันยังไม่กล้าที่จะรับมาทั้งหมดเลย”
พอพูดถึงเรื่องธุรกิจ ไป๋เซียนเฉ่านั้นจะเยือกเย็นไม่น้อย และพูด “ช่วงนี้คุณเร่งทำงานเข้านะ ผลิตครีมแผลลายและครีมโต้วโค่วพวกนั้นออกมาให้มากๆก็ใช้ได้แล้ว”
หลินหยางพยักหน้าพูด “ไม่มีปัญหา ฉันช่วงนี้ความเร็วในการผสมเร็วขึ้นมาก”
หลังจากความแข็งแกร่งทะลุระดับไปแล้วนั้น หลินหยางคำนวณดูแล้วนั้น ประสิทธิภาพในการผสมครีมแผลลายและครีมโต้วโค่วนั้น น่าจะเพิ่มขึ้นสูงมากกว่าครึ่ง
ไป๋เซียนเฉ่าพูดด้วยความยินดี “งั้นก็ดีที่สุดเลย สำหรับสินค้าระดับสองอื่นๆนั้น ยอดขายถือว่าไม่เลวเหมือนกัน แต่ว่าราคาต่ำ ตั้งแต่แรกจนจบสินค้าระดับสูงพวกนี้ยังไม่ค่อยทำกำไร”
พูดไป ไป๋เซียนเฉ่ามีข้อสงสัยพูด “คุณน้อยครั้งนักที่จะถามเกี่ยวกับเรื่องบริษัท ทำไมอยู่ดีๆถึงถามคำถามพวกนี้ออกมาล่ะ?”
หลินหยางลูกจมูกพูดว่า “นั่นก็ ฉันอยากจะถาม ฉันหาเงินได้เท่าไหร่แล้ว?”
ไป๋เซียนเฉ่าพูด “คุณตอนนี้มีทรัพย์สินหลายสิบล้านแล้ว ยังขาดเงินใช้อยู่หรือเปล่า?”
หลินหยางพูด “นั่นไม่ใช่ การหารายได้ของบริษัทนั้นจะให้คุณช่วยดูแลไปตลอดก็คงจะไม่ได้ ฉันก็ถามเท่านั้นเอง”
“เฮ้ นี่คุณไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจฉันแล้วหรอกนะ? กลัวว่าฉันจะกลืนส่วนของคุณไปอย่างนั้นเหรอ?”ไป๋เซียนเฉ่าพูดด้วยความโมโห
หลินหยางพูด “จะเป็นแบบนั้นที่ไหนกัน? พวกเรายังจะต้องแบ่งส่วนของคุณส่วนของฉันอะไรแบบนั้นกันอีกเหรอ?”
คำพูดแบบนี้เป็นสิ่งที่ผู้หญิงชอบที่สุด ไป๋เซียนเฉ่าเปลี่ยนจากโมโหเป็นมีความสุขขึ้นมาทันที จูบไปบนหน้าของหลินหยางอย่างหวานหยดย้อย
“ถ้าอย่างนั้นคุณถามมากมายแบบนี้ อยากจะทำอะไรกันแน่?”
หลินหยางประมวลความคิดในสมอง พูด “ฉันนี่ใกล้จะจบแล้วใช่ไหมล่ะ? ควรจะต้องหางานแล้ว ดังนั้น อยากจะเอาเงินมาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นรูปธรรม”
ไป๋เซียนเฉ่าพูด “คุณเป็นรองประธานกรรมการบริษัท เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ทำงานที่นี่ยังไม่ถือว่าเป็นรูปธรรมอีกเหรอ?”
หลินหยางส่ายหน้า “ทำธุรกิจมีคุณอยู่ก็เพียงพอแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้มีความสนใจอะไร มีเวลาว่างเข้ามานับเงินก็พอแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นสนใจอะไรล่ะ?”
หลินหยางพูด “ฉันอยากจะเปิดโรงพยาบาล แพทย์แผนจีน”
ไป๋เซียนเฉ่าพอได้ยินคำพูดนั้น มีความเกินความคาดหมายอยู่ แต่ว่าตัวของหลินหยางเองนั้นรู้สึกโล่งใจ
ความคิดที่จะเปิดโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน จริงๆแล้วตอนที่อยู่ในห้องของส้งเจียว อยู่ดีๆความคิดก็โผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่ว่าหลินหยางเองก็ตัดสินใจออกมาอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้ลืม ก่อนที่คุณปูจะจากไปได้กำชับเขาไว้ ให้เขาส่งเสริมการแพทย์แผนจีน ประกอบอาชีพเป็นหมอช่วยเหลือประชาชน ฉะนั้นการเปิดโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว