ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่132 สะกดวิญญาณ
บทที่132 สะกดวิญญาณ
หลินหยางเปิดไฟ
ขาเรียวยาวขาหนึ่งเผยออกมา ถุงน่องสีดำช่างเย้ายวนเหลือเกิน ไม่นานก็ปรากฏตัวต่อ หน้าหลินหยาง
มองดูหวังเถียนเถียนที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาหลินหยางก็กลมโตขึ้น
เสื้อสายเดี่ยวตัวน้อยๆ ด้านในไม่สวมยกทรง จุกเม็ดไข่มุกเม็ดเล็กๆสองเม็ดโผล่ขึ้นมา ดูแล้วยั่วยวนเหลือเกิน
เนินอกสองเนินชันขึ้น แต่ไม่ไปห่างกันออกไป บีบออกมาเป็นร่องอก
กระโปรงสั้นดูหดอย่างแรงกล้า ปิดส่วนสำคัญไว้เพียงเล็กน้อย
คนที่มาคือหวังเถียนเถียน
พอเห็นหลินหยางมองมาที่เธอ หวังเถียนเถียนจึงยิ้มเล็กน้อย มองหลินหยางอย่างยั่วยวน แล้ว สะบัดกระโปรงตัวเองเล็กน้อย
เดิมทีกระโปรงก็สั้นมากอยู่แล้ว แค่โดนสัมผัสนิดหน่อยโล่งโจ้งหมดแล้ว หลินหยางจ้องอีกสักเล็กน้อย หวังเถียนเถียนไม่ได้ใส่กางเกงใน
เห็นสภาพของหวังเถียนเถียนแล้ว ทำให้หลินหยางคิดถึงตู้ซาในคืนนั้น กับหวังเถียนเถียน ในคืนนี้ไม่ได้แตกต่างกัน ทั้งคู่ไม่ได้สวมกางเกงใน
เห็นส่วนล่างส่วนนั้นแล้ว คิดว่าคืนนี้คงได้ปลดปล่อยอีกสักครั้ง ตอนนี้เขาเองก็เริ่มคึกคักขึ้นมา
“ดึกขนาดนี้แล้ว เข้ามานั่งก่อนสิ”หลินหยางร้องเรียก
หวังเถียนเถียนเองก็ไม่พิรี้พิไร เดินตรงไปหน้าเตียงของหลินหยาง เปิดผ้าห่มขึ้น
เดิมทีหลินหยางเคยชินกับการนอนเปลือย พอเปิดผ้าห่มขึ้น ท่อนไม้สูงใหญ่ก็เด้งขึ้นมา
แม้ว่าจะเคยเห็นมาแล้วสองครั้ง แต่มาเห็นตอนนี้ก็ยังคงสะกดวิญญาณอยู่ดี หวังเถียนเถียนมองไปอย่างหลงใหล มือน้อยๆจึงกำขึ้นไป
“ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ”มือของหลินหยางยืนไปจับสายเดี่ยวของหวังเถียนเถียน แล้วไปชน เข้ากับก้อนกลมๆสองก้อนทันที จับลงไปมือยังกำไม่หมด
เมื่อโดนมือแสนซนของหลินหยางบีบเข้า สีหน้าของหวังเถียนเถียนก็ค่อยๆแดงขึ้น เธอมองหลินหยางอย่างเอียงอาย“คนเค้าคิดถึงน่ะ คนเค้าไม่เคยพลาดอาวุธที่สุดยอดแบบนี้เลยนะ ก็เลยมาหารำลึกเสียหน่อย”
หลินหยางยิ้มขึ้น มือคอยบีบอยู่ไม่คลาย และคอยเปลี่ยนแปลงสภาพท่อนบน
สีหน้าของหวังเถียนเถียนแดงเรื่อ ปากแดงน้อยๆ ไอความร้อนพ่นออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางเย้ายวนใจของหวังเถียนเถียน หลินหยางก็อดโถมเข้าไปรัดรึงไม่ได้
ทั้งคู่พ่นลมใส่กันเป็นนาน หลินหยางอ้าปากอมลูกเชอรี่สองลูกนั่นไว้ในปาก ลิ้นก็คอยเลียไม่หยุด ภายใต้การกระตุ้นของหลินหยาง ในที่สุดหวังเถียนเถียนก็ครางออกมา
มือรีบวางลงด้านล่าง แล้วยัดสอดเข้าไปในร่อง สัมผัสความเปียกชื้นที่ออกมาจากตรง นั้น หลินหยางรู้ว่าเธอกำลังอดรนทนไม่ไหวแล้ว
เป็นอย่างที่คิด หลินหยางเล่นอยู่ทีสองที หวังเถียนเถียนก็อดรนทนไม่ได้ต่อไป ในปากเจ้า หล่อนส่งเสียงครางไม่หยุด
“หลินหยาง ทุเรศจัง!คนเค้าเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่รีบอีก!”
พอได้ยินคำพูดของหวังเถียนเถียน หลินหยางอมยิ้มเล็กน้อย จับหวังเถียนเถียนวางลงบนเตียง หวังเถียนเถียนอ้าขาออกอย่างสมยอม หลินหยางสอดพุ่งเข้าไปอย่างแม่นยำ พร้อม กับกวัดแกว่งอาวุธในทันที
เมื่อสัมผัสรสชาติที่ถวิลหามานาน หวังเถียนเถียนจึงอดส่งเสียงครางออกมาแบบยาวไม่ ได้
“หลินหยางคะ พรุ่งนี้ฉันต้องกลับบ้านแล้ว คืนนี้คุณต้องรักฉันให้ดีๆนะ”หวังเถียนเถียนกระ ซิบกระซาบอยู่ข้างหูของหลินหยาง
“ไม่เป็นไร ใช่ว่าจะไม่เจอกันอีกซะเมื่อไหร่ เสียใจอะไรเล่า ช่วงนี้ผมอยู่ที่นี่แหละ ถ้าคุณ คิดถึงผม ก็มาหาสิ”หลินหยางออกศึกพลางพูดพลาง
“ก็จริงนะ งั้นคุณก็ต้องรักฉันดีๆเหมือนกันแหละ อ๋า เร็วขึ้นอีก เร็วขึ้น……”หวังเถียนเถียนนึกถึงว่าต่อไปยังจะเจอหลินหยางได้อีกบ่อยๆ ก็เบาใจ จึงปล่อยให้หลินหยางทำตามอำเภอใจ
ได้ยินเสียงครวญครางของหวังเถียนเถียน หลินหยางจึงเร่งความเร็วซอยถี่ๆ ในห้องตลบอบอวลไปด้วยไอแห่งรัก
“หลินหยางคะ คุณนี่สุดยอดขึ้นทุกวัน ผู้ชายฉันตั้งหลายคน ถ้าได้สักครึ่งนึงของคุณก็ดีสิ ฉันก็พอใจแล้วล่ะ”หวังเถียนเถียนครวญครางอยู่บนเตียง
“นี่เป็นเรื่องของทุนเดิม เรียนรู้กันไม่ได้หรอก”หลินหยางพอใจในความสามารถของตน
“หลินหยางคะ คุณมีเงินขนาดนี้ เรื่องบนเตียงก็สุดยอด ทำไมไม่หาแฟนในโรงเรียนคะ”หวังเถียนเถียนถามปัญหาคาใจ
“ไม่มีใครเอากับผมน่ะสิ ผมก็ไปขืนใจใครไม่ได้เสียด้วย”
“คุณไม่ไปหา ใครจะไปรู้ว่าคุณชอบล่ะคะ ถ้าคุณบอกว่าสนใจใคร ฉันจะไปเป็นแม่สื่อให้เอง”หวังเถียนเถียนรับภาระเรื่องใหญ่ของหลินหยางเข้าไว้กับตัว
“ตอนนี้ยัง ต่อไปค่อยว่ากัน”หลินหยางเองไม่รีบร้อนเอาเท่าไหร่ ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องแต่งงานอะไรทั้งสิ้น อีกอย่างตอนนี้ยังหนุ่มยังแน่น ไม่ต้องรีบร้อน
“ก็ดี จริงสิ ถึงเวลาเล็งใครไว้แล้วบอกฉันนะ ฉันจะเป็นแม่สื่อให้ ถึงเวลาอย่าเห็นคนสวยหน่อย แล้วเผลอไปลามกจกเปรตเข้าล่ะ”หวังเถียนเถียนพูดเตือนสติ
หลินหยางยิ้มอย่างมีเลศนัย ความหมายในคำพูดของหวังเถียนเถียน ก็แค่อยากจะบอกว่าให้หาคนแบบเจ้าหล่อนไม่ใช่เหรอ
“หลินหยาง ฉันมาอีกแล้วนะ!”จู่ๆหวังเถียนๆไปกอดหลินหยางเข้า ร่างกายอ่อนระทวยเข้าอีก น้ำใสๆไหลออกมา ถึงจุดสุดยอดอีกครา
หลินหยางไม่ได้หยุด ยังคงรุกต่อไป
“เถียนเถียน อยู่ไหม”จ้าวจินฟ่งเคอะประตูห้องเถียนเถียน เห็นไม่มีเสียงขานรับเป็นนานสองนาน จ้าวจินฟ่งขมวดคิ้วไม่หยุด
“แปลกนะ ก่อนหน้าก็ยังดีๆอยู่นี่นา”จ้าวจินฟ่งผลักประตูเบาๆ ประตูไม่ได้ปิดสนิท
“ไม่มีคนอยู่เหรอ”จ้าวจินฟ่งสังหรณ์ขึ้นมาในใจ ในขณะที่เขากำลังงุนงง ข้างหูก็มีเสียงลิงโลดดังมา
แม้ว่าจ้าวจินฟ่งจะไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องพักนี้ พอได้ยินเสียงประหลาดๆของหวังเถียนเถียน จ้าวจินฟ่งก็เดาออกมาเกิดอะไรขึ้น
เดิมทีคิดอยากจะออกไป ลมเพลมพัด จ้าวจินฟ่งเกิดย่องปลายเท้าเบาๆไปที่ข้างประตู ของหลินหยาง
ตอนที่หวังเถียนเถียนเข้ามาไม่ได้ปิดประตู เสียงด้านในจึงดังลอดออกมาอย่างชัดเจน มี เสียงหอบหนักของผู้ชายกับเสียงครางแหลมของผู้หญิง จ้าวจินฟ่งทั้งรู้สึกเร้าใจและรู้สึกหดหู่
หวังเถียนเถียนเองก็ไม่รู้ว่าวันนี้ไปถึงจุดสุดยอดขึ้นไหน รู้แต่ว่าหลังจากที่หลินหยางขย่มตัวเธอไปรอบหนึ่งแล้ว ตัวเองก็หมดเรี่ยวหมดแรงโดยสิ้นเชิง
ซุกหายใจหอบอยู่ในอกหลินหยาง หวังเถียนเถียนชมว่า“หลินหยางคะ ร่างคุณนี่กำยำจริงๆ ฉัน เกือบตายเพราะคุณแล้วไหมล่ะ ถ้าวันนี้คุณยืนหยัดต่อล่ะก็ ฉันคงจะเป็นลมล้มพับไปแน่ๆ ผู้หญิงคนเดียวจะทำให้คุณพอใจได้ไงกัน คืนนี้น่าจะเรียกพี่จินฟ่งมาด้วยก็ดี”
พอได้ยินคำพูดของหวังเถียนเถียน จ้าวจินฟ่งที่ยืนด้านนอกรู้สึกตกใจ ยัยเด็กบ้านี่ปาก เสียจริง แต่ในใจของเธอ ก็แอบหวังเล็กน้อย
หลินหยางกับหวังเถียนเถียนหยอกเอินคำสบถกันอยู่สักครู่ หวังเถียนเถียนจึงถ่อสังขารอัน สะบักสะบอมกลับห้องไป
“โครมๆๆ——”
“ประตูไม่ได้ปิด”พอกลับถึงห้อง ก็มีเสียงเคาะประตู
“พี่จินฟ่ง มีธุระอะไร”พอเห็นจ้าวจินฟ่งเข้ามา หวังเถียนเถียนจึงยิ้มให้ ก่อนหน้าเพิ่งอิ่มมาจากหลินหยาง ตอนนี้แก้มทั้งสองของเธอยังแดงก่ำ อารมณ์ใคร่ร้อยพัน
“ไม่มีอะไร นอนไม่หลับน่ะ เลยมาคุยด้วย”
“คริคริ ได้สิ นอนที่นี่นะ”หวังเถียนเถียนกันที่ออกกที่หนึ่ง ให้จ้าวจินฟ่งนอน“คุยอะไรดีล่ะ”
“น้องชายของหลินหยางใหญ่ไหม”
“ใหญ่มากกกกก!”หวังเถียนเถียนตอบอย่างไม่ปิดบัง พูดจบเธอก็รู้สึกว่าไม่น่าพูดออกไปเลย เดิมทีใบหน้าที่แดงระเรื่อยิ่งแดงก่ำขึ้น
“พี่จินฟ่ง บ้าจัง พี่พูดอะไรน่ะ”
เห็นทีท่าเขินอายของหวังเถียนเถียน จ้าวจินฟ่งจึงยิ้มแหย่“เป็นไง กล้าลักกินขโมยกิน กล้าไม่ปิดประตูด้วย กล้าร้องดังขนาดนั้น ยังต้องกลัวใครรู้อีก”
พอได้ยินจ้าวจินฟ่ง หวังเถียนเถียนยิ่งรู้สึกว่าไม่น่าพูดเลย ทำไมถึงลืมปิดประตูได้นะ
“แอบดูเหรอเนี่ย!”หวังเถียนเถียนจือปากแสนงอน
“ฉันนอนไม่หลับอยู่แล้วน่ะสิถึงจะมาหาคนคุย ปรากฏว่าคนไม่อยู่ ฉันก็เลยไปที่ห้องหลินหยางแล้วได้ยินเสียงเธอหอนนี่แหละ”
“ถุย พี่น่ะสิหอน ห้ามพูดนะ”หวังเถียนเถียนแทบอยากจะหามุมหลบ ตัวเองกับหลินหยางลักลอบชู้ กลับโดนเห็นจนได้
“เถียนเถียน รู้สึกยังไงบ้างที่ทำเรื่องแบบนี้”จ้าวจินฟ่งกัดริมฝีปาก“ตอบฉันมาตรงๆ อย่าโกหกกัน”
พอได้ยินจ้าวจินฟ่งถาม หวังเถียนเถียนก็หน้าแดงก่ำ พูดเล่นลิ้นว่า“ว่าไง พี่จินฟ่ง ติดสัดแล้วเหมือนกันเหรอ”
“อย่าปากดี ไม่บอกก็อย่าบอก”จ้าวจินฟ่งกลอกตาขาว
“ก็ได้ๆ พี่จินฟ่งอย่าโกรธเลย บอกให้ก็ได้”หวังเถียนเถียนรวบรวมความคิด“ทำเรื่องพรรคนี้มันต้องสบายอยู่แล้วล่ะ ไม่งั้นทำไมคนทำกันเยอะแยะล่ะ แต่ว่าฉันจะบอกให้ ต่อไปเวลาหาผัวน่ะต้องหาที่มีทุนเดิมนะ คนที่ทุนเดิมไม่พอน่ะ มีแต่ทำให้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พอคนกำลังสบาย ก็หายหัวไป ความรู้สึกแบบนี้น่ะทรมาน”
“แต่ถ้าหาคนที่มีต้นทุนเดิมนะ อย่างหลินหยางอย่างนี้น่ะ แท่งทองที่ทั้งใหญ่ทั้งยาวพอเข้ามาแล้วถูไปถูมาในบ่อหลุมของเธอ มันสบายสุดยอดเลย……”
หวังเถียนเถียนเคยทำกับผู้ชายมาไม่น้อย เรื่องชายๆหญิงๆเธอรู้ดีนักล่ะ จ้าวจินฟ่งตั้งหน้าตั้งตาฟังราวกับเจ้าหนูจำไม พอไปถึงเรื่องที่ไม่รู้ก็หน้าแดงก่ำแล้วขอให้สอนใหม่ ผู้หญิงบ้าตัณหาสองคน นอนคลุมโปงคุยเรื่องบนเตียงของหญิงชาย คุยกันจนถึงตีสามแล้วหลับไป
วันถัดมา หลินหยางเห็นสองสาวยังหลับสนิท แถมยังนอนบนเตียงเดียวกันอีก หลินหยางอดนึกสงสัยไม่ได้ว่าหวังเถียนเถียนนั้นเป็นได้ทั้งหญิงทั้งชายหรือเปล่า
ในเมื่อทั้งคู่ยังหลับสนิท หลินหยางจึงมาที่ชั้นสอง หลังจากที่ซ้อมมวยครู่หนึ่ง ค่อยเริ่มกินอาหารเช้า
หลังจากที่กินอาหารเช้า หลินหยางจึงส่งหวังเถียนเถียนกลับบ้าน เดิมทีหวังเถียนเถียนจะคืนตังค์หลินหยาง แต่หลินหยางปัดมือไม่เอา ตัวเองเอาหวังเถียนเถียนฟรีตั้งหลายครั้ง เจ้าหล่อน ไม่เคยเรียกร้องเงินเขาสักครั้ง แล้วตนเองจะกล้าไปทวงเงินได้ไงเล่า
จ้าวจินฟ่งเปิดกิจการตามปกติ พอหลินหยางมาถึงร้านซักรีด จ้าวจินเฟิ่งกำลังตากผ้าอยู่ แม่บ้านสาวงามอายุสามสี่สิบ กำลังถือถุงใบใหญ่ ด้านในมีเสื้อผ้าเต็มถุง
“พี่หาน วางเสื้อผ้าไว้บนโต๊ะเถอะ เดี๋ยวฉันมาซักให้”จ้าวจินฟ่งหันมายิ้ม
“ได้จ๊ะ”สาวงามวัยกลางคนก็ไม่เกรงใจ วางถุงใบใหญ่ลงบนโต๊ะ
“พี่หานเสื้อผ้าไม่น้อยเลยนะเนี่ย”จ้าวจินฟ่งทัก
“แหงล่ะจ๊ะ ที่บ้านยังมีลูกสาวอีกคนหนึ่ง เสื้อผ้าผู้หญิงก็เยอะแบบนี้แหละ”พี่หานยิ้ม
หลินหยางคะเนดูพี่หานที่อยู่ตรงหน้า ยักคิ้วหลิ่วตาให้ ท่าทางดูเป็นแม่ศรีเรือน อายุราวๆสามสิบเจ็ด หน้าอกใหญ่กลมกลึง เหมือนยัดลูกบอลเข้าไป ทำให้เสื้อผ้าบางๆตรงหน้าพองขึ้นมา แล้วรัดรึงไปกับรูปร่าง จนหลินหยางเห็นยกทรงสีดำที่ซ่อนอยู่ด้านใต้นั้น
แม่บ้านสาวคนนี้ช่างสวยนัก แต่ก็ดูงามพิศ เรือนร่างไม่ทิ้งร่องรอยอายุไว้เลย แม้จะไม่ได้เอวบางร่างน้อย แต่ก็ไม่ได้กระทบกับความงามเลยเช่นกัน กลับทำให้ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น
“จินฟ่ง ผมกลับมาแล้ว”หลินหยางเดินเข้ามาทักทายจินฟ่ง