ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่144 เพาะเลี้ยง
บทที่144 เพาะเลี้ยง
“ต้นหญ้ากรดน้ำบ่มเพาะขึ้นมาไม่ได้ยากอะไร เพียงแค่ให้มีไอน้ำเพียงพอ และอุณหภูมิที่เหมาะสม มันก็เติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด ในทุกเดือนมันจะมีดอกบานออกมาหนึ่งดอก เวลาออกดอก ขอแค่มีความชื้นสัมพัทธ์เพียงพอ หลังจากที่ดอกนั้นร่วงลงเมล็ดก็จะแพร่พันธุ์ทันที เมล็ดจะสุกและหลุดออกภายในสองวัน”
“เป็นไปตามสภาพอากาศ ต้นหญ้ากรดน้ำจะเริ่มงอกต้นอ่อนในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิจนสิ้นสุดตอนปลายฤดูร้อน และหลังจากออกดอกเพียงครั้งเดียวก็จะเริ่มร่วงโรย เดิมแล้วฉันคิดว่าคิดว่าการใช้เมล็ดเพาะจะต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ จากนั้นฉันก็ยังพบว่าการพัฒนาการของรากของต้นหญ้ากรดน้ำ จะเกิดขึ้นเมื่อมีน้ำและสารอาหารที่เหมาะสม รากสามารถจะผสมพันธุ์เป็นส่วนใหม่ กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันสามารถจะเติบโตเป็นต้นใหม่ได้ด้วยตัวเอง และสามารถใช้เมล็ดปลูกได้เช่นกัน”
เมื่อได้ฟังคำพูดของหลินเหลียน หลินหยางก็พูดขึ้นด้วยความยินดี “อย่างนั้นต้องใช้อุปกรณ์การเพาะอย่างไร”
“แน่นอนว่ามันถูกเพาะในเรือนกระจก และอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกต้นหญ้ากรดน้ำคือ ยี่สิบเจ็ดองศา เพียงแค่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสม เจ้าต้นหญ้ากรดน้ำนี้ คุณสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปีเป็นจำนวนมาก แต่แม้ว่าต้นหญ้ากรดน้ำจะเติบโตได้อย่างรวดเร็วภายใต้สภาวะที่เหมาะสม แต่ดินที่ใช้เป็นเวลาสองสามปี สารอาหารจะค่อยๆหายไป ดังนั้นคุณจึงต้องใช้สารละลายธาตุอาหารมาช่วย ซึ่งนั้นก็จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม”
“สารละลายธาตุอาหารที่ใช้สำหรับการเพาะเลี้ยงนี้ ราคาเป็นอย่างไรบ้าง” หลินหยางขมวดคิ้ว สิ่งของแบบนี้ ดูเหมือนจะไม่ถูกแน่นอน
ดูเหมือนจะมองทะลุความคิดของหลินหยางได้ หลินเหลียนหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “ฉันสามารถวิจัยวิธีการเพาะเลี้ยงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเจริญเติบโตของต้นหญ้ากรดน้ำ อีกทั้งราคาก็ไม่สูง ฉันคำนวณไว้แล้ว ที่ดินหนึ่งไร่คือหกร้อยหกสิบหกตารางเมตร กับต้นหญ้ากรดน้ำหนึ่งไร่ จะต้องใช้สารละลายที่จำเป็นในหนึ่งปียี่สิบหยวน ในการดูแลการเพาะเลี้ยงในพื้นที่ดินเปล่าหนึ่งพื้นที่อยู่ที่ หนึ่งหมื่นสามพันหยวน ถ้าคุณเชื่อใจฉัน พี่สาวก็สามารถจะกำหนดองค์ประกอบใหม่เป็นพิเศษให้คุณ”
หลินหยางคิดอยู่ในใจครู่หนึ่ง หากวิธีเพาะเลี้ยงที่หลินเหลียนกล่าวมามีความน่าเชื่อถือ ตนเองก็สามารถใช้ต้นหญ้ากรดน้ำได้ในอนาคต ในช่วงแรกตนเองสามารถจะเริ่มปลูกต้นหญ้ากรดน้ำในพื้นที่สิบไร่ก่อน เมื่อคำนวณดูแล้ว สารละลายธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับหนึ่งปี ก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่หลักแสน เมื่อรวมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ติดตั้ง ราคารวมแล้วก็ไม่เกินหนึ่งล้านแน่นอน ก็เท่ากับได้รับมาห้าแสน ด้วยรูปแบบนี้คิดว่าการลงทุนนี้คุ้มค่าแน่นอน
ในใจหลินหยางก็รู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่มีความฉลาดแบบนี้น่ากลัวมาก คำพูดไม่กี่คำของผู้หญิงคนนี้ ก็สามารถทำให้ตนเองได้รายได้ถึงหลายแสน ที่สุดแล้วความรู้ก็คือพลัง
“เรื่องนี้ก็ตกลง อย่างนั้นผมขอซื้อการเพาะเลี้ยงจากคุณ หากว่าคุณไม่วางใจ พวกเราจะเซ็นสัญญาซื้อขายกันก็ได้” หลินหยางหยุดนิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดต่อไป “ก่อนหน้านี้ได้บอกไปแล้วว่าจะเพิ่มเงินให้คุณถ้าสามารถเพาะเลี้ยงออกมาได้ เอาแบบนี้แล้วกัน คืนนี้คุณเขียนโครงการที่สมบูรณ์แบบมา ครั้งนี้ผมจะเพิ่มให้คุณอีกสามหมื่นหยวน”
พูดจบหลินหยางก็หยิบธนบัตรสามปึกออกจากกระเป๋าและส่งให้หลินเหลียน
เมื่อเห็นว่าหลินหยางให้เงินตนเองอีกสามหมื่น ถ้าจะบอกว่าหลินเหลียนไม่ดีใจก็ดูจะเป็นการโกหก เดิมทีคิดว่าอย่างมากที่สุดหลินหยางก็น่าจะให้ตนเองสักหมื่นหยวน ไม่นึกเลยว่าครั้งนี้จะได้ถึงสามหมื่นหยวนโดยไม่ต้องร้องขอ และยังจะซื้อสารละลายธาตุอาหารด้วยตนเองอีก
เธอรู้ดีเรื่องต้นทุนของสารละลายธาตุอาหาร ผสมออกมาแล้วมากที่สุดก็อยู่ที่สองหมื่น เมื่อนำมาขายต่อให้กับหลินหยางก็น่าจะอยู่ที่หลายแสน กำไรกลางนับว่ามากแน่นอน
รับเงินมาอย่างมีความสุข หลินเหลียนกล่าวว่า “เด็กน้อยใจกว้างขนาดนี้เชียว อย่างนั้นคืนนี้พี่สาวคงต้องทำงานหนักแล้ว จะต้องเขียนโครงการที่ทำให้คุณพอใจ”
เมื่อหลินหยางได้จัดการทุกสิ่งเรียบร้อยแล้ว ในใจก็รู้สึกผ่อนคลายลง มองไปยังหลินเหลียน มังกรยักษ์ที่ไม่ได้หายไปไหน ขณะนี้ก็กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้หลินเหลียนเพียงแต่คุยกับหลินหยาง จึงยังไม่ได้สวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกาย เผยให้เห็นแสงของฤดูใบไม้ผลิที่สวยงามไร้ที่สิ้นสุด หลินหยางมองดูอย่างเบิกบานมีความสุข
“คุณ…คุณยังดูอีกนะ!” รู้สึกได้ถึงสายตาของหลินหยาง หลินเหลียนก็พูดไปอย่างหน้าแดง
ในความเป็นจริงในใจของหลินเหลียนไม่ได้รังเกียจที่หลินหยางจะมองตนเอง ชายหนุ่มที่ภายนอกดูหล่อเหลา ร่างกายที่แสนจะดึงดูดตนเองอย่างมาก และตนเองก็เป็นคนที่ชื่นชอบชายหนุ่มวัยรุ่นแบบนี้เป็นอย่างมาก ตนเองก็อายุสามสิบปีแล้ว ยังสามารถจะดึงดูดผู้ชายอายุน้อยกว่าตนเองเป็นสิบปีได้ ในใจของเธอจึงรู้สึกภูมิใจมาก
“พี่เหลียน คุณสวยจริง ๆ” หลินหยางยังไม่ได้หันหน้าไป แต่เขายังชมเชยเธอ ในใจของเขารู้ดี หลินเหลียนยังไม่ยอมใส่เสื้อผ้าจนถึงตอนนี้ จะต้องไม่ต่อต้านที่ตนเองมองเธออย่างแน่นอน
เมื่อได้ยินคำคำชื่นชมของหลินหยาง หลินเหลียนก็นั่งลงตรงด้านข้างของหลินหยาง ร่างอันอวบแน่นก็ได้ประกบเข้ากับหลินหยางทันที ยิ้มและพูดว่า “เฮ้ๆ ปากของคุณนี่หวานจังเลยนะ ไหนมาให้พี่สามลองดมกลิ่นหน่อยสิว่าไปกินน้ำตาลมาหรือเปล่า”
หลินหยางโน้มปากเข้าไปอย่างพอเหมาะ หลินเหลียนอยู่ในความงุนงง ร่องรอยของการต่อสู้ปรากฏอยู่ในดวงตา แม้ว่าในวันปกติเธอจะแอบคิดเรื่องชู้สาวกับผู้ชายคนอื่น แต่เมื่อต้องทำจริง ในใจกลับรู้สึกลังเลบางอย่าง
แต่ออร่าจากร่างกายของเขามันดึงดูดตนเองเป็นอย่างมาก และความตื่นเต้นของการขโมยความสุขมันทำให้ในใจของเธอตั้งตารอ เมื่อเห็นว่าหลินหยางเข้ามา เธอก็ดิ้นรนที่จะขึ้นไป
กลิ่นของผู้หญิงที่โตเต็มไวโชยเข้ามา หัวใจของหลินหยางก็หวั่นไหว จึงตอบสนองหลินเหลียนทันที มือนั้นก็อดไม่ได้ที่จะควานหาเนินเขาสองลูกนั้นของหลินเหลียน
ความรู้สึกที่นุ่มนวลสัมผัสผ่านมายังมือ หลินหยางจึงถูขึ้นทันที ยอดหยกที่หนาขึ้นเปลี่ยนรูปร่างต่อไป หมั่นโถวในมือก็ค่อย ๆยายแข็งขึ้น
ดูเหมือนว่าจะได้รับความสุขมาก ผ่านไปไม่นาน ผิวของหลิวเหลียนก็มีสีแดงระเรื่อ หายใจอย่างเปิดปิดปากเล็กนั้น มองไปยังหลินหยางด้วยสายตาพร่ามัว มืออันสั่นเทาก็มุ่งไปทางมังกรหยก
“โอ้วพระเจ้า มันตระหง่านมาก!” หลินเหลียนอุทาน
“ชอบไหม” หลินหยางถามด้วยรอยยิ้ม
“คุณจะบ้าหรือ มาถามฉันว่าชอบหรือไม่ชอบ!” หลินเหลียนโต้กลับอย่างไม่พอใจ
หลินหยางยิ้มเล็กน้อย ป้าก็อ้าเอาไข่มุกเข้าไปด้านใน หลินเหลียนไม่สามารถทนต่อการกระตุ้นนี้ได้ และเสียงของความตื่นเต้นนั้นก็ยังคงดังออกมาจากปากไม่หยุด
หลังจากผ่านไปไม่นาน หลินหยางก็ตรงไปยังแดนลึกลับที่มีต้นหญ้าปกคลุม และไม่นานก็ได้พบกับสายน้ำสายเล็ก ๆ หลินหยางได้มาพูดข้างหูของหลินเหลียน “พี่เหลียน เป็นแม่น้ำแล้วหรือ”
ความรู้สึกเบลอในใจของหลินเหลียนในตอนแรกเหลือเพียงความต้องการภายใน จึงพูดออกไป “แล้วยังไม่รีบอีก ฉันทนไม่ไหวแล้ว”
หลินหยางหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็ดำเนินการขั้นตอนถัดไป เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นกะทันหัน ทำให้ทั้งสองคนสะดุ้งขึ้นมา
เมื่อรู้ว่ากำลังทำเรื่องที่ไร้สาระเช่นนี้ หลินเหลียนก็หน้าแดงไปทั้งตัว หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
หลังจากพูดไปเพียงไม่กี่คำ หลินเหลียนก็ผลักหลินหยางออกไป พูดอย่างหน้าแดง “ที่สถาบันวิชามีเรื่องยุ่งนิดหน่อย ฉันต้องไปช่วยสักหน่อย”
หลินหยางที่กำลังคึกคักพร้อมสู้ศึกก็รู้สึกจนปัญญา จ้องมองกระต่ายหยกคู่ใหญ่นั้น เอื้อมมือไปบีบสองสามครั้ง ก็ถูกหลินเหลียนผลักออกไป
“ระหว่างที่เล่น ยังเอาเปรียบพี่สาวไม่พออีกหรือ” หลินเหลียนจ้องมองไปยังหลินหยาง
หลินหยางยิ้ม ในใจรู้ดีว่าวันนี้ไม่มีทางได้กินแน่นอน ทำได้เพียงสวมเสื้อผ้ากลับไปเท่านั้น
“คุณจะไปที่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง” หลินหยางยิ้มขณะกำลังดูหลินเหลียนเก็บกวาด
“โอเค สถาบันวิจัยชีววิทยา” หลินเหลียนพูดด้วยเสียงเบา ความคิดในตอนนี้กำลังนึกถึงฉากอันมีเสน่ห์เมื่อกี้นี้ น่าประหลาดที่ใจไม่มีความรู้สึกผิดเลยสักนิด มีแต่ความตื่นเต้นและความคาดหวังสำหรับครั้งต่อไป
“วันนี้ฉันจะเขียนโครงการให้เสร็จ พรุ่งนี้จะส่งอีเมล์ไปให้คุณ เมื่อถึงตอนนั้นคุณก็ดูให้ละเอียดก็พอ ฉันจะกลับไปทำการเพาะเลี้ยงอย่างระมัดระวัง จะทำให้ต้นหญ้ากรดน้ำดูดซึมสารอาหารให้มากที่สุด หากต้องการอะไรก็ติดต่อฉันได้โดยตรง” จนกระทั่งถึงจุด อารมณ์ของหลินเหลียนก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว
“ได้”
มองไปยังเบื้องหลังของหลินเหลียน นึกถึงรูปลักษณ์ที่ดูร้อนแรงก่อนหน้านี้ หลินหยางก็หวั่นไหวในใจ มังกรที่เดิมทีกำลังจะหายไปก็ได้มีปฏิกิริยาอีกครั้ง
ถอนหายใจอย่างเงียบๆ ด่าสายโทรศัพท์เจ้ากรรมอยู่ในใจ หลินหยางขับรถและคิดไป จะขับตรงไปยังสำนักงานวางแผน ครั้งนี้เขาจะต้องตรงไปทำสัญญาที่ดินด้วย จากนั้นก็จะเริ่มงานอย่างรวดเร็วเพื่อจัดเตรียมเรื่องต่าง ๆสำหรับการเพาะเลี้ยง ไม่สามารถล่าช้าได้อีกต่อไป
“สวัสดี ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไร” หลินหยางเพิ่งเดินเข้าไปในห้องโถง เสียงอันหวานก็ดังมาจากพนักงานต้อนรับ
“ผมต้องการทำสัญญาที่ดินสิบไร่ ไม่ทราบว่าสามารถจัดการที่นี่ได้หรือไม่” หลินหยางไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อนเลย เขาเพิ่งจะเคยทำเรื่องนี้เป็นครั้งแรก หากเปิดปิดประตูไปคงเป็นเรื่องตลกแน่นอน
“ทำสัญญาที่ดินหรือ คุณต้องการทำสัญญาที่ไหน” พนักงานต้อนรับยังคงยิ้มแย้มไม่เปลี่ยนแปลง
“หมู่บ้านวี่หลงตำบลป๋ายสาร”
อย่างนี้น่าจะได้ คุณไปยื่นเรื่องที่สำนักงานของหัวหน้าหลี่ได้เลย” พนักงานต้อนรับกล่าว
“สำนักงานของหัวหน้าหลี่อยู่ที่ไหน”
“ชั้นสาม ห้อง 311”
“ขอบคุณ” เดินตรงไปยังชั้นสามหลังจากฟังจบ เมื่อมองไปยังด้านหลังของหลินหยางที่กำลังเดินไป ความเสน่หาก็เปล่งประกายอยู่ในสายตาของพนักงานต้อนรับ ช่างเป็นวัยรุ่นที่มั่งมีจริง ๆ ต้องการจะทำสัญญาที่ดิน แม้ว่าจะเพียงสิบไร่ก็ตาม…
“ก๊อก ๆ ๆ” หลินหยางเคาะประตูเมื่อมาถึง
“เชิญเข้ามา ประตูไม่ได้ล็อก” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา
หลินหยางถึงกับผงะเมื่อได้ยิน หัวหน้าหลี่เป็นผู้หญิงหรือ แต่เขาก็ได้ผลักประตูเปิดเข้าไป ก็ได้เห็นผู้หญิงในชุดสูทตัวเล็กนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน สวมแว่นตาสีทอง เผยให้เห็นความมีสติปัญญา
“สวัสดีครับหัวหน้าหลี่ ผมชื่อหลินหยางผมต้องการจะมาทำสัญญาที่ดินสิบไร่ที่หมู่บ้านวี่หลงตำบลป๋ายสาร ไม่ทราบว่าต้องสมัครตรงนี้หรือเปล่า” หลินหยางเดินตรงเข้าไป
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินหยางพูด หัวหน้าหลี่มองดูชายหนุ่มด้วยความสนใจ ชายหนุ่มคนนี้ดูดีเลยทีเดียว ที่สำคัญคือไม่หยิ่งยโสและไม่ทำตนให้ต่ำต้อย อีกทั้งยังดูสูงส่งและอ่อนโยน ทำให้เธอชื่นชอบมาก
“อ้อ คุณต้องการทำสัญญาที่ดินเอง หรือ ว่าเป็นเจ้านายของคุณหรือครอบครัวหรือว่าเพื่อนของคุณ” หัวหน้าหลี่ถามด้วยรอยยิ้ม
“ผมเองที่จะทำสัญญา” หลินหยางตอบ
“เอ๊ะ ไม่ทราบว่าคุณจะทำสัญญาที่ดินไปทำอะไร”
“ผมต้องการเอาไปปลูกต้นไม้ใบหญ้าจากนั้นก็เอาไปขาย”
“คุณเลือกสถานที่ไว้แล้วใช่ไหม” หัวหน้าหลี่ถาม
หลินหยางคิดเอาไว้นานแล้ว มีพื้นที่รกร้างอยู่ที่แม่น้ำหลงเหอซึ่งไม่มีคนใช้เพาะปลูก พื้นที่นั้นห่างออกไปสิบเอเคอร์ พยักหน้าทันทีและพูดว่า “ผมเลือกไว้แล้ว”
“คุณแจ้งกับคณะกรรมการหมู่บ้านของคุณหรือยัง” หัวหน้าหลี่ถาม
“ยังครับ” หลินหยางตกใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ หรือต้องกลับไปแจ้งกรรมการหมู่บ้านก่อนหรือเปล่า
หัวหน้าหน้าหลี่มีความสุขอยู่ในใจ แต่สุดท้ายเด็กหนุ่มไม่รู้เรื่องอะไรเลย จะมาทำสัญญาที่ดินสิบไร่ แค่แจ้งต่อคณะกรรมการหมู่บ้านก็คาดว่าน่าจะได้แล้ว เจ้าเด็กโง่นี่ยังวิ่งมาถึงที่นี่”
“คุณก็รู้ หน้าที่ต้องเป็นหน้าที่ เรื่องนี้คุณต้องทำรายงานทีละขั้น ค่อยๆรายงานขึ้นมาทีละขั้นตอน และต้องดำเนินตามขั้นตอนใช้เวลาอย่างน้อยก็หนึ่งถึงสองเดือนหรือมากกว่านั้น” หัวหน้าหลี่พูดภายใต้ดุลพินิจของเธอ
“หนึ่งถึงสองเดือนเลยหรือ ผมรอนานขนาดนั้นไม่ได้ หัวหน้าหลี่ คุณช่วยผมคิดหาวิธีที่เร็วกว่านั้น ให้ดีที่สุดสรุปทุกอย่างให้จบวันนี้เลยยิ่งดี” หลินหยางกล่าวอย่างกังวล
“แบบนี้จะทำได้อย่างไร” หัวหน้าหลี่ส่ายหน้า
“หัวหน้าหลี่ เวลาของผมค่อนข้างเร่งด่วน หากพลาดกำหนดเวลาการปลูก ปีนี้ก็จะต้องสูญเปล่าแล้ว” หลินหยางหยิบธนบัตรสองปึกออกจากกระเป๋า ค่อยๆยื่นผ่านใต้โต๊ะอย่างเงียบ ๆ
หัวหน้าหลี่รับเงินไปอย่างลับ ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เด็กคนนี้ช่างมีไหวพริบ ยิ้มและพูด “เรื่องนี้จัดการยาก คุณสามารถรอได้นานที่สุดแค่ไหน”
หลินหยางคิดอยู่ชั่วครู่ ตนเองเหลือเวลาอีกสิบวันจะเปิดเรียน ตนเองยังจะต้องหาคนมาช่วยก่อสร้างและวางแผนอีก รอได้นานที่สุดก็ห้าวัน และพูดออกไป “มากที่สุดก็ห้าวัน”
เมื่อได้ยินดังนั้นหัวหน้าหลี่ก็เบาใจ ระยะเวลาห้าวันตนเองยังพอที่จะทำได้อย่างง่ายดาย เมื่อคิดว่าตอนนี้ร่างกายของตนเองก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก จึงกำลังหาสถานที่สำหรับพักผ่อน หรือไม่ก็หาความสนุกกับเด็กๆจะเป็นการผ่อนคลายกว่า