ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่163ความลับในร้านตัดผม
บทที่163ความลับในร้านตัดผม
ไม่สนการรั้งของผู้อำนวยการผาง หลินหยางอำลาด้วยรอยยิ้ม
เพิ่งเดินออกมาจากประตูของโรงพยาบาล ก็ได้รับสายของไป๋เซียนเฉ่า
“ฮัลโหล เซียนเฉ่า โทรหาผมมีอะไรครับ?” หลินหยางถามด้วยรอยยิ้ม
“บริษัทได้จดทะเบียนเรียบร้อยแล้วค่ะ ฉันคิดแล้วคิดอีก ตอนที่จดทะเบียน ชื่อของบริษัทก็ชื่อเซียนเฉ่าเซวียน เป็นประเภทเครื่องสำอาง คุณมีความคิดเห็นมั้ยคะ?” เสียงเกียจคร้านของไป๋เซียนเฉ่าก้องมา
ได้ยินเสียงนี้ หลินหยางจิตใจล่องลอย นึกถึงไป๋เซียนเฉ่าที่มีสไตล์ราชินี ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ที่เต็มเปี่ยม ถึงหลินหยางที่เจอสาวสวยจนชิน คิดถึงเธอก็ยังรู้สึกใจเต้นอีกเช่นเคย
สำหรับชื่อเซียนเฉ่าเซวียนนี้ หลินหยางรู้สึกพึงพอใจมาก ได้หลอมรวมชื่อของทั้งสองไว้ในนั้นพอดี อีกทั้งยังร่วมมือกันทำให้จุดเด่นของทั้งสองฝ่ายให้ยิ่งเด่นชัดขึ้น
“โอเคครับ เดี๋ยวรอผมกลับไปผสมครีมแผลลายหน่อย พวกเราก็เริ่มเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่เลย” หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
“หลินหยาง ฉันอยากปรึกษาหารือกับคุณเรื่องนึงค่ะ” ไป๋เซียนเฉ่าลังเลไปครู่นึงแล้วเอ่ย
“เรื่องอะไรครับ?” ได้ยินน้ำเสียงของไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางก็เกิดความสนใจขึ้นมา เรื่องอะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้ไป๋เซียนเฉ่ารู้สึกเก้อเขิน
“ก็คือเรื่องของบริษัทเราค่ะ สินค้าของบริษัทเราล้วนแต่ดีมาก ทุกครั้งสินค้าวางขายก็จะถูกแย่งซื้อจนเกลี้ยงในทันที แต่ยังไงซะคุณตัวคนเดียว มีของมากมายกลัวคุณจัดสรรไม่ไหว ถ้าสะดวกล่ะก็ เราสามารถเจาะจงสินค้าครีมแผลลายพวกนี้ ออกแบบผังขั้นตอนการผลิต แบบนี้ก็สามารถเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่แล้วค่ะ”
“ตอนนี้แค่อยู่ในเมืองเจียงหลิง บางทีจำนวนการจัดหาของเราอาจจะเพียงพอ แต่ถ้าต่อไปพัฒนา ที่เราต้องเผชิญคือทั้งประเทศ แม้กระทั่งขายไกลไปถึงต่างประเทศ ออเดอร์มากขนาดนั้น คุณคนเดียวทำไม่ทันด้วยซ้ำ” เสียงที่เกียจคร้านของไป๋เซียนเฉ่า ส่องแววตาที่มองการณ์ไกลออกมา
สำหรับคำพูดของไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางไม่เห็นด้วยไม่ได้กับการวางแผนครอบคลุมอย่างรอบคอบและยาวไกล เพราะยังไงซะตัวเองแค่ตัวคนเดียว ถึงจะฝึกฝนเจินชี่มาแล้ว พลังของคนๆเดียว ก็ไม่สามารถจัดส่งให้คนทั้งโลกได้อีกเช่นเคย
แต่ของที่ตัวเองผสม ต้องการความร่วมมือของเจินชี่ล้วนๆ หากหลุดพ้นจากการแบกรับเจินชี่ของตัวเอง ยาวิเศษที่ผสมออกมา ประสิทธิภาพจะด้อยลงเยอะมาก
ไตร่ตรองไปครู่นึง หลินหยางถึงพูด: “เรื่องนี้ผมก็เคยคิดอยู่ แต่ว่าการผสมของยาวิเศษ ถ้าอยากมีประสิทธิภาพเหมือนครีมแผลลายของเราในตอนนี้ งั้นไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเพิ่มต้นทุน…….”
“หยุดไว้ก่อน งั้นฉันถามคุณ ทางคุณมีสูตรมั้ย ประสิทธิภาพยาด้อยหน่อย แต่สามารถมีประสิทธิผลอยู่ อย่างเช่นบาดแผลๆนึง ทาหนึ่งเดือนแผลก็จะจางหาย หรือมีคุณสมบัติทำให้ขาวเพิ่มความงามและอื่นๆ สามารถเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยตรง” เดิมทีน้ำเสียงเกียจคร้านของไป๋เซียนเฉ่ามีความตื่นเต้นแฝงอยู่ด้วย ดูท่าเธอคงคิดไอเดียดีๆอะไรได้
“อันนี้มีได้ แต่ประสิทธิผลจะลดลงมากนะ” หลินหยางให้คำตอบที่แน่ใจออกมา
“ถ้าอยากทำให้ใหญ่ อยากทำให้ดี จะพึ่งแค่ผลิตภัณฑ์ราคาแพงแบบนั้นของคุณไม่ได้ ของที่ได้รับผลประโยชน์ที่ดี เป็นของที่เข้าไปสู่การใช้จ่ายของคนส่วนใหญ่
อย่างเช่นเมืองเจียงหลิงของเรา มีจำนวนประชากรห้าล้านคน แต่คนที่ยอมใช้จ่ายอยู่ในสินค้าครีมแผลลายมีไม่เกินสองพันคน
ถ้ามีของพวกที่ราคาค่อนข้างต่ำ แต่มีประสิทธิผลมาก พวกเราก็สามารถตีเข้าสู่ตลาด และเทียบกับสินค้าที่ค่อนข้างไฮคลาสได้ค่ะ” ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างไม่หยุด
หลินหยางฟังที่ไป๋เซียนเฉ่าพูด ในใจยิ่งรู้สึกนับถือผู้หญิงคนนี้ หัวการค้าของผู้หญิงคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ
“อันนี้ผมกลับไปศึกษาวิจัยดู น่าจะผสมออกมาได้ครับ” หลินหยางพูดอย่างมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“อืม ถ้าอยากทำให้บริษัทมีความสามารถที่แข็งแกร่ง ก็ต้องพัฒนาอย่างกระจายความเสี่ยง แต่สิ่งที่เราต้องทำในตอนนี้ คือทำให้บริษัทยืนนิ่งในเมืองเจียงหลิงก่อน กลยุทธ์ของฉันในตอนนี้คือ ตามประสิทธิผลของปากต่อปากแล้ว สร้างชื่อเสียงครีมแผลลายและครีมโต้วโค่วพวกนี้ก่อน ทำให้คนระดับกลางและบนต่างก็ต้องรู้จัก จากนั้นก็ค่อยตีตลาดไปทุกเมืองใหญ่ แล้วก่อตั้งบริษัทย่อย และขายครีมแผลลายกับครีมโต้วโค่วต่อ พอทั่วประเทศรู้สินค้าที่ไฮคลาสของเรา จะต้องก่อให้เกิดการติดตามและให้การสนับสนุนแน่นอนค่ะ”
“ถึงเวลาเราก็เอาสินค้าราคาค่อนข้างถูกเข้าสู่ตลาด มีการสร้างกระแสและวิพากษ์วิจารณ์ของก่อนหน้านี้ บวกกับคุณภาพสินค้าที่ยอดเยี่ยม บริษัทของพวกเราต้องก้าวเข้าสู่บริษัทร้อยปีระดับโลกแน่นอน!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดด้วยจิตใจที่กระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา ทำเอาหลินหยางฟังจนตื่นตะลึง
ผู้หญิงคนนี้นี่เต็มเปี่ยมด้วยพลานุภาพจริงๆเลย
“ฮ่าๆ ถึงเวลานับเงินก็จะนับไม่ทันแล้ว” หลินหยางพูดพร้อมหัวเราะ
“มันก็แหงอยู่แล้ว จุดมุ่งหมายที่สุดของฉันคือ สร้างอาณาจักรทางการเงินของตัวเอง!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างมีความมั่นใจและมีชีวิตชีวา
ถึงแม้พูดจาคุยโม้โอ้อวดมาก แต่หลินหยางเชื่อว่าไป๋เซียนเฉ่ามีความสามารถนี้
“งั้นเซียนเฉ่า คุณก็แสดงความปัญญาและความฉลาดของคุณออกมาเยอะๆหน่อย ให้ผมได้อาศัยบารมีหน่อย” หลินหยางพูดแซว
“มันแน่นอนอยู่แล้ว ครีมแผลลายและครีมโต้วโค่วของคุณต้องเร็วหน่อยนะ แล้วก็ฉันได้จองสถานของบริษัทเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้พวกเรามีเงิน แต่ก่อสร้างอาคารพาณิชย์โดยตรงค่อนข้างที่จะช้า คุยเรื่องเงินก็ค่อนข้างยุ่งยาก ฉันจึงได้เช่าอาคารสำนักงาน ค่าเช่าเดือนละหนึ่งแสนหยวน ตกแต่งเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“พอคุณกลับมา อย่าลืมมาหาฉันนะ ที่ฉันมีสัญญาหุ้น คนละ50% ถึงเวลาคุณมาเซ็นต์ มีอีกอย่างนึง ฉันเตรียมรับสมัครลูกน้อง ถ้าคุณไม่ว่างล่ะก็ ฉันก็รับผิดชอบรับคนแล้วนะ”ไป๋เซียนเฉ่าเล่างานของช่วงนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
“โอเค งั้นเรื่องพวกนี้มอบให้คุณแล้วนะ เรื่องครีมแผลลายอะไรนั่น ใบออเดอร์สามารถส่งออกไปได้ชั่วคราว ผมคาดการณ์ว่าอีกสามวันกลับไป ภายในหนึ่งสัปดาห์ รับประกันจำนวนห้าร้อยขวดครับ” หลินหยางพูดและตอบตกลง
“เยอะขนาดนี้เลยหรอ? ห้าร้อยขวด?” ได้ยินคำพูดของหลินหยาง ในคำพูดของไป๋เซียนเฉ่าเต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์
“เมื่อก่อนเพราะวัตถุดิบจัดหาได้ไม่เพียงพอ อีกอย่างความสามารถส่วนตัวของผมก็ไม่ไหว ผสมได้ค่อนข้างช้า ตอนนี้อาจจะเร็วขึ้นมาได้บ้าง”
นึกถึงข่าวคราวที่ฐานเพาะปลูกของตัวเองส่งมาเมื่อคืน ต้นหญ้ากรดน้ำรอบแรกได้เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว ถึงเวลาตัวเองไปใช้โดยตรงก็พอแล้ว
“งั้นโอเคค่ะ คุณเร็วหน่อยนะ”
ทั้งสองก็ได้คุยเกี่ยวกับกลยุทธ์การพัฒนาบริษัทไปพักนึง หลินหยางวางสายด้วยความพึงพอใจ
สำหรับความสามารถของไป๋เซียนเฉ่า เขาวางใจร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่มีธุระอะไร หลินหยางก็เลยได้เริ่มเดินเล่นที่เมืองซินไห่ขึ้นมาโดยตรงเลย เดินวนไปหนึ่งชั่วโมง หลินหยางก็ไม่ได้ซื้อของอะไร เดิมทีอยากซื้อของไปฝากสาวๆที่บ้าน แต่คิดถึงก่อนหน้านี้กั่วเหมิงยังเสนอก่อนกลับไปจะไปช็อปปิ้ง งั้นถึงเวลาค่อยว่ากันเถอะ
ก็ไม่รู้ว่าหลินหยางหาสถานที่ยังไงกันแน่ ไม่นึกเลยว่าจะเดินมาถึงซอยที่เปลี่ยว
คอยดูบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบเหงาของที่นี่ หลินหยางหายใจลึกๆเดินเข้าไปข้างใน
ในเมืองหลวงสามารถหาสถานที่ๆค่อนข้างเงียบสงบ ไม่ใช่ง่ายเลยจริงๆ
เดินได้สองก้าว หลินหยางก็เห็นในร้านตัดผมร้านนึง มีคนวัยกลางคนที่ห่อเหี่ยวเดินออกมา
บอกว่าห่อเหี่ยว ไม่ได้แปลว่าร่างกายของคนๆนี้อ่อนแอ กลับกันคนๆนี้ดูแข็งแรงมาก ถึงแม้อากาศของตอนนี้ไม่ได้ร้อนเหมือนเดือนแปด ใส่แขนสั้นไม่ได้รู้สึกหนาวเลย กล้ามเนื้อบนตัวชายกำยำนี้ชัดเจนมาก สันนิษฐานว่าร่างกายคงจะดีมาก
หลินหยางหรี่ตาเล็กน้อย ถึงแม้ดูภายนอกแล้วคนๆนี้ร่างกายแข็งแรงดีมาก แต่ร่างกายของคนๆนี้เห็นได้ชัดว่าอ่อนแอมาก รู้สึกเหมือนพลังหยางของร่างกายถูกดูดไปไม่น้อยยังไงอย่างงั้น
เห็นหลินหยางเดินมาที่นี่ ผู้ชายกำยำคนนั้นกวาดสายตามองหลินหยางทีนึง แววตาเต็มไปด้วยความลามกกับสีหน้าที่รักคลุมเครือ ทำเอาหลินหยางรู้สึกประหลาด
ยังเดาอยู่ว่าชายวัยกลางคนนั้นเจอสถานการณ์อะไรมากันแน่ ทำไมอินพร่องไฟลุกโชนขนาดนี้ ในร้านตัดผมข้างหน้าก็มีผู้หญิงเดินออกมาคนนึง
ผู้หญิงคนนี้ดูแล้วหน้าตาสะสวยมาก บนตัวใส่ชุดเดรสสั้น เดรสนุ่มนวลที่รัดรูปชูให้ร่างกายดูอรชรสง่างามมาก บั้นท้ายที่เด้งเผยออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้ชายแค่มองแว๊บเดียวก็สามารถเกิดไฟแห่งความชั่วร้ายแน่นอน
อีกอย่างผู้หญิงคนนี้ดูแล้วก็แค่ประมาณยี่สิบสามยี่สิบสี่ ถึงแม้ดวงตาไม่ได้กลมโตเหมือนในการ์ตูน แต่แววตาดูมีพลังและสวยมาก
หลินหยางมองไปแว๊บนึง ก็อดไม่ได้ที่จะมองหลายที สุดท้ายยิ่งดูยิ่งมีรสชาติ
“สุดหล่อ เข้ามานั่งหน่อยมั้ยคะ? จะสระผมหรือตัดผมก็ได้ค่ะ” สาวสวยพูดอย่างราบเรียบ น้ำเสียงอ่อนช้อย ฟังแล้วรื่นหูมาก
สวยล่อตาล่อใจขนาดนี้ มีช่างตัดผมที่สวยแบบนี้ หลินหยางย่อมเต็มใจเข้าไปนั่งอยู่แล้ว
เพราะยังไงซะตัดผมครั้งนึงก็ไม่แพง อีกอย่างถึงตัวเองไม่ตัดผม สระผมสักหน่อยก็ไม่เป็นไร
ยิ้มอ่อนๆให้กับสาวสวย หลินหยางเดินเข้าไปในห้องตัดผม
การประดับตกแต่งของห้องตัดผมกับที่อื่นไม่มีอะไรแตกต่างกัน แต่แค่เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างเล็กกว่า
อีกอย่างบนผนังยังมีประตูอยู่บานนึง
ไม่ทันคิดอย่างละเอียด ผู้หญิงก็ถาม: “จะสระผมหรือว่าตัดผมคะ?”
“สระผมครับ” หลินหยางนอนอยู่บนเก้าอี้แล้วพูด ผู้หญิงก็ไม่ได้เซ้าซี้ เอาฝักบัวออกมาปรับอุณหภูมิน้ำครู่นึง ก็ได้สระผมให้หลินหยาง
คอยเพลิดเพลินกับนิ้วมือที่นวดสบายของสาวสวยท่านนี้ หลินหยางหลับตาลงด้วยความสบาย
ถึงแม้สู้เทคนิคการนวดแผนจีนของตัวเองไม่ได้ แต่ยังไงซะคนที่นวดให้ตัวเองก็เป็นสาวสวย ภายใต้ความรักใคร่เอ็นดูของในใจ หลินหยางย่อมสบายจนอยากจะครวญออกมาอยู่แล้ว
“ผู้ชายคนเมื่อกี๊ยังถือว่าไม่เลว หวังอยากให้ต่อไปลูกค้าที่มาล้วนเป็นเหมือนเขาจัง” สาวสวยกำลังสระผมให้หลินหยางอยู่ จู่ๆประตูที่อยู่บนผนังได้เปิดออก เสียงนุ่มนวลได้ก้องมา
ได้ยินคำพูดนี้ในใจของหลินหยางหวั่นไหว ถึงว่าล่ะผู้ชายคนก่อนหน้านี้เดินออกไป รู้สึกฝีเท้าเบาพลังหยางไม่พอ สงสัยคงจะเมื่อกี๊เพิ่งทำเรื่องอย่างว่าเสร็จ
หลินหยางที่ดึงสติกลับมา แอบถอนหายใจอยู่ในใจว่าตัวเองช่างโชคดีจริงๆ ไม่นึกเลยว่าเดินมั่วซั่วก็สามารถเดินมาเจอที่แบบนี้ได้
ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยสำรวจผู้หญิงที่เดินออกมา หลินหยางถอนหายใจอย่างห้ามใจไม่ได้ว่าตอนนี้หน้าตาของสาวขายบริการล้วนแต่สวยสุดๆจริงๆ
ผู้หญิงที่เดินออกมาก็สวมใส่เดรสสั้นเหมือนกัน แต่จะใส่เป็นสีม่วงอ่อน แบบที่ใส่ใกล้เคียงกับสาวใส่เดรสสีดำ ล้วนแต่ค่อนข้างรัดรูป ได้เผยทรวดทรงองค์เอวที่สวยงามของร่างกายออกมาหมด ใบหน้ารูปหัวใจ ในความสวยแฝงด้วยความไร้เดียงสา ดูแล้วทำให้คนหวั่นไหว
นาทีนี้ใบหน้าเธอแดงก่ำ เวลาเดินก็ค่อนข้างไม่สบาย ดูเหมือนระหว่างขามีอาการ แต่หลินหยางคิดตามคำพูดที่เธอพูดเมื่อกี๊ และผู้ชายที่เพิ่งออกไปเมื่อกี๊ ก็เดาออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“ผู้ชายคนนั้นนี่อึดจริงๆ ดันจัดไปตั้งสามครั้ง” ผู้หญิงสวมเดรสสีม่วงอ่อนพูดอย่างกับว่าข้างๆไม่มีคน ต่อมาเธอก็เห็นหลินหยางที่กำลังนอนอยู่บนโซฟา
“ยัยตัวแสบ มีลูกค้าเข้ามา ทำไมไม่ปิดประตู?” ผู้หญิงใส่ชุดสีม่วงอ่อนตะโกน
“ลืมจ้า”
หญิงเดรสสีดำหัวเราะแหะๆ หันไปมองพี่น้องตัวเองแล้วพูด: “เห็นเธอหนึ่งชั่วโมงไม่ได้ออกมา ถ้าไม่ใช่เธอร้องเสียงดังเกิน ฉันยังนึกว่าเธอถูกคนฆ่าแล้วเสียอีก!”
“ไปตายเลยไป แต่ดูแล้วรูปร่างของหนุ่มหล่อคนนี้ก็ไม่เลวนะ” ผู้หญิงใส่เดรสสีม่วงหัวเราะ และแวะปิดประตูด้วย
ทำอาชีพนี้ พอมีค้าขายก็จะปิดประตู เพื่อจะได้ไม่ถูกคนรบกวน
ส่วนหญิงเดรสสีดำก็ได้สระผมให้หลินหยางเสร็จ ใช้ฝักบัวชำระฟองแชมพูทิ้ง ใช้ผ้าขนหนูหุ้มศีรษะของหลินหยางแล้วพูด: “เช็ดผมเอง เลือกฉันหรือว่าเลือกเธอคะ?”
หลินหยางได้ยินแล้วถึงกับเอ๋อ เขายังไงก็คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะคือผลลัพธ์แบบนี้ เดิมทีตัวเองนึกว่านี่เป็นแค่ร้านตัดผม ใครจะไปรู้จะเป็นพฤติกรรมชั่วแบบนี้ ทันใดนั้นเขาอึ้งค้างอยู่ที่นั่นไม่รู้จะตอบยังไง
เห็นหน้าตาที่งุนงงของหลินหยาง สาวเดรสสีดำอึ้ง ทันใดนั้นรีบดึงสติกลับมา: “คุณเข้ามา แค่มาสระผมหรอ?”
“อืม ใช่ครับ” หลินหยางรีบพยักหน้า
“งั้นก็ได้” สาวเดรสสีดำไปต่อไม่ถูกเลย: “ยี่สิบหยวนค่ะ”
ราคานี้สำหรับหลินหยางไม่ถือว่าอะไร เขาควักออกมายี่สิบหยวนก็เตรียมจะไปจาก แต่กลับถูกสาวเดรสสีดำเรียกเอาไว้: “รอเดี๋ยวค่ะ คุณซ่อมวงจรไฟฟ้าเป็นหรือเปล่า? ไฟในห้องนอนเสีย ถ้าคุณเป็นก็ช่วยฉันซ่อมหน่อยค่ะ”