ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่167 ใบจิ่วเหลียน
บทที่167 ใบจิ่วเหลียน
“อะไรนะ? คุณแก้ได้?” ผู้อาวุโสกัวที่ว่าตัวเองเห็นเรื่องเกิดและตายเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว แต่ในใจของใคร จะไม่มีสิ่งที่ฝังใจล่ะ?
ณ เวลานี้ เขาจ้องมองหลินหยางด้วยสีหน้าช็อค จนเวลานั้นเขาไม่รู้จะพูดยังไงต่อแล้ว
“ถึงแม้พิษนี้จะร้ายแรง แต่พิษต้องมียาแก้พิษแน่นอน เพียงแต่ว่ายาแก้พิษนี้ มันค่อนข้างยุ่งยาก เพราะฉะนั้นสถานการณ์ของหลานชายคุณ ล้วนไม่สู้ดีนัก ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอาการของหลานชายคุณเป็นยังไงบ้าง แต่เวลาของคุณ เหลือเวลาให้เตรียมตัวแค่สองเดือนเท่านั้นแล้ว”
“ยังต้องเตรียมอะไรหรือ?” ผู้อาวุโสกัวถามด้วยความเร่งรีบ
“ส่วนผสมของยาที่ขับพิษ ผมจะเขียนสูตรให้คุณ” พูดแล้ว หลินหยางก็หยิบพู่กันบนโต๊ะขึ้นมา จุ่มหมึกแล้วเขียนสูตรยาลงบนกระดาษ
เสี้ยววินาทีที่เห็นลีลาในการเขียนของเขาแล้ว เหมือนปรมาจารย์นักเขียนพู่กัน ทักษะทางการแพทย์ของหลินหยางสำหรับผู้อาวุโสกัวแล้วยิ่งไม่สงสัยอะไรอีกเลย
นับตั้งแต่โบราณแพทย์ที่เก่งกาจ มักจะมีลายมือที่สวยงาม ท่าทีที่เขียนหนังสือของหลินหยาง เห็นได้ชัดว่ามีความเก่งกาจในด้านเขียนไม่ใช่น้อย
เป็นอย่างที่คิด หลังจากหลินหยางเขียนสูตรยาแล้ว ผู้อาวุโสกัวชื่นชม: “ตัวหนังสือของน้องชาย ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ มองไปในวงการนักเขียนพู่กัน ก็ยังสามารถติดอันดับแน่นอน”
สำหรับเรื่องนี้หลินหยางก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เขาไม่สนใจเรื่องชื่อเสียง แล้วยิ้มอย่างถ่อมตน หลินหยางถึงพูดว่า:“ผู้อาวุโสกัวลองดูสูตรของยานี้ดูครับ มียาอะไรบ้างที่หาได้ยากมั้ยครับ? ดูจากอาการของภายในร่างกายของคุณแล้ว เหลือเวลาแค่สองเดือนเท่านั้น ถ้าหากภายในสองเดือนนี้ไม่สามารถหายาทั้งหมดนี้ให้ครบ ผมก็จนปัญญาแล้วครับ”
ได้ยินคำพูดนี้แล้วผู้อาวุโสกัวดูส่วนผสมของยาอย่างละเอียด สุดท้ายถึงได้พูดว่า: “ยาอย่างอื่นไม่มีปัญหาอะไร มีแต่ใบจิ่วเหลียนนี่แหละ ถือว่าตะแก่คนนี้ความรู้น้อย ยานี้ไม่เคยได้ยินเลยจริงๆ”
“ใบจิ่วเหลียน จะขึ้นอยู่ในใต้น้ำลึกทะเลสาบ ปกติจะหาได้ยากมาก ใบไม้ใบนึงจะมีเก้าด้าน ฤทธิ์ของยาแรงมาก เป็นส่วนประกอบชั้นเลิศในการขับพิษ”
หลินหยางอธิบายไปและเลื่อมใสในความสามารถของผู้อาวุโสกัว สูตรยาที่เขาเรียบเรียงออกมา แต่เดิมเขาคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องมียาสามอย่างที่ค่อนข้างจะหาได้ยาก คิดไม่ถึงว่าจะมีแค่ใบจิ่วเหลียนเท่านั้น ดูจากสิ่งนี้ก็สามารถเห็นได้ชัดว่า ความสามารถของผู้อาวุโสกัวไม่ธรรมดาจริงๆ
“งั้นก็ได้ ไม่ว่าจะสามารถหาใบจิ่วเหลียนได้หรือไม่ บุญคุณนี้ ฉันจะจดจำไว้ในใจตลอดไป เพียงแต่ว่าช่วงนี้รู้สึกร่างกายยิ่งทรุดลงเรื่อย อาจจะทนไม่ถึงสองเดือนแล้วล่ะ” ผู้อาวุโสกัวพูดและยิ้มอย่างขมขื่น
“ถ้าหากตามสถานการณ์แบบนี้ไป ท่านอาวุโสจะมีเวลาเหลืออยู่แค่ครึ่งเดือนเท่านั้น ตอนนี้ผมจะต้องฝังเข็มให้ท่าน สกัดก้านพิษในร่างกายไว้ก่อน เพื่อป้องกันพิษแทรกซึมเข้าสู่ทั่วร่างกายครับ”หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
ผู้อาวุโสกัวก็เห็นด้วย เขาก็อยากลองได้เห็นกับตาว่าทักษะทางการแพทย์ของหลินหยาง จะเก่งกาจซะแค่ไหนกัน
ทำตามที่หลินหยางบอก ผู้อาวุโสกัวถอดเสื้อออก แล้วหันหลังเข้าหาหลินหยางและพูดว่า: “น้องชาย เริ่มได้เลย”
หลินหยางก็ไม่ลีลา หยิบเข็มในกล่องออกมา พลังมังกรและหงส์หมุนเวียนในร่างกาย เข็มที่ระยิบระยับ ทิ่มเข้าไปในร่างกายของผู้อาวุโสกัว
ตอนที่เห็นฝีมือในการฝังเข็มที่แม่นยำของหลินหยางแล้ว ผู้อาวุโสกัวตาเปล่งประกาย ฝีมือของพ่อหนุ่มคนนี้ เมื่อเอามาเทียบกับตัวเองแล้วถึงกับสูสีไม่แพ้กันเลย ชายคนนี้อายุแค่ยี่สิบกว่าจริงๆหรือ?
หรือว่ามีวิธีที่บำรุงปกป้องใบหน้าเหรอ?
ฝีมือของหลินหยางรวดเร็วมาก เข็มได้ทิ่มเข้าไปในร่างกายของผู้อาวุโสกัวดั่งสายฝน ผ่านไปครู่นึง เข็มแปดสิบเอ็ดเข็มได้ฝังเข้าไปในจุดต่างๆของผู้อาวุโสกัว
และในร่างกายของผู้อาวุโสกัว เกิดคลื่นขนาดใหญ่ตั้งนานแล้ว! ฝีมือในการฝังเข็มของหลินหยาง พลิ้วไหวดั่งสายน้ำ ในลึกๆมีความคล้ายกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำไมถึงได้เหมือนแขนงการแพทย์ขั้นเทพที่หายสาบสูญไปนานขนาดนี้?
แต่ว่าแขนงการแพทย์ขั้นเทพ ได้หายสาบสูญไปเมื่อห้าสิบปีก่อนแล้วนี่น่ะ และได้กลายเป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่ใหญ่หลวงของวงการแพทย์แผนจีน
“หลินหยาง วิชาแพทย์ของคุณ เรียนมาจากไหนหรือ?” อดกลั้นไปครู่นึง หลังจากหลินหยางบิดหมุนเข็มทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว ผู้อาวุโสกัวอดไม่ได้จนถามเขา
“สืบทอดมาจากบรรพบุรุษครับ” หลินหยางก็ไม่ได้ปิดบังอะไร
“ไม่ทราบว่าบรรพบุรุษของคุณคือใครหรือ?”
“เซียวหานครับ คุณปู่ไม่มีคำนำ และใช้ชีวิตในหมู่บ้านตลอด พวกคุณไม่รู้จักหรอกครับ” หลินหยางพูดเสียงเบา
“น้องชาย ไม่ทราบว่าคุณเคยได้ยินแขนงการแพทย์ขั้นเทพหรือไม่?” ผู้อาวุโสกัวถามอย่างจริงจัง
หลินหยางเคยได้ยินชื่อนี้ ตอนนั้นยังเด็ก ตอนที่ปู่ของตัวเองพูดพึมพำเคยเอ่ยถึงชื่อนี้ ตัวเองก็เคยถามปู่ว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์ของสำนักนี้หรือไม่ แต่กลับถูกคุณปู่ด่าซะยับเลย หลังจากนั้นก็ไม่เคยเอ่ยถึงอีก
เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว หลินหยางยังคิดว่าตัวเองลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่พอได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสกัวแล้ว ความทรงจำในวัยเด็กได้โผล่ออกมาทันที
ในใจของหลินหยางกระตุกอย่างแรง ถึงแม้จะไม่สามารถพิสูจน์จากปากของคุณปู่ว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์ของแขนงการแพทย์ขั้นเทพ แต่ตัวเองต้องมีความสัมพันธ์อะไรกับสำนักนี้อย่างแน่นอน
เงียบไปพักนึง หลินหยางถึงได้พูดว่า:“เรื่องนี้ไม่เคยได้ยิน น่าจะไม่ใช่มั้งครับ พิษในร่างกายคุณถูกผมสกัดเอาไว้ชั่วคราวแล้ว เวลาต่อจากนี้ ต้องเร่งรีบไปหาส่วนประกอบของยาครับ”
พอได้ยินหลินหยางเปลี่ยนประเด็นแล้ว ถึงแม้ในใจจะสงสัย แต่ผู้อาวุโสกัวก็ไม่อาจจะพูดอะไรอีก ลังเลอยู่ครู่นึงถึงได้ถามว่า: “ไม่ทราบว่าน้องชาย จะสะดวกตามฉันไปดูหลานชายหน่อยมั้ย?”
“อาการภายในของหลานชายคุณ น่าจะเบากว่าของคุณเยอะเลยสินะครับ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ ช่วงเวลานี้ก็ไม่จำเป็นต้องสกัดหรอกครับ” หลินหยางพูด
“ก็ได้ งั้นตาแก่คนนี้จะกลับไปหาส่วนประกอบของยาเดี๋ยวนี้แหละ บุญคุณนี้ ฉันจะจดจำไปตลอดชีวิต” ผู้อาวุโสก็ไม่สำออย เขาคารวะหลินหยาง ก็ได้เรียกลูกน้องสองคนเดินออกไปด้านนอก
“ผู้อาวุโสกัว หนุ่มคนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ? มีความคิดจะดึงเขาเข้ามาใน“จงหน”ของเรามั้ยครับ” ชายหน้าดำพูดด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้วันนี้จะจมอยู่ในมือเขา แต่ว่าความสามารถที่หลินหยางแสดงออกมาล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาได้ แถมยังทำให้เขาตกตะลึงจริงๆ
ผู้ชายล้วนแต่จะนับถือผู้แข็งแกร่ง การปรากฏตัวของคนที่แข็งแกร่งอย่างหลินหยาง ต่อไปหากชี้แนะเขาให้ดีๆ บางทีความสามารถของเขาอาจจะยังเก่งขึ้นอีกขั้นก็ได้ อีกอย่างจงหนก็ต้องการคนที่มีความสามารถอย่างหลินหยางด้วย
“ยอดคนอย่างหลินหยาง ไม่เพียงแค่ฝีมือเก่งกาจกว่าพวกคุณ แม้กระทั่งทักษะทางการแพทย์ก็เหนือกว่าฉันแล้วด้วยซ้ำ ส่วนในความสามารถทางด้านอื่น แล้วใครจะรู้ว่าเขาจะเก่งในเรื่องอะไรบ้าง คนที่มีพรสวรรค์แบบนี้ สุดยอดไม่ธรรมดาจริงๆ กลับไปครั้งนี้ ฉันจะรายงานเบื้องบน ให้หยินจั้วมาดึงตัวเขาด้วยตัวเอง!”
“อะไรนะครับ ให้หยินจั้วออกโรงเอง?” ชายหน้าดำตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจ
จงหน อยู่ในประเทศถือว่าเป็นหน่วยลับ คนในหน่วยไม่เยอะ แต่ทุกคนล้วนเป็นหัวกะทิในหัวกะทิทั้งนั้น ในมือทุกคน ล้วนมีอำนาจที่ไม่เลว เช่นการถือครองอาวุธปืน ฆ่าคนและอื่นๆ หน่วยงานที่ลึกลับแบบนี้ หัวหน้าหน่วยในนั้น ก็มีฐานะที่โดดเด่นมากแล้ว และในฐานะที่เป็นผู้นำของจงหน หยินจั้วยิ่งมีฐานะที่เหนือกว่า
แค่เด็กวัยรุ่นคนเดียว ถึงกับต้องให้หยินจั้วออกโรงเลยหรือ?
“พวกแกอาจจะไม่เชื่อว่าหลินหยางจะมีค่าเช่นนี้ ถึงกับมีค่าที่จะต้องให้หยินจั้วออกโรง แต่ด้วยประสบการณ์สายตาที่ฉันดูคนมาทั้งชีวิตนี้ การที่หยินจั้วออกโรง ไม่ได้เป็นการลดตัวอย่างแน่นอน ไอ้หนุ่มนี่ ยังไงก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยม” หัวเราะอย่างขมขื่น ผู้อาวุโสกัวโบกมือ เรียกรถมาคันนึง ทั้งสามคนเข้าไปในรถ
หลินหยางไม่เคยถามว่าผู้อาวุโสกัวเป็นใครกันแน่ หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็ได้เดินขึ้นไปชั้นสองอย่างเร่งรีบ แล้วเปิดเตาต้มยาออก เคาะซ้ายทีเคาะขวาที แล้วทำตามวิธีในตำราโบราณที่ตัวเองอ่าน ในที่สุดก็ได้ความรู้อะไรบ้างแล้ว
เตรียมยาผสมที่ต้องการใช้ในการปรุงครีมแผลลายให้แล้วเสร็จ หลินหยางได้เริ่มก่อไฟ แล้วเทวัสดุสมุนไพรแต่ละอย่างเข้าไปในเตาต้มยา
เวลาชั่วโมงครึ่งผ่านไป กลิ่นหอมอ่อนๆกระจายออกมาจากเตาต้มยา ตามเวลาที่ค่อยๆผ่านไป กลิ่นหอมเหล่านี้ยิ่งเข้มข้นขึ้น
กลิ่นหอมเข้มข้นแต่ว่าไม่ฉุน ซึมซาบเข้าไปในหัวใจ ถึงคนห่อหุ้มอยู่ในควันโขมง ก็ยังรู้สึกสดชื่นสบายใจ
เตาต้มยานี้มีประสิทธิผลที่รักษาฤทธิ์ยาได้เป็นอย่างดี สามารถมีกลิ่นหอมที่เข้มข้นเอ่อล้นออกมา ถ้าเปิดเตาต้มยาออก ไม่รู้ว่าจะหอมถึงขนาดไหนเชียว
เปิดเตาต้มยาออกอย่างรีบร้อน หลังจากเห็นครีมสีเขียวมันเงาของด้านใน ใบหน้าของหลินหยางเผยรอยยิ้มที่ดีใจออกมา
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสําเร็จอยู่ที่นั่น ยานี้ไม่เพียงแค่ปรุงสำเร็จ แถมฤทธิ์ยายังดีกว่าที่ปรุงก่อนหน้านั้นเยอะ
ถ้าพัฒนาตามสถานการณ์อย่างนี้ต่อไป ครีมแผลลายสามร้อยขวด ใช้เวลาสามวันในการผสมไม่มีปัญหาเลย
เอาครีมแผลลายที่อยู่ในเตาต้มยาทั้งหมดนี้ใส่ไปในขวด ไม่นึกเลยว่าจะใส่ได้ห้าสิบกว่าขวด อีกอย่างนี่ยังเป็นสาเหตุที่เพื่อความปลอดภัย หลินหยางเลยไม่ได้ใส่วัสดุสมุนไพรลงไปเยอะ
หลินหยางกะว่าจะใช้เวลาสองวันในการเตรียมครีมแผลลายออกมาห้าร้อยขวด แบบนี้เพื่อเป็นผลดีกับก้าวแรกของบริษัท
สองวันต่อจากนี้ หลินหยางจมอยู่กับการปรุงครีมแผลลาย หลังจากผ่านการปรับตัวมาสองวัน หลินหยางก็มีความสามารถในการควบคุมที่คล่องแคล่วยิ่งขึ้นกับเตาต้มยานี้
เวลาสองวัน ครีมแผลลายที่หลินหยางปรุงก็ไม่ใช่ห้าร้อยขวด แต่เป็นหนึ่งพันขวด! เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้หนึ่งเท่าเต็มๆ ทำให้หลินหยางคึกคะนองเล็กน้อยไปรอบนึง
ถ้าขายในราคาขวดละห้าแสน หนึ่งพันขวดก็จะมีรายได้ห้าร้อยล้าน! กำไรนี้มหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
หลินหยางไม่ใช่ว่าชอบเงินมากเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่หาว่าตัวเองเงินเยอะหรอก
พอตอนที่หลินหยางเดินออกมาจากห้องนอนก็สองทุ่มแล้ว ผลักประตูห้องออก ก็เจอกับกั่วเหมิงที่กำลังไปชั้นสามพอดี
หลังจากเห็นหลินหยาง กั่วเหมิงหันหลังมาอย่างไม่สบอารมณ์และกำลังจะใส่อารมณ์: “คุณนี่เก่งหนิ ถ้าคุณไม่อยากเข้าเรียนก็พูดมาตามตรง โดดเรียนโดยที่ไม่ลารู้สึกน่าภาคภูมิใจมากใช่มั้ย โดดเรียนก็แล้วไป คุณรู้มั้ยว่าช่วงนี้หัวหน้าของมหาลัยโรคกำเริบ ไม่นึกเลยว่าจะไปเช็คชื่อในห้องเรียน แม่งคุณโดดเรียนมาสองวันถูกจับได้ถูกลงโทษตักเตือนไม่พอ แถมทางมหาลัยยังด่าฉันที่เป็นครูประจำห้องชุดใหญ่……..”
“เหมิงเหมิง บังเอิญจังเลยครับ ออกมาก็เจอคุณเลย” หลินหยางยิ้มเบาๆแล้วพูด
กั่วเหมิงที่กำลังจะปรี๊ดแตก ได้ยินคำพูดของหลินหยาง เกือบจะกระอักเลือดออกมา
ที่แท้ตัวเองพูดมาครึ่งค่อนวัน คำพูดที่พูดออกมา ไอ้หมอนี่ไม่ใส่ใจเลยด้วยซ้ำ? ยังบังเอิญอีก บังเอิญน้องมึงดิ!
กั่วเหมิงที่โมโหจนกระหืดกระหอบ เตรียมจะลงชั้นล่างสั่งสอนหลินหยางดีๆ แต่ปรากฏเพราะอารมณ์ไม่สงบนิ่ง ระหว่างลงบันไดขาสะดุด ร่างกายได้โน้มตัวไปด้านล่าง
หลินหยางก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ แต่ว่าอาศัยที่ตาไวมือไว ภายใต้เสียงร้องตกใจของกั่วเหมิงยังร้องออกมาไม่หมด หลินหยางก็พยุงกั่วเหมิงที่ใบหน้าจะกระแทกลงพื้นไว้แล้ว
“เหมิงเหมิง คุณเป็นไรมั้ย?” หลินหยางถามด้วยความเป็นห่วง
ภาพที่หวาดเสียวและตื่นตกใจของเมื่อกี๊ ก็ได้ทำเอากั่วเหมิงตกใจ ครึ่งค่อนวันถึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “เมื่อกี๊เกือบจะเสียโฉม ทำฉันตกใจตายเลย!”
“แหะๆ เสียโฉมก็ไม่ต้องกลัวหรอก ที่ผมมียา” หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไสหัวไป!” กลอกตาขาวใส่หลินหยางอย่างโกรธ กั่วเหมิงเตรียมจะขึ้นชั้นบน ร่างกายก็ได้โน้มตัวอีกครั้ง เธอร้องโหยหวนและพูด: “ขาฉันพลิก!”
หลินหยางรู้สึกดีใจ วันนี้กั่วเหมิงเฮงซวยจริงๆ หลินหยางได้อุ้มกั่วเหมิงขึ้นไปชั้นสามด้วยท่าอุ้มเจ้าสาว: “ไม่เป็นไรครับ ไปถึงห้องผม ผมบีบนวดให้ เดี๋ยวก็หายแล้ว”
เอากั่วเหมิงวางอยู่ที่บนเตียงของตัวเอง หลินหยางกำลังจะถอดรองเท้าแตะให้กั่วเหมิง
กั่วเหมิงที่เดิมทีอยากปฏิเสธ ในใจกลับไม่มีความคิดที่จะปฏิเสธเลย ปล่อยให้หลินหยางกุมขาเล็กๆของตัวเอง
ขาของกั่วเหมิงขาวมาก เวลาบีบนวดขึ้นมานุ่มมาก แบ่งเจินชี่ออกมาเสี้ยวเพื่อช่วยในการไหลเวียนของเลือด ทันใดนั้นความรู้สึกสบายก็ได้คืบคลานเข้ามาหากั่วเหมิง
“โอ๊ย——” ภายใต้การนวดที่สบายเช่นนี้ กั่วเหมิงส่งเสียงครางยาวๆออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
เพียงแต่เสียงนี้ฟังแล้วกระชากวิญญาณมาก แทบจะไม่ต่างกับเสียงร้องบนเตียงของผู้หญิงเลย