ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่225 น่าอับอาย
บทที่225 น่าอับอาย
งานวรรณกรรมและกีฬาได้เริ่มต้นขึ้น ตอนนี้คือช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิเดือนสิบเอ็ดแล้ว ยังมีเวลาซ้อมอีกประมาณอาทิตย์กว่า การเล่นบาสของทีมสาขาแพทย์แผนจีนได้ยกระดับขึ้นมามาก ล้อมรอบไปด้วยทักษะการเล่นของหลินหยาง โดยรวมแล้วเข้าร่วมการแข่งขันบาสในตอนบ่ายไม่ใช่ปัญหา
ในระหว่างนี้ คู่ใจของหลินหยางหัวหน้าหวังเถียนเถียนก็มารบกวนเขาบ้างเป็นบางครั้ง แต่หลินหยางทั้งแรงกายแรงใจทุ่มอยู่แต่กับการแข่งขัน ผู้หญิงก็ไม่ได้เข้ามารบกวนอีก
ในเวลาตอนบ่าย กลางสนามกีฬามีธงสีรุ้งปักเต็มไปหมด มีทั้งป้ายตัวหนังสือที่เขียนเรียงยาวตรึงไว้ หลินหยางพาพวกทีมเดินออกมา ที่ทำให้พวกเขาอึ้งก็คือหวังเถียนเถียนสร้างทีมเชียร์ลีดเดอร์ขึ้นมา พวกสาวในสาขาแพทย์แผนจีนต่างสวมกระโปรงสั้น เสื้อคอกว้าง กลายเป็นจุดเด่นในสนาม
รอพวกหลินหยางออกมาจากห้องพักแล้ว พวกสาวเชียร์ลีดเดอร์ก็กรี๊ดเสียงดังลั่น บรรยากาศในสนามปะทุขึ้นมาทันที
พิธีกรในงานเป็นตาแก่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ พูดอยู่นานมาก การแข่งขันก็ได้เริ่มขึ้นสักที
นักกีฬาลงสนามก่อน หลินหยางพวกเขาพาพวกรุ่นน้องลงสนาม พวกสาวเชียร์ลีดเดอร์ก็โบกพู่เชียร์ในมือสะบัดไปมา หลัวอี้สาขาเภสัชฝ่ายตรงข้ามก็ลงสนามพร้อมกัน แต่ที่ทำให้หลินหยางตกใจก็คือด้านหลังกลับไม่ใช่คนสาขาเภสัช! เป็นพวกสูงสองเมตรร่างใหญ่กำยำลงสนามมา พวกสาขาเภสัชก็ต่างร้องโฮกันใหญ่
หลินหยางรู้สึกรังเกียจพวกเขาจากใจจริง เจ้าพวกนี้ไปหาคนจากข้างนอกมาสิท่า ยังเป็นนักกีฬามืออาชีพอีกด้วย ดูทรงพวกเขาแล้วน่าจะเป็นทีมเยาวชนสองของสโมสรไหนสักที่ หลัวอี้ลงทุนไปเยอะจริงๆสินะ
“หัวหน้า หลัวอี้เจ้าหมอนี้หน้าไม่อายจริงๆ กล้าไปเชิญคนของทีมเยว่ตงมา พวกเราทำยังไงดี?” คนตัวเล็กถาม
หลินหยางแสยะยิ้ม: “กลัวอะไร เขาจะกินพวกนายได้หรือไง? เล่นตามปกติ พวกเขาไม่ใช่ทีมNBA สักหน่อย จำเป็นต้องกลัวไหม? หลัวอี้ก็แค่ลูกกะจ๊อก เล่นบาสมาก็นานแล้ว กลับหาแต่พวกตัวใหญ่ๆมา!”
ฝึกซ้อมกับหลินหยางในหนึ่งสัปดาห์มานี้ พวกรุ่นน้องนับถือเขาจากใจจริงกันหมด ก่อนอื่นพวกเขาเห็นว่าหลินหยางมีพลังเกินขีดจำกัด พวกเขาฝึกซ้อมกันต้องเปลี่ยนคนเรื่อยๆแต่หลินหยางไม่ต้องเปลี่ยนเลย อีกอย่างหลินหยางมีทักษะที่เกินเลยคนอายุเดียวกัน พวกรุ่นน้องต่างพูดกันว่าถ้าเขามีผลงานในการแพทย์ไม่น้อยแล้ว อย่างก็น่าจะได้เข้าทีมรุ่นเยาวชนอยู่บ้างนะ
“ทีมเยาวชนเข้าไปทำไมกัน แม้พวกเราจะเล่นบาสยังไม่ถือว่าดีมาก แต่ก็ดีกว่าเล่นฟุตบอลมาระดับหนึ่ง ยังคงไม่ดีอยู่!” หลินหยางตอบโต้
แม้จะเป็นแบบนี้ พวกรุ่นน้องก็ไม่สงสัยในความสามารถเขาเลย ก็รอแข่งขันกับพวกสาขาเภสัชเลยแล้วกัน
สาขาเภสัชเล่นสกปรกเชิญคนข้างนอกมา ทำให้พวกรุ่นน้องที่ตอนแรกยังมีความมั่นใจอยู่ก็ต้องใจฝ่อไปทันที ไม่ต้องแข่งก็เหมือนเห็นผลแล้วนะ
การแข่งขันแรกเริ่มขึ้น พวกคนตัวสูงใหญ่ใช้ประโยชน์จากร่างกายกระโดดคว้าลูกบอลมาได้ก่อน หลัวอี้เลี้ยงบอล เขาไม่ได้พุ่งเข้าไปทันทีเหมือนเมื่อก่อน แต่วิ่งไปที่ว่างและส่งให้คนตัวสูงชูต
คนนอกที่เชิญมามีทักษะที่ไม่เลว ชูตเข้าเหมาะเจาะ เสียงตะโกนของสาขาเภสัชดังก้องไปทั่ว ทำเอาพวกหวังเถียนเถียนโกรธมากแต่ก็ไม่มีที่ให้ระบาย
หลินหยางรีบตบมือตะโกนว่า: “ตั้งสติไว้ พวกเขาเล่นมีสติ พวกเราอย่ารน เอาทักษะที่ฝึกซ้อมออกมา! เล่นกับฉันไม่เคยเห็นพวกนายถอยเลยนี่ วันนี้ยังกลัวหลัวอี้เจ้าคนขี้ขลาดนั่นเหรอ?”
เขาพูดยั่วยุให้พวกรุ่นน้องตั้งสติและตั้งมั่นไปที่การจู่โจม ตามแผนการของหลินหยางแล้ว พวกรุ่นน้องวิ่งไปที่ว่างกับการบัง สร้างโอกาสให้กับหลินหยาง พวกรุ่นน้องตัวเล็กใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของร่างกาย หาที่ว่างอยู่ตลอด หลินหยางเห็นที่ว่างอยู่ก็รีบพุ่งเข้าไปกระโดดดังค์บาสได้คะแนนไป
หลินหยางตอนกระโดดขึ้นไปนั้นทำเอาทุกคนในสนามมองค้าง เขาพึ่งกระโดดจากเส้นลูกโทษไปหมาดๆ ตัวสูงแบบนี้ทับพวกตัวสูงสองเมตรและได้คะแนนจากการดังค์บาสไป ตอนนี้มีพลังของการสะกดไว้มาก เป็นการแสดงอำนาจที่ได้ผลมาก!
คนนอกสองคนจากทีมเยว่ตงพูดอย่างโมโหว่า: “หลัวอี้ นายหลอกพวกเรานี่ นายบอกว่าหมอนั่นเล่นไม่เก่งไม่ใช่เหรอ? การกระโดดนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ? ฉันตัวสูงแบบนี้ยังไม่เคยมีใครกระโดดข้ามตัวฉันไปชูตบาสได้เลยนะ!”
“ฉันก็ไม่รู้นี่ พวกนายอย่าพึ่งรีบร้อนสิ ทางนั้นก็มีแค่เขาเล่นเป็นคนเดียว ฉันไปยื้อเขาไว้เอง!” หลัวอี้พูด
ทางนี้ได้คะแนนจากท่าสวยทำเอาพวกหวังเถียนเถียนร้องกรี๊ดกันใหญ่ สะบัดแรงขึ้นกว่าเดิมอีก
“ทุกคนคงเดิมแบบนี้แหละ พวกนายบังพวกเส้นในเอาไว้ บังคับให้พวกเขาต้องชูตจากเส้นนอก!” หลินหยางพูดเตือน
ในบรรดาคนตัวเล็กสามคนที่ส่งลูกก่อนในสนาม มีคนตัวสูงเพียงคนเดียวที่มีทักษะการป้องกันที่ดี แต่ก็ไม่สามารถต้านทานคู่ต่อสู้สองคนได้ หลินหยางย้อนกลับไปในเขตในเพื่อช่วยป้องกัน อีกฝ่ายที่ได้ลูกยังคงเป็นหลัวอี้ เขาเห็นหลินหยางอยู่ที่ตำแหน่งมั่นคงมาก ไม่รีบร้อนในการจู่โจม เขาเลี้ยงลูกไปเรื่อยๆ
หลินหยางเห็นทีมตัวเองกำลังหลงกล ก็รีบตะโกนว่า: “อย่าพึ่ง ติดตัวเขาไว้! ป้องกันด้านใน!”
หลัวอี้ไม่คิดว่าความคิดของตัวเองจะถูกเขาจับได้ รู้สึกโกรธแค้นในใจ ถอยหลังนิดเดียวก็ชูตได้แล้ว แต่ทางนี้ติดมากเกินไป มุมชูตไม่ดีมาก ชูตออกไปแบบเฉียดฉิวกับแป้น หลินหยางเห็นโอกาสก็รีบเข้าไปคว้าลูกบาสไว้ทัน ต่อมาก็ลงมืออย่างไม่ลังเล ทีมของเขาได้รับสัญญาณแล้วก็รีบออกตัวทันที
ลูกบาสลงไปที่มือของทีมอย่างแม่นยำ ชูตบาสได้คะแนนอย่างง่ายดาย นี่เป็นแผนการที่พวกเขาฝึกซ้อมมาอย่างดี พอได้คะแนนพวกเขาก็กำหมัดชูขึ้นอย่างดีใจ ความมั่นใจของพวกเขากลับมาแล้ว!
คะแนนเริ่มต้นสี่ต่อสอง ทำเอาหลัวอี้โมโหขึ้นมา ที่ทำให้เขากลุ้มก็คือเขาเห็นพี่สาวตัวเองกำลังตะโกนให้กำลังใจหลินหยางในหมู่ผู้คน
การแข่งขันก็ร้อนแรงขึ้นทันที สองฝ่ายจู่โจมกันโดยไม่ยั้งมือ ด้วยความสามารถของหลินหยางคะแนนกระเตื้องไปถึงสิบห้าต่อสิบเอ็ด นำอีกฝ่ายสี่คะแนน หลัวอี้ทางนั้นก็ขอหยุดพัก หลินหยางก็พาทีมนั่งลงและตบมือให้กำลังใจ
“ทำได้ดีมากทุกคน มั่นคงไว้ เยว่ตงทีมสองแล้วยังไง พวกเราก็เล่นตามปกตินั่นแหละ!” หลินหยางหัวเราะและทีมก็หัวเราะตามไปด้วย
“หัวหน้า มีพี่อยู่ ทุกอย่างก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก!” รุ่นน้องต่างโห่ร้องกัน
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น อีกฝ่ายเปลี่ยนแนวการรบ หัวเกรียนสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนลงสนาม ดูทรงแล้วคงจะรู้ว่ากลยุทธ์กลางใช้ไม่ได้ผลกับหลินหยาง เป็นไปตามคาด พอเปลี่ยนวิธีแล้ว อีกฝ่ายไม่จู่โจมเขตในอีก แต่ใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวเท้าของพวกเขาได้โอกาสในการลงมือจากนอกเส้น ชูตสามคะแนนได้สองครั้งติด ไล่ตามคะแนนทันแล้ว
“ทุกคน พวกเรามาปรับเปลี่ยนกันหน่อย พวกเขาไม่เล่นเส้นในแล้ว! ป้องกันเปลี่ยนเป็นป้องกันร่วมกัน ไม่จับจ้องคน หาโอกาสจู่โจมเร็ว!!” หลินหยางพึมพำ
ทุกคนได้รับคำสั่ง เปลี่ยนวิธีเล่นโจมตีกลับ หลินหยางเปลี่ยนจากโจมตีหลักเป็นผู้จัดการแทน ใช้ประโยชน์จากความเร็วของตัวเองขัดขวางอีกฝ่ายและส่งลูกไปตรงกลาง ลูกทีมชูตบาสได้คะแนนอย่าไม่ลังเล พอป้องกันเปลี่ยนเป็นป้องกันร่วมกันแล้ว การป้องกันตามพื้นที่กลับทำให้หลัวอี้เสียใจมากกว่า การเคลื่อนไหวและจังหวะรวนไปหมด หลินหยางมองเห็นโอกาสก็แย่งลูกจากเขามา ต่อมาก็กระโดดชูตได้อีกครั้ง
คะแนนห่างกันที่สี่คะแนนอีกครั้ง หลัวอี้ทำสีหน้าบึ้งตึงไปหมด
“ทุกคน เจ้าหมอนี้เก่งแบบนี้? นายบอกอะไรพวกเราเนี้ย!” คนด้านนอกต่างพากันบ่น
“นั่นสิ ทักษะนี้ไปเชิญจากที่ไหนมาก่อนเถอะ?”
หลัวอี้กัดฟันกรอด พูดอย่างโกรธแค้นว่า: “พวกเราต้องเปลี่ยนวิธีแล้ว จะให้เจ้าหมอนั่นมันยโสอีกไม่ได้!”
“ได้ นายว่ามาทำยังไง?” คนหัวเกรียนถาม
“ผิดกฎ!” หลัวอี้แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์
กลยุทธ์ผิดกฎโดยปกติจะใช้ตอนที่การแข่งจะสิ้นสุดแล้ว หรือตอนที่คะแนนสูสีกัน แต่เจ้าหมอนี่จะใช้แผนนี้ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ทำไปเพื่อชัยชนะ หลัวอี้ทำไปเพื่อจัดการหลินหยางทั้งนั้น
พวกคนตัวสูงสลับกันใช้ร่างกายจัดการหลินหยาง คิดอยากจะดันตัวหลินหยางออกไปยิ่งไปกว่านั้นยังตบไปที่นิ้วมือของเขาอีก การกระทำแบบนี้มันน่าสมเพชอย่างมาก หลินหยางโดนไปแล้วครั้งหนึ่ง ไหล่มีความช้ำเล็กน้อย แต่ว่าเขาไม่สนใจด้วยซ้ำ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเลย แค่เพียงใช้เจินชี่นวดเบาๆก็คลายความเจ็บได้แล้ว
แต่ที่น่าโมโหคือกรรมการเข้าข้างอีกฝ่ายหลายครั้ง ไม่สนใจในการแหกกฎของอีกฝ่าย ทั้งสนามต่างโห่ร้องกัน คนตัวสูงที่อยู่กลางของเยว่ตงก็ยิ่งทำตัวกำเริบเข้าไปใหญ่ โจมตีหนักกว่าเดิม หลินหยางครั้งนี้มีการป้องกันตัว ในตอนที่จะจู่โจมตัวเอง แอบใช้เจินชี่ดันกลับออกไป
เสียงโอ๊ยดังขึ้น คนตัวสูงล้มลงพื้น แต่คนในสนามบาสกลับไม่เข้าใจ เพราะหลินหยางยังห่างจากเขาตั้งไกล คนตัวสูงถูกยกออกไปโดยเปล การแข่งขันดำเนินต่อไป
หลัวอี้เริ่มร้อนรน พอตาพวกเขาได้บอลและจู่โจม เขาเลี้ยงลูกพุ่งไปทางหลินหยาง ไม่หยุดเลย เหมือนควายกระทิงพุ่งเข้ามา
หลินหยางสนใจแต่งลูกบอล ไม่คิดว่าหมอนี่กลับใช้วิธีนี้กับตัวเอง เขากระตุกยิ้มหลีกทางเล็กน้อย การเคลื่อนไหวนี้เร็วเกินไปทำให้หลัวอี้เห็นไม่ชัด ผู้ชมในสนามก็มองหลัวอี้เหมือนคนโง่ที่วิ่งเข้าไปชนเสาบาสเอง
เสียงดังเคร้ง หลัวอี้จับหัวไว้ร้องโอ๊ยออกมาเสียงดัง เขาวิ่งมาเร็วมาก ตอนแรกคิดจะวิ่งชนคนตรงหน้า แต่กลับไม่โดนตัวเลยสักนิด
คนในสนามต่างโห่ร้องและหัวเราะกันใหญ่ กลยุทธ์อะไรของเขาน่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“น่าอายจริงๆ!” หลินหยางหัวเราะ
หัวของหลัวอี้มีก้อนใหญ่ออกมาเหมือนไข่ หมอนี่ถูกพยุงขึ้นมา การแข่งขันดำเนินต่อไป ไม่มีหลัวอี้คอยวุ่นวายแล้ว หลินหยางก็เล่นได้ถนัดมากขึ้น คนนอกจากเยว่ตงที่เชิญมาเห็นว่าคงไม่ชนะแล้ว ก็ไม่จู่โจมกลับแล้ว สถานการณ์การแข่งขันพลิกผันไปทันที
สุดท้ายคะแนนหยุดที่แปดสิบต่อสี่สิบห้า คนในสนามต่างลุกเฮกัน ทุกคนไม่คิดว่าผลจะเป็นแบบนี้ ลูกทีมต่างก็ยกตัวหลินหยางขึ้น ยกตัวเดินไปตรงเวทีรับรางวัล
ท่าเต้นของทีมเชียร์ลีดเดอร์ก็เซ็กซี่มากขึ้น ผู้ชมในสนามต่างก็พูดกันว่านี่เป็นการแข่งขันที่มหัศจรรย์ที่สุดแล้ว แม้คะแนนจะแตกต่างกันมาก แต่การแข่งขันกลับน่าสนใจอย่างมาก ดูแล้วสะใจมาก
หลินหยางกลับไปห้องพักกับลูกทีมอย่างดีใจ เสียงตะโกนพวกเขาเกือบจะดังทั่วตึกแล้วก็ว่าได้ เสียงเคาะประตูทำให้พวกเขาเงียบลงทันที สาวหุ่นดีเดินเข้ามา
ทุกคนมองไปก็เห็นหวังเถียนเถียนหัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์ หลินหยางยิ้มกว้างและเดินไปหาเธอ พวกลูกทีมเห็น ก็ต่างหยิบเสื้อตัวเองและเดินออกไปกันอย่างรู้หน้าที่ ห้องพักขนาดใหญ่เหลือเพียงพวกเขาสองคน
“ไม่เจอกันนานเลยนะ!” หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
“นายมัวยุ่งกับเรื่องตัวเอง โรงเรียนก็ไม่มาแล้วเหรอ!” หวังเถียนเถียนพูด
หลินหยางกอดเธอไว้และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ฉันมาแล้วนี่ไง? วันนี้เธอสวยจัง!”
ก้มหน้าลงไปก็เห็นหวังเถียนเถียนร่องอกที่ลึกลงไป เสื้อคอเว้าของทีมเชียร์ลีดเดอร์เป็นอะไรที่ล่อแหลมมาก บีบสองก้อนเข้าด้วยกันจนแทบทะลักออกมา
“พูดเก่งจังเลยนะ ฉันอยากได้การกระทำมากกว่า!” หวังเถียนเถียนจับด้านล่างของเขาแน่น
ร่างกระตุก หลินหยางพูดอย่างเขินๆว่า: “ตรงนี้ไม่สะดวกหรอก!”
“กลัวอะไรล่ะ ไม่มีใครเข้ามาสักหน่อย!” สายตาหวังเถียนเถียนเต็มไปด้วยความอยากได้