ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes - ตอนที่ 122
เจสันรู้เพียงว่าร่างกายของเขากำลังลุกไหม้ ในขระที่ไม่มีหนทางให้เขาหนีจากไฟนรกนี้ มันไหลผผ่านช่องมานาและเส้นเลือด และกระจายไปทั่วร่างกาย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่มันมีแต่ความเจ็บปวดที่เจสันได้รับรู้แต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่นิดเดียวเมื่อการเชื่อมต่อของเขากับเปลวเพลิงสีดำได้เกิดขึ้น
เปลวเพลิงนี้มันไม่ได้แค่เชื่อมกับจิตวิญญาณของเจสันเท่านั้น แต่มันยังแผดเผาไปทั่วร่างกายซึ่งมันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในและภายนอก
ตอนนี้เจสันกำลองนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ และมีหญิงชรายืนอยู่ข้างๆ เชน ในขณะที่หญิงชรากำลังกังวลใจ เมื่อเห็นชายผมดำกำลังหอบอย่างทุกข์ทรมาณ เจนเองก็มองไปเจสัน แต่เขากลับรู้สึกอิจฉาเจสัน
“เขาหาออริจิ้นเฟลมเจอได้อย่างไรกัน ทำไมมันถึงมาอยู่ในอาณาจัรของก็อบบลิน” เชนบ่น
“ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วแหละ ฮ่าๆ ” เธอหัวเราะเบาๆ
เชนถอนหายใจเพราะรู้ว่ามันเป็นความจริง
“อ๊ากก ถ้าฉันยังเหลือที่ว่างในโลกวิญญาณนะ “
ทันใดนั้นเจสันก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและห้องก้เริ่มร้อนขึ้นเล็กน้อย เปลวเพลิงสีดำได้พุ่งกระจายออกมาจากร่างกายของเจสันพร้อมกับสิ่งสกปรกที่มีกลิ่นเหม็น ซึ่งทำให้เชนและหญิงชราเบิกตากว้าง
“ดาเลีย เจ้าเคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับออริจิ้นเฟลมมาก่อนหรือเปล่า”เชนถาม
ในขณะที่หญิงชราได้ส่ายหัว
เมื่อเธอไปสัมผัสกับเปลวเพลิง เธอก็ได้สัมผัสถึงความร้อนอันน่าสะพรึงกลัวที่ต้องการจะกลืนกินเธอ เธอรีบชักแขนออก
“นี่ไม่ใช่ออริจิ้นเฟลมธรรม ออริจิ้นเฟลมปกติจะมีระดับต่ำกว่า B แต่นี้มันอาจจะเป็นระดับ A-S แต่ฉันก็ไม่แน่ใจ อาจจะเป็นเพราะมันเพิ่งถูกปลุกขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน แต่ถ้าเวลาผ่านไปสักพักมันอาจะอยู่ในระดับ D “
เชนเริ่มสับสนและครุ่นคิด
“ราชาก็อบบลินอาจจะได้รับการสนับสนุนจากใครบางคนที่เป็นเผ่ามนุษย์หรือเผ่าพันธุ์อัจฉริยะเผ่าอื่น การที่จะมอบออริติ้นเฟลมระดับ A นั้นไม่ใช่เรื่องทื่จะให้กันได้ง่ายๆ หากไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยนที่มากพอ “
เชนกล่าวอย่างไม่มั่นใจ เมื่อดาเลลียได้ยินดังนั้นเธอก้สับสนพอๆ กับเชน
เนื่องจากพวกเขาทั่งคู่ต้องหนีจากคาเนียร์และซ่อนตัว เนื่องจากร่างกายที่พิเศษของดาเลีย และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไป
สิ่งนี้ทำให้เธอหดหู่ใจกับความรู้สึกผิดที่สะสมมา
เห็นได้ชัดว่าเจสันนั้นได้รับการชำระจากการที่ผูกพันธกับเปลวเพลิงสีดำ เจสันนั้นจะต้องเอาตัวรอดจากการชำระในครั้งนี้
ถึงจะเป็นเปลวเพลิงในระดับ D แต่มันก็เทียบได้กับระดับผู้เชี่ยวชาญของเหล่ามนุษย์ และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเจสันนั้นจะสามารถเอาชีวิตรอดจากมันได้หรือไม่ เพราะเจสันอยู่ในขั้นผู้ชำนาญระดับ 1 เท่านั้น ในขณะที่เขาได้รับการชำระจากออริจิ้นเฟลมที่ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ในระดับไหน
เจสันอยู่ภายใต้ความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องและเลือดสีก็ค่อยๆ ซึมออกมาจากรูขุมขน และก็ไหลออกมาจากทวารทั้ง 7 ในขณะที่ดาเลียไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป และก็มีวงเวทย์สีเขียวปรากฏขึ้น 2 วง
ต้นไม้สองต้นปรากฏขึ้น ในขณะที่ต้นหนึ่งมีเถาวัลย์สีเขียวที่เปรียบเสมือนผมและอีกต้นมีเถาวัลย์สีออกฟ้า และมีอัญมณีสีเขียวที่ดูราวกับดวงตา
ลำต้นดูคล้ายผู้หญิงที่งดงาม สัตว์ร้ายสองตัวนี้ คือนางไม้ พวกมันเป็นสัตว์ที่หาได้ยากมากและกำลังสูญพันธุ์ การที่ได้เห็นนางไม้ถึงสองตัวถือว่าเป็นอะไรที่หาดุได้ยากมากๆ
ในขณะที่เจสันยังคงถูกชำระล้าง และเนื่องจากออริจิ้นเฟลมนั้นมีไว้สำหรับเหล่าผู้วิเศษขั้นสูงที่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่หลงเหลืออยู่ในร่างกาย แต่เนื่องจากเจสันอยู่ในระดับผู้ชำนาญ 1 เท่านั้น ทำให้เขาต้องถูกชำระอย่างยาวนานเนื่องจากสิ่งสกปรกที่มีอยู่มาก
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่รู้ว่าออริจิ้นเฟลมนั้นอยู่ในระดับไหน พวกเขาทำได้แค่ประเมินระดับการชำระอย่างคร่าวๆ สถานการณ์ทั้งหมดนี้สามารถสังเกตได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง และเจสันก็เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจำนวนมาก
ทั้งสองคนทำได้แต่ค่อยกำจัดของสิ่งสกปรกที่ถูกขับออกมาเหล่านี้ออกไป ในขณะที่นางไม้ทั้งสองค่อยใช้เวทย์ในการฟื้นฟูเพิ่มพลังและมานาให้กับเจสัน และยังใช้เวทย์ที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจ
ไม่นานนักเจสันก็หยุดครวญครางในขณะที่เลือดไหลน้อยลง ชายหนุ่มทั้งอ่อนล้าและไร้เรี่ยวแรง เจสันรู้สึกชาไปหมดและหลายชั่วโมงผ่านไปเจสันยังหมดสติอยู่ ในขณะที่ความรู้สึกเย็นยะเยือกเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา และในที่สุดเจสันก็ลืมตาตื่นขึ้นหลังจากที่เวลาผ่านไปนานมาก
เจสันไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เขาจำได้แค่ว่าเปลวเพลิงสีดำได้เข้าไปในโลกวิญญาณของเขาและมันก็เกิดความโกลาหลขึ้น
เจสันพยายามขยับร่างกาย และรู้สึกราวกับว่าเขานั้นเต็มไปด้วยพลัง เจสันจึงลึกขึ้นนั่งและมองไปรอบๆ อย่างสงสัย ห้องของเขาว่างเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์
พยายามขยับร่างกาย เจสันรู้สึกราวกับว่าเขาเต็มไปด้วยพลังอย่างเต็มที่
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจนั่งตัวตรงก่อนจะมองไปรอบๆ อย่างสงสัย
ห้องที่เขานอนว่างเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์มากนัก ยกเว้นเตียงขนาดคิงไซส์ ในขณะที่ผนังดูเหมือนทำจากไม้คุณภาพสูงเพราะดูปราณีตสุดๆ
เจสันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนตั้งแต่เขาสร้างสัมพันธ์กับเปลวไฟสีดำประหลาด
เมื่อมองดูวันที่ เจสันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
‘มันวันจันทร์แล้วเหรอ!’ เวลาผ่านไปกว่า 30 ชั่วโมง และเจสันไม่แน่ใจว่าครอบครัวเฟลอร์จะว่าอย่างไรเกี่ยวกับการที่เขาหายไปอีกครั้ง
‘บางทีพวกเขาอาจไม่สนใจ?’ เจสันคิดและพยายามสร้างความมั่นใจเพราะเขาไม่ใช่ลูกหรือญาติของพวกเขา
เจสันยืนขึ้นและพยายามที่จะประคองตัวเองให้มั่นคง เจสันรู้สึกว่าตัวเขานั้นเหมือนได้เกิดใหม่ ผิวของเจสันนั้นดูกระจ่างใสขึ้นอย่างมาก และกล้ามเนื้อก็กระชับมากกว่าเดิม ในขณะที่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลัง
เขาชกหมัดออกไปและมันรุนแรงจนกระทั่งสร้างแรงอัดลมออกไปได้ ทำให้เจสันประหลาดใจ เมื่อสัมผัสร่างกายของตัวเอง เจสันตรวจพบความแตกต่างมากมายที่เกิดขึ้น
แต่ที่สำคัญ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าร่างกายของเขานั้นจะสะอาดและปลอดโปร่งมาก เพราะสิ่งเจอปนที่อยู่ในร่างกายส่วนใหญ่ได้ถูกขับออก
และแกนมานาของเจสันก็ส่องสว่างจางๆ ซึ่งทำให้เจสันประหลาดใจ แต่นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจที่สุด หลังจากที่ตรวจสอบร่างกายของตัวเองแล้ว เจสันก็ได้พบว่าเขานั้นเข้าถึงผู้ชำนาญระดับ 4 แล้ว ซึ่งทำให้เจสันตกใจเป็นอย่างมาก
‘ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเปลวเพลิงสีดำงั้นหรอ’
เจสันคิดและสงสัยในขณะที่เจสันเข้าสู่โลกวิญญาณและได้เห็นดวงไฟสีดำดวงเล็กลอยอยู่ถัดจากแกนโลกวิญญาณของเขา
‘ทำไมมันถึงมาอยู่ใกล้กับแกนโลกวิญญาณของฉันละ !’
เจสันคิดในขณะที่ขอบคุณการเปลี่ยนแปลงนี้ที่เกิดจากเปลวเพลิงสีดำ ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดแต่มันก็คุ้มค่ามาก