ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes - ตอนที่ 175
God’s eyes ตอนที่ 175 ความหมายที่แท้จริงของผู้สร้างสัตว์อสูร
แจ้งข้อผิดพลาดในการอ่านนิยายเสียง เฉิงไม่มั่นใจว่าควรคิดอย่างไรกับเจสันต่อ เนื่องจากความสามารถที่เขาแสดงนั้นไม่น่าจะเป็นของเด็กธรรมดาที่มีอายุ 14 ปีที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้อาชีพทั้ง 3 อาชีพเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่แอนทาเรีย บอกเมื่อเขาถามเธอเกี่ยวกับเจสันเมื่อนานมาแล้ว
นี่เป็นเพราะความรู้ของเจสันที่เขาใช้ในการตอบคําถามการสอบของช่างฝีมือและส่วนใหญ่ มาจากหนังสือเกี่ยวกับการประกอบอาชีพขั้นพื้นฐานที่ผลิตโดยหอคอยช่างฝีมือ
คําตอบของเจสัน มาจากหนังสือเหล่านี้เกือบทั้งหมดโดยไม่มีความรู้เพิ่มเติม
ด้วยเหตุนี้ เฉิงจึงต้องสรุปว่าความรู้ของเจสันเพิ่งได้มาเพิ่มเมื่อไม่นานหรือเจสันจง ใจหลอกลูกสาวของเขาระหว่างการสอบซึ่งเป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากกว่า
เขาเรียนรู้ทักษะของช่างตีเหล็กมานานแค่ไหนแล้ว? และเขายังมีความสามารถในการสร้างรูน.. เด็กคนนี้เป็นสัตว์ประหลาด!!
เฉิงมองเจสันด้วยความอิจฉาและความกลัวผสมกันความสามารถของเด็กชายที่อยู่ข้างหน้า เขานั้นสูงกว่าความสามารถของเขามากซึ่งน่าเหลือเชื่อจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เจสันไม่หยุดหลังจากที่สร้างกริชกิ่งมานาระดับ 1 เสร็จสิ้นแต่เขากลับหยิบแร่ เหล็กหยกอีกชุดหนึ่งออกมาขณะที่เขาจุดไฟต้นกําเนิดสีดําของเขาอีกครั้ง
มีดอีกอันที่โค้งเล็กน้อยและยาวเพียง 28 ซม. สําหรับมืออีกข้างหนึ่งของเขา เขาจารึกอักษรรูนเดียวกันกับที่เขาทํากับอันแรก
เจสันถือผลงานของเขาไว้ที่ระดับสายตาและตรวจดูและพอใจกับผลลัพธ์ของเขาอย่างเต็มที่แม้ว่าความทะเยอทะยานของเขาบอกให้เขาลองสร้างอาวุธมานาจริง
อย่างไรก็ตาม ในการทําเช่นนั้น เจสันจะต้องผสมแร่บางชนิดกับเหล็กหยกที่บริสุทธิ์ และเขาไม่ชํานาญในการผสมโลหะผสมในขณะที่ต้องควบคุมการไหลของมานาอย่างคงที่
ค่าการไหลของมานาของอาวุธมานาที่แท้จริงนั้นมีค่ามากกว่าอาวุธถึงมานาที่เจสันสร้างขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นกรณีนี้ กริชกิ่งมานาของเขาก็สามารถเจาะทะลุผ่านหนังของสัวต์อสูรระดับสูงได้
บางทีมันอาจจะสร้างจัดการกับสัตว์ร้ายระดับเวทย์มนต์ได้ ถ้าหากเจสันใส่มานาลงไปมากพอ
เมื่อเจสันพอใจกับผลงานของเขา เขาก็ต้องการที่จะกลับบ้าน
เจสันยิ้มเบา ๆ และทําได้เพียงขอโทษที่ทําให้ประธานหอคอยช่างฝีมือต้องมาเสียเวลาขณะที่ เขาเดินออกจากห้องตีเหล็ก และเตือนเฉิงเกี่ยวกับสัญญาณวิญญาณอีกครั้งก่อนที่จะจากไป
เฉิงเหม่อ จนไม่ได้ยินสิ่งที่เจสันพูด และเจสันได้ออกจากห้องตีเหล็กไปอย่างเงียบๆ
หลังจากตื่นจากอาการมึนงงเป็นเวลานาน เขามองไปรอบๆ และสังเกตเห็นว่าเจสันไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ซึ่งทําให้เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เนื่องจากมีคําถามมากเกินไปในใจของเขาและคนเดียวที่สามารถตอบเขาได้ ก็ได้ออกไปแล้ว
เจสันมาถึงบ้านเฟลอร์เมื่อเวลาเที่ยงคืนกว่า ทุกคนกําลังหลับและดูดซับมานาและเจสันไม่ต้ องการรบกวนใคร ดังนั้นเขาจึงตรงไปที่ห้องของเขาทันที
หลังจากอาบน้ําเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เจสันนอนหลับสบายจนกระทั่งเขาตื่นขึ้นในตอนเช้าเนื่องจากอาร์เทมิสได้ร้องหิวข้าว
เจสันได้จัดหาแกนมานาระดับวิเศษให้กับกับมัน และมันย่อยแกนมานาเหล่านั้นได้รวดเร็วมาก
และเจสันสังเกตเห็นว่า เงินของเขานั้นลดน้อยลงมามาก เนื่องจากเขาเสียมันไปกับหินมานาที่ให้สกอร์พิโอ และบางส่วนเป็นอาหารของอาร์เทมิส ตอนนี้เจสันเหลือสตาร์โน้ตเพียงหยิบมือเดียว
แต่ถึงอย่างนั้น เจสันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้มากนัก เพราะเขาสามารถขายแร่บริสุทธิ์ทุกชนิดได้ในราคาสูง ถ้าหากเขาหมดเงินจริงๆ
วันนี้มันเป็นเช้าวันจันทร์ และเขาก็เดินทางมาถึงหน้าประตูโรงเรียน แม้ว่าเจสันจะไม่แน่ใจว่าดาเลียสบายดีหรือเปล่า แต่เขาก็ต้องการไปพบเธอ เพราะเขารู้สึกไม่สบายใจจากเหตุการณ์วันก่อน
เมื่อมาถึงหน้าทะเลสาบสีน้ําเงินที่ส่องแสงเจสันเปิดใช้งานรูนที่ปกคลุม ภาพตรงหน้าทําให้เขาผิดมากขึ้นดาเลียยืนอยู่ในขณะที่เชนประคองเธอไว้
เจสันรีบตรงไปที่ทั้งสองอย่างรู้สึกผิด
อาจารย์ เป็นยังไงบ้างครับ ผมขอโทษที่ให้อาจารย์ช่วยเรื่องสกอร์พิโอ ผมจะไม่ขอให้อาจารย์ทําแบบนั้นอีก
เสียงของเจสันหนักแน่นด้วยความรู้สึกผิดและกังวล ซึ่งทําให้เธอยิ้มอ่อนๆ ขณะที่เธอขี้ผม ของเขา
ทําไมเธอถึงใจอ่อนนัก ฉันเสนอความช่วยเหลือและไม่ใช่ความผิดของเธอ แทนที่จะมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เราควรคิดถึงสิ่งที่สกอร์พิโอได้รับสิ มันได้พัฒนาขึ้น และมันก็เป็นเหมือนบทเรียนถึงความหนาแน่นของมานาที่ใช้ในการพัฒนาสายใยวิญญาณ
ให้ใช้เป็นบทเรียนเพื่อให้พร้อมสําหรับการชําระครั้งต่อไปนอกจากนี้เชนบอกฉันว่าสกอร์พิโอ ได้รับการพัฒนาที่ไม่สมบูรณ์
เพราะฉะนั้น เราต้องมาจัดการต่อเพื่อให้มันพัฒนาอย่างสมบูรณ์ ไม่งั้นมันจะมีปัญหาตามมา
ดาเลียพยายามยืนให้มั่นคง แต่เธอก็ทรุดลงไปนิดหน่อย แต่เชนยังสามารถประคองเธอไว้ได้
ฉันได้ยินมาว่า เธอสามารถแบ่งบรรเทากับสายใยสัมพันธ์ของเธอได้ แต่นั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทํา เธอควรนึกถึงตัวเองก่อนเพื่อที่จะได้มีชีวิตรอดต่อไป แต่นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะได้ยินมาจากเชนว่ามันทําให้สายสัมพันธ์ของเธอและสายใยวิญญาณนั้นมีเพิ่มมากขึ้น
ดาเลียถามเจสันโดยไม่ได้รอคําตอบ ก่อนที่จะถามต่อ
เธอช่วยเรียกสกอร์พิโอออกมาได้ไหม ฉันจะค้นหาวิธีการที่จะทําให้มันวิวัฒทนาการได้ใหม่
น้ําเสียงของดาเลียฟังดูตื่นเต้นและอยากที่จะทดลองอะไรบางอย่าง ทําให้เจสันรู้สึกไม่สบายใจ
เธอรู้สึกเตรียมพร้อมอย่างมาก เนื่องจากสกอร์พิโอนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีการพัฒนาที่แปลกใหม่เหมือนกับอาร์เทมิส
เมื่อเห็นอาร์เทมิสอีกครั้ง ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้น แต่น่าเสียดายที่มันไม่ยอมให้ดาเลียเข้ามาใกล้มันมากเกินไป
ความรู้ของดาเลียเกี่ยวกับสัตว์ร้ายนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ การวิวัฒทนาการการเสริมความแข็งแกร่งให้กับสัวต์ร้ายนั้นๆ แล้วเมื่อเธอได้พบกับสิ่งแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยรู้มากก่อน
ทําให้เธอมีความกระหายในการอยากรู้อยากเห็นมาก ทั้งเจสันและเชนไม่รู้ว่าความกระหายนี้มาจากไหน
และทั้งคู่ได้มีความคิดเดียวกัน คือ ผู้สร้างสัตว์อสูรที่แท้จริงนั้น มักจะแสวงหาความรู้เกี่ยวกับสัตว์ร้าย การวิวัฒทการของสัตว์ร้ายในทุกๆ ความแปลกใหม่ หรือแม้แต่เซลล์ของสัตว์ร้าย