ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes - ตอนที่ 70
นาฬิกาของเจสันได้ปลุกตอนตี 5 ซึ่งเคยเกิดความเคยชินหลังจากผ่านสัปดาห์อันแสนหนักหน่วง นั้นเป็นเพราะเจสันต้องตื่นมาก่อนและฝึกฝนเทคนิตสรกสวรรค์ก่อนที่จะฝึกอย่างอื่นในตารางเวลาของเขา
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น เจสันได้กินอาหารเช้าพร้อมกับทุกคนและเริ่มเข้าโรงเรียนเป็นวันแรก ด้วยพลังวิญญาณ 6.5 แต้ม เจสันก้พอใจเพราะมันเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้นในแต่ละวัน เกร็กเคยบอกเจสันเกี่ยวกับความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยนของโรงเรียนในเครือของแวนการ์ด แต่เจสันนั้นไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจเกร้กแต่เจสันต้องการพิสูจน์ด้วยตัวเอง
สิ่งนี้เป็นไปได้เนื่องจากเว็บไซต์ของโรงเรียนนั้นเป็นสิ่งพื้นฐานที่นักสามารถเข้าชมได้ นักเรียนแต่ละคนเข้าไปที่เว็บไซต์และตั้งค่าโปรไฟล์ส่วนตัว เป็นอันดับของมานา อายุ และอื่นๆ เจสันสามารถเห็นความแข้งแกร่งโดยเฉลี่ยของเพื่อนร่วมชั้นของเขาได้
หลังจากดุดปรไฟล์ของเพื่อนร่วมชั้น เจสันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
โรงเรียนในเครือแวนการ์ดแต่ละแห่งรับนักเรียน 15,000 คน ในแต่ละปี ในขณะที่โรงเรียนแนวหน้านั้นรับนักเรียน 10,000 คน
นั่นหมายความว่าโรงเรียนแนวหน้าที่มีสาขา รับนักเรียน 100,000 คน ซึ่งทำให้เจสันประหลาดใจมาก
แต่หลังจากคิดอยู่สักพัก เจสันก็เข้าใจว่าแต่ละโรงเรียนของเมืองไซโร ต่างยอมรับเฉพาะนักเรียนที่เก่งสุดในเกาะแอสทริกซ์ เว้นแต่คนที่ได้รับสิทธิ์จากขุนนาง หรือสิ่งอื่นๆ
เกาะแอสทริซ์มีมนุษย์อาศัยอยู่ราวๆ 300 ล้านคน และในแต่ละปีมาทารกเกิดโดยเฉลี่ย 10 ล้านคน เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่า คนส่วนใหญ่เกิดมาในครอบครัวที่มาฐานะยากจน การศึกษาของพวกเขานั้นค่อนข้างแย่และพวกเขาไม่สามารถจัดหาทรพยากรที่เหมาะสมเพื่อจัดอันดับแกนมานาหรือสามารถทำพันธะกับสัตว์ที่ดีได้
เจสันนั้นโชคดีที่สามารถเข้าโรงเรียนในเครือของโรงเรียน 1 ใน 6 โรงเรียนที่ดีที่สุดได้ เนื่องจากสิทธิขุนนางของเกร็ก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนเดียวที่เข้ามาด้วยเหตุนี้
เจสันยังคงดูโปรไฟล์ และพยายามหาคนที่มีอันดับใกล้เคียงกับตัวเอง
หลังจากข้ามผ่านโปรไฟล์ไม่กี่ร้อยหรืออาจมากกว่าพันโปรไฟล์ ต่อมาเจสันได้สรุปความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ ระดับผู้ชำนาญ ที่ 4 หรือ 5 ซึ่งเป็นขั้นกลางของระดับผู้ชำนาญ
วึ่งเจสันนั้นอยู่ในช่วง อันดับ 5 ของระดับมือใหม่แม้ว่ากำลังจะพัฒนาขึ้นเป็นอันดับ 6 ช่องว่างที่ใหญ่นี่ เจสันสงสัยว่าเขาอาจจะถูกเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ กลั่นแกล้งเพราะความอ่อนแอ
เจสันได้แต่มุ่งมั่นที่จะอดทน เนื่องจากเจสันไม่อาจจะสามารถต่อสู้กับ อันดับกลางของระดับผู้ชำนาญได้ เรื่องนี้ทำให้เจสันครุ่นคิดว่าเขาควรใช้ผลบาคูรีสีขาวสำหรับตัวเองหรือไม่ แต่เขาก็เลิกสนใจที่จะใช้มัน
เมื่อมองไปที่นาฬืกาเจสันได้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลา 06.30 แล้ว เจสันจึงกระโดดลงจากเตียงและออกกำลังกายเป็นเวลา 20 นาที
หลังจากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำและเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักเรียนใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว สูทสีน้ำเงินเข้ม เน็คไทสีดำ และกางเกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม
เสื้อสูทสีน้ำเงินเข็มถูกแต่งแต้มด้วยสีดำและสามารถมองเห็นสัญลักษณ์ของหนังสือที่เปิดออกเป็นสีทองบนหน้าอกด้านขวา
ด้านบนของหนังสือเล่มนี้มีตัวอักษรขนาดเล้กและอาวุธลอยอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพลังแห่งความรู้ ความเท่าเทียม และความเข้มแข็ง
แม้ว่าจะเป็นคำขวัญของโรงเรียนในแนวหน้า แต่เจสันมั่นใจว่านักเรียนส่วนใหญ่คงไม่ได้สนใจกับมันนัก เนื่องจากการเรียนรู้ทฤษฎีไม่ใช่สิ่งที่หลายคนอยากทำในเวลาว่างนัก หากดูดซับมานา ฝึกการต่อสู้ หรือสิ่งสำคัญอื่นๆ ในเวลาเดียวกัน
เจสันส่วนเครื่องแบบได้พอดีตัวและแทบพูดได้เลยว่าตอนเจสันนั้นมีรูปลักษณ์ที่หล่อและดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ
ผมสีดำนั้นยาวขึ้นเล็กน้อย และเจสันต้องการที่จะเล็มมันออกเล็กน้อยในขณะที่มันบังสายตาของเขา และดวงตาสีทองนี้ก็ไม่สามารถปกปิดได้ เมื่อมันส่องผ่านผมบางๆ ด้านหน้า
ในตอนท้ายเจสันได้รับการตัดผมจากกาเบรียลลา ซึ่งเธอชอบทำให้ทุกคนในบ้าน เมื่อกาเบรียลลาตัดผมให้เจสันเสร็จเรียบร้อย เมื่อมองผ่านเข้าไปในกระจกเจสันเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร และกาเบรียลลาก้ร้องเสียงหลงเหมือนเด็กผู้หญิง
มาร์คและเกร็กมองเจสันอย่างตั้งใจ ในขณะที่มาเลียได้มองสำรวจเจสันตั้งแต่หัวจรดเท้า
‘ฮิฮิ ในที่สุดฉันก็มีน้องชายที่หล่อเหล่าสักที….. ฉันจะเอารูปลักษณะเขาไปอวดให้เพื่อนๆ ดูดีไหมนะ คิคิคิคิคิ’
มาเลียคิดในใจ
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามาเลียยอมรับเจสันในฐานะคนในครอบครัวโดยให้เป็นน้องชาย เธอทิ้งหัวใจที่เต้นรัวๆ ไปโดยสิ้นเชิงเพื่อรับโอกาสที่จะได้น้องชายที่แสนน่ารักและหล่อเหล่าเช่นนี้
เธอพบว่าเจสันนั้นทั้งหล่อ และดูดี…. แต่เจสันนั้นเด็กเกินไปสำหรับเธอและหลังจากตัดสินใจแล้วเธอก็สังเกตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่เป็นเรื่องน่าอายนั้นเห้นได้ชัดว่าไม่ใช่เพราะเจสันคนเดียวเท่านั้น
มาเลียเชื่อว่าตัวเธอเองจะตอบสนองแบบนี้กับทุกคนและตัดสินใจที่จะตัดความเป็นไปได้ที่จะมีความรู้สึกดีๆ ต่อเจสัน แต่พูดนั้นง่ายกว่าทำ เพราะเจสันนั้นไม่เพียงมีรูปลักษณ์ที่ดูดีและใบหน้าที่หล่อเหล่าเท่านั้นแต่ยังฉลาดมากอีกด้วย
แต่เจสันนั้นอายุกว่ามาก มาเลียจึงจะสร้างความรู้สึกดีๆ ระหว่างเธอกับเจสันเหมือนความรู้สึกของพี่สาวน้องชายเท่านั้น นั้นคือสิ่งที่เธอคอยบอกกับตัวเอง
หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายที่จะเดินไปโรงเรียนในขณะที่เกร็กและมาเลียเดินไปย่ายใจกลางเพื่อไปยังดรงเรียนแนวหน้า และเจสันเดินไปอีกทางเพื่อไปยังโรงเรียนในเครือลำดับ 6 ซึ่งจัดนักเรียนระดับต่ำสุดเอาไว้ก่อนที่จะค่อยๆ ไต่ลำดับขึ้นไป
************************************************
เพิ่มเติม อาจมีใครบางคนสับสนในเนื้อเรื่องนะครับ ผู้แปลเลยจะมาอธิบาย ระดับของมนุษย์และสัตว์ร้ายนะครับ
โดยระดับของมนุษย์แบ่งจากอ่อนสุดไปเก่งสุดนะครับโดยเรียงลำดับดังนี้ มือใหม่ ↠ ผู้ชำนาญ ↠ ผู้เชี่ยวชาญ ↠ ผู้วิเศษ โดยแต่ละลำดับก็จะมีการจัดอันดับอีกที อย่างเช่น มือใหม่ระดับ 1 ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนไป ผู้ชำนาญระดับ 1 โดยการดูดซับมานาไปเรื่อยๆ โดยการทำให้แกนมานาบริสุทธิ์ขึ้น ยิ่งบริสุทธิ์มากยิ่งแข็งแกร่งขึ้น และการจะเป็นผู้วิเศษจะต้องอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงและแปรเปลี่ยนมานาที่มีลักษณะคล้ายกับก๊าซ ให้ไปอยู่ในลักษณะของ ของเหลวด้วยการบีบอัดมานา เมื่อมานาแปรสภาพเป็น มานาเหลวแล้วจะสามารถพัฒนาให้เข้าสู่ขั้นผู้วิเศษได้
ระดับความเก่งของสัตว์ร้ายจะแบ่งเป็น สัตว์ร้ายระดับ 1-5 ดาว ↠ สัตว์ที่พลังได้ตื่นขึ้น ↠สัตว์ร้ายระดับวิวัฒนาการแล้ว ↠สัตว์วิเศษ และระดับวิวัฒนาการแล้วกับการกลายพันธ์จะแต่งต่างกันนะครับ การกลายพันธุ์จะเป็นการพัฒนาของสัตว์ร้ายจากสายเลือดเดิมของพวกมัน โดยได้กลายพันธุ์เป็นสัตว์ร้ายในรูปแบบใหม่หรืออาจจะมีรูปแบบดังเดิมแต่พลังภายในอาจจะเปลี่ยนไป
เสริม โรงเรียนแนวหน้าในเรื่องนี้ จะมีการแบ่งสาขาย่อยเป็นโรงเรียนในเครือนะครับ อย่างโรงเรียนแวนการ์ดก็จะมีเครือแยกย่อยไปอีก 6 ที่ โดยใช้ชื่อโรงเรียนเดียวกัน โดยโรงเรียนในเครือก็จะมีการจัดอันดับเช่นกัน แต่ในส่วนของโรงเรียนแวนการ์ดจะจัดโดย 6-1 เรียงจากอ่อนที่สุดไปเก่งที่สุด โดยเจสันอยู่โรงเรียนในเครือของโรงเรียนแวนการ์ดลำดับที่ 6 ซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนที่อ่อนที่สุดในเครือนี้เท่านั้นนะครับ ไม่นับรวมกับโรงเรียนอื่น